หนานเกียรติ
เกียรติศักดิ์ หนานเกียรติ ม่วงมิตร

เรือนลาหู่ : เรือนที่เป็นมากกว่าเรือน (๕)


        พลันที่ความมืดค่อยบดบังแสงสุดท้ายแห่งวัน เดือนเสี้ยวทางขอบฟ้าด้านตะวันตกค่อยแจ่มชัดขึ้น

        ชาวลาหู่ที่มาใช้และเอาแรงปลูกเรือนทะยอยกลับไปจนหมด เหลือเพียงอะเบะผะ เจ้าของเรือนหลังใหม่กับสหายชาวกรุงเทพฯ

        “ไม่น่าเชื่อว่าจะสร้างเสร็จ...”

        สหายจากเมืองกรุงคนหนึ่งเอ่ยขึ้น

        “ชาวบ้านเขาเก่งนะ แต่ละคนรู้เลยว่าจะต้องทำอะไร แบ่งงานกันเสร็จสรรพ ไม่มีใครอยู่ว่างเลย...”

        สหายอีกคนกล่าวเสริม ด้วยความชื่นชม

        “วันนี้ผมได้เรียนรู้อะไรเยอะเลย... ผมเห็นคุณค่าของการถ้อยทีถ้อยอาศัยและพึ่งพากัน เหตุการณ์วันนี้ทำให้ผมรักชาวบ้านที่นี่มากขึ้น ความคิดที่จะปักหลักที่บ้านเกิดชัดเจนขึ้น...”

        อะเบะผะ เอ่ยคำ แล้วกล่าวต่อไปว่า

        “นี่จะเป็นจุดเริ่มต้นในการเชื่อมโยงเครือข่ายชาวลาหู่แถบนี้ให้แน่นแฟ้นขึ้น...”

        “อ้าว !!! แล้วที่ผ่านมา เขาไม่ได้รวมตัวกันรึ ?”

        คำถามตามมาหลังจากอะเบะผะกล่าว

        “จริง ๆ แล้วลาหู่แถบนี้ ๔ – ๕ หมู่บ้านเป็นเครือญาติกันทั้งนั้น หลังจากย้ายไปตั้งหลักแหล่งตามหมู่บ้านต่าง ๆ ระยะแรก ๆ ก็มีการไปมาหาสู่กันบ้าง พอคนรุ่นเก่า ๆ ล้มหายตายจากไป คนรุ่นใหม่ ๆ ก็เริ่มไม่ค่อยจะรู้จักกัน ที่พอจะรู้จักกันก็มีไม่มากแล้ว ถ้าปล่อยให้เป็นแบบนี้ เด็ก ๆ รุ่นหลังก็จะไม่รู้จักกัน...”

        อะเบะผะ อธิบายขยายความ

...

 

        แสงไฟลอดออกจากช่องเล็ก ๆ ของฟากไม้ไผ่ เช่นเดียวกับกลิ่นควันจากท่อนฟืนลุกไหม้ไฟโชยออกตามช่องเดียวกันนั้น จากเรือนหลังใหม่ที่เพิ่งปลูกสร้างเมื่อก่อนเที่ยงวันไม่กี่ชั่วโมง และใช้เวลาไม่เกินพระอาทิตย์ตกดิน

        เจ้าของเรือนค่อยขยับฟืนแต่ละท่อนให้แยกออกจากกัน ทันทีที่เปลวไฟมอดดับลงควันไฟก็โถมเข้าทดแทนแสงสว่าง

        แสงไฟค่อยหรี่ลง เช่นเดียวกับกลิ่นควันไฟค่อยจางลง

        แม้อากาศด้านนอกจะหนาวเย็น แต่ภายในก็อบอุ่น แม้ไฟจะมอดดับลงแล้ว

        อะเบะผะเอนกายลงนอนในเรือนหลังใหม่ เรือนที่สร้างจากน้ำมือและน้ำจิตน้ำใจของชาวลาหู่จาก ๓ หมู่บ้าน

        เรือนลาหู่สร้างสำเร็จสมดังเจตนา และเป็นไปตามขนบธรรมเนียมของชาวลาหู่ แต่จุดหมายปลายทางที่เหนือกว่าการปลูกเรือนได้ถูกเริ่มต้นแล้วในวันนี้

...

หมายเลขบันทึก: 340064เขียนเมื่อ 26 กุมภาพันธ์ 2010 10:05 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 22:30 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (25)

เรือนลาหู่จะรอต้อนรับ อ.ธนิตย์ ครับ

พาภรรยาและลูก ๆ มาด้วยนะครับ

   อะเบะผะ..กับความสุข ณ เฮือนลาหู่

   ปี้อ้วนเฝ้านับวันเจ้า..

  กึ๊ดเติงหาเจ้า..

คงมีโอกาสได้ไปพัก ห้องที่มีบรรยากาศดีๆเเบบนี้ครับ..

สว้สดีคุณหนานเกียรติ

แวะมาเยี่ยม มาทักทาย สบายดีนะครับ บ้านลาหู่ แสดงให้เห็นวัฒนธรรมการพึพานเองครับ

สังคมอีสานแต่ก่อนจะเป็นอย่างนี้ ปัจจุบันเริ่มจางๆ มีความสุขกับความงดงามองบ้านเกิดครับ

มิตรภาพเป็นสิ่งที่เชื่อมโยงการเรียนรู้ของจิตภายในจริงๆ

หากเพื่อนแค่รู้จักกัน แค่กินข้าวกินไปมื้อคงจะมาแค่ครั้งเดียวละมั้ง

แต่กว่าจะชวนมาบ่มเพาะกิจกรรมทางใจแบบนี้แล้วก็ต้องเรียนรู้ใจกันพอควร

"เพราะทุกวันนี้คนทำงานแค่ผ่านรอดทางกาลเวลาเท่านั้น"

หากมิมีการทบทวนความสุขในชีวิตที่เราคงมีเรี่ยวแรงที่จะแสวงหามันในวัยแบบเราคงยาก

ลองมาหากิจกรรมแบบนี้ทำผ่านการนั่งคุยกันในห้องประชุมบ้างก็ดีนะครับก็ดีนะครับ

ว่ามั้ย "มิตรภาพ"

สหายเบิ้ม

รีเจนซี่ บรั่นดีไทย (จะโดนเซนเซอร์มั้ยเนี่ย) เด็กๆ ห้ามอ่านความเห็นอันนี้นะ

เอ้า ชน

สวัสดีค่ะ

ตามมาอ่าน.. มาเที่ยว.. เรือนลาหู่ ค่ะ..   มาแบบรวดเร็ว เหมือน ตอนสร้างเรือนเลยนะคะ  แป๊บเดียว 5 ตอนแล้ว  อิ อิ   ขอบคุณค่ะ  มีความสุขมากๆ เสมอนะคะ..  

ขอขอบคุณ  Silence is GOLDEN!! The Flight of the Phoenix.. The Flight of the Phoenix by adrians_art

สวัสดีค่ะอาจารย์

  • น้องซิลเวียแวะเข้ามาชื่นชมเรือนลาหู่ค่ะ.. ดูแล้วน่าจะเย็นสบายสำหรับหน้าร้อน
  • แต่ช่วงหน้าหนาวคิดว่าเค้าคงมีวิธีที่ทำให้อบอุ่นขึ้นมาได้ภายในบ้านค่ะ
  • แค่นี้ก็เป้นความเพียงพอแล้วที่จะทำให้ชีวิตมีความสุขค่ะ
  • ขอบคุณค่ะ

  สวัสดีค่ะ หนานเกียรติ
มาชวนไปดูเด็กๆ แข่งหุ่นยนต์ค่ะ...
เชิญชวนไปให้กำลังใจเด็กๆ หน่อยนะคะ
รักษาสุขภาพด้วยนะคะ
 
 ระลึกถึงค่ะ

ไม่ลืมค่ะ แต่ไม่แน่ใจว่าคนที่หมอชวนจะไปด้วยไหม?

รวดเร็วทันใจจริง ๆ "เรือนลาหู่" เสียดายไม่ไดอยู่จนสร้างเสร็จ

ท่าทางน่าสนุก..ไม่เป็นไรว่าง ๆ จะแวบไปอาศัยนอน

ขอเวลาซุ่มเขียน "ต๋านข้าวสังข์" รอติดตามเร็ว ๆ นี้

ข้ามไปสองตอนจะไปอ่านต่อ จะต้องไปซึมซับให้ถึงที่ ปิดเทอมไปแน่ ชันชีกัย นะไรแล้วครับ

สวัสดีค่ะ

  • ติดตามอ่านตั้งแต่ตอนที่ 1 ถึงตอนที่ 5
  • ได้รับความรู้ในวัฒนธรรมของชาวลาหู่
  • เขาเลือกที่จะสอนให้ทุกคนรัก  สามัคคี  และพึ่งพาอาศัยกัน
  • บ้านลาหู่ ก็เหมาะสมกับบรรยากาศของการพักผ่อน
  • ถ้ามีวาสนา คงได้ไปเห็นของจริง
  • ขอบคุณค่ะ

หวัดดีค่ะ น้องหนานเกียรติ

...เรือนนี้น่ารัก โรแมนติคชะมัด

แวะมาเยี่ยมเยียนค่ะ สบายดีนะคะ

ภูมิปัญญาชาวบ้านนั้นยิ่งใหญ่              วัฒนธรรมมากหลายให้ลูกหลาน

มรดกตกทอดมาแต่โบราณ                   ประเพณีสืบสานให้บ้านเมือง

สวัสดีค่ะ ปี้หนานเกียรติ

  • แวะมาเรียนรู้ ภูมิปัญญา วัฒนธรรมของชาวลาหู่ค่ะ
  • อ่านครบ 5 ตอนแล้ว...บรรยากาศอบอุ่นดีจังเลยค่ะ
  • คิดถึงสมัยตอนเป็นเด็ก.. ที่บ้านป้ออุ้ยก็ปลูกเรือน แบบขอแรงชาวบ้านมาช่วยเหมือนกันค่ะ
  • ขอบคุณเรื่องราวดี ๆ ...นะคะ
  • สุขสันต์วันแห่งความรัก (วันมาฆบูชา)..ค่ะ
  • ......^_^

 

สวัสดีค่ะ เริ่มรู้จักลาหู่ กับคุณหนาน นี่แหละค่ะ..ขอบคุณน่ะค่ะ

วันนี้เอากล้วยบัวมาฝากค่ะ..

สวัสดีค่ะท่านหนาน...

แวะมาทักทายในวันมาฆบูชาค่ะ ^v^

นำดอกบัวมาฝาก...

 

สวัสดีค่ะมาติดตามอ่านเรื่องราว..เรือนลาหู่..สร้างแล้วน่าอยู่กว่าบ้านปูนที่เลียนแบบในโมเดลบ้านจัดสรรมากนะคะ..อากาศดีแล้ว..น่าร้อนนี้คงนอนสบาย..ทำให้นึกถึงบ้านเก่าเมื่อยังเด็กค่ะ

*** ขอบคุณที่ทำให้รู้จัก "เรือนลาหู่" ค่ะ

  • งดงามมากครับหนานเกียรติ
  • ทำอย่างไรถึงจะโยงกับความเป็นชุมชนลาหู่และตำนานที่งดงามของลาหู่ได้
  • คนรู้จักความเป็นลาหู่น้อยนะครับ

มาดูการสร้างบ้านแบบชนบทจริงๆ อยู่แบบเรียบง่าย จริงๆ นะครับ

สวัสดีครับ อ.โสภณ เปียสนิท 

ขอบคุณมาก ๆ ครับ ที่เข้ามาทักทาย
มีเวลา/โอกาส แวะมาพักสักคราวนะครับ 

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท