เราทั้ง ๕ ย้ายที่นั่งจากร้านอาหารญี่ปุ่นไปที่โซนเทือกเขาปันปัน ในช่วงเริ่มต้นกิจกรรมภาคบ่าย ซึ่งเป็นการเสวนาของ www.gotoknow.org
เพราะความเพลิดเพลินกับอาหารและการสนทนาเราจึงเข้ามาในบริเวณเมื่อคนเกือบจะเต็ม จนแทบไม่ได้ที่นั่ง น้องออโต้ พี่คิม ผม และ อ.กวาง นั่งเรียงกันในแถวที่สองนับจากแถวสุดท้ายริมด้านซ้าย พี่อุ้มบุญนั่งแถวสุดท้ายด้านหลังผม
เป็นเพราะเวลาเสวนาจะเริ่มต้นแล้ว ผมจึงได้ชมนิทรรศการที่ทางทีมงาน gotoknow จัดแสดงไว้ด้านหลังเพียงโฉบเฉี่ยวเดี๋ยวเดียว เห็นภาพตัวเองปรากฏอยู่ร่วมกับกัลยาณมิตรจาก gotoknow ที่ไปร่วมกันจัดค่ายจิตอาสาในที่ต่าง ๆ หลายภาพทีเดียว พี่คิมก็ดูจะตื่นเต้นไม่แพ้ผม
แถวนั่งในโซนมีผู้ฟังเข้ามาจับจองนั่งจนไม่มีที่ว่าง ในบรรดาผู้เข้าฟังทั้งหลายนั้น ผมและพี่คิมเห็นด้านหลังผู้ฟังท่านหนึ่ง เราคุยกันเบา ๆ เดากันว่าหญิงท่านนั้นน่าจะเป็น พี่ใหญ่-นงนาท สนธิสุวรรณ และก็เป็นไปดังคาด
บนเวทีเบื้องหน้ามีบล็อคเกอร์คนดังจาก gotoknow เตรียมพร้อมที่จะพูดคุยอยู่หลายท่าน ผมรู้จักและเคยพบปะกับทุกคน
ผู้ดำเนินรายการคือ คุณเอก-จตุพร วิศิษฏ์โชติอังกูร ชายหนุ่มว่าที่ดุษฎีบัณฑิตผู้มากความสามารถที่ผมเคยร่วมงานด้วยหลายหน ดูเหมือนว่าการทำหน้าที่คราวนี้เป็นมวยแทนด้วยผู้ดำเนินรายการตัวจริงติดภารกิจกระทันหัน จึงน่าเสียดายทำให้ขาดเนื้อหาจากอีกหนึ่งมุมของ ด้วยคุณเอกนั้นเป็นสมาชิกในอันดับต้น ๆ ของ gotoknow ซึ่งเขียนบันทึกมาอย่างต่อเนื่อง มีส่วนช่วยผลักดันกิจกรรมต่าง ๆ รวมทั้งการใช้ชุมชนแห่งนี้เป็นช่องทางในการต่อยอดกิจกรรมในเชิงจัดการความรู้ที่น่าสนใจจำนวนไม่น้อย ผมเองก็เริ่มต้นเข้าไปร่วมงานด้วยจากจุดเริ่มต้นที่พบปะพูดคุยแลกเปลี่ยนแบ่งปันในชุมชนออนไลน์แห่งนี้นี่เอง
ผู้ร่วมเสวนามี ๔ ท่าน
ท่านแรกคือ ครูหยุย-วัลลภ ตังคณานุรักษ์ กรรมการและเลขาธิการมูลนิธิสร้างสรรค์เด็ก แทบไม่ต้องกล่าวถึงก็น่าจะทราบและรู้จักท่านเป็นอย่างดี สำหรับผมเองมิได้ตั้งใจจะทาบรัศมี แต่ครูหยุยและผมต่างเป็นสมาชิกอโชก้าเฟล์โลว์ด้วยกัน ท่านได้รับรางวัลนี้ในรุ่นแรก ๆ ส่วนผมอยู่ในยุคหลัง
ครูหยุยเข้ามาเป็นสมาชิกใน gotoknow เมื่อไม่นานมานี้ ท่านบอกในเวทีเสวนาว่าท่านใช้เวลาราววันละ ๒ ชั่วโมงเพื่อเข้ามาพบปะทักทายและแบ่งปันในชุมชนออนไลน์นี้ แรงจูงใจที่ทำให้ต้องเข้ามาใช้เวลาไม่น้อยในแต่ละวันทั้งที่ภารกิจก็รัดตัวเนื่องจากได้เรียนรู้เรื่องแปลกใหม่ หลายเรื่องเป็นเรื่องที่ไม่เคยรู้ ไม่เคยคิดมาก่อน ที่ผมประทับใจก็คือท่านใช้พื้นที่แห่งนี้ในการทำความเข้าใจความเคลื่อนไหวในสังคมไทยในวงที่กว้างขวางขึ้น ท่านพูดถึงกลุ่มที่น่าสในใจคือกลุ่ม กศน. นอกจากนั้นท่านยังเป็นผู้เชียร์บล็อคที่เอาจริงเอาจัง ในจังหวะที่ท่านเข้ามาท่านก็จะเข้าไปเขียนทักทายให้กำลังใจแก่บล็อคเกอร์ที่ยังไม่มีใครเข้าไปแลกเปลี่ยนแบ่งปัน คิดดูสิครับ หากเป็นคนนั้นที่ได้รับการทักทายจากอดีตวุฒิสมาชิก ๒ สมัย หัวใจจะพองโตเพียงใด ผมเองก็ได้รับความรู้สึกเช่นนั้นมาแล้ว
ท่านต่อมาคือ พี่ชิว-ดร.บัญชา ธนบุญสมบัติ จาก สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ผมคิดว่าน้อยคนในชุมชน gotoknow ที่จะไม่รู้จัก ในทัศนะผมพี่ชิวเป็นมนุษย์มหัศจรรย์คนหนึ่ง เป็นนักวิชาการที่ซื่อสัตย์ต่อวิชาการอย่างที่สุด ปกป้องความถูกต้องอย่างไม่มีอคติและไม่เกรงกลัวต่ออิทธิพลใด ๆ เช่น การวิพากษ์วิจารณ์หนังสือขายดีที่บิดเบือนผิดเพี้ยนหลักวิชาการ กระทั่งเมื่อคราวเกิดเหตุการณ์ CTX อันลือลั่น ฯลฯ นอกจากนั้นพี่ชิวยังขยันอธิบายปรากฏการณ์ทางธรรมชาติด้วยหลักวิชาการที่สื่อสารให้เข้าใจได้ง่ายและสนุก ดังจะพบเห็นได้จากบทความจำนวนมากในสื่อสิ่งพิมพ์ชั้นนำของประเทศ
สำหรับใน gotoknow นั้น พี่ชิวได้สร้างปรากฏการณ์ “ชมรมคนรักมวลเมฆ” ขึ้น เรื่องเมฆจากที่ไม่มีใครสนใจกลายมาเป็นความสนใจของผู้คนจำนวนมาก หลายคนถึงขั้น “บ้าเมฆ” จากใน gotoknpw ต่อไปยัง facebook ผมเองก็เป็นหนึ่งในปรากฏการณ์นั้น
ผมพบพี่ชิวครั้งแรกที่การประชุม gotoknow สัญจร ที่ ม.ขอนแก่น ในคราวนั้น นอกจากจะพูดคุยเรื่องเมฆแล้วพี่ชิวยังได้คุยเกี่ยวกับศาสตร์การพับกระดาษด้วย การพูดคุยของพี่ชิวสนุกสนานไปพร้อมกับการได้ความรู้ใหม่ ๆ เรื่องวิทยาศาสตร์ที่เป็นเรื่องยาก ของสูงถึงยาก กลายเป็นสิ่งที่น่าสนใจของผมขึ้นมาในทันที พี่ชิวในอีกทัศนะหนึ่งของผมจึงเป็นผู้สร้างแรงบันดาล และเห็นความงามของวิทยาศาสตร์อย่างเยี่ยมยอดที่สุด เมืองไทยถ้ามีนักวิทยาศาสตร์แบบพี่ชิวเพียงแค่ ๑๐ เปอร์เซ็นต์ จะมีผู้คนสนใจวิทยาศาสตร์เพิ่มขึ้นอีกมาก ผมคิดว่ายิ่งคนที่มีหัวใจเป็นวิทยาศาสตร์มากเท่าไรก็จะเป็นยิ่งพัฒนาสังคมให้เข้มแข็งมากขึ้นเท่านั้น
ท่านถัดมาคือ อาจารย์เจเจ-รศ.นพ.จิตเจริญ ไชยาคำ จากภาควิชารังสีวิทยา คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น อาจารย์เจเจถือว่าเป็นคนสำคัญในแวดวงจัดการความรู้ของเครือข่ายสถาบันอุดมศึกษาของเมืองไทย มีความมุ่งมั่นทุ่มเทให้กับเรื่องนี้อย่างเอาจริงเอาจัง ท่านเป็นหนึ่งในทีมผู้บุกเบิกการจัดการความรู้ของมหาวิทยาลัยขอนแก่น ก่อนที่จะขยายเครือข่ายและมีส่วนสำคัญในการสร้างความเข้มแข็งด้านการจัดการความให้กับเครือข่ายฯ ดังจะเห็นความเคลื่อนไหวอยู่เป็นระยะและต่อเนื่องจากในบันทึกของท่าน
ผมพบ อาจารย์เจเจ หนแรกเมื่อการประชุม gotoknow สัญจรที่ ม.ขอนแก่น คราวนั้นท่านทำหน้าที่เป็นเจ้าภาพจัดประชุม เป็นการประชุมหนึ่งที่จัดได้ประทับใจผมมาก
อาจารย์เจเจหมั่นในการเขียนบันทึกเป็นอย่างยิ่ง เขียนทุกวันเป็นประจำวัน บางวันมากกว่าหนึ่ง ผมเข้ามาในชุมชนนี้คราวใดก็มักจะพบเห็นบันทึกใหม่ ๆ ของท่านปรากฏอยู่เป็นประจำ ทำให้มีโอกาสได้พบปะและแลกเปลี่ยนกับท่านอยู่เรื่อย ๆ และท่านเองก็มักจะแวะเวียนมาทักทายผมอยู่เป็นประจำ
ท่านสุดท้ายคือ ดร.วิรัตน์ คำศรีจันทร์ จากคณะสังคมฯ มหาวิทยาลัยมหิดล ศาลายา เป็นบล็อคเกอร์คุณภาพคับแก้วท่านหนึ่งของ gotoknow อ.วิรัตน์ ในทัศนะเป็นนักวิชาการที่มีลักษณะพิเศษที่น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง ด้วยความที่อาจารย์มีพื้นฐานความรู้ทางด้านศิลปะผนวกกับประสบการณ์ต่อเนื่องยาวนานเกี่ยวกับการวิจัย งานเขียนและละบันทึกของท่านใน gotoknow จึงลุ่มลึกเป็นอันมาก ผมได้แอบอิงอาศัยเรียนรู้จากบันทึกของท่านจำนวนมาก และเรียกได้ว่าท่านคือ “ครู” ของผม ที่สร้างแรงบันดาลใจและให้กำลังใจในเส้นทางการเรียนรู้ของผมเป็นอย่างยิ่ง
ผมพบปะพูดคุยกับ อ.วิรัตน์ ในชุมชนออนไลน์มานาน และมีโอกาสจะได้พบปะกันหลายครั้งคราว แต่ก็พลาดโอกาสนั้นไปอย่างน่าเสียดาย กระทั่งเหตุปัจจัยพร้อมผมจึงได้พบกับอาจารย์ในการประชุมคราวหนึ่งที่ท่านเป็นวิทยากร และได้เชิญชวนผมผ่านคุณเอก-จตุพร ให้ไปร่วม ในคราวนั้นแม้อยู่ร่วมประชุมเพียงครึ่งวันแต่ก็ได้เรียนรู้วีการทำงานของท่านไม่น้อย รวมทั้งการได้พูดคุยแลกเปลี่ยนกับท่าน ซึ่งแน่นอนได้รับการแบ่งปันความรู้ความคิดที่มีคุณค่าอย่างยิ่ง
เวลาแห่งความสุขมักจะผ่านพ้นไปอย่างรวดเร็ว ยังมิทันไรการพูดคุยเสวนารั้นก็สิ้นสุดลงอย่างไม่รู้เนื้อรู้ตัว
หลังการเสวนาก็เป็นการพบปะพูดคุยกันระหว่างบล็อคเกอร์บนเวทีกับบรรดาแฟนคลับ และก็เป็นไปตามธรรมเนียมคือการถ่ายรูปร่วมกัน แน่นอนว่าผมก็เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งในนั้นด้วย
นอกจากได้พบปะวิทยากรบนเวทีเสวนาแล้ว ผมยังได้พบกับบล็อคเกอร์จาก gotoknow อีกหลายท่าน อาทิ พี่ใหญ่-นงนาท สนธิสุวรรณ, Mr.Direct-ดิเรก หมานมานะ และ ป้าแดง-pa_daeng รวมทั้งน้องเก๋ น้องอาร์ม ทีมงานจาก usablelabs
ขอบคุณมากครับ พี่เกียรติศักดิ์ ที่ช่วย AAR ในโซนเทือกเขาปันปัน วันนั้นภารกิจที่เยอะมากมาย ผมเลยไม่ค่อยได้ทักทายเพื่อนๆพี่ๆเท่าไหร่ครับ...
เหนื่อยครับ เเต่มีความสุขมากเลยครับ
ออกนอกบ้าน ไปเดินเล่นกินกาแฟ และดูหนังสักรอบ หานิตยสาร ค คน มาอ่านก่อน ดีก่า
สวัสดีค่ะน้องหนานเกียรติ
จากผู้หญิงแถวหลังกลายมาเป็นผู้หญิงแถวหน้าเพราะแรงดึงดูดจาก
อาจารย์หมอมะลิ ต่อมาเราได้แลกของที่ระลึกกัน และ
น้องดิเรกที่เอื้อเฟื้อแบ่งปันเก้าอี้ให้ ได้นั่งถึงขอบเวที
จนได้พบกันอีก
ภาพสวยและอบอุ่นนี้ ฝีมือน้องดิเรก ถ่ายจากกล้อง พี่ ✿อุ้มบุญ✿
อ่านเรื่องราวดีๆนี้ จาก 2 บันทึกแล้ว
รู้สึกดีจริงๆ
และดีใจโตยที่ได้ป๊ะ bloger ใหม่
แต่อาจจะดีใจนักขึ้น ถ้ามีโอกาสมาเจอ ผอ.ประจักษ์ในวันอาทิตย์ที่ 28 พย.นี้
เปิ้นไปแอ่ว ดอยอูคอ ... ชมดอกบัวตองมาเจ้า
บันทึกคุณพ่อน้องเฌวา เข้มข้นเช่นเดิม รอติดตามข่าวคราว สาวน้อยแสนซน ค่ะ :)
หวัดดีค่ะหนานเกียรติ เห็นในรูปดูผอมไปไหมคะ
เข้ามาทักทายและแจ้งเบอร์ e-mail ค่ะ [email protected] ค่าาา
ตามมาอ่านบันทึกต่อ ถึงไม่ได้ไปก็เหมือนได้ไปค่ะ :)
ได้ทบทวนความหลังดีๆจากมิตรภาพงานนี้ค่ะ..รออ่านตอนต่อไป..ฝากคิดถึงน้องกวางและเฌวา ด้วยค่ะ..
ภาพจากกล้องน้องอุ้มบุญ