สรุปว่า ต่อไปนี้จะไม่มี ลปรร. อย่างเดียวแล้วใช่ไหม เราจะทำ KM ครบวงจรกันแล้ว เป็นไอเดียที่ได้มาจากการที่เราไปดูงานที่ True
KM ที่ครบวงจร จะมี 3 dimension
Dimension ที่ 1 - สร้างระบบ และกระบวนการให้เรียนรู้ตลอดเวลา
Dimension ที่ 2 - การสร้างระบบที่จะเสริมเรื่องใจ/ทีมงาน ทำแล้วได้ใจด้วย ไม่ใช่ได้แต่ความรู้ และ
Dimension ที่ 3 - cover ทุกคนที่เป็นภาคี ทั้งคนในและคนนอก
ถ้าทำ KM ครบวงจร 3 มิตินี้ก็น่าจะมาหมดแล้ว เพราะว่าเราได้ยินหลายที่บอกว่า ทำ ลปรร. แล้ว มี CoP แล้ว แต่เอาเข้าจริง มีการประชุม 4 ครั้ง ปีที่แล้วประชุม 2 ครั้ง การทำ CoP ผ่านการประชุมเป็นวิธีหนึ่ง CoP ที่แท้จริงไม่ได้อยู่ที่การประชุม แต่มีวิธีการ ลปรร. อีกตั้งหลายโอกาส ซึ่งเป็นรูปธรรมที่เราอยากได้มาก คือ สามารถทำให้คนเรียนรู้ตลอดเวลาที่ทำงาน การครบวงจร เป็นเรื่องเรียนรู้ตลอดเวลา
นอกจากนั้น ก็คือ
เรียนรู้ตลอดเวลา หมายความว่าอย่างไร แปลว่า เราต้องวิเคราะห์ก่อน ว่าเราจะสอดแทรกความรู้เข้าไปในการทำงานได้อย่างไร ต้องเข้าใจกระบวนการการทำงานแบบปกติของพวกเรา
เรื่องที่ชอบเล่าเสมอๆ คือ เวลาประชุมทีม หน่วยงาน หรืออะไรก็แล้วแต่ ให้เปลี่ยนการประชุม เป็นการ ลปรร. อย่าใช้การประชุมเป็นที่สั่งงาน หรือตามงาน (แต่เพียงอย่างเดียว) เพราะว่าการสั่งงาน ตามงาน มีคนได้ประโยชน์คนเดียว คนอื่นได้ประโยชน์น้อย
ต้องสามารถวิเคราะห์ว่า เราจะสอดแทรกไปในกระบวนการทำงานได้อย่างไร และสร้างเครื่องมือที่เกี่ยวข้อง จะเป็นให้รางวัล ให้กำลังใจอะไรก็แล้วแต่
ยกตัวอย่างที่ True ... จะเห็นว่า คนทำงานสามารถได้ความรู้เพิ่มได้ง่ายๆ โดยการ Key คำได้เลย คำตอบก็จะปรากฎขึ้นมา มันอาจจะมีคำถามใหม่ๆ บ้าง แน่นอนก็ต้องบันทึกไว้ก่อน แต่พอบันทึกเข้าไปในระบบ ดีไม่ดี อีก 2 ชั่วโมงข้างหน้าก็จะมีคนตอบแล้ว คนถามยังไม่ทันไปถามใครคนอื่น พอป้อนเข้าไป เขาก็จะมาตอบ นั่นเพราะว่าระบบเขาดี
มีประมาณ 10 ปีมาแล้ว เขาเรียกว่า ระบบให้รางวัล ตอบคำถามใน interrnet ใครจะถามอะไรก็ได้ เข้าไปที่เวปไซต์ ... รับตอบคำถาม ถามอะไรก็ได้ และไป check ก็จะมีคนมาตอบ เพราะว่าผู้บริหารเวปไซต์นั้นบอกว่า ใครก็ตามที่มาตอบคำถามที่นี่จะได้เงิน … เป็นกระบวนการการหา expert ทั่วโลกเลย
ตั้งแต่นี้ไปจะไม่เน้นแค่ ลปรร แล้ว ก็จะมีได้ทั้ง
ไม่มีความเห็น