วันนี้ คุณหมอสุปราณี ได้มาเล่าสู่กันฟัง ให้ผู้เข้าร่วมประชุม อันมีตั้งแต่เจ้าหน้าที่สาธารณสุข ทันตบุคลากร ผู้สูงอายุ และเครือข่ายท้องถิ่น ให้ได้ทราบถึงเรื่องการดำเนินงานที่ผ่านมา ของโครงการที่เกี่ยวข้องการส่งเสริม ป้องกัน และฟื้นฟูสุขภาพช่องปากในผู้สูงอายุ
ในภาพรวมการทำงานของกรมอนามัย มุ่งส่งเสริมให้คนไทยมีสุขภาพดี มีการดูแลตลอดชีวิต ตั้งแต่เกิด แม่และเด็ก วัยเรียนวัยรุ่น วัยทำงาน สุขภาพผู้สูงอายุ ชุมชนน่าอยู่ และประเมินผลกระทบต่อสุขภาพ
เรื่องสุขภาพผู้สูงอายุ จะมีมาตรฐานผู้สูงอายุสุขภาพดี คือ
วันนี้ เป็นการเติมเต็มว่า ฟันที่มีอยู่ เราสามารถที่จะดูแล และเก็บรักษาไว้ตลอดชีวิต ให้อยู่ในสภาพที่ดีกันได้อย่างไร
อาจารย์อรพิชญา บอกไว้ว่า เรื่องสุขภาพช่องปาก จะส่งผลไปถึงสุขภาพกาย และสุขภาพใจ เพราะเป็นต้นทางการมีสุขภาพดี โดยที่สุขภาพกายจะเกี่ยวข้องกับเรื่องการกินอาหาร การพูด การออกเสียง เรื่องของใบหน้า และบุคลิกภาพ และส่วนสุขภาพใจ คือ เรื่องการหัวเราะ ความมั่นใจ การเข้าสังคม และความสุข ...
สำหรับสุขภาพช่องปากที่ดีที่อยากให้เป็น คือ สามารถกินข้าวได้ เคี้ยวข้าวอร่อย ไม่มีโรคในช่องปาก หรือถ้ามี ก็ควรได้รับการรักษาแล้ว และในส่วนพฤติกรรม คือ การดูแลสุขภาพช่องปากตัวเองได้ คนที่ไม่สามารถดูแลตัวเองได้ เช่น นอนอยู่กับบ้าน ก็ต้องมีผู้ดูแลสุขภาพช่องปากให้ เพื่อให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี หลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงต่างๆ การไปตรวจสุขภาพช่องปากทุกปี และรับบริการตามความจำเป็น
ความจริง ผู้สูงอายุเกือบทั้งหมดมีการปัญหาสุขภาพช่องปาก ก็คือ
การดูแลผู้สูงอายุในระบบรวมของกระทรวงสาธารณสุข บอกว่า
การดูแลผู้สูงอายุที่ทำกันมีประเด็น คือ
ในส่วนของภาครัฐ ในเรื่องทันตสาธารณสุข จะมีเรื่องที่เกี่ยวข้องคือ
ปีนี้ วันที่ 21 ตุลา ที่เป็นวันทันตสาธารณสุขแห่งชาติ จะมีการรณรงค์เรื่อง การแปรงฟันในเด็กเล็ก และส่งสัญญาณ "... ให้ผู้สูงอายุไปช่วยกันดูแลเด็กเล็ก ..."
โครงการทันตสาธารณสุขในผู้สูงอายุ เริ่มมากจาก
ในส่วนของภาคีเครือข่าย อาจารย์อุทัยวรรณได้กล่าวไว้ว่า ชุมชนเป็นกลุ่มประชาชน ที่เป็นทรัพยากรธรรมชาติ ภูมิปัญญาท้องถิ่น มีผลผลิต ประเพณี วัฒนธรรม เป็นพี่เป็นน้อง การนำชุมชนมารวมตัว ร่วมคิด ร่วมทำ ร่วมจัดงาน ร่วมจัดบริการเพื่อประชาชน จะสามารถสร้างงานในด้านของการสร้างสุขภาพได้
การทำงานเป็นเครือข่าย จึงเป็นสิ่งสำคัญ ที่จะร่วมกันดำเนินงานได้สำเร็จ ตั้งแต่ สำนักทันตฯ ศูนย์อนามัย สสจ. รพท./รพช. ตำบล คือ รพ.สต. หรือ สอ. และชมรมผู้สูงอายุ ถึง ตัวผู้สูงอายุ ที่ต้องช่วยกันรับผิดชอบกันเป็นทอดๆ เพื่อการดูแลผู้สูงอายุในชมรม
นโยบายกระทรวงสาธารณสุข ได้ประกาศให้ ปี 2554 เป็น “ปีทองแห่งการดูแลสุขภาพช่องปากผู้สูงอายุ” เมื่อวันที่ 12 เมษายน 2553 โดย ท่านรัฐมนตรีจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏฺ เป็นการส่งสัญญาณว่า "เราจะดูแลสุขภาพผู้สูงอายุร่วมกัน"
จากกระแสพระราชดำรัสฯ ว่า “เวลาไม่มีฟัน กินอะไรก็ไม่อร่อย ทำให้ไม่มีความสุข จิตใจก็ไม่สบาย ร่างกายก็ไม่แข็งแรง” นำมาสู่การดำเนินงานทันตสาธารณสุขในผู้สูงอายุ ตั้งแต่โครงการฟันเทียมพระราชทาน และต่อเนื่องไปจนถึง ชมรมผู้สูงอายุ
และในปี 2554 เราจะมีเป้าหมายร่วมกัน ก็คือ
และมีข้อมูลแนวนโยบายต่อเนื่อง ก็คือ วิสัยทัศน์ 2570 บอกว่า ต้องเตรียมพร้อมที่จะรองรับประชากรสูงอายุที่จะเพิ่มขึ้น ซึ่งจะอยู่ในแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 11
วันที่ ๑๖-๑๗ พย. ที่ผ่านมาไปถอดบทเรียน ทีมงาน วิจัยของโรงพยาบาลอินทร์บุรี เกี่ยวกับการทำวิจัยค้นหา กระบวนการสร้างชุมชนปลอดบุหรี่ โดยดำเนินการในพื้นที่ ม. ๔ ต.ทองเอน อ.อินทร์บุรี ได้เห็นความเปลี่ยนแปลงของทีมโรงพยาบาลที่เข้าใจกระบวนการสร้างระะบสุขภาพ ชุมชน จากจุดเริ่มต้นที่ไม่แน่ใจว่าจะเป็นไปได้หรือ ที่ทำให้เกิดชุมชนปลอดบุหรี แต่ในปัจจุบัน การเรียนรู็ร่วมกันระหว่างบุคคลากร ทีมงานรพ.อินทร์บุรี ที่เป็นสหสาขา เรียนรู้ การสร้างสุขภาพในชุมชน ผ่านงานวิจัยเพื่อท้องถิ่น ที่ สกว.ให้การสนับสนุน เริ่มเกิด การมีส่วนร่วม ขอย้ำว่าอย่างแท้จริงของชุมชน ส่งผลให้เกิดการเริ่มมีการเลิก ลดละ บุหรี่ของคนในชุมชน เกิดการดูแลสุขภาพกันเองในชุมชน มีกิจกรรมเชื่อมโยงการดูแลผู้สูงอายุ การดำเนินงานเรื่องสภาพแวดล้อมในชุมชน โดยเริ่มจากธนาคารขยะ ที่ส่งผลให้หมู่บ้านสอาด มีรายได้เสริมจากการการคัดแยกขยะ เด็ก ผู้ใหญ่ ผู้สูงอายุ ใส่ใจดูแลสุขภาพกันเพิ่มมากขึ้น จากจุดเล้ก ๆ ของงานที่คาดหวังเรื่องบุหรี่ ขยายไปเชื่อมโยงการป้องกันโรค ต่าง ๆ ตามมาด้วย ก็เป็นบทเรียนที่อยากแบ่งปันร่วมกันครับ