Learn 4 Change ที่เมืองทองธานี (26) ห้อง Lead & Learn - กรมราชทัณฑ์ - KM ยิ่งทำยิ่งสนุก ... ยิ่งทำยิ่งมัน


KM ไม่ใช่ว่า เราเอามาเป็นเครื่องมือ ในการเรียนรู้ แต่เราต้องเรียนรู้มันด้วย

 

ตอนที่ อ.ประพนธ์ ได้นึกถึงเมื่อครั้งที่ท่านอธิบดีนัทธี เคยพูดครั้งหนึ่งเหมือนกับว่า เดิมทีเดียวก็มีการจัดการความรู้ แต่พอจากราชการตื่นตัว ก็เริ่มทำกันจริงๆ จังๆ ผมจำได้ว่า ท่านบอกว่า ยิ่งทำยิ่งสนุก ยิ่งทำยิ่งมัน  และที่ท่านทำ ทำก่อน กพร. บังคับให้ทำด้วยซ้ำไป

ท่านอธิบดีนัทธี ก็ได้เล่าเรื่อง KM กรมราชทัณฑ์ให้ฟังต่อค่ะ ว่า

..... KM ไม่ใช่ว่า เราเอามาเป็นเครื่องมือ ในการเรียนรู้ แต่เราต้องเรียนรู้มันด้วย ... เรียนรู้ที่จะทำ KM ทำไปเรียนรู้ไป แรกๆ ก็ผิดๆ ถูกๆ แต่ขณะที่เราทำก็เรียนรู้ไปด้วย เรียนรู้ถึงวิธีการทำ ว่า ตรงนี้ไม่เหมาะกับบริบทของเรานะ ก็มาปรับใหม่ เรียนรู้ว่าตรงนี้ไม่เหมาะกับคนของเรา นะ

อย่างลักษณะของราชทัณฑ์ จะเห็นว่ามีองค์กรย่อยที่เป็นเรือนจำ กระจายอยู่ทั่วประเทศ หลายๆ แห่งก็มีเจ้าหน้าที่ 200 คนบ้าง 300 คนบ้าง 100 คนบ้าง 40 บ้าง ผู้ต้องหา ก็ 5,000 บ้าง 6,000 บ้าง  2,000 บ้าง ก็แยกย้ายกันไป

เพราะฉะนั้น การที่เราจะไปผลักดัน ให้มีการ ลปรร. หรือปรับเปลี่ยนเจ้าหน้าที่ทั้งหมด พร้อมๆ กันเป็นเรื่องยาก และผู้นำของแต่ละแห่งก็อาจจะไม่ไปอย่างที่เราต้องการก็ได้

เพราะฉะนั้น การขับเคลื่อนตรงนี้ ก็เลยต้องใช้วิธีการนำร่อง หรือหน่วยงานที่มีความพร้อม ดูผู้นำว่ามีความพร้อมแค่ไหน ที่จะมาปรับเปลี่ยนตรงนี้ และเราก็เริ่มเข้าไปให้เกิดการปรับเปลี่ยนในแต่ละที่

ในเรื่องของความพร้อม เพราะบางที่เรามีการจำแนกคนที่ทำผิด คนที่ร้ายๆ จะไปอยู่อีกส่วนหนึ่ง คนไหนที่ดีดี ดูแล้วพฤติกรรมไม่ก้าวร้าวก็อยู่อีกที่หนึ่ง จะควบคุม หรือผ่อนปรน ไม่ได้เน้นการควบคุมเป็นหลัก แต่จะเน้นการแก้ไขเป็นหลัก จึงต้องแยกระหว่างคนที่ต้องควบคุมที่เข้มงวด กับคนที่ให้โอกาส

ในส่วนของการนำ KM ไปใช้ ผมคิดว่า ในจุดที่สำคัญคือ เรื่องการเรียนรู้ไปด้วย จากตอนแรกที่ไปทำในเรือนจำ เราพบว่า เขาต้องมีการทำงานอยู่ 2 อย่าง เขาต้องมีการปฏิบัติหน้าที่ 24 ชม. คนก็ไม่พออยู่แล้ว เพราะฉะนั้นโอกาสที่เขาจะมาเรียนรู้จากภายนอก แทบจะไม่มีเลย เพราะฉะนั้น จุดที่นำไปสู่การเรียนรู้ การถ่ายทอด และ ลปรร. ที่เกิดขึ้นในตัวคน และเกิดเป็นวัฒนธรรมองค์กรได้ ก็คือ กลุ่ม CoP นั่นเอง ก็คือการใช้เทคนิคที่จะไปพยายามจัดตั้งขึ้น และก็ให้คนที่มีความรู้ในเรื่องเดียวกัน ได้มีโอกาส ลปรร. กัน

จากการที่ใช้เวลาในบางช่วง โดยเฉพาะตอนเย็นที่มีโอกาส ลปรร. กัน มีการทำ AAR มีการเล่าเรื่อง 5 นาที ก็ทำให้เกิดมีการที่จะถ่ายทอดความรู้ออกมา ... เราใช้วิธีการนี้ลงไปอย่างต่อเนื่อง

ในระดับเรือนจำ เราก็มาทำในลักษณะภาค อยู่ในภาคเดียวกันก็มา ลปรร. กันระดับภาค และระดับประเทศ ก็มาแลกเปลี่ยนในลักษณะข้ามองค์กร เอาระหว่างราชทัณฑ์ ไป ลปรร. กับหน่วยงานอื่น ที่มี KM ร่วมกัน และข้ามไปถึงระดับประเทศ คือ กรมราชทัณฑ์ของมาเลเซีย สิงคโปร์ ที่จะเรียนรู้ร่วมกัน

ตอนแรกๆ ก็จะมีเรื่องการเอาความรู้ไปอยู่ใน BOK คือ เรื่องของ Hardware คอมพิวเตอร์ เอกสารต่างๆ ตอนนี้ปรับที่อยู่ในตัวคนด้วย CoP และเรียนรู้เรื่องวัฒนธรรมองค์กร ... เพราะฉะนั้นที่ทำคือ ทำไปเรียนรู้ไป

รวมเรื่อง Learn 4 Change ที่เมืองทองธานี

 

หมายเลขบันทึก: 151878เขียนเมื่อ 6 ธันวาคม 2007 20:03 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 21:51 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท