มะเร็ง กับการเมือง


"ศรีสยามยามเมื่อป่วยเปี่ยมด้วยโรค
ปล่อยตามโชคชะตาไปไข้ยิ่งหนัก
ยาดีมีอยู่ที่ใจควรใช้รัก(ษ์)
เลิกจมปลักแดดักดานการสู้รบ
"  (1.)



คนป่วยเป็นมะเร็ง=ประเทศไทย

หมอ=แกนนำฝ่ายพันธมิตร

เซลล์มะเร็ง=นักการเมืองฉ้อราษฎร์/รัฐบาลทรราชย์

Computed Tomogarphy Scan : CT scan = การตรวจสอบการทุจริต

การฉีดสี (Contrast agent) =การป้ายสี การประชาสัมพันธ์ให้เห็นถึงการทุจริต

คนไข้แพ้สารทึบรังสี/การแพ้สี (sensitivity to the dyes) =ความแตกแยกของคนภายในสังคม

คีโมเทอราปี (Chemotherapy)=การประท้วงขับไล่นักการเมืองฉ้อราษฎร์/รัฐบาลทรราชย์

ผลข้างเคียง จากการให้ คีโมฯ ผมร่วง ผิวหนังมีสีผิดปกติ ผิวแห้ง ปวดท้อง ถ่ายเหลว ท้องเสีย คลื่นไส้อาเจียน = ประเทศอ่อนแอ ผู้บริสุทธิ์ล้มตายเหมือนใบไม้ร่วง

การดูแลผู้ป่วยระยะสุดท้าย (Palliative Care)=การใช้ธรรมรักษาสังคม

 

ภารกิจการ กู้ชาติ นั้นเปรียบเสมือน ภารกิจของหมอ ที่ให้ คีโมเทอราปี (Chemotherapy) เพื่อรักษาผู้ป่วยโรคมะเร็ง

Q: ถ้าไม่ใช้ยาแรงอย่าง คีโมฯ (การประท้วงขับไล่โค่นล้ม) เพื่อรักษาอาการป่วยไข้ของ คนป่วยเป็นมะเร็ง (ประเทศไทย) จะได้หรือไม่?

A: ได้ แต่ เซลล์มะเร็ง (นักการเมืองฉ้อราษฎร์/รัฐบาลทรราชย์) อาจลุกลาม ส่งผลเสียต่อ คนป่วยเป็นมะเร็ง (ประเทศไทย)

Q:ถามว่าถ้าใช้คีโมฯ (การประท้วงขับไล่โค่นล้ม) ทำลายเซลล์มะเร็ง (นักการเมืองฉ้อราษฎร์/รัฐบาลทรราชย์) คนป่วยเป็นมะเร็ง (ประเทศไทย)  จะมีสภาพเป็นเช่นใด?

A:  รอด กับ ไม่รอด และต้องใช้เงินกับการรักษาเยอะ (เงินทองสิ้นเปลืองไปกับภารกิจกู้ชาติ/การเลือกตั้งใหม่)

Q: มีวิธีการที่ดีกว่าการ ให้ คีโมฯ หรือไม่?
A: มี เช่น Palliative Care (การใช้ธรรมรักษาสังคม)

Q: Palliative Care =นอนรอความตายอย่างสงบ?
A: มันก็ไม่เชิง หากแต่เป็นการตื่นรู้ในอาการป่วยไข้โดยตัวคนไข้เอง แต่ไม่ใช่การตื่นตระหนก  ญาติพี่น้องของคนป่วยให้การดูแลรักษาอย่างใกล้ชิด ให้กำลังใจซึ่งกันและกัน กระทำความดียกระดับและ พัฒนาจิตใจให้เบิกบาน ลดละเลิก กิเลสสังโยชน์ (ตัวการก่อมะเร็งการทุจริต)

การกำจัดโรคมะเร็ง ยากฉันใด การกำจัดนักการเมืองฉ้อราษฎร์/รัฐบาลทรราชย์ ก็ยากฉันนั้น สิ่งที่เราทำได้ก็คือ การทำให้สังคมเข้มแข็ง ไม่ตกเป็นเหยื่อของกิเลสตัณหา (อยากได้ อยากดี อยากมี อยากเป็น/ไม่อยากโง่ ไม่อยากจน ไม่อยากเจ็บ) ไม่ไหลไปตามกระแสของ การ บริโภคนิยม/วัตถุนิยม

การ บริโภคนิยม/วัตถุนิยม ก็เหมือนกับการดื่มเหล้าสูบบุหรี่ (ตัวการก่อมะเร็ง) เพราะเมื่อคนในชาติมีความอยากได้อยากดีอยากมีอยากเป็น คนย่อมทำทุกอย่างเพื่อสนองความอยาก เมื่อใดที่สังคมไทยส่งเสริมสุขลักษณะนิสัยของเยาวชนคนรุ่นใหม่ภายในประเทศ ไม่ให้ลุ่มหลงมัวเมาอยู่กับการ บริโภคนิยม/วัตถุนิยม (ตัวการก่อการทุจริต เพราะเมื่อคนอยากได้ อยากดี อยากมี อยากเป็น/ไม่อยากโง่ ไม่อยากจน ไม่อยากเจ็บ คนจึงโกง)

เมื่อใดที่คนในประเทศมีศีลธรรม (ธรรมะของแต่ละศาสนาสอนให้คนเป็นคนดี) เมื่อนั้น ประเทศไทยก็จะได้นักการเมืองที่ไม่โกง ประเทศชาติก็จะฟื้นฟู(ชีพ) ไม่เดินทางไปสู่ความล่มสลาย (เป็นโรคมะเร็ง)

ที่สำคัญก็คือ หมอ (แกนนำฝ่ายพันธมิตร) ต้องมีจรรยาบรรณ (ไม่เห็นแก่เงิน ไม่เห็นแก่ผลประโยชน์ส่วนตัว ไม่ยึดติดในอัตตา ว่า ฉันเป็นคนเก่ง ฉันมีความรู้ ฉันคิดว่าตรรกะนั้นๆ ถูกต้อง ฉันคือวีรบุรุษ ผู้ช่วยกู้วิกฤติ ผู้ช่วยกู้ชีพคนป่วยโรคมะเร็ง ถ้าฉันรักษาคนป่วยโรคมะเร็งให้หายได้ ฉันก็จะมีชื่อเสียง ฉันก็จะเป็นวีรบุรุษที่ผู้คนต่างให้การยกย่องสรรเสริญ)


การรักษาโรคมะเร็ง (ปัญหาการทุจริตฯ) ต้องกระทำไปพร้อมๆ กันกับการรณรงค์ให้ประชาชนในประเทศ ลดปัจจัยเสี่ยงจากการเกิดโรคมะเร็ง (ลดความอยากได้อยากดีอยากมีอยากเป็น : ใช้หลักเศรษฐกิจพอเพียง) เพราะการรักษานั้นคือการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ การแก้ปัญหาที่ต้นเหตุกระทำได้โดย การวิวัฒน์พลเมืองว่าด้วยเรื่องของการดำรงตนให้มีสุขลักษณะที่ดี (มีศีลธรรม) นั่นเอง ท้ายที่สุดนี้ผู้เขียนนึกถึงพุทธพจน์ที่ว่า "อโรคยา ปรมาลาภา" แปลว่า ความไม่มีโรคเป็น บรมลาภ

อ้างอิง

(1) กวิน (นามแฝง). กลบทนายโรงลืมกรับ. กวีนิพนธ์ (poem). [cited 2008 October 7]. Available from: URL; http://gotoknow.org/blog/pbk/171178

คำสำคัญ (Tags): #การเมือง
หมายเลขบันทึก: 214762เขียนเมื่อ 7 ตุลาคม 2008 16:53 น. ()แก้ไขเมื่อ 15 เมษายน 2012 02:18 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (15)

เปรียบเทียบได้ดีมาก คิดได้ยังไง เป็นหมอหรือเปล่าค่ะ

ขอบคุณๆ rrak ครับ ที่แวะมาเยี่ยมชมครับ กวิน เป็นนักวิชาการศึกษา ทำงานด้านการศึกษา ที่เกี่ยวข้องกับการสาธารณสุขครับ :)

  • ประเทศไทยเป็นโรคมะเร็งระยะที่เท่าไรแล้วคะคุณกวิน
  • ดูเหมือนจะยากที่จะอยู่ร่วมกับเซลล์มะเร็งได้อย่างสันติ หลังจากเจอแก๊สน้ำตา เซลล์ก็ลามแพร่กระจายแล้วค่ะ ^^
  • ถึงจะกลับไปใช้การแพทย์ทางเลือก Palliative Care สมุนไพรไทยรสพระธรรม(ธรรมะ) ก็เอาไม่อยู่แล้วค่ะ ลองเล่นพลังจักรวาล ลึกลับ เร้นลับกันดูดีไหม...ถอนใจค่ะ

สวัสดีครับ พี่ ดาวลูกไก่ ชื่นชมยินดี อันนี้คงต้องไปถามคุณ หมอ (แกนนำฝ่ายพันธมิตร)ประจำตัวคนป่วยนะครับ

แก๊สน้ำตานั้น คือ ผลข้างเคียงของการใช้ คีโมฯ ครับ กวินว่า หมอ อาจจะต้องทบทวนวิธีการรักษาที่ดีที่สุดสำหรับคนป่วยฯ นะครับ

การพึ่งอำนาจลี้ลับ การบนบานศาลกล่าวก็ถือเป็นที่พึ่งทางใจได้นะครับ..ขอบคุณที่แวะเข้ามาอ่าน ครับ

สวัสดีค่ะคุณกวิน

  • ถ้าประเทศไทยเป็นคนป่วยมะเร็ง
  • ก็ขอให้เป็นมะเร็งปากมดลูกหรือมะเร็งเต้านมในระยะเริ่มแรกนะ..
  • จะได้มีทางรักษาให้หายขาดได้ ..
  • ขอบคุณค่ะ..คนช่างคิด ช่างเขียน..ช่างเปรียบเทียบ!!
  • อิ อิ อิ...(กลบเกลื่อนความเศร้า..ฮือ ฮือ)

 สวัสดีครับ คุณพพี่ สีตะวัน ถ้าประเทศไทยกำลังป่วย กวินคิดว่าคงไม่ได้ป่วยเป็นแค่ โรคมะเร็ง(การทุจริต) เพียงแค่โรคเดียวนะครับ อืม..จริงๆ แล้วมะเร็งนี่ก็แยกเป็น อีกหลายๆ ชนิดนะครับ

พระพุทธองค์ทรงตรัสว่า "อโรคยา ปรมาลาภา" ครับ 

สวัสดีค่ะคุณกวิน

มาเยี่ยมไข้...คนป่วยโรคมะเร็ง...ค่ะ

เปรียบเทียบแบบบูรณาการดีจังค่ะ

ว่าแต่คนไข้จะหายหรือตาย...ยังไม่ทราบเลยนะคะ...ต้องปลงให้ตกจะได้ไม่ทุกข์ใจจริงไหมคะ...^_^...

ขอบคุณคนไม่มีรากครับ การคิดเชื่อโยง เรื่องการเมือง เปรียบเทียบกับ แนวทางการรักษาผู้ป่วยโรคโรคมะเร็ง ก็มีประโยชน์เหมือนกันนะครับ ยุคหนึ่งสมัยหนึ่ง กวินก็เคยคิดว่าตัวเองเป็นหมอผู้วิเศษ เที่ยวไปวินิจฉัยโรค พยายามที่จะทำการเยียวยารักษาไข้ ด้วยความปารถนาดี อยากให้คนไข้มีความสุขกายสุขใจ แต่วิธีการ ที่คิดว่าดี อาจจะมีผลข้างเคียงที่คาดไม่ถึง ตอนนี้กวินเองกำลังทบทวนเกี่ยวกับเรื่อง Palliative Care อยู่ล่ะครับ ไม่ได้คิดว่าจะละทิ้งคนไข้นะครับ แต่คิดว่า บางทีวิธีการรักษาที่คิดว่าถูกต้องตามตำรา ยิ่งเป็นการเพิ่มอัตตา ของตนให้มันมีความ เขื่อง ยิ่งๆ ขึ้น (มุ่งที่จะรักษาอาการป่วยไข้เพื่อเพิ่มชื่อเสียง/การยอมรับให้กับตนเอง โดยไม่ได้คำนึงถึง ผลข้างเคียงที่คนไข้จะได้รับ) กวินกำลังคิดว่า อืม คนไข้ผู้ซึ่งเหมือนไม้ใกล้ฝั่ง เขาอยากทำอะไร ก็ปล่อยให้เขาทำไปเถอะ ถ้าเขาคิดว่าทำแล้วสบายใจ ทำแล้วตัวเองและคนรอบข้างไม่เดือนร้อนใจภายหลัง กวินเข้าใจความรู้สึกของคนเป็นหมอแล้วล่ะครับว่า ในฐานะที่เป็นหมอเป็นเจ้าของไข้ แต่ไม่ได้เป็นเจ้าชีวิตของคนไข้ ที่จะสามารถไปบังคับบัญชา คนไข้ให้ทำอย่างโน้นอย่างนี้ได้ หมอมีหน้าที่ในการศึกษาหาความรู้เพิ่มเติม และทำตามหน้าที่ของตนอย่างสุดความสามารถ ทำด้วยความถูกต้องดีงาม นี่คงเป็นสิ่งที่สมควรทำและทำได้ในขณะนี้ ว่ามั้ยครับ :)     

เห็นด้วยค่ะคุณกวิน...

....ในฐานะที่เป็นหมอเป็นเจ้าของไข้ แต่ไม่ได้เป็นเจ้าชีวิตของคนไข้ ที่จะสามารถไปบังคับบัญชา คนไข้ให้ทำอย่างโน้นอย่างนี้ได้ หมอมีหน้าที่ในการศึกษาหาความรู้เพิ่มเติม และทำตามหน้าที่ของตนอย่างสุดความสามารถ ทำด้วยความถูกต้องดีงาม นี่คงเป็นสิ่งที่สมควรทำและทำได้ในขณะนี้ ว่ามั้ยครับ :)     

อนุโมทนาสาธุกับคุณหมอกวิน...ค่ะ...^_^...

แถมอีกหน่อยแล้วกัน....ต้องวางใจว่า มนุษย์มีกรรมเป็นกำเนิด มีกรรมเป็นเผ่าพันธุ์ และต้องได้รับกรรมที่กระทำนั้น...

คงทำให้คุณหมอกวินสบายใจและคลายใจได้มากขึ้นนะคะ

ขอบคุณครับคุณ คนไม่มีราก (อดีต พยาบาลสาว ผู้ผันชีวิตของตนมาทำงานด้านการศึกษาและวิจัย)

วันนี้หมดเวร(หมดกรรม) การลาววอร์ด พอดีงั้น กวินขอถอดเสื้อกาวน์ ณ บัดเดี๋ยวนี้ (ฝากเสื้อกาวน์ไปซักให้ด้วยนะครับ คนไม่มีราก ขอบคุณครับ) ต่อแต่นี้ขอเป็นแค่ คนหัวหมอ ก็พอ -_-''  เนอะ..

คุณหมอกวินคะ

ลง ward แล้ว อย่าแบกคนไข้ลงมาด้วยนะคะ..อ้อยังเป็น..คนหัวหมอ อยู่อีก...^_^...

...ไปจะพาเลี้ยงฉลอง ... อ้าวเลี้ยงอะไรดีคะเนี่ย....

หมดเวร (กรรม) เสียที จะได้มองหาและทำสิ่งดี ๆ เป็นประโยชน์ต่อตัวเองและสังคมบ้าง...ดีไหมคะ

ติดตาม รักษาอาการคนไข้มาก ๆ เข้าจนเกือบจะเป็นคนไข้ไปอีกคนแล้ว...ดีใจด้วยค่ะ ที่วันนี้คุณหมอกวินเริ่มทบทวนตัวเองและตัดสินใจ

ลงหลังเสือแล้ว ก็ระวังเสือ (ความคิดของตัวเอง) ด้วยนะคะ 

ไป...ฉลองกัน...Cheers !!!!!

                  (^____^) 

หมอมีความห่วงใย และไม่ละทิ้งคนไข้คนไข้ฉันใด พันธมิตรก็ห่วง...ประเทศไทยฉันนั้น (ถ้ารักษาแล้วอาการคนไข้ ทรงกับทรุด หมอควรทบทวน หามรรควิธีในการรักษา) : กวินก็กำลังทบทวนความคิดตนเองอยู่

การดูแลคนไข้สิ่งที่หมอต้องระวังก็คือ การระวังป้องกันตนไม่ให้ติดเชื้อโรคจากคนไข้ และต้องไม่ให้คนไข้ติดเชื้อโรคไปจากหมอ ฉันใด แกนนำฝ่ายพันธมิตร ก็ควรระวังไว้ฉันนั้น : กวินก็กำลังคิดว่าตนเองติดเชื้อโรคจากคนไข้ พร้อมๆ กันกับ ได้นำเชื้อโรคของตน ไปแพร่ให้คนไข้โดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ หรือไม่?

ถ้าอัตตา ก็คือ เสือ ที่เราเคยขี่มันอยู่ เมื่อบังเกิดความเหนื่อยล้า หรือบังเกิดความลังเลสงสัย บังเกิดความครั่นคร้าม ครั้นจะลงจากหลังเสือนั้นยากเย็นฉันใด แกนนำฝ่ายพันธมิตร ก็คงรู้สึกได้ฉันได้ : กวินเองก็เมื่อบังเกิดความเหนื่อยล้า หรือบังเกิดความลังเลสงสัย บังเกิดความครั่นคร้าม เช่นกัน

ขอบคุณคนไม่มีรากครับ

ถ้าอัตตา ก็คือ เสือ ที่เราเคยขี่มันอยู่ เมื่อบังเกิดความเหนื่อยล้า หรือบังเกิดความลังเลสงสัย บังเกิดความครั่นคร้าม ครั้นจะลงจากหลังเสือนั้นยากเย็น....ขอคิดด้วยคนค่ะ....งานนี้ลำบากแน่นอน

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท