คุณฉัตรลดา นำกิจกรรมทำ Roadmap KM ของกรมอนามัย V1 (ก็ version ที่ 1 ไงคะ เพราะว่าจบด้วย Roadmap อย่างไรนั้น คงต้องรอสรุปกิจกรรมละค่ะ) พวกเรา 3 กลุ่ม ก็เม้าท์กันกระจาย แบบว่า เมื่อรู้จักมักจี่กันดีแล้ว คราวนี้ก็คุยกัน แบบว่า คนนั่งฟังก็อ้าปากหวอกันละ (หรือว่า มันเป็นกลุ่มของดิฉันเองหรือเปล่าก็ไม่รู้ละค่ะ อิอิ)
ของคุยกลุ่มคุยกัน ดิฉันคงต้องรอให้ทีมสรุปมาให้ แต่สิ่งที่สามารถนำมาเล่าสู่กันฟังต่อได้ ก็คือ สิ่งที่ อ.หมอสมศักดิ์ บอกเล่าความคิดให้เราฟังกัน เป็นเช่นใดนั้น มาลองฟังกันไหมคะ ... อาจจะได้ประเด็นเรียนรู้ที่ดีดี เยอะเลยก็ได้นะคะ
สิ่งที่ อ.หมอสมศักดิ์ เล่าให้ฟังไว้ก็คือ
อนาคตระยะยาว เราคงอยากเห็นกรมอนามัยเป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้ที่ทำหน้าที่สร้างสังคมแห่งการเรียนรู้ ... เราอยากเป็นตัวทำให้สังคมเกิดการเรียนรู้ในเรื่องของ Health promotion และเป็นการเรียนรู้ที่เกิดขึ้นทั่วทุกมุมของประเทศไทย หรือ version ภาษาอังกฤษ ท่านว่า "Roadmap : DOH as LO working to create Learning Society (create – synthesis & research share and use) in different corners using HP as entry point"
Milestones รายทาง ก็คือ
ถ้าคิดเชิงเป้าหมายรายทาง เราไปเปลี่ยนเป็นเป้าหมายตัวเอง ก็จะมุ่งไปสู่เป้าหมายเดียวกัน ก็คือ กรมอนามัยเป็นที่รักของคนในสังคม ภายใต้ ความเป็นจริงที่กรมอนามัยเอง ก็รักตัวเอง มีความสุข และเรียนรู้ตลอดเวลา … เรารู้วิธีการทำงาน ที่ไม่ได้ทำตามแค่คำสั่ง แต่ทำไปฉลาดไป ทำให้มีความสุข
ทำ KM แล้วมีความสุข ... ความสุขน่าจะมี 3 อย่าง
ถ้าเราทำ KM เป็น น่าจะได้ความสุขทั้ง 3 อย่าง หรือไม่ก็ได้อย่างใดอย่างหนึ่ง
... ถ้าเราฉลาดขึ้น ถ้าองค์กรของเราเป็นองค์กรทางการเรียนรู้มากขึ้น มันจะเป็นประโยชน์ต่อใคร ... เราก็หวังว่าจะมีประโยชน์ต่อส่วนรวม ... ก็ต้องถามต่อว่า มีประโยชน์ต่อส่วนรวมอย่างไร ก็ขึ้นกับว่า องค์กรมีภารกิจอะไร ... และผมก็ได้แต่หวังว่า ถ้าพวกเราเข้าใจตรงกัน ว่า ภารกิจของเรา ทำให้สังคมเข้มแข็ง เพราะสังคมสามารถมีความรู้ และเรียนรู้เรื่อง Health Promotion ได้ นั่นก็ย่อมเป็นหน้าที่ของเรา
“เราเป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้ เพื่อไปให้บริการ ให้ประชาชนมีสุขภาพดีขึ้น” ... ขึ้นกับว่า เรียนรู้เพื่อไปทำภารกิจอะไร การเรียนรู้ทำให้เราได้ไปสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้ ก็ไม่เหมือนกับการเรียนรู้เพื่อไปให้บริการคนอื่นเขา
ถ้าภารกิจขององค์กรเรา คือ ทำให้เขาเก่งขึ้น คือ ยอมรับ และรู้จักความเก่งของเขา ทำดีดี แล้วเขาจะเก่ง ไปสอนเขาไม่เก่งหรอก ให้เขาได้ ลปรร. ลงมือทำ เขาก็เก่ง เราก็เก่ง
ถ้าภารกิจขององค์กรของเรา คือ การ empower คนอื่นๆ คือ การทำให้สังคมเรียนรู้ การใช้กระบวนการ ลปรร. ยิ่งสำคัญใหญ่ในการทำงาน ไม่ใช่กระบวนการ lecture concept เราคือ สร้างคนให้เข้าใจกระบวนการตรงนี้ให้ได้ และพวกเราคงจะเห็นความสำคัญของทุกกอง ทุกสำนัก ทุกศูนย์ฯ
ครูสมัยใหม่ ไม่ใช่แหล่งความรู้ ... ต้องเป็นแหล่งของแรงบันดาลใจให้เกิดการเรียนรู้
เราก็เปรียบเทียบกับอาชีพครูก็ได้ ว่า เราต้องไปสร้างแรงบันดาลใจให้กับภาคีของเรา และวิธีสร้างแรงบันดาลใจก็ใช้เทคนิคนิดหน่อย คือ การ ลปรร. ชี้ว่า เขาเองก็เรียนรู้เป็น ชี้ให้เขารู้ว่า เขามีคนที่ไปเรียนรู้ได้เยอะแยะ ทั่วสังคม ไม่ต้องไปอ่านตำรา ไม่ต้องเรียนมหาวิทยาลัยเท่านั้น
ขอบคุณที่เข้ามาให้กำลังใจ เรื่องการลงรูป
เรื่องการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ นั้นก็คงต้องใช้เวลาเพื่อให้มันแทรกซึมเข้าไปในจิตใจ
อาจารย์คะ