ภาพประกอบจาก http://www.agalico.com/board/showthread.php?t=18843
เนินเขาลูกย่อม ๆ รายล้อมด้วยเทือกสวนไร่นา ด้านหลังพิงแนบกับภูเขาสูง เบื้องหน้าตรงข้ามกับเขาสูงเป็นที่ตั้งหมู่บ้านเป้า ต.แม่โจ้ อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่
ศาลาหลังใหญ่ตั้งเด่นสง่าอยู่บนยอดเนิน อาคารทำด้วยดินที่ลงมือลงไม้กันเองของบรรดาสมาชิกชุมชนและกัลยาณมิตรที่มาเยี่ยมเยือน ลดหลั่นลงมาจะเป็นบ้านดินที่พักอาศัยของชาวชุมชน มีทางเดินลัดเลาะไปตามสวนพืชผักต่าง ๆ เชื่อมอาคารแต่ละหลังเข้าด้วยกัน
ห้องส้วมแบบโบราณแทรกตัวอยู่ด้านข้างแปลงผัก ซึ่งถูกออกแบบมามิให้มีของเสียเหลือทิ้ง บรรดามูตรเน่าทั้งหลายจะถูกนำกลับมาใช้ทั้งหมด ปัสสาวะที่ถ่ายลงถังสีดำจะถูกนำไปหมักเพื่อใช้กับต้นไม้ อุจจาระที่ถ่ายลงส้วมไม่ต้องใช้น้ำราด ถ่ายเสร็จกำแกลบข้างๆ หว่านคลุมลงไป ระยะเวลาผ่านไปราว ๖ เดือน สิ่งที่ถ่ายไว้จะกลายเป็นดินดำ นำไปใช้ปลูกต้นไม้ต่อไป
ถัดลงไปเบื้องล่างเป็นโรงอาหาร มีกล้วยน้ำว้าแขวนอยู่หลายเครือ สถานที่แห่งนี้ใช้เป็นทั้งที่ประกอบและรับประทานอาหาร มีบรรดาสมาชิกหมุนเวียนกันไปทำอาหารโดยใช้วัตถุดิบที่ปลูกกันเองภายใน
ผืนดินนี้เดิมเป็นที่ดอนแล้งสนิท อุดมไปด้วยดิน หิน ทราย และวัชพืชทนแล้ง ชาวบ้านเจ้าของผืนดินไม่ลังเลที่จะขายให้กับโจน จันไดและพรรคพวก ที่ตัดสินใจมาปักหลักบนผืนดินใหม่นี้
“...ชาวบ้านแถวนี้เขาก็ประหลาดใจนะ ตอนแรกคิดว่า ผมคงเป็นเถ้าแก่มาจากกรุงเทพฯ มีเงินมีทอง แต่อยู่ไปอยู่มาทำไมเถ้าแก่แต่งตัวแบบนี้ ทำไมเดิน ทำไมไม่มีรถ ก็สงสัยไปต่าง ๆ นา ๆ ว่าพวกนี้เป็นใครกันแน่ ทำอะไรกันแปลก ๆ ปุ๋ยเคมีก็ไม่ใช้ ยาฆ่าหญ้าก็ไม่ใช้...”
หลังจากนั้นไม่กี่ปี ผืนดินดอนที่แล้งน้ำอย่างสาหัส เสื่อมโทรมจนปลูกอะไรแทบไม่ได้ กลับกลายเป็นผืนดินดำอุดมสมบูรณ์ไปด้วยพืชผักนับร้อยนับพันชนิด ที่ใช้ได้ทั้งกินและเก็บเกี่ยวเมล็ดพันธุ์ เป็นแหล่งเรียนรู้ของบรรดานักเกษตรอินทรีย์และผู้สนใจที่หมุนเวียนไปอย่างไม่ขาดสาย ที่รู้จักกันในนาม “ศูนย์พันพรรณ” ที่มีโจน จันได และเพื่อนร่วมอุดมการณ์คอยให้การต้อนรับและแชร์ประสบการณ์ให้อยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน
“...ผมไม่อยากจะให้คนติดชื่อผม ก็เลยคิดตั้งชื่อร่วมกัน ได้ชื่อ “พันพรรณ” แปลว่า ร้อยพ่อพันแม่ (พรรณไม้) พันธุ์ชนิดพันธุ์แบบ เอาง่าย ๆ ไม่ต้องคิดมาก...”
โจน จันได พูดถึงชื่อ “พันพรรณ” และเล่าที่ไปที่มาว่า
“...ผมอยู่ที่นี่มา ๕ ปีแล้ว ตั้งใจมาทำเกี่ยวกับการเก็บเมล็ดพันธุ์ เมื่อก่อนผมทำเรื่องนี้ที่อีสาน ที่ยโสธรมันมีปัญหาเรื่องดินเรื่องน้ำมาก ถึงหน้าแล้งไม่รู้จะเอาน้ำที่ไหนมารด เลยตัดสินใจหาพื้นที่ใหม่ เลือกมาอยู่ทางเหนือ มาอยู่ที่นี่...
...ตอนแรกว่าจะมาอยู่กันสัก ๒–๓ คน เฉพาะเพื่อนที่รู้ใจกัน เข้าใจกัน ปลูกผักเก็บเมล็ดพันธุ์ไปเรื่อย ๆ แต่พอมาอยู่เข้าจริงๆ ปรากฏว่าคนเข้ามาเรื่อย ๆ เข้า-ออกไม่ต่ำกว่าสิบตลอด มันเลยเริ่มกลายเป็นชุมชนโดยไม่รู้ตัว ตอนแรกไม่ได้ตั้งใจให้เป็นชุมชน แต่ระยะหลังมีคนอยากมาอยู่มากขึ้น จึงต้องมีกิจกรรมมากขึ้น เพราะว่าอยากให้เลี้ยงตัวเองได้ อยากให้อยู่ได้ด้วยตนเอง...
...ที่นี่เราอยู่กันเหมือนวัด ทรัพย์สมบัติที่นี่เป็น “สาธารณะโภคี” สมาชิกชุมชนไม่มีใครมีเงินเดือน เพิ่งมาปีนี้ที่เราเริ่มจ้างคนมาช่วย เพราะว่าการเก็บเมล็ดพันธุ์เราคนเดียวทำไม่ไหว ต้องหาคนมาช่วย จ้างคนมาช่วยปลูก เพราะว่ามันมีเมล็ดพันธุ์เข้ามาเยอะมาก ต้องปลูกภายใน ๒ ปี...”
โจนเล่าบรรยากาศภายในชุมชนให้ฟังว่า
“...ชุมชนเราไม่เคร่งครัดเหมือนวัด แต่ในขณะเดียวกันก็ไม่หย่อนยานจนจัดการอะไรไม่ได้ เราใช้ระบบการประชุม ธรรมดาเราจะประชุมกันเดือนละครั้ง บางเดือนอาจจะมีถึงสองครั้งแล้วแต่กรณี เราจะไม่คุยกันนาน แค่ถามไถ่กันมีปัญหาอะไรกันไหม ใครมีปัญหาอะไรก็คุยกัน ส่วนใหญ่จะคุยกันเรื่องที่จะต้องทำกันในช่วงนั้น คุยกันแบ่งงานกันก็จบ...
...เราจะไม่มาถกเถียงกันเรื่องความรู้สึก เราจะเน้นการใช้แรง ใช้แรงมากจะมีปัญหาเรื่องความรู้สึกน้อยลง ถ้าไม่ใช้แรงความรู้สึกจะใหญ่ขึ้น จะมีปัญหาคุยกันไม่มีที่สิ้นสุด ใช้แรงมันจะมีเวลาคิดน้อยลง มีเวลาอยู่กับตัวเองมากขึ้นในช่วงที่ใช้แรง และก็ถ้าไม่ใช้แรงความคิดก็จะฟุ้งซ่านไปเรื่อย ๆ จินตนาการไปเรื่อย ๆ แล้วจะรู้สึกว่าตัวเองสำคัญ ตัวเองรู้มาก...”
ศูนย์พันพรรณ มีคนรู้จักมาขึ้น เครือข่ายขยายตัวออกไปอย่างรวดเร็ว ภารกิจจึงเพิ่มขึ้นทั้งการรองรับคณะที่มาเยี่ยมเยือน รวมทั้งการเพาะปลูกพืชผักที่กัลยาณมิตรส่งมาให้
“...กำลังเรามีน้อย เราไม่มีเงินจ้างคน คนที่จะมาเป็นอาสาสมัครมาอยู่กับเรามีน้อยมาก กับอาสาสมัคร การบริหารจัดการอาสาสมัครมันไม่เหมือนกับการบริหารจัดการที่ใช้เงิน มันต้องอาศัยสมัครใจ อยากทำก็ทำ เรามีอะไรที่ต้องทำเยอะ งานมันมาก กำลังไม่พอ...”
เกี่ยวกับการขอรับการสนับสนุน โจน กล่าวว่า
“...เราไม่ถนัดในการขอทุน การขอทุนยุ่งยากและซับซ้อนมาก ต้องเสียเวลากับกระดาษเยอะมาก ต้องสละคนหนึ่งไปทำตรงนั้น เราไม่ถนัดเรื่องนี้...
...ที่นี่เราเน้นเรื่องการลงมือทำ ไม่เน้นทำงานกับกระดาษ ไม่เน้นการพูดคุยสังเคราะห์ความคิดกัน เราไม่อยากเสียเวลากับการทำอย่างนั้น เราอยากจะให้คนลงมือทำแล้วก็เรียนรู้กับปัญหาที่เกิดขึ้น แก้ปัญหาไป เรียนรู้ไป ถ้ามีเราก็ไม่ปฏิเสธหรอก งบถ้ามีมันก็ไปได้ดี ไปได้ง่ายขึ้น...
...ที่ผ่านมาเคยขอจากประเทศอังกฤษ ทำเรื่องให้คนเอเชียมาเรียนรู้จากเรา เป็นค่าเดินทาง ค่าอาหาร ค่าที่พักอะไรให้กับคนเอเชีย พม่า มาเลเซีย มาเราก็ทำ ๒ ครั้ง เขาก็มีงบฯ ให้ ๒ ครั้ง มันก็ยุ่งยากพอสมควร เลยมาคิดหาวิธีที่เราจะอยู่ได้เองมากกว่า ถึงมันจะได้เล็ก ๆ น้อย ๆ แต่เราก็อยู่ได้ ไม่ต้องคิดมากคิดไกลคิดใหญ่เกินไป...”
ถึงแม้ว่าจะปลูกพืชผักพอเพียงกับการบริโภคกันสำหรับสมาชิกในชุมชน แต่ศูนย์พันพรรณก็มีภาระอื่น ๆ อีกมาก เช่น การดูแลชาวบ้านที่เข้ามาศึกษาดูงาน การบูรณะซ่อมแซมสิ่งก่อสร้างต่าง ๆ รวมทั้งการก่อสร้างอาคารสำหรับใช้งานภายในศูนย์ฯ ทำให้ต้องมีแหล่งรายได้ที่จะเข้ามาสนับสนุนให้กิจการงานของศูนย์พันพรรณเดินหน้าต่อไปได้ ซึ่งรายได้หลักมาจากการทำโครงการฝึกอบรมอาสาสมัครชาวต่างประเทศ ซึ่งดำเนินการปีละครั้ง โจน เล่าว่า
“...รายได้หลักที่นำมาจุนเจือตอนนี้เป็นโครงการอาสาสมัครต่างประเทศ มีปีละครั้ง เริ่มประมาณเดือนพฤศจิกายนไปถึงเดือนกุมภาพันธุ์ เราก็จะมีรายได้จากการลงทะเบียนประมาณ ๓-๔ แสนบาท เงินนี้ใช้เป็นค่าใช้จ่ายในช่วงที่เขาเรียน จะมีเหลืออยู่ประมาณสองแสนบาท ไว้ใช้ตลอดทั้งปี...
...รายจ่ายหลัก คือ อาหาร ใช้แรงมันต้องกินข้าว แต่ก็พยายามลดภาระตรงนี้ลง ตอนนี้เราก็เริ่มทำซอสถั่วเหลืองแทนซีอิ้วขาว ซอสเราไม่มีปัญญาซื้อ เราก็เอามะเขือเทศมาหมักกับเกลือ ลดค่าใช้จ่ายลง ถัดมาช่วงนี้เราสร้างบ้าน คนเข้ามาเยอะขึ้นแล้วบ้านไม่พอ เป็นปีสุดท้ายแล้วที่เราจะสร้าง เพราะว่าเราไม่อยากจะให้มันมีมากเกินไป...”
รายได้นอกจากค่าลงทะเบียนจากอาสาสมัครชาวต่างประเทศแล้วนั้น ส่วนหนึ่งยังได้มาจากการบริจาคของผู้ที่เข้ามาเรียนรู้และใช้ชีวิตในศูนย์ฯ จำนวนมากน้อยแล้วแต่ความสมัครใจ และตามความศัทธา ซึ่งทางศูนย์ฯ มิได้เรียกเก็บ
วิถิชีวิตของชาวชุมชน เป็นไปอย่างเรียบง่าย เป็บแบบอย่างสำหรับการเรียนรู้ชีวิตแบบง่าย ๆ ตามปรัชญาของศูนย์ฯ ทุกคนมีหน้าที่ มีงานทำตามภารกิจที่ได้รับมอบหมายจากที่ประชุม ซึ่งภารกิจต่าง ๆ มักจะสับเปลี่ยนหมุนเวียนกันไป โดยงานหลักคือการเก็บเกี่ยวเมล็ดพันธุ์
สำหรับภารกิจด้านเมล็ดพันธุ์ของศูนย์ ถือว่าก้าวหน้าไปมาก โจน เล่าว่า
“...เรื่องเมล็ดพันธุ์ถึงตอนนี้ถือว่าเดินมาได้เกือบถึงครึ่งทางล่ะ เพราะได้สร้างเครือข่ายไว้ในที่ต่าง ๆ เพื่อที่เราจะขยายเมล็ดพันธุ์ให้มันกระจายครอบคลุมไป คาดหวังว่าตอนนั้นคนก็ปลูกและเก็บเมล็ดพันธุ์กันเอง ถึงตอนนั้นจะถือว่าเป็นสุดยอดของเป้าหมาย...
...เดี๋ยวนี้มีคนรู้จักเรามากขึ้น เขารู้ว่าเราสนใจอะไร บ้างคนไปเจอเขาเก็บเมล็ดนี้มาหลายปีแล้ว เขาคิดถึงเขาก็ส่งมาให้ เราก็เลยได้มา ตอนนี้เรามีมะเขือเทศหลายชนิด ผักสลัดที่เห็น สิบสี่สิบห้าอย่าง บางอย่าง ที่ตลาดราคาแพงมาก กิโลละหลายหมื่นบาท แต่เราปลูกเก็บเมล็ดพันธุ์แจกจ่ายให้กับเกษตรกรไปปลูก จะปลูกขาย ปลูกกินก็แล้วแต่ แต่ต้องเก็บเมล็ด...”
ภาพประกอบจาก http://www.oknation.net/blog/home/blog_data/47/5047/images/c1/internship7.jpg
สวัสดีครับ พี่เอื้องแซะ
ขอบคุณที่แวะมาแอ่วหาครับ
ศูนย์พันพรรณ เป็นชุมชนที่น่าสนใจมาก ๆ ครับ
คล้าย ๆ ชุมชนสันติอโศก แต่ไม่เคร่งครัดเท่า น่าอยู่มากครับ
อ้อ...ฝากบอกน้องต้อม-เนปาลี ตวย บอกว่าพี่หนานน้อยใจที่น้องต้อมบ่แวะมาแอ่วหาเลย
สวัสดีค่ะคุณหนานเกียรติ...ร่วมมือร่วมใจ..ขยันขันแข็งกันดีจังเลยค่ะ
อ่านเรื่องราวของโจน จันได จากที่พี่เขียนแล้ว จินตนาการตามเรื่องราวได้อย่างชัดเจนเลยครับ
ผมโยงมางานของ สรพ. ตอนนี้กำลังวางแผนไปเยี่ยมโรงพยาบาล ๑๐ แห่ง (ทั่วประทศ)เเละเขียนเรื่องราวดีๆ ให้เสร็จเเละเป็นหนังสือก่อน มีค.๕๓ ... คงต้องพึ่งพาเราทั้งสองคนเคลื่อนงานนี้นะครับ
สวัสดีครับ เอก จตุพร วิศิษฏ์โชติอังกูร
ขอบคุณที่ชมครับ...
ผมอยากช่วยงาน สรพ. มากครับ และยังหวังลึก ๆ ว่า อาจจะมีหนังสือสักเล่มที่ตัวเองเขียน
ยินดีนะครับที่จะช่วยอะไรได้บ้าง...
สวัสดีค่ะ...คุณ
อ่านบันทึกนี้เข้าใจชีวิตที่เรียบง่ายในตอนแรก ปัจจุบันความเรียบง่ายดูเหมือนจะถูกสังคมรบกวนนะคะ
ชอบ“ทรัพย์สมบัติสาธารณะโภคี”ที่นี่ค่ะ
ทำให้คิดได้ว่ามนุษย์เป็นผู้มีปัญญาสร้างระบบอะไรขึ้นมามากมายทำให้ชีวิต
วุ่นวายนะคะ
แต่แท้ที่จริง "แค่นี้ก็ดำรงชีวิตอยู่ได้แล้ว"
สวัสดีค่ะหนาน..น่าสนใจนะ..เป็นความพอเพียงและมีความสุขมากที่ได้อยู่ในชุมชนบ้านเป้าได้ธรรมชาตินะ..พรรณไม้ที่มีเป็นพันๆๆ..และการขึ้นแบบพันกับค้างไม้คงจะเป็นผักที่กินได้นะคะ..จะไปเยี่ยมชมได้ไหมคะ..
ชื่นชม โจน จันไดมากครับ
คนอีสานเหมียนกัน 555
เขียนบันทึก ถึง ซากี้ รูปหล่อของพี่บ้างซิ
แวะมาชมของดี..มีประโยชน์ครับ
สวัสดีค่ะหนานเกียรติ
เข้ามาชม ศูนย์พันพรรณด้วยคนค่ะ
ดีจังเลยน๊ะค๊ะนอกจากทำตัวเป็นประโยชน์แล้วยังทำสิ่งแวดล้อมไม่ให้เป็นพิษ ทำจิตให้เป็นธรรมนำธรรมชาติมาพลิกเป็นเงินจนกลายเป็นแผ่นดินธรรม
แผ่นดินทอง
อ่านแล้วชอบมากค่ะ
ขอบคุณที่ไปเยือน
ถ้ามาเชียงใหม่
จะชวนไปกินพิซซ่าค่ะ
มาชม
เห็นเรียบง่ายดีจังนะครับ...
ขณะนี้ฝนตกหนักมากในเมืองหาดใหญ่...
มาแนะนำตัวครับ
ขอบคุรเรื่องราวดีๆครับ
พี่ชาย เราเก่งจัง อิอิ
หนานเกียรติจงรีบมาเชียงใหม่พาน้องเฌวามาด้วย..เราจะพากันไปเยี่ยมบ้านพันพรรณกันนะ..อากาศเริ่มหนาวแล้ว....จะออกจากโรงเรียน..ไปทางเขื่อนแม่งัด..ไม่มีค่ารถนะ..ไม่รู้ว่าน้องพอลล่าจะมาอีกรอบไหมเนี่ย..
สวัสดีค่ะหนานเกียรติ
*** น่าสนใจมากเลยนะคะ ถ้าเกิดขึ้นในทุกชุมชน ก็ไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้
*** สาวน้อยเฌวา จะต้องแก้มแดง ตอนหน้าหนาวแน่เลย
สวัสดีครับ ครูอี๊ด
สวัสดีค่ะ...คุณ หนานเกียรติ
อ่านบันทึกนี้เข้าใจชีวิตที่เรียบง่ายในตอนแรก ปัจจุบันความเรียบง่ายดูเหมือนจะถูกสังคมรบกวนนะคะ
ชอบ“ทรัพย์สมบัติสาธารณะโภคี”ที่นี่ค่ะ
ทำให้คิดได้ว่ามนุษย์เป็นผู้มีปัญญาสร้างระบบอะไรขึ้นมามากมายทำให้ชีวิตวุ่นวายนะคะ
แต่แท้ที่จริง "แค่นี้ก็ดำรงชีวิตอยู่ได้แล้ว"
ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมนะครับ
การจัดการทรัพย์สินแบบสาธารณโภคี เป็นภูมิปัญญาที่ลึกซึ้งมากครับ
มีหลายแห่งที่ใช้จัดการแบบนี้ โดยเฉพาะในชุมชนอโศกทุกแห่ง...
ไปเยี่ยมเยียนพี่โจ ได้แง่คิดมากครับ..
สวัสดีเจ้า คุณครู rinda
สวัสดีค่ะหนาน..น่าสนใจนะ..เป็นความพอเพียงและมีความสุขมากที่ได้อยู่ในชุมชนบ้านเป้าได้ธรรมชาตินะ..พรรณไม้ที่มีเป็นพันๆๆ..และการขึ้นแบบพันกับค้างไม้คงจะเป็นผักที่กินได้นะคะ..จะไปเยี่ยมชมได้ไหมคะ..
ที่ศูนย์พันพรรณ อยู่บ้านเป้า อ.แม่แตงครับ
ไปเยี่ยมเยียนเรียนรู้ชุมชนนี้ได้ ไป-กลับก็ได้ ไปนอนพักค้างคืนก็ได้เจ้า
ตั้งใจจะพาเฌวาไปนอนที่นั่นสักคืนสองคืน
ขอบคุณที่แวะมาแอ่วหาเจ้า...
เจียงใหม่ หนาวก่เจ้า...
สวัสดีครับ คุณหมอ นาย ศุภรักษ์ ศุภเอม
ชื่นชม โจน จันไดมากครับ
คนอีสานเหมียนกัน 555
ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมครับ
คุณเอก พอลล่า และผม ได้สนทนาเกี่ยวกับคุณหมอ เมื่อคราวไปเยี่ยม ร.พ. ที่ จ.พิจิตร ด้วยครับ
คาดว่า จะได้ไป ร.พ.อุบลรัตน์ เร็ว ๆ นี้
สวัสดีคุณพี่ ครู ป.1
เขียนบันทึก ถึง ซากี้ รูปหล่อของพี่บ้างซิ
เช๊อะ....
ไม่อยากบอกว่าเมื่อวานและวันก่อนซากี้ไปที่ดอยมูเซอด้วย
สวัสดีครับ คุณ พิสูจน์
แวะมาชมของดี..มีประโยชน์ครับ
ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยม
ดีใจหลายที่ชอบครับ
สวัสดีครับ อ.ขจิต ฝอยทอง
เห็นแล้วอึ่งมากครับพี่
กำลังจะทำศูนย์พันผักและผลไม้เหมือนกันครับ
กำลังรวบรวมอยู่
แหะ แหะ อาจารย์ อึ้ง หรือ อึ่ง ครับ
อึ่งที่ตากมาเยอะครับ อึ่งย่าง แต่ต้องรอตอนมันออกครับ ฮิ ฮิ..
ยกมือสนับสนุนสองข้างเลยครับ เรื่องที่อาจารย์จะทำศูนย์พันธุ์ผัก
ผมมีคนรู้จักที่ทำเรื่องนี้หลายคน แล้วจะเชื่อมให้ครับ
สวัสดีครับ คุณ pepra
สวัสดีค่ะหนานเกียรติ
เข้ามาชม ศูนย์พันพรรณด้วยคนค่ะ
ดีจังเลยน๊ะค๊ะนอกจากทำตัวเป็นประโยชน์แล้วยังทำสิ่งแวดล้อมไม่ให้เป็นพิษ ทำจิตให้เป็นธรรมนำธรรมชาติมาพลิกเป็นเงินจนกลายเป็นแผ่นดินธรรม แผ่นดินทอง
ขอบคุณมากครับที่แวะมาเยี่ยมและแบ่งปันความเห็น
สวัสดีครับ พี่ มนัญญา ~ natachoei ( หน้าตาเฉย)
อ่านแล้วชอบมากค่ะ
ขอบคุณที่ไปเยือน
ถ้ามาเชียงใหม่
จะชวนไปกินพิซซ่าค่ะ
ขอบคุณที่มาเยี่ยมเช่นกันครับ
แหะ แหะ ไปเชียงใหม่ขอที่เพิ่มอีก ๒ ที่สำหรับ แม่เฌวาและเฌวา ได้ไหมครับ
สวัสดีครับ อาจารย์ umi
มาชม
เห็นเรียบง่ายดีจังนะครับ...
ขณะนี้ฝนตกหนักมากในเมืองหาดใหญ่...
อาจารย์ครับ ได้ข่าวว่าน้ำท่วมแล้ว
เป็นไงมั่งครับ...
สวัสดีครับ คุณ TontheChef
มาแนะนำตัวครับ
ขอบคุรเรื่องราวดีๆครับ
ขอบคุณที่ให้เกียรติครับ ยินดีที่ได้รู้จัก
แวะมาเยี่ยมอีกนะครับ
สวัสดีน้อง ♥paula ♥ที่ปรึกษาตัวน้อย✿
พี่ชาย เราเก่งจัง อิอิ
เอ้าาาา... !!!!!!! เพิ่งรู้เหรอ คนอื่นเขารู้กันตั้งนานแล้ววววววววววว
ฮิ ฮิ....
สวัสดีเจ้า คุณครู rinda
หนานเกียรติจงรีบมาเชียงใหม่พาน้องเฌวามาด้วย..เราจะพากันไปเยี่ยมบ้านพันพรรณกันนะ..อากาศเริ่มหนาวแล้ว....จะออกจากโรงเรียน..ไปทางเขื่อนแม่งัด..ไม่มีค่ารถนะ..ไม่รู้ว่าน้องพอลล่าจะมาอีกรอบไหมเนี่ย..
ทราบแล้วเจ้า...
อยากไปขนาดนักเจ้า...
สวัสดีครับ คุณครูกิติยา เตชะวรรณวุฒิ
สวัสดีค่ะหนานเกียรติ
*** น่าสนใจมากเลยนะคะ ถ้าเกิดขึ้นในทุกชุมชน ก็ไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้
*** สาวน้อยเฌวา จะต้องแก้มแดง ตอนหน้าหนาวแน่เลย
ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมครับ
ตอนนี้เฌวาเริ่มหน้าแดง จมูกแดงแล้วครับ
อากาศที่กรุงเทพฯเริ่มเย็นแล้ว
แวะมาอ่านเรื่องราวของชาวดินที่น่านิยมค่ะ...ชื่นชมคนเล่าด้วยค่ะที่บรรยายเห็นภาพชัดเจนจริงๆ..
สวัสดีค่ะ
* แอบพักงาน เพื่อเข้ามาทักทายคุณหนานเกียรติ... รู้ตัวว่าไม่ได้มายี่ยมนาน ติดภารกิจ คือประเมินนักเรียนพระราชทาน สมศ. 26-30 พย. นี้แหละ...ต้องขอโทษด้วย
* บันทึกเป็นเรื่องราวที่งดงามมากค่ะ รู้สึกสัมผัสกับธรรมชาติ พรรณไม้ และความร่วมมือร่วมใจของชุมชน
* ช่วงนี้อากาศเริ่มเย็น ลมแรง คุณหนานเกียรติสบายดีไหมคะ น้องเฌวาเป็นอย่างไรบ้าง ระลึกถึงเสมอค่ะ
* ได้ข่าวว่าจะมาจัดกิจกรรมที่โรงเรียนครูคิม... หรือคะ เด็กๆ คงจะสนุกและได้ความรู้มากทีเดียว..
* สัปดาห์ที่ผ่านมา นักเรียนห้องครูใจดี 4/2 ก็ไปเข้าค่ายกิจกรรม โครงการ ค.ตนบ้านนอก ที่น้ำปาด กลับมาเล่าให้ฟังว่าประทับใจมาก....
* หน้าหนาว ที่ภูสอยดาวสายมากๆ ถ้าว่างลองมาขึ้นดอยที่อุตรดิตถ์บ้างซิคะ ชวนซากี้กับ อาจารย์เอก มาด้วยก็ดีนะคะ
* ระลึกถึงค่ะ
เพื่อนๆ ครูใจดีเขาไปเที่ยวกันสัปดาห์ที่แล้ว บอกว่า กำลังสวยเลยค่ะ
สวัสดีค่ะ
แวะมาเยี่ยม ศูนย์พันพรรณ... บ้าง
อ่านแล้วน่าสนใจมาก ๆ ค่ะ และชอบที่ใช้ระบบ สาธารณโภคี เช่นเดียวกับชาวอโศก
ขออนุญาตเพิ่มเติมเนื่องจากกำลังศึกษาแนวคิดและการดำเนินชีวิตของชาวอโศก หรือที่เรามักเรียนติดปากกันว่า "สันติอโศก"(สันติอโศกเป็นพุทธสถานที่นับเป็นศูนย์กลางของชาวอโศก ตั้งอยู่ที่นวมินทร์-เกษตร และมีพุทธสถานในต่างจังหวัดอีก 8 แห่งเช่นที่ศรีสะเกษ อุบล ตรัง...ไม่รวมศูนย์และเครือข่ายอีกมากมาย)
ความจริงคำว่า "สาธารณโภคี" เป็นคำในพุทธบัญญัติ และชาวอโศกเป็นผู้รื้อฟื้นมาใช้ในหมู่เหล่าของชาวอโศก จนเห็นผลเป็นรูปธรรมอย่างยิ่ง
สาธารณโภคี มีผลให้เกิดการอยู่ร่วมกันอย่างสมานฉันท์ ทุกคนทำงานตามศักยภาพของตน และได้กิน ได้ใช้ตามความจำเป็นของแต่ละคน ด้วยเหตุนี้ การแก่งแย่งชิงดี การแข่งขันกันจึงไม่มีหรือมีน้อยที่สุดค่ะ
(^___^)
ใช้แรงมันจะมีเวลาคิดน้อยลง มีเวลาอยู่กับตัวเองมากขึ้นในช่วงที่ใช้แรง และก็ถ้าไม่ใช้แรงความคิดก็จะฟุ้งซ่านไปเรื่อย ๆ จินตนาการไปเรื่อย ๆ แล้วจะรู้สึกว่าตัวเองสำคัญ ตัวเองรู้มาก...”
ทรัพย์สมบัติที่นี่เป็น “สาธารณะโภคี”
ชอบจังค่ะ
มีโอกาสฟังคุณเอก จตุพร วิศิษฏ์โชติอังกูร
หนาวแล้ว ฝากบอกสาวน้อยเฌวา อย่าลืมใส่เสื้อหนาๆ นอนห่มผ้าให้อุ่น แล้วไม่ต้องเล่นน้ำมาก
อาบน้ำวันละครั้ง ก็พอแล้ว (เหมือนป้ากระติก) 55555
สวัสดีครับ อาจารย์ ขจิต ฝอยทอง
อึ่งย่างต้องมาต้นหน้าฝนครับ แซ่บอีหลีคัก ๆ ครับ
โรงเรียนที่อาจารย์พูดถึง เคยได้ยินชื่อครับ แต่ไม่เคยไป อยู่ในพื้นที่ของ อบต. ที่เพื่อนผมเป็นนายกอยู่ครับ
อยากไปเมื่อไรบอกนะครับ
จะอาสาพาไปครับ....
สวัสดีครับ คุณ บุษรา
สวัสดีค่ะ
- แวะมาขอบคุณ คุณหนานเกียรติ ที่ไปให้กำลังใจงานเขียนของบุษราค่ะ
- เป็นกำลังใจที่ดี ๆ ตลอดมา คอยเติมเต็ม ให้คำแนะนำกับนักเขียนมือใหม่คนนี้มาโดยตลอด ดีใจที่ได้รู้จักพี่น้องชาว gotoknow 4 เดือนกับสิ่งดี ๆ ที่ได้รับ
- บุษราไม่มีอะไรจะทดแทนบุญคุณ นอกจากคำว่าขอบคุณนะคะที่ให้โอกาส
ผมก็มีความรู้เดียวกับคุณบุษราครับ ได้รับมิตรภาพและกำลังใจท่วมท้นจากมิตรสหายใน G2K หนึ่งในกำลังใจก็คือคุณบุษราครับ
เร็ววันนี้อาจได้ไปเยี่ยมที่โรงพยาบาลนะครับ
สวัสดีครับ พี่ใหญ่ นาง นงนาท สนธิสุวรรณ
แวะมาอ่านเรื่องราวของชาวดินที่น่านิยมค่ะ...ชื่นชมคนเล่าด้วยค่ะที่บรรยายเห็นภาพชัดเจนจริงๆ..
ขอบคุณพี่ใหญ่ที่แวะมาเยี่ยมครับ
ดีใจมากครับที่ชอบ
จะหาเรื่องแบบนี้มาเล่าให้ฟังบ่อย ๆ ครับ
สวัสดีครับ คุณ ครูใจดี
สวัสดีค่ะ
* แอบพักงาน เพื่อเข้ามาทักทายคุณหนานเกียรติ... รู้ตัวว่าไม่ได้มายี่ยมนาน ติดภารกิจ คือประเมินนักเรียนพระราชทาน สมศ. 26-30 พย. นี้แหละ...ต้องขอโทษด้วย
* บันทึกเป็นเรื่องราวที่งดงามมากค่ะ รู้สึกสัมผัสกับธรรมชาติ พรรณไม้ และความร่วมมือร่วมใจของชุมชน
* ช่วงนี้อากาศเริ่มเย็น ลมแรง คุณหนานเกียรติสบายดีไหมคะ น้องเฌวาเป็นอย่างไรบ้าง ระลึกถึงเสมอค่ะ
* ได้ข่าวว่าจะมาจัดกิจกรรมที่โรงเรียนครูคิม... หรือคะ เด็กๆ คงจะสนุกและได้ความรู้มากทีเดียว..
* สัปดาห์ที่ผ่านมา นักเรียนห้องครูใจดี 4/2 ก็ไปเข้าค่ายกิจกรรม โครงการ ค.ตนบ้านนอก ที่น้ำปาด กลับมาเล่าให้ฟังว่าประทับใจมาก....
* หน้าหนาว ที่ภูสอยดาวสายมากๆ ถ้าว่างลองมาขึ้นดอยที่อุตรดิตถ์บ้างซิคะ ชวนซากี้กับ อาจารย์เอก มาด้วยก็ดีนะคะ
* ระลึกถึงค่ะ
ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมครับ...
ขอให้ ร.ร.ผ่านการประเมินนะครับ
ดีใจมาก ๆ ครับ ที่คุณครูใจดีชอบบันทึกนี้
ที่กรุงเทพฯ อากาศเย็นลง สบาย ๆ ไม่ร้อน ไม่หนาว ส่วนที่ดอยมูเซอ จ.ตาก หนาวมากครับ วันที่ผมกลับคืนนั้น ๑๒ องศา เล่นเอาผมป่วยไปเลย
เฌวาสบายดีแล้วครับ แต่ยังมีไอนิดหน่อย ส่วนความซนมากเป็นปกติครับ
ยังไม่ได้ตามข่าวคราวการจัดกิจกรรมของกลุ่มคนบ้านนอกเลยครับ คาดว่าคงได้ไปเยี่ยมกลุ่มฯ เร็ว ๆ นี้
อยากไปขึ้นภูสอยดาวเหมือนกันครับ จะลองชวนคุณเอก และซากี้ดูครับ ครูใจดีจะนำทางใช่ไหมครับ...
สวัสดีครับ คุณคนไม่มีราก
สวัสดีค่ะ
แวะมาเยี่ยม ศูนย์พันพรรณ... บ้าง
อ่านแล้วน่าสนใจมาก ๆ ค่ะ และชอบที่ใช้ระบบ สาธารณโภคี เช่นเดียวกับชาวอโศก
ขออนุญาตเพิ่มเติมเนื่องจากกำลังศึกษาแนวคิดและการดำเนินชีวิตของชาวอโศก หรือที่เรามักเรียนติดปากกันว่า "สันติอโศก"(สันติอโศกเป็นพุทธสถานที่นับเป็นศูนย์กลางของชาวอโศก ตั้งอยู่ที่นวมินทร์-เกษตร และมีพุทธสถานในต่างจังหวัดอีก 8 แห่งเช่นที่ศรีสะเกษ อุบล ตรัง...ไม่รวมศูนย์และเครือข่ายอีกมากมาย)
ความจริงคำว่า "สาธารณโภคี" เป็นคำในพุทธบัญญัติ และชาวอโศกเป็นผู้รื้อฟื้นมาใช้ในหมู่เหล่าของชาวอโศก จนเห็นผลเป็นรูปธรรมอย่างยิ่ง
สาธารณโภคี มีผลให้เกิดการอยู่ร่วมกันอย่างสมานฉันท์ ทุกคนทำงานตามศักยภาพของตน และได้กิน ได้ใช้ตามความจำเป็นของแต่ละคน ด้วยเหตุนี้ การแก่งแย่งชิงดี การแข่งขันกันจึงไม่มีหรือมีน้อยที่สุดค่ะ
(^___^)
ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมและแบ่งปันความเห็นครับ
ผมเคยเข้าไปร่วมกิจกรรมกับชาวอโศกบ้างครับ ส่วนใหญ่ร่วมกับชาวชุมชนทางภาคเหนือ ที่ไพศาลี และเชียงราย ครับ
ระบบทุนนิยมไม่ต้องการสาธารณโภคีครับ เพราะสาธารณโภคีไม่มุ่งเน้นการสะสมส่วนตน ไม่มีการแข่งขัน ของทุกอย่างเป็นส่วนกลาง/ส่วนรวม
สวัสดีครับ พี่ กระติก~natachoei ที่ ~natadee
ใช้แรงมันจะมีเวลาคิดน้อยลง มีเวลาอยู่กับตัวเองมากขึ้นในช่วงที่ใช้แรง และก็ถ้าไม่ใช้แรงความคิดก็จะฟุ้งซ่านไปเรื่อย ๆ จินตนาการไปเรื่อย ๆ แล้วจะรู้สึกว่าตัวเองสำคัญ ตัวเองรู้มาก...”
ทรัพย์สมบัติที่นี่เป็น “สาธารณะโภคี”
ชอบจังค่ะมีโอกาสฟังคุณเอก จตุพร วิศิษฏ์โชติอังกูร
เล่าถึงคุณหนานเกียรติ ว่าเป็นคนที่เขียนบอกเล่าเรื่องราวความรู้สึกได้ดี กินใจ
พี่กระติกขอยก 2 มือ สนับสนุนคุณเอกค่ะหนาวแล้ว ฝากบอกสาวน้อยเฌวา อย่าลืมใส่เสื้อหนาๆ นอนห่มผ้าให้อุ่น แล้วไม่ต้องเล่นน้ำมาก
อาบน้ำวันละครั้ง ก็พอแล้ว (เหมือนป้ากระติก) 55555
ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมครับ
เรื่องราวของพี่โจและศูนย์พันพรรณ น่าสนใจและกระตุกต่อมคิดได้มากครับ
ดีใจที่พี่ชอบบันทึกนี้ครับ
ขอบคุณที่ยกมือสนับสนุนครับ
แหะ แหะ ผมก็เขียนไปเรื่อยเปื่อย นึกอะไร คิดอะไร ก็เขียนตามที่นึกคิด ตามใจที่สั่งให้เขียน
เฌวาสบายดีครับ ยังมีไอนิดหน่อย
วันละคร้ังนี่เช้าหรือเย็นดีครับพี่...
สวัสดีค่ะคุณหนานเกียรติ...ยินดีที่ได้ยินเสียงคุณทางโทรศัพท์..ยายธีคิดว่าอาจจะลงตัวเข้าสักวัน..เพราะทุกๆวันคือวันเริ่มต้น...เคยพบพูดคุยกับคุณโจน จันใด..ครั้งหนึ่ง..ขอปรบมือกับการทำงานของบุคคลนี้(อย่างสูง)..ได้เรียนรู้จากข้อเขียนนี้อีกมากมาย..ขอบคุณ คุณหนานเกียรติ...เราคงจะมีโอกาศคุยกันอีกทีนะ..ยายธียังเข้าไปเบอร์ที่โทรมาไม่เป็นเลย..เลยไม่ทราบจะติดต่อคุณได้อย่างไร...(คนแก่ก็เป็นเสีย่างนี้ละ)...ยายธีจ้ะ