คุณหมอเส็ง จาก สสจ.สุราษฎร์ธานี ... ทำงานหลายด้านจริงๆ และไอเดีย expert มากมายเลยค่ะ ใครเชิญไปบรรยายที่ใด ไม่น่าจะผิดหวังแน่เลย (โฆษณาหางานให้คุณหมอเส็งซะเลย เพราะว่า ให้เวลาท่านพูด 8 นาที ไม่อยู่ละค่ะ) ลองฟังดูนะคะ

• ผมเคยอยู่ รพช. ... ขณะที่อยู่ รพช. 2542 ได้ลองทำโครงการฟันเทียม ตอนนั้นเป็น 72 พรรษา ลองทำโดยใช้ อบต. ที่มีอยู่ในเขต 4 แห่ง เทศบาล 1 แห่ง โดยให้เขาส่งรายชื่อคนไข้มาแห่งละ 5 คน ต่อปี ทำ 3 ปี และใช้งบฯ จากท้องถิ่นทั้งสิ้น
• ... ขณะที่เราทำตอนนั้น คิดต้นทุนไว้ 4,000 บาท เข้า รพ.ล้วนๆ ผมกับน้องทำโดยไม่มีค่าตอบแทน เพราะเรามองว่า เราอยากทำให้ในหลวงฯ
• ... พอทำเสร็จ 3 ปี ก็พบว่า เทศบาลอยากจะส่งให้เราทำต่อ แต่ตอนนั้นปี 2545-2546 ผมย้ายมาอยู่สุราษฎร์ธานี มาอยู่งาน ออกกำลังกายสักพักหนึ่ง (ใช่ไหมเนี่ยะ ฟังก็งงๆ ไปอยู่งานออกกำลังกาย ...)
• พอมาสัมผัสปี 2548 ที่มาเริ่มโครงการฟันเทียม พบว่า มันได้ภาพที่ใหญ่มาก และผมนึกภาพว่า งานฟันเทียมของประเทศไทย ที่มีกองทันตฯ เป็นกัปตันทีมนี่ ท่าน ผอ. ท่านก็ Kicked off ขึ้นมาอย่างสวยงาม ปี 2548 ขึ้นมาถึงสูงสุด ที่ประมาณ 90,000 ราย
• ... ครบ 3 ปี ผมก็ยังนั่งนึกอยู่เลยว่า ตอนที่ ผอ.สมนึกไปพูดที่ภาคใต้ ผมยังนั่งคุยอยู่ว่า แล้วการที่เราจะ Landing จะทำยังไงให้สวยงาม
• ... เพราะว่าพูดง่ายๆ ว่า มันเป็นตัวทำมาหากินของเรา (ก็คือ งานหลักน่ะค่ะ เออ ต้องมีแปลสักหน่อย เดี๋ยวคนอ่านจะงง งง) นะครับ
• เพราะว่า โครงการอะไรทั้งหลายแหล่ เราพบว่า งานทันตฯ ของเรา มันโดนบดบังโดยผู้อื่นนะครับ ทั้งที่พวกเรามีดี มีเด่น มีเก่ง แต่ยังขาดโอกาสแสดงออก
• ... ผมถือว่า โครงการนี้เป็นโครงการที่ท่าน ผอ. และทีมงานได้ช่วยกันที่จะเจียระไนพวกเรา ให้นำพลังจากพลังแผ่นดินทั้งจังหวัด ทั่วประเทศ เพื่อที่จะพีฒนาตัวเองกันขึ้นมา
• แต่ทีนี้ลองนึกถึงตอนลงสิครับ ถ้าเราไม่ได้รับงบประมาณต่อเนื่อง ... อะไรจะเกิดขึ้น เราจะลงแบบบุ้บเลยมั๊ย เราจะลงแบบ One-to-Go มั๊ย (ที่ภูเก็ตอ่ะ) เราจะลงแบบไหนกันดี ก็ยังคุยกัน
• ... เพราะว่าโดยหลักของลักษณะของโครงการนี่ มันควรจะสิ้นสุดด้วยการ Turn ไปสู่งานประจำ ที่ไม่ต้องมีอะไรมา support ไม่ต้อง ... ให้ท้องถิ่นช่วยกันเองได้มั๊ย น่าจะ Turn เป็นรูปแบบนั้น
• ... เอา เราต่อไปอีก 3 ปี อีก 3 ปีข้างหน้า ถ้าท่าน ผอ. ยังอยู่ ท่านก็ต้องมองว่า ท่านจะ Landing ยังไง ให้สวยงาม แล้วมีกลุ่มเป้าหมายอะไรต่อไป ที่เราจะเล่นต่อเรื่อยๆ
• พวกทันตบุคลากรเราเก่งครับผม ขอย้ำว่า เก่งมาก แต่ขอมีโอกาสในการแสดงออกที่ดีนะครับ ผมว่า เราทำได้เรื่อยๆ นะ และในทีมงานที่มาจาก 12 เขต นี่ ผมว่าทำงานกันเยอะมาก เพียงแต่ว่า เราต้องพยายามดึงกันขึ้นมา ให้แสดงออก เป็นตู๊มๆ เป็นภาคๆ (ไม่ใช่เหมือน 3 จังหวัดภาคใต้นะครับ แบบนั้นหวาดเสียวครับ)
• ในมุมมองของผมเห็นว่า เป็นสิ่งที่ดีครับ และควรจะต้องคิดกลุ่มเป้าหมายใหม่ๆ ขึ้นมาด้วย
• และขอพูดต่อไปเลยว่า สุราษฎร์ฯ เราเริ่มกลุ่มผู้พิการแล้วนะครับ เราร่วมกับ พอ.สว. ส่วนกลาง และน้องๆ ทุกอำเภอของเรา
• ... ไปออก รร.สอนคนตาบอด เด็กๆ 120 กว่าคนที่ตาบอด และต้องไปอยู่ใน รร. สอนคนตาบอดภาคใต้ พวกนี้เขาน่าสงสาร ผมพาน้องๆ ไปออกหน่วย เขาทำฟัน และก็ร้องไห้ไปด้วย เพราะว่าเด็กกลุ่มนี้น่าสงสารมาก การทำฟันให้กับเขาเป็นโอกาสที่หาไม่ได้ เราหาโอกาสในการทำบุญที่มีคุณค่าขนาดนี้
• ... และไม่ใช่เฉพาะ รร.สอนคนตาบอด ครับ เราขยายโอกาสไปให้พวกเด็กในสถานพินิจ ที่ตอนนั้นมีข่าวตีกันเรื่อยๆ เราก็ไปทำข่าวในเชิงดีให้เขาบ้าง ให้เขาในเชิงให้บริการทางทันตกรรมที่เหมาะสม ขณะเดียวกัน ทาง ผอ.สถานพินิจ เขาก็บอกว่า ปีหน้าเขาก็เต็มใจที่ขอสนับสนุนงบประมาณมาให้ด้วย และสร้างกิจกรรมในเชิงส่งเสริมสุขภาพต่อเนื่องไปอีก
• ... ในกลุ่มเรือนจำนะครับ ผมจำได้ว่า 2545-2546 ผบ.เรือนจำส่งหนังสือมาว่า อยากให้ สสจ. ทำฟันให้หน่อย สสจ. เราก็บอกว่า เราเป็น non UC เป็นหน้าที่ของ รพ.สุราษฎร์ ตู๊ม ... โยนกลอง รพ.สุราษฎร์ รับปุ๊บ เอ้ย ไม่ใช่ รพ.สุราษฎร์ เป็นตติยภูมิ โยนตู๊ม กลับมาที่ สสจ. กลับไปกลับมา ... นี่ละครับก็เลย ขยายไปบริการตรงจุดนี้ด้วย
• ... รวมถึงกลุ่มผู้พิการที่เขามาลงทะเบียนที่สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ดำเนินการขึ้นทะเบียนด้วย และก็มีการดำเนินการประมาณนี้ละครับ
• ก็เลยคิดว่า เป็นไปได้มั๊ยที่เราจะทำในภาพรวมของงานทันตฯ ที่ในกลุ่มเป้าหมายที่เราเล่นเป็นปีๆ ไปเรื่อยๆ พออันนี้ซาปุ๊บ ก็เอากลุ่มอื่นมาเล่นต่อเรื่อยๆ
• และเห็นด้วยกับที่ท่าน ผอ. ที่บอกว่าสมัยเด็กๆ ... มีการ์ตูนครับ ผมนึกถึงการ์ตูน B1 B2 ครับ ตอนนั้น โอ้โห ถ้าใครมีลูกตอนนั้น จะพบว่า B1 B2 เป็นการ์ตูน หลังข่าวเสร็จปั๊บ ก่อนที่จะมีละคร ก็จะมี B1 B2 มาเล่นกัน และก็บอกว่า อ้า เด็กๆ สุดท้าย แปรงฟันกันด้วย
• ... โอ้โห ช่วงนั้น ลูกๆ นะ ไปแปรงฟันเลยครับ เพราะว่า ช่อง 7 ออกทั่วประเทศ ปีละ 5 แสนบาท นี่ก็เลยเป็นอะไรที่ สื่อนี้เข้าถึงจริงๆ ถึงก้นบึ้งทุกครัวเรือนเลยละครับ
• เพียงแต่ว่า หลังๆ พอไม่มีการ์ตูนอันนี้ ไม่มีการส่งเสริมตรงนี้ เด็กๆ ก็ไม่แปรงแล้วละครับ ตอนนี้ลูกผมก็เริ่มฟันผุแล้วละครับ อิอิ
• เมื่อ 7-9 พย. เรามีการประชุมวิชาการที่ภาคใต้ เราได้เชิญ ดร.เกรียงสินมา เป็นปรมาจารย์ด้าน Marketing ครับ จบ UCLA และก็เยอะแยะ ทาง มอ. เชิญมา เพื่อหวังให้เขาพูดเรื่องการตลาด และการส่งเสริมสุขภาพ แต่ ดร.เกรียงสิน ได้มาพูดเรื่อง เขาได้ทำอะไรไปบ้างแล้ว เขาได้ทำให้ Air Mitsubishi ที่คนไม่รู้จัก จนน้องป๊อบมาโฆษณา จนสินค้าเขาขายได้เป็นกี่ร้อยล้าน
• และเขาก็สรุปด้วยคำพูดที่ว่า ขนม ลูกอม ทั้งหลายที่เราออกแบบโฆษณา จนเด็กหลงกันงอมแงม กินกันทุกวัน เขาบอกว่า เขาเป็นทหารอาชีพ เมื่อเขาจ้างให้มาฆ่า เขาก็ฆ่า ... แล้วเขาก็ทิ้งท้ายที่ว่า ทันตบุคลากรทั้งหลาย ท่านแข่งกับผม ท่านจะสู้ไหวเร้อ ... เขาท้าทายจนผมขนลุกขนพอง หล่อด้วย โสดด้วย อายุ 40 เอง จบเป็นที่ 1 ของ UCLA
• ... ผมยังแกล้งแซวๆ ว่า น่าจะมาทำงานช่วยกองทันตฯ หน่อยนะครับ แซวเล่นๆ นะครับ เพราะรู้สึกว่า หลังๆ พอเขาทำงานไปมากๆ ได้เม็ดเงินมหาศาล เขาก็เริ่มรู้สึกผิด เพราะหลายๆ ครั้งที่ Marketing ทำลายสังคม Marketing หลายๆ อย่างที่ทำให้เด็กวัยรุ่นชอบโทรศัพท์ โทรกันทั้งวันทั้งคืน เขาก็เริ่มรู้สึกว่า เขาอยากทำบุญแล้ว
• ... ผมก็เลยคิดว่า เรายังมีเครือข่ายที่น่าสนใจอีกจำนวนมาก และพวกเขาทำงานได้มากกว่าพวกเราด้วยครับ
• ผมเคยบรรยาย เรื่องเพศศึกษา ให้ เด็ก ม.1 ม.2 ที่กำลังเฮ้วๆ นะครับ ที่นั่งคุยกันเจี้ยวจ๊าว ยกมือถามกันครับ “อาจารย์ อาจารย์ รู้มั๊ยว่า ผู้หญิงกับต้นไม้ต่างกันยังไง” ... เอาละโว๊ย โดนลองของแล้วสิ ผมก็อ๊ะ มีใครอยากรู้มั่งล่ะ ยุให้เด็กถามกันเอง ตอบกันเองครับ ผมก็เลยได้คำตอบว่า “ผู้หญิงกับต้นไม้ต่างกันตรงที่ ต้นไม้ ฟันก่อนแล้วค่อยล้ม ... จบ”

เออ คนอะไร ทำงานเยอะแยะจริงๆ

มีเรื่องราวอื่นๆ อีก ที่นี่ค่ะ ประทับใจ ผู้สูงอายุ ที่ตรงไหน ?