Learn 4 Change ที่เมืองทองธานี (46) ห้อง Lead & Learn - กรมอนามัย - KM ฝังใจ


ทุกคนมีความสามารถในการเรียนรู้อยู่แล้ว ค้นให้มันเจอ ข้าราชการถูกระบบราชการทำให้ความสามารถหาย ถ้าเราทำ KM ด้วยเป้าหมาย ก็จะทำประโยชน์ได้มากมาย

 

มีคำถามว่า การใช้ KM ให้มีการสืบเนื่องต่อไปในอนาคต ถ้าเกิดมีการเปลี่ยนแปลงผู้นำ หรือเปลี่ยนนโยบาย จะทำอย่างไร

คุณศรีวิภา ตอบก่อนค่ะว่า

  • เมื่อไรที่เข้าสู่วิธีการทำงานอย่างที่ดิฉันเล่าให้ฟังว่า พอปี 51 ดิฉันเริ่มเห็นแผนที่มันเข้ามาอยู่ในมือ มันอยู่ในวิธีปฏิบัติแล้วนี่
  • แม้แต่ทีมกลางเอง แทบไม่ต้องมีแล้วก็ยังได้
  • เพราะ KM สามารถจะเดินได้ด้วยตัวเอง ผู้บริหารเปลี่ยนก็ไม่เป็นอะไร ... ดิฉันก็ทำ KM
  • เพราะจริงๆ แล้ว มันอยู่ในวิธีของการทำงาน แม้จะมีผู้บริหาร ถ้าเปลี่ยนไป ก็คือเข้าอยู่ในเนื้องานปกติ ไม่จำเป็น เรายังคุยกันในทีมงานกันด้วยซ้ำว่า พอมันเข้าไปอยู่ชีวิตปกติเมื่อไรแล้วนี่ กรรมการชุดนี้ก็ไปทำในสิ่งที่ท้าทาย และยากขึ้นกว่านี้ นะคะ

คุณหมอสมศักดิ์ ค่ะ บอกว่า

  • ยุทธวิธีของเราจะมีอยู่ 2 อัน ที่เราพยายามยึดตั้งแต่ปีแรกๆ หนึ่งก็คือ พยายามให้การใช้ KM ไปอยู่ในเนื้องาน และเราต้องวิเคราะห์งานให้ขาด ว่า งานที่เขาทำ อะไรคือ สิ่งที่จะทำให้เกิด และนำไปใช้
  • ขณะนี้เราก็มี 2 อัน ที่จะทำเฉพาะหน้า หนึ่งก็คือ การพยายามจะเอา Explicit knowledge + Tarcit knowledge ไปใช้ในการสังเคราะห์นโยบาย ซึ่งเรายังทำได้ไม่ดี เราอยากเห็นตั้งแต่ปีแรก แต่ยังไม่เห็น เราจะพยายามทำ
  • อันที่สอง คือ เราคิดว่า KM ถ้าเอาไปใช้ จะนำไปใช้ในการทำ Oragnization of Change ได้ PMQA เกือบทั้งหมดนี่ เอา KM ไปใช้ได้ เราจะลองกับเรื่อง HR ในปีนี้ อันนี้คือ ตัวอย่างซึ่งผมคิดว่า ทางทีมแกนก็จะพยายามคิดกันนะครับว่า จะรุกอย่างไร
  • อีกอันหนึ่งคือ คน แน่นอน เราพูดกัน ตั้งแต่ปีที่ 3 เป็นต้นมา เราทำให้ CKO เกิดความเข้าใจ คุณลิขิต กับคุณอำนวย ก็เกิดมาเป็นระยะๆ
  • แต่ถ้าเราให้เจ้าของงาน มาจัดการ เช่น งานส้วม งานตลาด มะเร็งเต้านม วัยทอง เขาสามารถเอา KM ไปใช้ในงาน เขาก็มีการพัฒนานโยบายเรื่องงานด้านภาคี แม้กระทั่งงานเคลื่อนไหว Educate ของกรมฯ นี่ หรือ Educate stakeholder เจ้าของงานพวกนี้ ถ้าเขาเอา KM ไปใช้เป็นวิธีการทำงานได้ ในที่สุดเขาก็ไม่ต้องรอ
  • ผมเข้าใจว่า เมื่อเป็นอย่างนั้นแล้ว เราหวังว่า จะเป็นอย่างนั้นได้จริง
  • แต่ที่แน่ๆ คือ พยายามซึมเข้าไปให้ทั่ว ไม่ได้ปล่อยให้มันอยู่ที่ Focus ใด Focus หนึ่ง หรือว่า หัวใดหัวหนึ่ง

อ.วิจารณ์ ท่านก็ฟันธงค่ะว่า ... คำถามคือว่า ทำ KM ยังไงให้มีการต่อเนื่อง

คำตอบของผมคือ

  • ฆ่ามันซะ นะ ... อย่าให้มี KM อีกต่อไป
  • ผมยกตัวอย่าง สิ่งที่เกิดขึ้นทางชีววิทยา เมื่อหลายล้านปีมาแล้ว มีแบคทีเรียตัวหนึ่งเข้าไปอยู่ในเซลล์ของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม อยู่มีความสุขมาก เพื่อความต่อเนื่อง ของแบคทีเรียตัวนั้น มันจึงเลิกเป็นแบคทีเรีย กลายเป็น Mitochondria อยู่ในเซลล์ของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม และเดี๋ยวนี้ก็อยู่ในตัวของพวกเราทุกคน ไม่ได้เป็นแบคทีเรีย เรียกว่า เป็นตัว Mitochondria เป็นแหล่งพลังงานที่อยู่ในร่างกาย
    ไม่จำเป็นต้องเรียก KM มันเป็นเครื่องมืออย่างหนึ่งที่ทำให้ องค์กรมีพลัง ทำให้คนมีความสุข มันก็อยู่ได้ 

คุณหมอสมศักดิ์ ... ขอพูดประเด็นนี้ปิดท้ายว่า

  • เวลาผมทำ KM นี่ ผมคิดว่า อย่างที่อาจารย์พูดว่า มันเป็นเพียงชื่อที่ทำให้สื่อกันได้ คนหลายคนหันมาสนใจ เพราะว่า กพร. อยากให้ทำ
  • แต่ concept จริงๆ ของผม ก็พยายามจะบอกว่า เหมือนกับที่ผมเคยรู้ตั้งแต่สมัยเด็กๆ ว่ากาลิเลโอเคยบอกไว้ว่า “You cannot teach a man anything. You can only help him discover it within himself.”
  • คือว่า ทุกคนมีความสามารถในการเรียนรู้อยู่แล้ว ค้นให้มันเจอ ข้าราชการถูกระบบราชการทำให้ความสามารถหาย ถ้าเราทำ KM ด้วยเป้าหมาย ก็จะทำประโยชน์ได้มากมาย

จบแล้วค่ะ วันนี้ที่ห้อง Lead & Learn ของกรมอนามัย ...  ด้วยความหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ทุกท่านคงได้เกิดการเรียนรู้กันมากมาย ไม่ต้องเหมือนกันหมดซะทุกอย่างดอกค่ะ เพราะว่า "KM ไม่ทำ ไม่รู้"

รวมเรื่อง Learn 4 Change ที่เมืองทองธานี

 

หมายเลขบันทึก: 152290เขียนเมื่อ 8 ธันวาคม 2007 21:20 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 21:53 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)
  • ขอบคุณมากครับ
  • แล้วจะแวะมาค่อย ๆ ย่อยครับ...อิอิ
  • ดีใจค่ะ ที่ อ.Panda เข้ามาเยี่ยมบ่อยๆ
  • อ่านแล้วยากไหมคะ เพราะว่าเรื่องราวมัน ยาว ย๊าว ยาว แต่ว่าตัดไม่ลง
  • ขอบคุณค่ะ
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท