คนคือสิ่งมีชีวิตที่โหดร้ายจัง...จริงหรือไม่
พี่เหน่นว่ายน้ำเป็นประจำทุกเย็นมาได้หลายสัปดาห์แล้ว คุณแม่ก็ติดตามไปด้วยทุกครั้งที่ทำได้ เราไปว่ายน้ำกันที่สระว่ายน้ำของมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์นี่เองค่ะ เป็นสระว่ายน้ำขนาดกระทัดรัดยาว 25 เมตร ล้อมรอบด้วยรั้วเตี้ยๆ บริเวณนอกรั้วก็เป็นพื้นที่ที่เป็นพงหญ้า มีต้นไม้เป็นธรรมชาติที่ไม่ได้ปรับแต่งมากมายอะไร
สิ่งที่ยังคงติดใจเรามาจนต้องเอามาเขียนเป็นบันทึกนี้ เกิดขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่แล้วนี่เองค่ะ เป็นวันที่ได้เห็นงูตัวขนาดยาวสัก 2-3 เมตรตัวอ้วนขนาดท่อน้ำเส้นผ่าศูนย์กลางสักนิ้วกว่าๆ เขามาเลื้อยอยู่ที่รั้วรอบสระนี่แหละ คุณการ์ดเฝ้าสระเธอเห็นก่อน ก็เอาท่อนไม้ไปเขี่ยๆตีๆให้เขาไปให้พ้น แต่สักพักเขาก็ยังวนกลับมาอีก ครั้งหลังนี้เขาก็เลยโดนตี สู้กันอยู่สักพักกับไม้จนกระทั่งแน่นิ่งไป เราได้แต่คิดในใจว่าทำไมเขาไม่หนีไปเสียนะ กลับมาให้โดนตีตายทำไม
วันนี้ได้มีโอกาสคุยกับคุณการ์ดคนนั้น ได้ถามว่าวันนั้นเป็นงูอะไร เขาบอกว่าเป็นงูน้ำ ไม่รู้มีอันตรายไหมแต่เมื่อเขาพยายามรุกล้ำเข้ามาบริเวณสระ เราก็เลยต้องตีไว้ก่อน คุณการ์ดบอกว่า จริงๆแล้วรอบๆบริเวณนี้ก็มีงูชนิดอื่นๆอยู่ด้วย ถ้าเราต่างคนต่างอยู่ก็ไม่มีปัญหาอะไร ไม่มีใครไปทำร้ายเขา
นึกขึ้นมาได้ว่า คนเรานี่หนอช่างเป็นสิ่งมีชีวิตที่โหดร้ายจัง เราต้องทำลายชีวิตงูตัวหนึ่ง เพียงเพราะเขามารุกล้ำพื้นที่ของคน โดยที่เรายังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขามีพิษหรือไม่ แต่ก็ไม่ได้ตำหนิคุณการ์ดคนนั้นหรอกนะคะ เพราะเป็นหน้าที่ที่เขาต้องทำเพื่อรักษาความปลอดภัยของผู้ใช้สระ เพียงแต่เอามาคิดเปรียบเทียบกับชีวิตของคนเรา นึกถึงว่าสถานการณ์ที่เราหวาดระแวงคนอื่น ไม่ไว้ใจคนอื่น ระวังปกป้องตัวเอง คิดว่าคนอื่นเป็นอันตรายกับเรา ก่อให้เกิดสังคมที่ไม่น่าอยู่เอาเสียเลยนะคะ ทำอย่างไรให้สังคมที่ทุกคนมองแต่สิ่งดีๆ ช่วยกันลบละลายสิ่งที่ไม่ดีให้ค่อยๆหมดไปเกิดขึ้นได้ ได้แต่คิดและพยายามทำเท่าที่จะทำได้ค่ะ แม้จะเชื่อว่าหากเรารักคนอื่น เมตตาคนอื่น เราก็คงจะช่วยสร้างสังคมแบบนั้นได้ แต่ก็ยังคงมีคำถามเสมอๆเมื่อได้พบเจอว่าคนที่คิดแบบเราต้องมีอันพบเจอเรื่องร้ายๆ ไม่เปลี่ยนความคิดนะคะแต่ก็เข้าใจได้ว่าทำไมยังมีคนคิดว่าเรามองโลกในแง่ดีเกินไป แต่ก็จะขอคิดแบบนี้ต่อไปค่ะ
ความเห็น (11)
สวัสดีค่ะ
- ขอสนับสนุนความคิด..การมองโลกในแง่ดีค่ะ
- การที่เราดีกับเขา..พี่คิมเชื่อว่าเขาก็ต้องกีกับเราแน่นอน
- มีคนถามว่า..ถ้าเขาไม่ดีตอบจะทำอย่างไร..ก็คิดเสียว่าเป็นกรรม
- ให้อภัย แผ่เมตตา ค่ะ
- น่าสงสารนะคะ ที่ต้องตีงูหลาย ๆ ทีจนตาย
- พี่คิมเคยขับรถไปโรงเรียน ผ่านป่าผ่านภูเขา ถ้าบังเอิญเห็นงูกำลังข้ามถนน
- ก็จะจอดรถและพูดบอกด้วยภาษาของเรานี่แหละว่า..ให้ไปอยู่ในที่ ๆของตัวเองนะ มาแถวนี้บ่อย ๆอันตรายและอีกอย่างคนเขากลัว แล้วก็แผ่เมตตาให้ค่ะ
เรากลัวเขาจะทำร้ายเราไงคะ เราก็เลยจัดการเขาซะก่อน
ที่บ้านก็มีผ่านไป ผ่านมาบ่อยๆ แต่เราไม่กล้าทำอะไรเขา ปิดประตูบ้านไม่ให้เข้ามาในบ้านก็พอ
สวัสดีค่ะ
- แวะมารายงานตัวค่ะ
สวัสดีค่ะ พี่โอ๋....
พอลล่าได้รับหนังสือจากพี่แล้วค่ะ ขอบคุณมากนะคะ
เห็นด้วยกับครูป.๑ ครับ เหตุเกิดเพราะความกลัว เพราะเรากลัวเขาจะทำร้ายคนอื่นเราจึงทำร้ายเขาก่อน ถ้าเราไม่กลัว เราก็มองเห็นเขาเป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติและค่อยๆหาทางให้เขาไปที่อื่นเสีย ก็แค่นั้น
เสื้อเหลือง เสื้อแดงก็เหมือนกันครับ เพราะเขากลัว....
- สวัสดี เจ้า ป้าโอ๋ อโณ
- กราบขอบพระคุณ ป้าโอ๋ ที่ส่งหนังสือ พระนิพนธ์ ฯ เรื่อง อำนาจอันยิ่งใหญ่แห่งกรรม และ เรื่องวิธีสร้างบุญบารมี มาให้ เน้อ เจ้า
- งู กลับ มา รอบสอง เพราะ อำนาจแห่งกรรม ค่ะ ป้าโอ๋
- ปิดเทอม ต้องเลี้ยงลูกสาว สองคน ในเวลาเดียวกัน เหนื่อย มาก ๆ ค่ะ เลยไม่มีเวลา เข้ามาในบล็อก ทั้งบ้านของตนเอง และเพื่อนบ้าน เลยเจ้า
- ขอให้ป้าโอ๋และ ครอบครัว หนุ่มน้อย สบายดี เน้อเจ้า
คงเป็นไปตามกรรมอย่างคุณ ครูใหม่ บ้านน้ำจุน ว่า ค่ะ
เพิ่งได้รับหนังสือจากคุณโอ๋ค่ะ ขอบพระคุณมากๆค่ะ
อ่านความเห็นคุณ ครูคิม, คุณ ครู ป.1 , ท่านพี่ อัยการชาวเกาะ, คุณ ครูใหม่ บ้านน้ำจุน และคุณ ใบบุญ แล้วดีใจจังค่ะที่มีคนคิดเห็นแบบเดียวกันเยอะแยะเลย และการวางอุเบกขาในกรณีที่เราทำอะไรไม่ได้ก็คงจะเป็นสิ่งที่เราต้องทำให้ได้แหละนะคะ
ขอบคุณ น้องพอลล่า ครูใหม่และคุณ ใบบุญ ที่แวะมาส่งข่าวด้วยนะคะ
และขอบคุณคุณเพชรน้อย ที่มาเยี่ยมเยียนค่ะ
อ่านตามที่เล่า น่าจะเป็นงูน้ำนะคะ แต่ขึ้นชื่อว่า งู ก็ดูว่าอันตราย การ์ดเขาคงจำเป็นต้องป้องกันเรานะคะ
สวัสดีครับครูโอ๋
ก่อนอื่นขอขอบคุณที่แวะเยี่ยมเยียนและลิงค์มาที่นี่ ด้วยความยินดีครับสำหรับภาพเหลืองกระบี่เดี๋ยวจะเอาภาพกล้วยไม้อื่นๆที่มีมาฝากอีกครับ
เป็นมุมมองที่น่าคิดครับว่ามันผิดถึงขนาดต้องฆ่าเชียวหรือ คนไทยอาศัยอยู่กับงูเกือบสองร้อยชนิดเท่าที่ค้นพบอย่างใกล้ชิดเสียด้วย แต่เรากลับมีความรู้เกี่ยวกับงูเหล่านั้นไม่ได้มากไปกว่าหนังที่เราดูมาเลย นอกจากหนังสารคดีที่มีอยู่น้อยแถมเรตติ้งต่ำที่พยายามนำเสนอชีวิตจริงตามธรรมชาติของงูแล้วนอกนั้นงูเป็นสัตว์ที่ชั่วร้ายหมด อนาคอนด้า งูเกงกอง ฯลฯ งูที่เกิดมาบนโลกจำนวนไม่น้อยที่ต้องตายฟรีโดยไม่จำเป็นต้องหาเหตุผลมาเพิ่ม
ประสบการณ์ด้วยตัวเองครับ ช่วงหลังซึนามิผมใช้เวลาที่แปลงเพาะต้นไม้อยู่เกือบปี ผมจะเห็นงูตัวหนึ่งอยู่เป็นประจำ สีออกเหลืองอมเขียวหรือเขียวอมเหลืองอะไรซักอย่าง และแถบสีดำตามยาวข้างลำตัว เป็นงูที่สวยและคล่องแคล่ว ชอบกินหนูเป็นอาหารหลักและมันคือ งูทางมะพร้าวดำ หรือคนใต้จะเรียกว่า งูหลุนชุน (Black Copper-headed Racer)จัดเป็นงูหายากชนิดหนึ่งครับ จากเกือบสองร้อยชนิดเรามีงูพิษแค่ห้าสิบเจ็ดชนิดแค่นั้นเองและงูทุกชนิดไม่บริโภคมนุษย์เป็นอาหารครับ หลายชนิดไม่เคยอ้าปากกัดสิ่งใดเลยมาทั้งชีวิตเว้นแต่อาหาร เห็นใหมครับมันดีกว่ามนุษย์หลายคนเสียอีก
เจ้างูหลุนชุนตัวนั้นเมื่อมันคุ้นเคยกับการที่ผมไม่มีปฏิกิริยาใดๆ มันจะเลื้อยผ่านไปอย่างสงบทุกครั้งตามเส้นทางของมัน และเราเหมือนเพื่อนกัน วันหนึ่งมีเพื่อน(ที่เป็นมนุษย์)มาหาผมที่แปลงเพาะ ขากลับผมได้ยินเสียงเขาตีอะไรบางอย่างและพูดว่า "งูอะไรไม่รู้กำลังเลื้อยไปทางมึง ดีน่ะที่กูเห็นก่อน" ผมรีบลุกไปดู ใช่เลยครับเพื่อนผมเองหางยังกระแด๊วอยู่ มันสายไปแล้วครับ ลูกตามันไม่ได้อยู่ในที่ที่ควรจะอยู่เสียแล้ว เจ้างูหลุนชุน งูหายาก ผู้ควบคุมจำนวนหนู ผู้ที่เป็นส่วนหนึ่งของระบบนิเวศวิทยา มันตายเพียงแค่เพราะ คนตีไม่รู้จักว่ามันคืองูอะไร
งูตัวที่สระน้ำก็คงจะโดนข้อหาเดียวกับงูหลุนชุนตัวนั้นแน่เลย คงเป็นทำนองเดียวกับ "ตีงูให้กกากิน" การกระทำที่มาจากความหวังดีแต่ขาดความเข้าใจ ต้องเสียชีวิตหนึ่งเพื่อรักษาอีกชีวิต แต่จะดีกว่าเป็นใหมหากเราจะรักษาทุกชีวิตใว้ด้วยกัน
ปุจฉา ส่วนที่น่ากลัวที่สุดของงูอยู่ที่ใหน ?
วิสัชนา ก็ อยู่ในหัวของคนที่กลัวงูนั่นไงครับ
พี่ศศิฯคะ ค้างใจเรื่องนี้เพราะคิดว่าเราน่าจะคิดอะไรได้มากกว่าการยืนเศร้าใจน่ะค่ะ น่าจะบอกให้การ์ดเขี่ยเขาเหวี่ยงออกไปในบริเวณที่เขามาจะดีกว่าไปตีๆเขาจนตายแบบนั้น เพราะจะว่าไปแม้เขาจะตัวใหญ่เขาก็ดูไม่มีอันตรายหรอกค่ะ คิดเหมือนคุณ kareem ว่า ยังไม่มีชีวิตไหนต้องเสียไปเลยโดยไม่จำเป็น เราน่าจะอยู่ร่วมโลกกันได้โดยไม่ต้องกำจัดกันเพียงเพราะเราไม่แน่ใจว่าเขาอันตรายไหม ถึงคิดว่ามนุษย์เรานี่โหดจังน่ะค่ะ