ปีนี้ สคส. จัดมหกรรมการจัดการความรู้แห่งชาติ เป็นครั้งที่ 4 แล้วค่ะ ซึ่งจัดระหว่างวันที่ 30 พย.- 1 ธค.50 ที่ ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม อิมแพ็ค เมืองทองธานี ดิฉันขอเริ่มเรื่องเล่าสู่กันฟัง ถึงบรรยากาศเมื่อเปิดงานมหกรรม ด้วย วีดิทัศน์ : "เปลี่ยนกระบวนทัศน์ พัฒนาวัฒนธรรมการเรียนรู้" ละค่ะ
นี่คือบรรยากาศห้องประชุม ก่อนพิธีเปิดค่ะ มีภาพ อ.วิจารณ์ กำลังจับภาพผู้เข้าประชุมอยู่ด้วย
เรื่องเล่าจากวีดิทัศน์ ได้นำประเด็นของ 3 หน่วยงานที่ใช้ KM ในองค์กร แล้วเกิดการพัฒนาวัฒนธรรมการเรียนรู้ก็คือ
---------------------------------------------------------
อบต.ท่าข้าม ที่ก้าวข้ามการพัฒนาด้าน “วัตถุ” สู่การพัฒนา “ความรู้” ส่งผลให้ การเรียนรู้ของชุมชนในมิติใหม่ ... อบต.ท่าข้าม ปรับบทบาทจากเคยเป็นผู้จัดสรรงบประมาณดำเนินการ มาทำหน้าที่ "ผู้ประสาน" ความต้องการของชุมชน เอื้ออำนวย และสนับสนุนให้เกิดการมีส่วนร่วม ผ่านข้อเสนอ และโครงการฯ อันเกิดจากความต้องการของชุมชนท้องถิ่น
มีบางคำพูดที่นำเสนออย่างกินใจในวีดิทัศน์ค่ะว่า
- ทำให้คนในชุมชนมีกิจกรรมร่วมกัน ทำให้ชุมชนเกิดความแน่นแฟ้น จากการฟื้นฟูแระเพณีดั้งเดิม
- การตักบาตรเช้าแบบดั้งเดิมมาร่วมกันตักบาตร นำข้าวมากจากบ้าน รวมกันเป็นข้าวหม้อเดียว แกงหม้อเดียว ถวายแต่องค์พระสงฆ์ เป็นการร่วมกุศลธรรม ช่วยให้เกิดเนื้อแน่นของชุมชนเข้มแข็ง
- ให้ชุมชนเอื้ออาทรกัน เหมือน 30 ปี 50 ปีที่แล้ว
- พัฒนาแบบชุมชน การอยู่ร่วมกัน ใช้วิถีชีวิตแบบธรรมชาติดั้งเดิมที่เรามีอยู่ เป็นตัวเสริมให้เต็มตลอดเวลา
- เราเก่งทั้งหมด เก่งทั้งชาวบ้าน เก่งทั้งผู้นำ
---------------------------------------------------------
ที่กรมอนามัย ... ถ้าถามว่าทำ KM ไปทำไม เราก็จะพูดกันอยู่เรื่อยๆ ว่า ต้องการ 3 อย่าง 1 คือ งานดี 2 คือ คนมีความรู้เกิดขึ้น 3 เกิดวัฒนธรรมดีขึ้นในแง่ของการเรียนรู้
ตัวอย่างเล็กๆ ... เรื่อง ส้วมที่วัดศรีสมบูรณ์ มีห้องส้วมชายหญิงเกือบ 20 ห้อง สะอาดพร้อมรองรับญาติโยมที่มาได้อย่างเพียงพอ ... หนึ่งในสุดยอดส้วมที่ผ่านมาตรฐานของกรมอนามัย ผลงานของศูนย์อนามัยที่ 11 ที่ใช้วิธีการสนับสนุนส่งเสริม บนฐานทุนเดิมให้มีการเรียนรู้จากการปฏิบัติ ... เสียงจากผู้ใช้น่ะหรือ
- ดูสะอาดสะอ้าน น่าเข้า น่าประทับใจ
- ดีมาก เข้าแล้วสบายใจ
- ดี สามารถปลดทุกข์ได้สบาย
- ภูมิใจที่คนอื่นมีความสุขเหมือนเรา (ผู้ดูแลส้วม)
ส้วมไม่ได้เป็นแค่ส้วม แต่เป็นความทั้งสบายใจของคนถ่ายด้วย และที่สุขใจของเจ้าของพื้นที่ และเป็นเวทีเรียนรู้เรื่องสุขของสาธารณะ หรือสุขภาวะแบบเป็นองค์รวมได้ ... ทำให้ สุดยอดส้วม ทั้งที่วัดศรีสมบูรณ์ ปั๊มสาวดาว หรือสวนนายดำ ก็กลายเป็นตัวอย่างที่ดีเรื่องส้วม เป็นต้นทุนหมุนเปลี่ยนเรียนรู้
ข้อคิดจากชาวกรมอนามัยจาก KM เรื่องส้วมนี้น่ะหรือ
- ผมเชื่อว่า เป็นผลจากความดีที่เขามีอยู่ เพียงแต่ว่า concept KM ทำให้เขาเห็นคุณค่า เพราะว่ามันดึงออกมาได้ดีขึ้น ... (นพ.สมศักดิ์)
- พอเจอคนที่ทำสำเร็จ เหมือนหา tacit ให้เจอ ก็ให้ไปเรียนรู้สิว่า ไม่ใช่สำเร็จอย่างนั้นเท่านั้น แต่มีเคล็ดอย่างไร อะไรคือบริบทที่ทำให้เขาเปลี่ยน ... (ศรีวิภา)
- เป็นวิธีการทำงาน การเตรียมการ ที่เราไม่เอาแต่เพียงความรู้ที่เป็น explicit k ที่อยู่ในตำรา แต่เริ่มด้วยการฟังประสบการณ์ หาความรู้ที่สะสมอยู่ภายใน ของทุกคนมาเล่า ... (นพ.ณรงค์ศักดิ์ - อธิบดีกรมอนามัย)
การทำงาน ทำให้เกิดการเรียนรู้ที่เปลี่ยนบทบาท จากที่เคยเป็นข้าราชการในกรมแบบวิชาการ สะสมความรู้ไว้ แล้วเอาไปขายเป็นการเรียนรู้ด้วยการแลกเปลี่ยน
เป็นความสำเร็จที่ย้อนกลับไปตอบเป้าหมาย 3 ข้อของการทำงาน KM ของกรมอนามัย คือ สร้างคนให้เก่งขึ้น จนทำงานได้ดีเกิดประสิทธิผล เกิดวัฒนธรรมการเรียนรู้ เพื่อพัฒนาต่อได้ไม่หยุด โดยมีแนวคิดจากท่านผู้บริหารค่ะว่า
- กรมฯ เอาจริงเอาจัง ลปรร. กันในเรื่องของ KM ที่อยู่ในระบบของเรา จะเหมือนเส้นเลือดต้องสูบฉีดตัว knowledge ไปสู่ทุกจุด ... (นพ.ณรงค์ศักดิ์ - อธิบดีกรมอนามัย)
- เป้าหมายของผมในการทำงานก็คือ ทำยังไงก็ได้ ให้เกิดความสุขบนความสำเร็จ และเรื่องของ KM ทำได้ทั้ง 2 ส นี่เลย (รองอธิบดีฯ นพ.โสภณ)
- พูดตรงๆ ก็คือ เขาน่าจะมีความเชื่อกันมากขึ้น เขาน่าจะเห็นพลังของภาคีมากขึ้น ก็จะพบว่า การทำงานน่าจะง่ายขึ้นนะ ... อันนี้เราได้เห็นในหมู่ของคนกรมอนามัย (นพ.สมศักดิ์)
พบเหตุ พบผล ในวงจรธรรมชาติของปัญญาปฏิบัติ พบความสุขจากความสำเร็จ พบประโยชน์จากการทำสิ่งดี พบคุณค่าเมื่อเดินไปจนถึงที่สุดของการเรียนรู้และพัฒนา เป็นคนเก่งขึ้น เป็นประโยชน์มากขึ้น เป็นมนุษย์ที่พัฒนาได้ มีปัญญา และมีความสุข
---------------------------------------------------------
วัฒนธรรมจัดการความรู้ (สึก) โรงเรียนเพลินพัฒนา
การสั่งสมบทเรียนจากการปฏิบัติอันยาวนาน ผ่านทฤษฎีการศึกษา ... ผู้ก่อตั้งได้วางวิสัยทัศน์ นำบทเรียนให้เป็นชุมชนแห่งการเรียนรู้ ผ่านกระบวนการทางวัฒนธรรม และเหมือนว่า มุ่งสู่เป้าหมายไม่ยาก
- เพลินพัฒนาพบคุณความดีที่มีอยู่ในคนเล็กๆ คือ คนที่เป็นครู
- การเรียนรู้ของเด็ก ก็เป็นการเรียนรู้ของครู เพลินพัฒนาเอา story telling มาใช้ในการปฏิบัติ จัดวงแลกเปลี่ยนเรียนรู้ของครูอนุบาล ทุกสัปดาห์ ทำให้เรื่องเล็กๆ ที่ดี ก็ขยายพลังออก
- การจัดการความรู้สอนเรา ... ให้มองอะไรเล็กปลายทางนั่นแหล่ะ เราเริ่มเล็กๆ จะไปสร้างความสำเร็จและการเรียนรู้ระหว่างกันได้
- เราเชื่ออยู่ภายใน เชื่อในศักยภาพของคน พอได้พบ ได้รู้จัก กระบวนการจัดการความรู้ ก็ ใช่เลย มันตรงกับกระบวนการคิด และน่าจะเป็นวิธีนำคุณค่าของแต่ละคนมา sharing มันเหมือนกับ ไม่ให้ไม่ได้ ... หรือยิ่งเปิดโอกาส ยิ่งเห็น
- ทุนดี คือ คนดี ครูดี ลงไปอยู่ในวงจร ลปรร. คู่กับไปในการปฏิบัติทุกวง รอบสัปดาห์ เปลี่ยนเรื่องเล็ก เรื่องใกล้ เริ่มขยายกลายเป็นเรื่องใหญ่ ทางเล็ก ทางแคบ สานกันเป็นแถบกว้าง ที่สอดสานกับแรงใจ ความดีตีคู่กับความเก่ง ความรู้ตีคู่กันไปกับความรัก ถักทอ สั่งสม
- เราเริ่มจากความสุขเล็กๆ และค่อยหยอดกระปุกไปเรื่อยๆ
- เพราะค้นพบความรู้ อันเป็นความลับของการเดินทางไกล คือ เก็บความสุขปลายทาง จากการทำงานทุกวัน ไกลแค่ไหนไปถึงแน่ ไม่มีวันหมดแรง
- ความสุขเล็กๆ มันก็ส่งกระแสผ่านไปยังเพื่อนๆ ภายในกลุ่ม ก็ทำให้ในกลุ่มนี่มีแต่ ความชื่นใจ และภูมิใจในความสำเร็จของเพื่อนๆ ... และพอเริ่มมีความสุข บรรยากาศก็เหนี่ยวนำกัน คนหนึ่งยิ้มต่อ อีกหลายคนยิ้มต่อ องค์กรก็ดีขึ้น
- เราจะพัฒนาคนในทุกๆ ด้าน ไม่ได้หมายความแต่ในห้องเรียน แต่ทุกคนที่เดินที่มีคุณค่าหมด มีการพัฒนาตนเองขึ้นมา และเป็นแบบอย่างซึ่งกันและกัน
แต่ละตัวอย่างของผลลัพธ์ ในประเด็นของ "เปลี่ยนกระบวนทัศน์ พัฒนาวัฒนธรรมการเรียนรู้" ... เป็นอย่างไรบ้างคะ
รวมเรื่อง Learn 4 Change ที่เมืองทองธานี
คุณหมอนนท์ขา
สรุปได้อย่างใจนึก (อิอิ) แต่เขียนไม่ได้ (ฮา)
กราบงาม ๆ พร้อมกอดอุ่น ๆ อีก 3 กอดนะคะ
มีหลายคนบอกว่าคุณหมอช่วยชีวิต
ฮา ๆ ๆ
ขอบคุณนะคะ