ของแม่เมาะนำมาเล่ายากจังค่ะ เพราะเขาคุยกันไป เล่ากันไป ถ้าจะสรุปประเด็นก็คงไม่สนุก ตัดเป็น Short short ที่เขาคุยกันก็แล้วกันนะคะ
คุณชรินทร์เริ่มไว้ค่ะว่า
... ผมอยากให้เห็นกิจกรรมบางส่วนพอเป็นสังเขป ว่าเราเดินตามแนว สคส. ได้อย่างไร เพราะว่า ยากก็ยาก ง่ายก็ง่ายครับ (ตอนนี้นำเรื่องด้วย VDO นะคะ มีเสียงบรรยายครบทั้ง 3 ท่านเลย ฟังดูก็รู้เรื่องไปด้วยละค่ะคุณจิระชัย
... VDO นี้เป็นภาพที่เราจัดกิจกรรม KM Workshop ซึ่งก่อนที่จะเข้าสู่กระบวนการเนื้อหา เราจะมีคล้ายกับ Walk Rally ให้เป็นการละลายพฤติกรรม กับผู้ที่เข้ามาอบรม มีเกมให้เล่นคุณพินิจ
... เพื่อให้เขาเปิดใจกันก่อน ได้รู้จักกัน รู้ใจกัน เราเปิดใจกันด้วยวิธีการให้คุ้นเคยกันคุณชรินทร์เสริม .... มีแต่รู้จักกันในวงเหล้า
คุณพินิจ ... มีแต่เคยเห็นหน้ากัน
คุณจิระชัย
... เราจะใช้วิธีเชิญผู้บริหารไปทำพิธีเปิด เพื่อให้ท่านมีส่วนร่วมในกระบวนการตรงนี้ และเราใช้วิทยากรภายในทั้งหมด เราจัด 16 รุ่น อบรมไปแล้วทั้งหมด 800 คน ปีที่ผ่านมาอ.วิจารณ์แซวค่ะ ... ที่เป็นวิทยากรภายใน เพราะว่าเชิญ สคส. แล้วไม่ไปใช่ไหมครับ (เรื่องนี้เขาบอกว่า มันมีความหลังฝังใจ ...)
คุณชรินทร์
... การอบรมเชิงปฏิบัติการของไฟฟ้าแม่เมาะนี่ค่อนข้างจะไม่เหมือนชาวบ้านเขาเท่าไร เพราะว่ามันเป็นทีเล่นทีจริง ถ้าจะบอกว่า อบรมไปแล้วอบรมเลยก็ไม่เชิง เพราะตอนที่เราทำ Workshop ลปรร. หรือตลาดนัดกันนี่ ผลที่ได้จากการทำตรงนั้น เอาไปใช้จริงๆ ได้เลย เพราะเรื่องที่เอามาทำตลาดนัด มันเป็นเรื่องที่เกิดจากการทำงาน และเป็นเรื่องจริง เพราะฉะนั้น วันอบรม เลยอบรมแบบทีเล่นทีจริง และเทคนิคนี้แนะนำให้นำไปใช้ เพราะไม่งั้นมันจะเสียเวลาในการอบรมคุณจิระชัย
... จริงๆ แล้ว ก็เอามาจากตำราของท่านอาจารย์วิจารณ์ครับ พูดตรงๆ ก็คือ เราแทบจะเรียกว่า เปิดตำราของอาจารย์วิจารณ์ทำ ด้วยความที่ว่าเจ็บใจ เชิญแล้วไม่ไป เลยเปิดตำราทำซะเลยคุณพินิจ
... เราออกแบบแนวกระบวนการจัดการความรู้ เราออกแบบโดยเปิดตำราการจัดการความรู้ฉบับนักปฏิบัติที่ออกมา เมื่อปลายปี 48 นะครับ ตั้งแต่นั้นมาเราก็เริ่มศึกษา ตอนกลางปี 49 เราทำรุ่นที่ 1 KM ครั้งแรกของเราเลย เราเริ่มทำ Workshop ครั้งแรก และทำไปเรียนรู้ไปคุณชรินทร์
... ราคาเล่มละ 199 บาท ยังมีขายอยู่นะครับ ขายดีมาก พิมพ์ครั้งที่เท่าไรครับคุณพินิจ
... ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน ที่มีปลาเยอะๆ น่ะครับ ฉบับที่เป็นธารปัญญาอยู่หน้าปกละครับ ไหนๆ ก็พาดพิงมาแล้ว ก็ต้องเล่าให้ฟังหน่อยนะครับ มันเริ่มต้นมายังไง พี่ชรินทร์ (คุณพินิจเริ่มทำหน้าที่พิธีกรแล้วละค่ะ อ.วิจารณ์นั่งฟังสบายไปเลย)คุณชรินทร์
... ผมจะเล่าถึงเส้นทางความเป็นมาก็แล้วกันนะครับ ทีนี้ concept ของห้องนี้ มันเป็น Lead & Learn คือ คำว่า Lead มันก็เป็นไปได้ว่า จากระดับสูงลงมา ของเราก็สูงเหมือนกัน แต่ว่า สูง 175 ซม. ก็คือ กลางๆ ลงมา เพราะว่าในเรื่องของ KM แล้ว มันไม่มีอะไรถูก ไม่มีอะไรผิด แต่ว่าทำแล้ว ผลจะออกมาน้อย ออกมามาก คุ้มค่ากับเงินที่ใส่ไปหรือเปล่า มีแค่นั้นนะครับ
... โรงไฟฟ้าแม่เมาะเองเริ่มจาก ภารกิจการที่เราเป็นศูนย์เชี่ยวชาญ คือ การไฟฟ้าตอนนั้น สร้างศูนย์เชี่ยวชาญมาอยู่สัก 5 ศูนย์ และโรงไฟฟ้าแม่เมาะ เป็นหนึ่งในศูนย์เชี่ยวชาญ 1 ใน 5 เป็นศูนย์เชี่ยวชาญโรงไฟฟ้าถ่านหิน ซึ่งมีภารกิจหลักอันหนึ่งคือ ไม่รู้ภารกิจหลักหรือเปล่า ก็คือเรื่องจัดการความรู้ ซึ่งผมเองตอนนั้น ผมบอกตามตรงเลยว่า ภารกิจหลักยังไม่ต้องทำก็ได้ ตอนนี้ผมหาสตังค์ก่อน
... เพราะว่า ในภารกิจของศูนย์เชี่ยวชาญ มันมีเรื่อง Engineering เรื่องเทคโนโลยีสารสนเทศ มีหลายเรื่องเลย และตอนนั้นโรงไฟฟ้าค่อนข้างมีปัญหาเยอะ ก็เลยหาสตังค์ก่อนก็แล้วกัน นะครับ แต่ว่าเราก็ไม่ได้ละเลยเรื่องการจัดการความรู้ครับ
... ก็พยายามศึกษา ทั้งๆ ที่ ไม่รู้ ว่ามันเป็นอะไร รู้อยู่อย่างหนึ่งว่า มันไม่ใช่ Yellow pagest แน่นอน ก็คุยกับทีมงาน ไม่ใช่ เพราะว่าถ้ามันใช่ มันก็คงทำกันไปหมดแล้ว ผมไปคุยกับทางผู้ที่ทำหน้าที่ฝึกอบรม บอกว่า ผมมีความพร้อมที่จะทำ แต่ผมไม่รู้ว่า ทำอย่างไร
... ตอนนี้หลังจากนั้นมา เราก็มีที่ปรึกษา เดินไป ครั้งแรกที่เราเริ่มทำ เราคิดว่า Knowledge Capture โดยใช้เครื่องมือที่เรียกว่า CommonKabCAD คำว่าKabCAD ย่อมาจาก Knowledge Design (คนบันทึกก็ยังงงๆ นะคะ ตรงเนี่ยะ ???)
... CommonKabCAD เป็นเครื่องมือที่ก็ดีนะครับ แต่ว่า มันไม่ถูกจริตกับโรงไฟฟ้า เราทำอยู่เป็นปี ก็เห็นว่า มันไปไม่ได้ เพราะมันไม่รู้จะเดินยังไงต่อแล้ว มันตันไปหมด คนที่ทำ KM จะเห็นเอง แต่ต้องทำ ถ้าไม่ทำ ไปคิดเอาเอง จะไม่เห็นหรอกครับยุคแรกค่ะ ยังไม่ได้เข้าไปปิ๊ง กับ สคส.
รวมเรื่อง Learn 4 Change ที่เมืองทองธานี
ไม่มีความเห็น