ยุทธการล่าขุมทรัพย์ความรู้กรมอนามัย (13) องค์กรแห่งการเรียนรู้ ตอนที่ 11 ทำให้เหมาะสมกับบริบท


 

การจัดการความรู้ ต้องทำให้เหมาะสมกับบริบท

การจัดการความรู้ ที่บอก ... เราต้องรู้ข้อมูล ... ในเรื่องส่งเสริมสุขภาพ กรมอนามัยต้องรู้ว่า วิธีการไปทำให้คนปกติไม่ป่วย ... พอถึงกรมควบคุมโรค เขามีหน้าที่หากลุ่มเสี่ยง ยังไม่เป็นโรค เสี่ยงต่อการเกิดโรค และไปป้องกันคนกลุ่มนั้น

เช่น เรื่องโรคอ้วน ... หน้าที่ของกรมอนามัย คือ ทำให้คนไม่อ้วน หรืออ้วนแล้ว ก็ให้ลดลงได้ ตอนที่ยังไม่มีโรค ... หน้าที่ของกรมควบคุมโรค คือ เมื่อเจอคนอ้วนแล้ว ยังไม่เป็นโรค ทำยังไงไม่ให้เขาเป็นโรค ต้องไปหาดูว่า มียีนเป็นเบาหวานไหม มีพฤติกรรมอะไรที่เป็นความเสี่ยงความดันโลหิตสูง หัวใจขาดเลือดไหม ... แต่พอเป็นโรค จะเป็นเรื่องของกรมการแพทย์ ก็ต้องไปดูว่า เป็นโรคแล้วรักษาอย่างไร เพื่ออะไร เป็นเบาหวานทำอย่างไรไม่ให้ตาบอด ทำอย่างไรไม่ให้ไตวาย ... และกรมสุขภาพจิตก็มานั่งดูแลเรื่องสุขภาพจิตใจ ... ทุกๆ เรื่อง มันมีหน้าที่ของแต่ละส่วน ... จะอยู่เหลื่อมกัน ก็ไม่เป็นไร ก็ถือว่าช่วยกันทำงาน

เราก็หาเป้าหมาย คือ ทำให้คนธรรมดาไม่เป็นโรค ก็คือ การส่งเสริมสุขภาพ และเราก็ต้องรู้ว่า การทำให้คนธรรมดาไม่เป็นโรค จะต้องทำอะไรบ้าง แต่การที่เราได้ความรู้มาแล้ว ข้อสุดท้าย ก็คือ ทำอย่างไรให้มันเกิดการปฏิบัติ นี่เป็นเรื่องที่ยากที่สุด

มีเรื่องเอกสารความรู้ เช่น เรื่องแม่และเด็ก แจกเยอะแยะ แต่ไม่ค่อยมีคนขอ แต่ผมเห็นหนังสือของเอกชนพิมพ์ออกมา ขายได้ดี แต่หนังสือของเราทำไมไม่มีคนมาซื้อ หรือเพราะว่ามันเป็นการแจก แต่ไม่ได้ขาย

แต่ผมมองอีกแง่หนึ่งว่า ... วิธีการนำเสนอของเขา ดีกว่าเรา และเขามีกลุ่มเป้าหมายที่ชัดเจนกว่า กลุ่มเป้าหมายของเขาก็คือ คนที่มีความรู้ มีฐานะ และเข้าถึง อาจผ่านทางโฆษณา ทำให้คนเหล่านั้นเขารู้สึกว่า อยากจะได้ หรือว่าเราแจกไม่ทั่วถึง ?

เป็นตัวอย่างว่า จริงๆ แล้วองค์ความรู้ที่เรามีอยู่ มีเยอะ และเป็นสิ่งที่ดีดี ... เราอาจต้องไปดูว่า องค์ความรู้ที่เราได้มา นำไปสู่การใช้ที่ดี มากน้อยแค่ไหน ก็คือ ของเราเป็นข้อแนะนำ ข้อปฏิบัติ มันห้วนไปหรือเปล่า ไม่ได้บอกว่า ทำไมต้องไปฝากครรภ์ ไม่ได้บอกว่า ทำไมต้องไปลดเค็ม หรือบอกแล้ว ไม่เข้าใจ

เดี๋ยวนี้ ประชาชนรู้สึกว่า การฝากครรภ์เป็นเรื่องที่จำเป็น เราไม่ต้องอธิบายแล้ว

แต่เรื่องหมวกกันน๊อค มันมีแต่ข้อแนะนำ ข้อปฏิบัติ กฎหมาย แต่ทำอย่างไรให้กลืนไปในวิถีชีวิต ว่าถ้าเขาไม่ได้ทำสิ่งเหล่านี้แล้ว ผลเสีย จะได้รับผลกระทบที่ไม่ดีต่างๆ

ถ้าเราสามารถทำสิ่งต่างๆ เหล่านี้ เราก็จะสามารถทำให้ความรู้ที่มีอยู่ ซึมซับเข้าไปสู่ประชาชนได้ อันนี้คือ สุดยอดของความรู้ที่เราจะนำไปใช้ประโยชน์

มาถึงสิ่งที่ PMQA บอก คือ การเรียนรู้ลูกค้า ... เราต้องเรียนรู้ว่า องค์ความรู้ หรือสิ่งที่เป็นหน้าที่ของเรา เราต้องรู้ว่า เป้าหมายของเราคือ ใคร ผมรู้สึกว่า บางครั้งเป้าหมายของเราเลือนๆ หรือเราอาจทำเป้าหมายของเรากว้างไป คือ ประชาชนประเทศไทยทั้งหมด ทั้งที่จริงแล้ว มันไม่ได้กว้างขนาดนั้น ถ้าสมมติว่าเยอะ มันก็เป็นสิ่งที่ต้องเรียงลำดับ

เช่น เราคิดว่า ปัญหาเรื่อง IQ / EQ เป็นปัญหา ถามว่า บรรดาชนชั้นกลางค่อนข้างสูง เราไม่ต้องไปยุ่งกับเขาก็ได้ เพราะว่ากลุ่มนี้ พ่อแม่มีความรู้ความสามารถจัดการ และเป้าหมายของเราคือใคร เป็นเด็กที่ด้อยโอกาสใช่ไหม เป็นเด็กที่อยู่ห่างไกลหรือเปล่า ... ถ้าเรารู้จักจำกัดตรงนี้ ทำให้เป้าหมายชัด ไปเรียนรู้กลุ่มนี้ เราอาจทำได้ไม่ทั้งหมด แต่ถ้าเป้าหมายชัด เราก็จะต้องมาทำเรื่องของความรู้ในกลุ่มเป้าหมายนี้ ว่าเขาอยู่อย่างนี้ กินนี้ เวลาทำงานคือตอนนี้ เวลาอยู่บ้านตรงนี้ กินอาหารอย่างนี้ ... เราก็สามารถหาความรู้มาประกอบกับปัจจัยแวดล้อมของกลุ่มเป้าหมาย และก็จะนำไปใช้ได้

การที่เราทำ PMQA เราต้องการเพิ่มประสิทธิภาพ จะเห็นว่า มีการจัดการความรู้อยู่ด้วย ก็เป็นเรื่องเดียวกันกับงานที่เราทำทั้งหมด

เพราะฉะนั้น กระบวนการที่ทำงาน เป็นเรื่องเดียวกันทั้งหมด ... ท่านที่มาจากหน่วยต่างๆ ก็เป็นส่วนซึ่งน่าจะไปช่วยสร้างความเข้าใจในหน่วยงานว่า แท้ที่จริงแล้ว การจัดการความรู้มันไม่ใช่เรื่องไกลตัว มันเป็นเรื่องที่อยู่กับเราตลอดเวลา เพียงแต่ว่า เราต้องมานั่งดูเรื่องเป้าหมาย การได้มาของความรู้ และการใช้ความรู้ ซึ่งเป็นเรื่องใหญ่ หรือตอนนี้ จะเห็นว่า ทั้งชีวิต และงาน ที่เป็นเป้าหมาย แหล่งความรู้ และการจัดการนำไปใช้

รวมเรื่อง ยุทธการล่าขุมทรัพย์ความรู้กรมอนามัย

 

หมายเลขบันทึก: 326033เขียนเมื่อ 9 มกราคม 2010 10:07 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 22:12 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท