เวทีชุมชน :
ทบทวน/ทำความเข้าใจสถานการณ์ปัญหา
หลังจากตัวแทนของชุมชน ได้แก่ ปลัด อบต. ผู้อำนวยการโรงเรียน ผู้ใหญ่บ้าน และตัวแทนเยาวชนไปเข้าร่วมประชุมทำความเข้าใจโครงการคาราวานเสริมสร้างเด็กในตัวจังหวัดมาแล้ว ได้มีการนัดประชุมร่วมกันในพื้นที่เพื่อกำหนดแนวทางดำเนินงาน รวมทั้งการพัฒนาโครงการเพื่อขอรับการสนับสนุนงบประมาณตามโครงการคาราวานเสริมสร้างเด็ก ซึ่งมีวงเงินสนับสนุนราว ๑๐๐,๐๐๐ บาทการประชุมดังกล่าวมีปลัดองค์การบริหารส่วนตำบลโป่งแดง อาจารย์ใหญ่โรงเรียนบ้านหนองนกปีกกา ผู้ใหญ่บ้านหนองนกปีกกา ประธานกลุ่มเยาวชน ตัวแทนกลุ่มสตรีของหมู่บ้าน
การประชุมดังกล่าวได้ข้อตกลงว่า การจัดทำโครงการโดยที่ชาวบ้านส่วนใหญ่ไม่มีส่วนร่วม รวมทั้งยังเข้าใจสภาพปัญหาที่แท้จริง การจัดทำโครงการก็อาจจะเป็นเหมือนโครงการอื่น ๆ โดยทั่วไป ที่นอกจากจะไม่เกิดประโยชน์แล้ว ยังจะเป็นภาระให้กับชุมชน วันชัย ทุ่มสอน เสนอว่าควรมีทำให้ชาวบ้านเข้ามามีส่วนร่วมมากกว่านี้ รู้จักและเข้าใจปัญหามากกว่านี้
จากนั้น อบต. ได้ส่งทีมงานเข้ามาศึกษาข้อมูลเบื้องต้น เกี่ยวกับสถานการณ์ด้านเด็กและเยาวชน แล้วจัดเวทีพูดคุยกับคนกลุ่มต่าง ๆ ในชุมชน ทั้งกลุ่มคนเฒ่าคนแก่ กลุ่มพ่อบ้าน-แม่บ้าน และกลุ่มเยาวชน ซึ่งในแต่ละเวทีนอกจาก วันชัย ทุ่มสอน ปลัด อบต., NGO ที่ถูกชักชวนให้เข้ามาร่วมตั้งแต่ต้นแล้ว ยังมี ศรชัย มอญแสง เจ้าหน้าที่จาก อบต.และสุภัทรา แก้วบุญธรรม หัวหน้าสถานีอนามัยบ้านหนองนกปีกกา เข้าร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในแต่ละเวทีด้วย
วันชัย ทุ่มสอน กล่าวว่า
“...การจัดเวทีพูดคุยกับชาวบ้านกลุ่มต่าง ๆ นั้น นอกจากจะเป็นการเก็บข้อมูลเพื่อเข้าใจสภาพปัญหาแล้ว มันยังเป็นการสร้างการมีส่วนร่วมกับชาวบ้านตั้งแต่ต้นด้วย เขาจะมีส่วนร่วมในการรับรู้และวิเคราะห์หาเด็ก/เยาวชนในหมู่บ้าน...”
หลังจากการจัดเวทีกับกลุ่มย่อยแล้ว ได้มีการจัดประชุมรวมกันเพื่อจัดทำแผนงานพัฒนาเด็กและเยาวชนของบ้านหนองนกปีกกา ต.โป่งแดง อ.เมือง จ.ตาก ณ ศาลาการเปรียญวัดหนองนกปีกกา มีชาวบ้านราว ๑๐๐ คน มาร่วมประชุม ประกอบด้วย ผู้ใหญ่บ้านและกรรมการหมู่บ้าน, สมาชิก อบต., กลุ่มคนเฒ่าคนแก่, กลุ่มพ่อบ้านแม่เรือน, กลุ่มเยาวชน ซึ่งการจัดประชุมดังกล่าวได้ข้อสรุปเกี่ยวกับสภาพปัญหาดังนี้
- ความสามารถในการเรียนรู้ของเด็กในวัยเรียนยังไม่เป็นน่าพึงพอใจ ไม่มีลักษณะนิสัยใฝ่รู้ ใฝ่ศึกษา ไม่มีนิสัยรักการอ่าน ชุมชนไม่มีปัจจัยพื้นฐานและสร้างเงื่อนไขให้เด็กและเยาวชนมีลักษณะนิสัยดังกล่าว ทั้งจากครอบครัว โรงเรียนและชุมชน
- พัฒนาการด้านความคิดสร้างสรรค์ การควบคุมอารมณ์ การวิเคราะห์ การตระหนักรู้ในตนเอง และการแก้ปัญหา มีค่อนข้างต่ำและมีแนวโน้มจะต่ำลงเรื่อย ๆ ซึ่งอาจมีผลต่อการปรับตัวและความสำเร็จของตัวเด็กและเยาวชนเองในอนาคต
- จริยธรรมของเด็กและเยาวชนในด้านการประหยัดอดออม ความซื่อสัตย์ การละอายเกรงกลัวต่อบาป ลดลงกว่าคนรุ่นก่อนเป็นอันมาก และมีแนวโน้มจะลดต่ำลงไปเรื่อย ๆ
- ด้านพฤติกรรมการเสพบริโภคของเด็กและเยาวชนในชุมชนมีความน่าเป็นห่วงมากขึ้น มีการใช้จ่ายเงินเพื่อการเสพบริโภคมากขึ้น
- การเสพติดสุราและบุหรี่ของเด็กและเยาวชนมีแนวโน้มสูงขึ้น และมีอายุน้อยลง รวมทั้งแนวโน้มว่าอายุเฉลี่ยของการมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรกจะน้อยลงเรื่อย ๆ มีเพศสัมพันธ์ก่อนแต่งงานมากขึ้น
ปัญหาต่าง ๆ นอกจากจะมีสาเหตุมาจากการเปลี่ยนแปลงทั้งด้านวิถีชีวิตและวิถีการผลิตที่กล่าวข้างต้นแล้วนั้น ที่ประชุมยังได้วิเคราะห์ว่าปัญหาดังกล่าว ยังมีสาเหตุที่สำคัญอีกประการหนึ่ง คือ ข้อจำกัดด้านขีดความสามารถของผู้ปกครองในการเลี้ยงดูเด็ก ซึ่งต่างก็มีความเห็นว่าในปัจจุบันพ่อแม่เลี้ยงดูลูกไม่เป็น โอ๋ลูกเกินไป ไม่ปลูกฝังคุณลักษณะสำหรับการเป็นผู้ใหญ่ที่ดีในอนาคต ทำให้เด็กและเยาวชนมีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมและไม่พึงประสงค์
จากนั้น ได้แบ่งผู้เข้าร่วมเป็น ๓ กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มเด็กก่อนเกณฑ์, กลุ่มเด็กและเยาวชน และ กลุ่มผู้ปกครองและชุมชน เพื่อหาแนวทางที่จะแก้ปัญหาต่อไป
กลุ่มเด็กก่อนเกณฑ์ เสนอแนวทางการให้มีการเพิ่มขีดความสามารถของครูพี่เลี้ยงในการดำเนินงานส่งเสริมพัฒนาการเด็กก่อนเกณฑ์, การจัดหาของเล่นเด็กสำหรับศูนย์เด็กเล็ก เพื่อส่งเสริมพัฒนาการ, การปรับปรุงศูนย์เด็กเล็ก
สำหรับกลุ่มเด็กและเยาวชน เสนอให้มีกิจกรรม พี่สอนน้องจัดกิจกรรมในช่วงเย็นหลังเลิกเรียน เด็กและเยาวชนนัดมาทำการบ้านร่วมกัน ให้รุ่นพี่ช่วยสอนรุ่นน้องทำการบ้าน และการจัดงานวันเด็กโดยกลุ่มเด็กและเยาวชนเอง เพื่อเสริมสร้างความสามัคคี การทำงานร่วมกัน ความคิดสร้างสรรค์ ฯลฯ
ส่วนกลุ่มครอบครัวและชุมชน เสนอให้มีการการอบรมให้ความรู้แก่ผู้ปกครองในการดูแลลูกหลาน เช่น การส่งเสริมการอ่าน การสร้างระเบียบวินัย การดูแลด้านโภชนาการ เป็นต้น
.....
ศึกษาดูงาน : จุดเริ่มต้นการเรียนรู้
กิจกรรมแรกที่ชุมชนจะดำเนินการคือ การไปศึกษาดูงานด้านการพัฒนาเด็กและเยาวชน เนื่องจาก วันชัย ทุ่มสอน ได้เชิญเพื่อน NGO เข้าพื้นที่ด้วย และได้ให้คำแนะนำว่าที่จังหวัดเชียงรายมีแหล่งเรียนรู้ที่น่าสนใจไปศึกษาดูงาน ทั้งด้านการใช้ภูมิปัญญาพื้นบ้านมาสร้างเสริมพัฒนาการเด็ก คือที่ บ้านป่าแดด ต.ป่าแดด อ.แม่สรวย จ.เชียงราย และที่โรงเรียนปีติศึกษา อ.เมือง จ.เชียงราย ซึ่งชุมชนเห็นด้วยกับข้อเสนอดังกล่าว โดยที่ทาง อบต.โป่งแดง จะเป็นผู้ประสานงานให้
ชุมชนได้ตกลงกันว่า คนที่จะไปดูงานน่ามีบทบาทในการดำเนินงานต่อหลังจากกลับมา และควรจะเป็นตัวแทนจากกลุ่มต่าง ๆ ซึ่งได้แก่ผู้ดูแลเด็ก ๓ คน, ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ๑ คน, สมาชิกองค์การบริหารส่วนตำบล ๑ คน, เยาวชน ๒ คน, ผู้สูงอายุ ๒ คน, ผู้ปกครอง ๓ คน, เจ้าหน้าที่องค์การบริหารส่วนตำบล ๑ คน, และเจ้าหน้าที่สาธารณสุข ๑ คน
ในระหว่างนั้น ทาง อบต. ได้ประสานงานสถานที่ศึกษาดูงาน โดยได้รับความช่วยเหลือจากคุณวีระพงษ์ กังวานนวกุล กลุ่มคนเฒ่าคนแก่บ้านป่าแดด เป็นผู้อำนวยความสะดวกในการศึกษาดูงานของตัวแทนชุมชน ทั้งที่บ้านป่าแดดและ ร.ร.ปีติศึกษา
ตัวแทนชาวบ้าน ออกเดินทางแต่เช้าตรู่จากหมู่บ้านหนองนกปีกกา มุ่งหน้าสู่บ้านป่าแดด ต.ป่าแดด อ.แม่สรวย จ.เชียงราย ซึ่งมีวีระพงษ์ กังวานนวกุล คอยให้การต้อนรับอยู่ที่พิพิธภัณฑ์เล่นได้ หลังจากนั้นได้เดินทางไปยังโรงเรียนบ้านป่าแดด ศูนย์เด็กเล็กบ้านป่าแดด และศูนย์เด็กเล็กบ้านป่ากว๋าว ตามลำดับ เพื่อเรียนรู้เกี่ยวกับการจัดกิจกรรมส่งเสริมพัฒนาการเด็กโดยใช้ภูมิปัญญาชาวบ้าน
ในช่วงค่ำ แกนนำชาวบ้านป่าแดด กลุ่มคนเฒ่าคนแก่ และเยาวชนในหมู่บ้านได้มาเล่าประสบการณ์การทำงานของชุมชนให้คณะดูงาน
วันรุ่งขึ้น ทีมงานแบ่งกลุ่มย่อยเพื่อไปเรียนรู้ตามจุดต่าง ๆ
กลุ่มแรก เป็นผู้ดูแลเด็กและผู้ปกครอง ผู้สูงอายุ ไปดูงานที่ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านป่ากว๋าว ดูงานด้านการจัดกิจกรรมของศูนย์ การมีส่วนร่วมองชุมชนในการพัฒนาศูนย์ฯ
กลุ่มที่สองเป็นเจ้าหน้าที่สถานีอนามัย และเจ้าหน้าที่จาก อบต.ไปดูงานที่โรงเรียนและสถานีอนามัย ดูการทำงานร่วมกับชุมชน
กลุ่มที่สาม เป็นผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน สมาชิก อบต.และผู้สูงอายุ ไปดูงานเกี่ยวกับกลุ่มอาชีพ กลุ่มคนเฒ่าคนแก่ที่ทำของเล่นจากวัสดุธรรมชาติ
ทั้งสามกลุ่มใช้เวลาช่วงเช้าราว ๓ ชั่วโมงในการศึกษาเรียนรู้ จากนั้นในช่วงบ่าย ได้เข้าไปฝึกทำของเล่นด้วยวัสดุธรรมชาติ โดยมีสมาชิกจากกลุ่มคนเฒ่าคนแก่มาเป็นวิทยากรฝึกให้ และในช่วงเย็นก่อนจะเดินทางเข้าตัวเมืองเชียงรายเพื่อดูงานอีกแห่งหนึ่ง ได้มีการพูดคุยแลกเปลี่ยนสรุปการเรียนรู้ของแต่ละกลุ่มว่าไปเรียนรู้อะไรมาบ้าง
เช้าวันที่สองของการดูงาน ทีมงานตื่นแต่เช้าเพื่อไปศึกษาดูงานที่โรงเรียนปีติศึกษา ซึ่งได้รับการต้อนรับเป็นอย่างดีจากครูใหญ่
สิ่งที่ตื่นตาตื่นใจของคณะดูงานคือสนามเด็กเล่น ที่ทำจากวัสดุพื้นบ้านที่ชาวบ้านสามารถสร้างขึ้นเองได้ ทั้งชิงช้า บาร์โหน หลุมทราย ฯลฯ
การได้ดูงานที่นี่ทำให้ทีมงาน ความมั่นใจมากขึ้นในการปรับใช้ภูมิปัญญาพื้นบ้านในการส่งเสริมพัฒนาการเด็ก โดยเฉพาะการทำสนามเด็กเล่น และของเล่น
“...โรงเรียนนี้เก็บค่าเรียนเทอมละหลายหมื่น แต่เขาก็ยังจ้างเอาชาวบ้านมาทำสนามเด็กเล่นแบบพื้นบ้าน แบบนี้พวกเราทำกันเองได้...” ณรงค์ฤทธิ์ ใจสา หนึ่งในทีมงานกล่าว
มาให้กำลังใจคนทำงานเพื่อส่วนรวมครับท่านหนานเกียรติ เป็นกำลังใจให้ทุก ๆ ท่านครับ ร่วมกันสร้างสรรค์สิ่งดีงามต่อไป
สวัสดีค่ะ
หนูมาอ่านบันทึกของคุณน้า ทำให้ทราบว่าคุณน้าเป็นคนสำคัญในการทำงานเพื่อสังคม
หนูขอเป็นกำลังใจให้นะคะ
สวัสดีครับ นายก้ามกุ้ง
ขอบคุณที่แวะมาทักทายกันครับ
NGO ที่ผมเขียนถึงในบันทึก คือผมเองครับ
ผมไปทำงานที่หมู่บ้านนี้แล้วประทับใจมาก โดยเฉพาะกลุ่มคนเฒ่าคนแก่
เขียนไปยิ้มไปครับ
...
สวัสดีครับ น้องนัท
แหะ แหะ น้าเลยเหรอครับ เอ้ว! น้าก็น้า
พี่ เอ้ย น้า เข้าไปอ่านบันทึกของน้องนัทเกือบทั้งหมดแล้ว
(๑) พัฒนาการของน้องนัทดีขึ้นอย่างรวดเร็วครับ
(๒) ความคิดเริ่มแหลมคมขึ้น พร้อม ๆ กับพัฒนาการด้านการเขียน
(๓) ตอนพี่ เอ้ย น้า อายุเท่าน้อง ยังอ่านหนังสือไม่แตกเลยครับ อย่าว่าแต่เรื่องการเขียนเลย จะให้เขียนพรรณาทำได้สักบรรทัดนึงก็แทบแย่แล้ว
(๔) คิดและเขียนต่อไปอย่าหยุดครับ เมืองไทยจะได้มีนักเขียนคุณภาพไว้ประดับประเทศ
ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมครับ
อาจารย์ วิรัตน์ คำศรีจันทร์ ที่เคารพ
ขอบพระคุณอย่างสูงครับสำหรับข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะ
หมู่บ้านแห่งนี้ผมยังไปเยือนอยู่เป็นระยะ ๆ ครับ
ชาวบ้านยังคงเข้มแข็ง "ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก" มิใช่เพียงสถานที่รับเลี้ยงเด็กเท่านั้น แต่มันเป็นพื้นที่ใหม่ของชุมชนที่ทำให้ชุมชนได้มาทำอะไรร่วมกัน เรียนรู้ร่วมกัน ส่งผลดี ๆ อย่างอื่นตามมาอีกเยอะเลยครับ
ขอบคุณอาจารย์อีกครังที่ได้สรุปกระบวนการทำไว้ในข้อเสนอแนะ
ผมว่านี่คือบทบาทของนักวิชาการที่รับใช้ท้องถิ่นครับ ช่วยอธิบายและยกระดับความรู้คนทำงานและชาวบ้าน
ขอบคุณจากใจจริงครับ
น่าชื่นใจแทนน้องเฌวาจังค่ะ ที่มีคุณพ่อที่เก่งและดูแลสร้างสรรค์สังคมได้เก่งแบบพี่หนาน
อดคิดถึงเรื่องติดศูนย์หกตัว รับจ้างตีหัวคน ฯลฯ ที่แอบอ่านเมื่อคืนไม่ได้ :P
ประสบการณ์ที่พี่หนานได้พบเจอตอนวัยรุ่น แหม่มเชื่อว่าจะสามารถนั่งคุยนั่งเปิดใจ
คุยกับน้อง ๆ วัยรุ่นสมัยนี้ได้ดีทีเดียว ประสบการณ์หาไม่ได้ในหนังสือ เรื่องบางเรื่องคนบางคนอาจไม่เข้าใจ ต้องคนที่เข้าใจและผ่านประสบการณ์ที่คล้าย ๆ กันเท่านั้นค่ะถึงจะเข้าใจกันอย่างแท้จริง ถึงแม้ในยามคับขันจะไม่มีอะไรพูดกัน แค่ได้นั่งใกล้ ๆ กัน มองตากัน ก็เข้าใจกันได้มากกว่าคนที่คุยกันมาเป็นปี ๆ ก็ได้
ปล. ไปแอบดูโรงเรียนปีติศึกษามาแล้วค่ะ ;)
http://www.pitisuksa.org/th/school.htm
ตอนนี้โรงเรียนที่ค่าเทอมแพง ๆ มักจะย้อนอดีตเสมอ จริง ๆ แล้วอดีตกับธรรมชาติ
อยู่ใกล้ ๆ ตัวเรานี่เอง และนี่ก็เป็นสาเหตุหนึ่งที่แหม่มไม่ตัดสินใจให้เจ้าแพลนเรียนต่อที่กรุงเทพ ลากมาอยู่เชียงใหม่ ไล่จับแมงปอ ดูวัวดูควายที่ข้างบ้าน สบายใจกว่าเป็นไหน ๆ
ไว้ว่าง ๆ จะพาไปเที่ยวโรงเรียนเก่าธรรมชาต ๆ ของเจ้าแพลนนะคะ ฝากจุ๊บ ๆ เฌวาตัวน้อยด้วยค่ะ
พี่แพลนจะเตรียมวิ่งผลัดสี่คูณร้อยไว้หนีใครบางคนไล่กัด ( คงน่ากลัวจริง ๆ ด้วย เพราะเห็นคุณแม่น้องเฌวา เรียก เจ้าฟันจอบ บรึ๋ยยยย :P )
คุณแหม่ม แม่เจ้าแพลน ครับ
ชมกันอย่างนี้เขินแย่เลย
ผมมิใช่คนเก่งอะไรหรอกครับ ทำไปตามหัวใจเรียกร้อง
เพราะไม่เก่งจึงต้องทำเยอะ ๆ มาก ๆ เข้าไว้ มันจะได้เห็นผล
คนเก่งเข้าไม่ต้องทำเยอะ ทำเล้ก ๆ น้อยก็ได้ผล
เรื่องความเกเรในวัยรุ่นของผม มาจากสภาพแวดล้อมเป็นส่วนใหญ่ครับ
ทั้งที่สภาพแวดล้อมทางบ้านดี พ่อแม่ ปู่ ย่า ตา ยาย ต่างยึดมั่นในศาสนา ซึ่งผมก็ได้รับการปลูกฝังไม่น้อย
แต่เพราะคบเพื่อน สภาพแวดล้อมบวกกับธรรมชาติวัยรุ่น จึงทำให้เตลิดเปิดเปิง
และคงเพราะบวชเป็นปัจจัยสำคัญ ที่อยู่ในสภาพแวดล้อมของความดี ความดีเหล่านั้นคงหล่อหลอมจิตใจให้ลดความแข็งกร้าวลงได้
จริง ๆ แล้วผมอยากพาเฌวาไปอยู่ต่างจังหวัด แต่ทางเลือกเรามีไม่มากครับ
ผมยังพอร่อนเร่รับจ้างหางานได้ แต่ภรรยาบอกว่านอกจากการสอนหนังสือแล้วก็ไม่รู้ไปทำอะไร
นับถือๆขอรับ..
เราอาศัยสังคมจนได้พยุงตัวปีกก็กล้าขาก็แข็งแล้ว
ดังนั้นเมื่อมีกำลังพอก็พยายามให้สังคมได้อาศัยเราบ้าง
ขออนุโมทนาในการได้ให้สังคมได้อาศัยขอรับ..
นมัสการท่านอาจารย์ ธรรมฐิต ครับ
ขอบพระคุณที่แวะมาเยี่ยมเยียนให้กำลังใจครับ
ผมแอบไปอ่านบันทึกของพระอาจารย์แล้วรู้สึกชื่นชมครับ
ถ่ายทอดธรรมอย่างมีศิลปะ
แบบนี้น่าจะเข้าถึงคนรุ่นใหม่ได้ดีครับ
มาชม
และทักทายแบบสบาย ๆ นะครับ
ในช่วงสายฝนโปรยปรายอยู่ในขณะนี้
สวัดดีกร๊าบจฎได้เปล่าจากเด็กนากสิน
สวัสดีครับ วิชาฎา ใกล้ชิด [IP: 125.26.8.203]
แหะ แหะ จำไม่ได้ครับ ขยายความนิดนึงได้ไหมครับ