หนานเกียรติ
เกียรติศักดิ์ หนานเกียรติ ม่วงมิตร

GTK Camp IV (ตอน ๕ - เรียนรู้ประวัติศาสตร์ของชุมชน)


        ช่วงท้ายของบันทึกที่แล้ว ผมเล่าให้ฝังถึงกระบวนการเรียนรู้ประวัติศาสตร์ชุมชน โดยมีผู้เฒ่าผู้แก่ในหมู่บ้านมาบอกเล่าเรื่องราวในอดีต โดยมีผลและพี่คิมรวมทั้งทีมงานคอยซักถาม เด็ก ๆ ที่เข้าค่ายฯ ร่วมฟังเรื่องราว ซึ่งนอกจากจะได้เรียนรู้เรื่องราวของชุมชนตนเองแล้ว ก็ยังจะได้เรียนรู้วิธีการตั้งคำถาม ซึ่งเป็นเนื้อหาหนึ่งของค่ายฯ ด้วย

         ซึ่งกิจกรรมนี้เป็นการปรับกระบวนการเรียนรู้ตามสถานการณ์ เดิมมิได้ตั้งใจไว้เช่นนี้

        กิจกรรมนี้สนุกและได้ความรู้มาก ทั้งทีมวิทยากรและเด็ก ๆ

        เนื้อหาที่ผมจะนำมาลงในบันทึกนี้ เป็นเนื้อหาที่เด็ก ๆ ลงไปถามคนเฒ่าคนแก่แล้วนำมาเรียบเรียงนำเสนอในค่ายฯ และผมได้ใช้เป็นฐานในการซักถามเรื่องราวจากคนเฒ่าคนแก่ในหมู่บ้าน

        ประวัติชุมชนห้วยปลาหลดนี้ จึงเป็นผลงานร่วมกันของทุกคนในหมุ่บ้านที่มาร่วมในเวที รวมทั้งบรรดาทีมวิทยากร

        นี่คือเนื้อหาที่ได้ครับ


แรกเริ่มของชาวลาหู่ในพื้นที่ จ.ตาก 

        ชาวลาหู่ที่อพยพย้ายถิ่นฐานมาตั้งบ้านเรือนในพื้นที่จังหวัดตากมาจาก ๒ แห่ง คือ จาก พื้นที่ อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ และจาก ดอยช้าง อ.แม่สรวย จ.เชียงราย โดยมาตั้งถิ่นฐานอยู่ที่บริเวณบ้านอุมเปี้ยม อ.อุ้มผาง จ.ตาก จากนั้นก็โยกย้ายไปพื้นที่อื่น ๆ อีก เช่น บ้านแม่ละมุ้ง และบ้านหัวแม่ละเมา (ป่ากุ่ย) ซึ่งยังคงวนเวียนอยู่ในพื้นที่ อ.อุ้มผาง จ.ตาก

        จากนั้นในส่วนของชาวลาหู่บ้านหัวแม่ละเมา ชาวบ้านจำนวนหนึ่งย้ายไปที่หมู่บ้านมูเซอหลังเมือง
อ.อมก๋อย จ.เชียงใหม่ นำโดยนายจะเข๊าะ และชาวบ้านอีกจำนวนหนึ่งนำโดยนายตูบูป่า ย้ายเข้ามาอยู่ในพื้นที่ดอยมูเซอ อ.เมือง จ.ตาก ซึ่งปัจจุบันเป็นที่ตั้งของสถานีทดลองพืชสวนดอยมูเซอ ทั้งนี้การย้ายมา ณ พื้นที่ดอยมูเซอนี้หลังจากเกิดสงครามโลกครั้งที่ ๒ ราว ๓ ปี

 

เริ่มขยับขยายมายังพื้นที่ดอยมูเซอ 

        ชาวลาหู่เริ่มย้ายเข้ามาตั้งบ้านเรือนในพื้นที่ดอยมูเซอจนหนาแน่นขึ้น กระทั่งเป็นหมู่บ้านขนาดใหญ่ มีประชากรกว่า ๑๕๐ หลังคาเรือน โดยชาวบ้านแต่งตั้งให้นายตูบูป่าเป็นปู่จารย์อยู่ที่นี่ราว ๑๐ กว่าปี จากนั้นนายตูบูป่าก็นำลูกบ้านจำนวนหนึ่งย้ายไปอยู่ที่บ้านมูเซอหลังเมือง อ.อมก๋อย จ.เชียงใหม่ ส่วนชาวบ้านที่เหลืออยู่ก็แยกออกเป็นสองกลุ่ม

        กลุ่มแรกนำโดยนายจะแคะ ซึ่งมีเชื้อสายจีนฮ่อและลาหู่เฌเล พาลูกบ้านราว ๕๐ ครอบครัว ไปตั้งบ้านเรือนที่บ้านเก่า หรือบ้านอุมยอม ต.แม่ท้อ อ.เมือง จ.ตาก นายจะแคะถูกชาวบ้านคัดเลือกและแต่งตั้งให้เป็นปู่จารย์

        กลุ่มที่สองนำโดยนายกะส่า ได้นำลูกบ้านราว ๓๐ ครอบครัว ไปตั้งบ้านเรือนที่บ้านมูเซอแสม ปัจจุบันคือบริเวณริมเส้นทางสายตาก – แม่สอด ช่วงปากทางแยกเข้าอุทยานแห่งชาติตากสินมหาราช (บริเวณ ก.ม. ที่ ๒๕) โดยมีนายกะส่าเป็นปู่จารย์ และมีนายจะหา เป็นผู้ใหญ่บ้าน

        ชาวลาหู่บ้านมูเซอแสมตั้งถิ่นฐานอยู่ที่นี่ราว ๘ ปี ได้ถูกทหารรับจ้างชาวจีนฮ่อเข้าปล้นหมู่บ้าน ซี่งทหารรับจ้างกลุ่มนี้สิ้นสุดภารกิจการรับจ้างคุ้มกันการสร้างถนนสายแม่สอด-อุ้มผาง จากการโจมตีของ ผกค. แล้วจะเดินทางกลับไปยังที่ตั้ง ณ ที่จากมาที่ จ.เชียงราย พวกจีนฮ่อเหล่านี้ต้องการทรัพย์สินและเสบียงสำหรับการเดินทางกลับ เป็นเหตุที่ให้เข้ามาปล้นหมู่บ้าน มีการสู้รบระหว่างชาวบ้านลาหู่กับทหารรับจ้างชาวจีนฮ่อ ชายชาวลาหู่มีเพียงหน้าไม้เป็นอาวุธต่อสู้อย่างกล้าหาญโดยไม่มีผู้ใดถึงแก่ชีวิตจากการสู้รบ ส่วนเด็ก ผู้หญิงและคนเฒ่าคนแก่ต่างก็พากันหลบหนีเข้าป่าไป

        ในการเข้าปล้นหมู่บ้านของจีนฮ่อนั้น นายจะหาถูกทหารจีนฮ่อจับไปทรมานเพื่อบังคับให้บอกที่ซ่อนเงินแถบซึ่งเป็นทรัพย์สินที่มีค่าที่เก็บซุกซ่อนไว้ เมื่อทหารจีนฮ่อได้เสบียงและทรัพย์สินแล้วก็ปล่อยตัวนายจะหา จากนั้นก็ล่าถอยเดินทางต่อไป

        หลังจากชาวบ้านถูกปล้นแล้ว ก็อยู่ในภาวะที่ตระหนกตกใจ และเห็นว่าพื้นที่ตั้งหมู่บ้าน ณ ปัจจุบัน ไม่ปลอดภัย จึงพากันอพยพย้ายไปสมทบกับชาวลาหู่ที่บ้านเก่าหรือ บ้านอุมยอม ซึ่งชาวบ้านที่เคยอยู่ด้วยกันเมื่อย้ายเข้ามาตั้งบ้านเรือนในพื้นที่ดอยมูเซอในช่วงแรก ในขณะนั้นนายจะแคะยังคงเป็นปู่จารย์ของหมู่บ้าน

 

แรกเริ่มตั้งบ้านเรือนที่ห้วยปลาหลด 

        ต่อมานายจะเค๊าะ ได้ผิดใจกับนายจะแคะ ปู่จารย์ในขณะนั้น จึงได้ชักชวนชาวบ้านจำนวน ๒ ครอบครัว ได้แก่นายขี้หมา และนายป๊ะปี ย้ายออกไปตั้งบ้านเรือนในพื้นที่แห่งใหม่ ห่างไปทางทิศเหนือ อยู่อีกฝั่งหนึ่งของถนนเส้นทางตาก-แม่สอด ไปราว ๑๐ ก.ม. ซึ่งเป็นที่ตั้งของบ้านห้วยปลาหลด ม.๘ ต.ด่านแม่ละเมา อ.แม่สอด จ.ตาก ระยะแรกเรียกหมู่บ้านนี้ว่าบ้านมูเซอสามหลัง หรือ “บ่าล้อ” นายจะเค๊าะได้รับเลือกให้เป็นปู่จารย์ นายขี้หมาเป็นผู้ใหญ่บ้าน และนายป๊ะปี๋ เป็นหมอผี

        พื้นที่ตั้งหมูบ้านมูเซอสามหลังนี้ เดิมเป็นที่ตั้งบ้านเรือนและที่ทำกินของชาวปกาเกอะญอ ซึ่งได้อพยพย้ายเข้าป่าลึกไป โดยมีชื่อเรียกลำห้วยที่ผ่านบริเวณนี้ว่าห้วยปลาหลด

        หลังจากนายจะเค๊าะย้ายออกไปไม่ถึงปี นายจะพู ก๊ะกู่ ก็นำชาวบ้านราว ๒๐ ครอบครัว ย้ายไปตั้งบ้านเรือนที่บ้านห้วยส้มป่อย ม.๕ ต.ด่านแม่ละเมา อ.แม่สอด จ.ตาก

        หมู่บ้านห้วยส้มป่อยตั้งได้ไม่ถึงปี นายจะเค๊าะและชาวบ้านจากบ้านมูเซอสามหลัง ก็มาเข้าร่วมประกอบพิธีในช่วงเทศกาลปีใหม่ที่บ้านหมู่บ้านนี้ เนื่องจากในช่วงหนึ่งชาวบ้านในหมู่บ้านได้ยินเสียงชะนีร้องในเวลากลางคืน ซึ่งถือว่าเป็นลางร้ายของหมู่บ้าน ไม่สามารถจะทำพิธีกรรมในหมู่บ้านได้ โดยได้เข้าร่วมพิธีต่าง ๆ เป็นเวลาราว ๒ ปี

        ต่อมานายจะแคะ ซึ่งเป็นปู่จารย์บ้านอุมยอม ถูกลักลอบยิงเสียชีวิต ลูกหลานและเครือญาติของนายจะแคะ ซึ่งนำโดยนายปู่ดา ลูกชายนายจะแคะ นำชาวบ้านราว ๒๐ หลังคาเรือนย้ายเข้าไปอยู่ที่บ้านมูเซอสามหลัง เมื่อย้ายมาอยู่รวมกันนายปู่ดาก็ได้รับแต่งตั้งเป็นปู่จารย์แทนนายจะเค๊าะ

        เวลาผ่านไปราว ๕ ปี นายจะเค๊าะอดีตปู่จารย์เกิดผิดใจกับนายปู่ดา จึงแยกชาวบ้านจำนวน ๑๐ ครอบครัวออกมาตั้งหมู่บ้านต่างหาก ทำให้บ้านมูเซอสามหลังจึงถูกแยกออกเป็นบ้านเหนือและบ้านใต้  โดยบ้านเหนือมีนายจะเค๊าะเป็นปู่จารย์ ส่วนที่บ้านใต้มีนายปู่ดาเป็นปู่จารย์ มีลูกบ้านราว ๒๕ ครอบครัว

        ในราวปี พ.ศ.๒๕๑๕ ศูนย์พัฒนาและสงเคราะห์ชาวเขา จ.ตาก ได้เข้ามาจัดตั้งหน่วยพัฒนาชาวเขาในหมู่บ้าน จึงได้ตั้งชื่อหมู่บ้านว่า “บ้านห้วยปลาหลด” ซึ่งเป็นชื่อเรียกลำห้วยที่ไหลผ่านหมู่บ้าน ที่ชาวบ้านสันนิษฐานว่าน่าจะมาจากปลาหลดในลำห้วยที่มีอยู่มากมาย

        และในปี ๒๕๑๗ บ้านห้วยปลาหลดก็ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระบรมราชีนีนาถ ทรงเสด็จเยี่ยมราษฎรในหมู่บ้าน

        ปีถัดมา ครอบครัวนายจะฟะ ซึ่งย้ายจากบ้านมูเซอหลังเมือง อ.อมก๋อย จ.เชียงใหม่ ไปอยู่ที่ห้วยไม้ห้าง อ.แม่ระมาด จ.ตาก ซึ่งต่อมาที่บ้านห้วยไม้ห้างเกิดโรคระบาด ชาวบ้านล้มตายเป็นจำนวนมาก จึงได้ย้ายครอบครัวมาอยู่ที่บ้านมูเซอสามหลัง โดยเข้าเป็นลูกบ้านของนายปู่ดา

        ในระยะเดียวกัน นายจะจู๋ และอีกหนึ่งครอบครัวซึ่งย้ายมาจากบ้านมูเซอหลังเมืองพร้อม ๆ กับนายจะฟะ ได้ย้ายเข้ามาอยู่ที่บ้านมูเซอสามหลังเช่นกัน แต่เลือกเข้าไปเป็นลูกบ้านของนายจะเค๊าะ

        ในปี ๒๕๒๖ นายจะเค๊าะ ซึ่งเป็นปู่จารย์บ้านเหนือ ย้ายออกไปตั้งบ้านเรือนที่บ้านห้วยขนุน เลยบ้านอุมยอมเข้าไปทางด้านใน ชาวบ้านจึงได้แต่งตั้งให้นายแอ่หลู้เป็นปู่จารย์แทน หลังจากนายแอ่หลู้เสียชีวิตชาวบ้านก็แต่งตั้งให้นายจะจู๋เป็นปู่จารย์แทน

        ราวปี ๒๕๓๓ นายปู่คา ซึ่งเป็นปู่จารย์บ้านเหนือ มีอายุมากขึ้นและเริ่มชราภาพ จึงได้ออกจากการเป็นปู่จารย์และได้ส่งต่อหน้าที่ปู่จารย์ให้กับนายจะต๋า ผู้เป็นลูกชาย และหลังจากนั้นชาวบ้านซึ่งเป็นลูกบ้านนายจะต๋า ได้ย้ายออกจากการเป็นลูกบ้านไปเข้าเป็นลูกบ้านของนายจะจู๋ โดยยังคงบ้านเรือนไว้ที่เดิม

        ปี ๒๕๔๕ นายจะลา ได้นำชาวบ้านจำนวน ๑๕ ครอบครัวออกมาตั้งกลุ่มตนเองจากนายจะจู๋ โดยนายจะลาได้รับการแต่งตั้งจากลูกบ้านให้เป็นปู่จารย์

        ในปี ๒๕๕๐ ชาวบ้านกลุ่มหนึ่งได้ย้ายออกจากการเป็นลูกบ้านของนายจะจู๋ ไปตั้งกลุ่มตนเองต่างหาก มีการแต่งตั้งปู่จารย์ หมอผี และอื่น ๆ ตามธรรมเนียมการตั้งหมู่บ้านของชาวลาหู่ แต่ตั้งได้ไม่นานนักก็ย้อนกลับมารวมกับนายจะจู๋เช่นเดิม

        ปี ๒๕๕๒ ชาวบ้านกลุ่มหนึ่ง นำโดยนายจะย่อ ได้แยกชาวบ้านจำนวน ๑๕ ครอบครัวออกมาจากนายจะจู๋มาตั้งกลุ่มของตนเอง โดยนายจะย่อได้รับการแต่งตั้งเป็นปู่จารย์

        และในปี ๒๕๕๓ ชาวบ้านอีกกลุ่มหนึ่ง จำนวน ๕ ครอบครัว นำโดยนายจะอื๊อ ได้แยกออกมาจากปู่จารย์จะหลง ซึ่งสืบทอดตำแหน่งปู่จารย์จากนายจะต๋า ผู้เป็นพี่ชาย เนื่องจากมีปัญหาสุขภาพ และนายจะอ๋อ ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นปู่จารย์

หมายเลขบันทึก: 382391เขียนเมื่อ 6 สิงหาคม 2010 22:04 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 23:20 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (6)

สวัสดีค่ะ

กำงจะเขียนเรื่อง "ลาหู่ผู้มีอุดมคติไม่กินป่า"  แต่ยังไม่เริ่มต้นเลยค่ะ ดูหนังก่อน  หนังแผ่นเรื่อง I am Sam.

จองงงที่สอง คิดถึงพี่หนาน...ไม่ยอมมา อ่ะ

มาพบโดยบังเอิญ เพราะตามครูคิมมา

นาสนใจ เพราะผมเองก็ชอบสาระประโยชน์แบบนี้

ทำงานต่อไปน๊ะ หนานเกียรติ ทำเพื่อพวกเขาเถอะอย่าท้อถอย

แล้วจะเข้ามาเยี่ยมบ่อย ๆ

สวัสดีครับ พี่ครูคิม

ฝากทำบุญด้วยนะครับ
วันนี้อยู่เลี้บงเฌวา เฌวาเดินไปเดินมารอบบ้าน
ช่วงบ่าย ๆ ว่าจะเอาเรื่องเทศกาลปีใหม่ขึ้นบล็อคครับ

 

สวัสดีคุณน้องคำหล้า - ♥paula .`๏'- ที่ปรึกษาตัวน้อย.`๏'-

ปากหวาน...ไม่เชื่อหรอก... (ฮิ ฮิ..)
ก็ไม่ยอมชวนนิ เลยไม่กล้าไป

 

สวัสดีครับ อาจารย์ Todsapol

แอบเข้าไปอ่านบันทึกอาจารย์มาหลายบันทึกแล้วครับ
ชอบมาก ๆ
ตอนเป็นหนุ่มก็เคยชกมวยเหมือนกันครับ
ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมนะครับ

 

ต่อมานายจะเค๊าะ ได้ผิดใจกับนายจะแคะ

ตอนนี้แหละอ่านไม่เข้าใจเลยว่า  จะแคะมาจากไหน  เขียนเติมตามไปไม่ได้เลยนะ

เป็นเรื่องราวที่น่าสนใจมากนะครับ  ติดตามมาจากบันทึกครูคิมครับ เขียนอีกนะครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท