เยี่ยมเสริมพลัง ศูนย์อนามัยที่ 8 นครสวรรค์ (32) KM ไร้พุง ... ผู้นิเทศก็ต้องไร้พุงนะจ๊ะ


ตอนนี้ แรงจูงใจ ณ ปัจจุบัน คือ เสียดายถ้าเรามีน้ำหนักที่เพิ่มขึ้น เสียดายสิ่งที่เราทำทั้งหมดที่ผ่านมา ถ้าเราปล่อยวันนี้ มันจะทำให้น้ำหนักเราขึ้นแน่ๆ

 

พี่นัด บอกว่า

  • จุดเริ่มที่อยากออกกำลังกายเพื่อลดน้ำหนัก
    ... เพราะว่า ผอ.มอบหมายให้เป็นผู้นิเทศ
    ... จะต้องออกนิเทศร่วมกับผู้ตรวจ
    ... และมีตัวชี้วัดตัวหนึ่ง ก็คือ ไร้พุง
    ... ทีนี้เราออกไปตามนิเทศเขาก็จะอายเขานะ
    ... เราก็เลยว่า มันจะต้องทำอะไรสักอย่าง
    ... ก็เริ่มต้นตามทฤษฎีเป๊ะเลย ... อาหาร ... ออกกำลังกาย อาหารก็ลดพวกหวานมันเค็ม ตามทฤษฎี
    ... ส่วนเรื่องการออกกำลังกาย หาหลายวิธี
    ... และมาลงตัวครั้งแรกที่ ปั่นจักรยาน ฟิตเนส ก็ใช้วิธีเดียวตลอด
  • หลังจากที่ย้ายมาที่นี่เมื่อวันที่ 3 มค.50
    ... มาด้วยน้ำหนัก 72 กก.
    ... รอบเอว 90 มาตรฐานชายไทย
    ... และหลังจากนั้นก็ออกกำลังกายสม่ำเสมอ ออกทุกวัน
    ... และควบคุมอาหาร
    ... จนไปเข้า course ของเขาด้วย
    ... ทีมไร้พุงทีมของคุณมาลินี
    ... เบื้องต้นก็ได้ผล
    ... ในช่วง 8 เดือน นน. ลดไป 8 กก.
    ... และก็ยังคงรักษาระดับอยู่ประมาณนั้น
  • และระยะหลังผ่าตัด จากที่ นน. ลดลงไปพบว่า ตัวเองมีก้อนอยู่ที่ท้อง เพราะว่าหนังท้องมันบางลง นอนดูทีวีก็คลำท้อง ก็ไปเจอก้อนอยู่ที่ท้อง มาพบแพทย์ อัลตร้าซาวด์ดู ก็พบว่ามีทั้งหมด 6 ก้อน สุดท้ายก็ตัดทั้งหมดออกไป
  • และหลังจากที่ผ่าตัดแล้ว นน. อยู่ที่ 60 กก.
  • จากวันที่ผ่าตัดจนถึงวันนี้ ก็เกือบปีแล้ว ก็ยังรักษาสภาพอยู่ที่ 60 จนทุกวันนี้
  • และได้มีการเปลี่ยนวิธีการออกกำลังกาย จากการปั่นจักรยาน มาเริ่มเดิน
    ... ก็เดินจากที่เข้าโครงการของที่มา รพ. เขาทำ
    ... ก็เดินรอบแรก ในโครงการรอบแรก ก็ดีเหมือนกัน
    ... ก็ยังไม่ค่อยชอบนักในความรู้สึกของตัวเองว่า มันค่อนข้างน่าเบื่อ
    ... เพราะว่าเดินกับกลุ่ม ก็เดินไม่ค่อยทันเขา
    ... ก็จะเดินสวนคนอื่น ก็จะได้เจอเขาบ้าง
    ... เพราะว่าถ้าเดินตามเขา ก็จะไม่เจอเขาเลย
    ... ก็เลยเดินกลับกับคนอื่น ก็จะเจอเขาเป็นประจำ
  • และก็ตอนแรกๆ ก็จะมีปัญหาอุปสรรค ว่าเดินแล้วมันชามือ เพราะว่าเวลาเดินเราก็จะมองพื้น ทีหลังลองปรับตัวเองใหม่ และมันก็หาย หลังตรง หน้าเชิด และก็ไม่มีอาการนั้นอีกเลย
  • และจะมีอีกอย่างหนึ่ง คือ ครั้งแรกที่ออกกำลังโดยการปั่นจักรยาน เวลาไปราชการต่างจังหวัด ก็ไม่ได้ทำ
  • ทีหลังเปลี่ยนเป็นวิธีเดินนี่ ก็พกรองเท้าไปคู่หนึ่งตลอด ไปเดินออกกำลังกาย ก็ทำให้เรารู้สึกว่า แม้ว่า ช่วงหลังน้ำหนักเราไม่ได้ลดลงแล้ว แต่รู้สึกว่า เวลาเดินจะกระฉับกระเฉง มัน firm ขึ้นค่ะ

ตอนนี้ แรงจูงใจ ณ ปัจจุบัน คือ เสียดายถ้าเรามีน้ำหนักที่เพิ่มขึ้น เสียดายสิ่งที่เราทำทั้งหมดที่ผ่านมา ถ้าเราปล่อยวันนี้ มันจะทำให้น้ำหนักเราขึ้นแน่ๆ เพราะว่าโดยธรรมชาติของวัยเรา มันมีโอกาสขึ้นอยู่แล้ว ถ้าเราไม่รักษา ก็เสียดายสิ่งที่เราได้มาถึงขนาดนี้ เลยต้องทำตัวเองให้ต้องออกกำลังกาย อย่างอยู่ที่บ้านช่วงหลังมันไม่ได้ออกกำลังกายโดยวิธีเดิน ก็จะใช้วิธี Twist & Chake ช่วย และวิธีเดิน อย่างที่น้องกุลยาบอก คือเดินท่า ชูไขว้มือ ก็ได้ผลเยอะ

และอีกอย่างหนึ่งก็คือ ถ้ามีใครสังเกต จะเห็นว่า เวลาประสานงานไม่ชอบโทรศัพท์ จะวิ่งขึ้น วิ่งลง นอกเสียจากเวลาด่วนๆ ก็จะโทรศัพท์ หรือว่าไม่มีเวลาจริงๆ หรือถ้ามีเวลาชอบประสานโดยการโทรไปหา เราได้เดินด้วย และได้คุย และสบตากันด้วย

ส่วนปัจจัยความสำเร็จ

  • คนแรกที่ช่วยให้สำเร็จตรงนี้คือ สามี
  • เมื่อก่อนพักอยู่กันคนละที่ เขาจะโทรศัพท์มา
  • ... นี่ ตัวเองออกกำลังกายแล้วหรือยัง ... เขาจะโทรมาเป็นประจำ
  • อันนี้ก็คือ ปัจจัยหนึ่งที่ทำให้เราทำได้สำเร็จ
  • และอีกปัจจัยหนึ่งก็คือ เพื่อนฝูง หรือคนที่รู้จักกัน ว่า
  • ... อุ๊ย ทำยังไง ...
  • เขาชมเรา
  • เราก็ภูมิใจว่า เราทำได้
  • นั่นคือ แรงผลักที่สำคัญ

Fa แซวเล็กน้อยค่ะว่า ... ของพี่เขา ต้องขอบคุณกรอบงานที่เป็นภาคบังคับ และทำให้เรารู้สึกว่า เราต้องดูแล

รวมเรื่อง เยี่ยมเสริมพลัง ศูนย์อนามัยที่ 8 นครสวรรค์

 

หมายเลขบันทึก: 191643เขียนเมื่อ 1 กรกฎาคม 2008 20:10 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 00:50 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท