ให้ไปหมดแล้วเหลือเงินเท่าไรเนี่ย...ไม่เป็นไรนะการให้ทานเป็นสิ่งดีๆสำหรับชีวิต..มีน้อยให้น้อยค่อยบรรจง อย่าจ่ายลงให้มากจะยากนาน..อิอิ...
สวัสดีครับคุณพี่ มนัญญา สมพรปาก ครับ (คิดๆ ดู แล้วสงสัยเป็นเรื่องที่ติดค้างกันมาจากภพที่แล้วกระมังครับ) พุทธองค์ทรงตรัสว่า ททมาโน ปิโย โหติ ผู้ให้ย่อมเป็นที่รัก(ของเทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย) แต่ที่ว่าให้ น่ะให้อะไรหรือ? แล้วที่ว่ารักน่ะรักอะไรหรือ?
เมื่อตอนที่เรียนที่อุตรดิตถ์ ริมน้ำน่าน จะมีขอทานเยอะมาก ประมาณเป็นแกงคืเดียวกันนี่แหล่ะ มีจิตวิทยาในการพูดให้ดูน่าสงสารจับใจ หลายคนให้ไปก็ให้ศีลให้พรซะยืดยาว..ถ้าคนไม่ให้ก็สาปแช่งซะงั้น...แต่ก็เป็นเพราะกวินใจดีอย่างนี้นี่เอง..จึงมีแต่คนมาขอ..เอ๊ย..มาขอเงินน่ะค่ะ..อิอิ
สวัสดีครับคุณพี่อาจารย์ ดร. ขจิต ฝอยทองที่ปรึกษา~natadee เนื่องด้วยพอมีประสบการณ์ทำงานด้านสังคมสงเคราะห์ ทะเลาะกะขอทานมาบ้าง ก็เลยพอจะ คุ้นๆ หน้าขอทานเป็นอย่างดี ยุคหนึ่งสมัยหนึ่งผู้ว่าฯ ท่านไปทำบุญที่วัดนครสวรรค์ (วัดหัวเมือง ที่ชื่อวัดหัวเมืองเพราะสมัยก่อน ตัดหัวนักโษเสียบประจานไว้ที่วัดนี้) ท่านผู้ว่า เห็นขอทานมาเดินขอเงิน คนทำบุญก็เลยโทรศัพท์มา ฟ้อง ประชาสงเคราะห์จังหวัด (ตอนกลางคืนงานเข้า ก็มี Mission ขอทาน Hunter ตั้งชื่อภารกิจเองให้ดูเท่) ภารกิจออกตระเวนร่วมกับตำรวจและ อาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน (อปพร.) ออกตระเวน จับขอทาน จับแล้วเอาไว้ฝากขังที่ สน. ถ้ามีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง ก็ให้เงิน+ผลักดันให้กับภูมิลำเนาตนเอง หรือไม่มีบ้าน ไม่มีที่อยู่ ก็ส่งเข้าสถานสงเคราะห์ เป็นรายๆ ไป ทำดั่งนี้ ขอทานก็หายไปได้ระยะหนึ่ง นึกแล้วก็ขำดี ตอนไปไล่จับขอทาน สงสารก็สงสาร กลัวก็กลัว
ขอบคุณครับพี่นุส nussa-udon กวินอยากให้ก็ให้ มากบ้างน้อยบ้าง ไม่ค่อยไปขอร้อง ให้ใครมาร่วมเดือดร้อนกะเรา แต่การให้แบบนี้ก็คงจะให้ไปเรื่อยๆ ไม่มีที่สิ้นสุด ดังนั้นการทำงานด้านสังคมสงเคราะห์ต้องทำร่วมกับงานด้านการพัฒนาความเป็นอยู่ของมวลชนผู้ยากไร้ ไปพร้อมๆ กันด้วยครับ อนึ่งการทำงานด้านสังคมสงเคราะห์นี้ ทำให้กวินได้เห็นคนหลายๆ จำพวก ทั้ง คนที่หากินกับคนจน (หมายถึงนักพัฒนากรกำมะลอ) และ คนที่หากินกับคนรวย (หมายถึงขอทาน) ฉะนั้นกวินจึงยังแยกไม่ออกระหว่าง นักพัฒนากรกำมะลอ กับ ขอทาน (หากินกับคนจน หมายถึง เที่ยวไปเรี่ยไรคนรวย แล้วบอกว่าจะเอาไปช่วยคนจน แต่ไม่ได้ช่วยจริงหรือ ช่วยจริงแต่ช่วยประเภท สิบหยิบหนึ่ง หรือช่วยก็เพราะหวัง เสนอหน้า เสนอผลงานกับผู้หลักผู้ใหญ่เพื่อเป็นใบเบิกทาง (อาจสะเทือนใจใครหลายคน แต่ ทองแท้ย่อมไม่กลัวไฟลน)
ขอบคุณน้องคนพลัดถิ่น ครับ น้องโพสกลอนนี้ทำให้พี่ นึกถึง ชัปปสูตร พระสุตตันตปิฎก อังคุตรนิกาย ติกนิบาต เล่ม 1 ภาค 3 - หน้าที่ 227 ขอบคุณมากๆ