ช่วงวันหยุด 4 วันในชีวิตของข้าราชการครั้งนี้ หลายๆคนคงวางแผนชีวิตกันทั้งนั้น ฉันก็เป็นอีกคนหนึ่ง ที่ วางแผนและปรับครั้งสุดท้าย ก่อนถึง 1 สัปดาห์ เพื่อวันหยุดเป็นวันปฏิบัติธรรม ตามเส้นทางของชีวิตที่เลือกเดิน
แผนของฉัน
• วันเสาร์ที่ 28 ไปทำบุญที่วัดวันเดียว เพื่ออีก 2 วัน จะดูแลให้คุณแม่และคุณพ่อไปทำบุญ อย่างมีความสุข
• วันอาทิตย์ที่ 29 วันพระขึ้น 15 ค่ำ ตั้งใจถือ ศีล 8 และปลีกวิเวกในการปฏิบัติธรรม ทั้ง สมถะและวิปัสสนากรรมฐาน
• วันจันทร์ที่ 30 เวลา 9.00 น. ไปร่วมขบวนแห่เทียนพรรษา กับกิจกรรมของเทศบาล และ ร่วมเชียร์ หัวหน้าพยาบาลร่วมประกวด “50 ยังสวย” ในกิจกรรมภาคกลางคืน
• วันอังคารที่ 31 เป็นวันพักผ่อนแล้วแต่ใจจะสั่งมา (Lazy Day) อาจทำงานที่ค้างไว้
การทำบุญและปฏิบัติธรรม ก่อกิจกุศลเพื่อชีวิต
วันเสาร์ที่ 28 ฉันตื่นนอนเวลา 04.30 น. วันนี้นัดกับคุณพ่อไปทำบุญที่วัด โดยมีความตั้งใจปฏิบัติธรรม ตามรู้ด้วยจิตเป็นกลาง และ ถือศีล 5 บริสุทธิ์ ทำบุญ ด้วยจิตกุศล ครบทุกขั้นตอน (ก่อน-ขณะทำ-หลังทำ) ฉันรีบทำอาหารเพื่อคุณพ่อและคุณแม่ได้ทานก่อนไปทำบุญ เตรียมสำรับสำหรับทำบุญ และเตรียมดอกไม้บูชาพระ คือ ดอกพุทธรักษา และดอกธรรมรักษา และปักษาสวรรค์ ที่เบียดเสียดกันงอกงาม ที่ถนนทางเข้าบ้านทั้ง 2 ข้าง จากนั้นขับรถพาคุณพ่อไปวัด ศาลาวัดถูกปรับปรุงใหม่ ด้วยคุณพ่อและคุณแม่เป็นแกนนำ สวยงาม เย็นสบาย เหมาะแก่การทำกิจอันเป็นกุศลยิ่งนัก
หลังทำบุญเสร็จ ฉันและคุณพ่อได้ไปซื้อปลาช่อนมาปล่อยที่หน้าบ้านซึ่งอยู่ติดแม่น้ำลพบุรี วันนี้ฉันคุยกับพวกเขาและอวยพรให้เขามีชีวิตที่สุขสบายร่มเย็นเป็นสุขในใต้พื้นน้ำที่สุขสงบ ถ้าได้เกิดใหม่ก็ขอให้เกิดเป็นมนุษย์มีโอกาสได้ปฏิบัติธรรม ด้วย สัมมาทิฐิ พวกเขาแหวกว่ายอยู่ใกล้ๆ เราสบตากัน สักพักหลายๆตัวก็ว่ายจมหายไปใต้ท้องน้ำ ความร่มเย็นในใจฉันได้สะสมมาเรื่อยๆ ตั้งแต่เช้าจนสาย ส่วนช่วงบ่ายเป็นเวลา ทำบันทึก KM.20 ซึ่งใช้เวลามากพอควร
ตกเย็นของวันนี้ฉันตัดสินใจปรับแผนใหม่ ในวันพรุ่งที่คิดว่าจะปลีกวิเวก ถือศีล 8 ปฏิบัติธรรม ที่บ้านพัก รพ. ด้วยรู้สึกว่า อยากดูแลให้คุณพ่อกับคุณแม่ ได้ไปทำบุญให้สบายใจ และคิดว่า จะปฏิบัติธรรมกับคุณพ่อและคุณแม่ เป็นหลักโดยจะอยู่ปรนนิบัติท่านที่บ้านแทน
วันอาทิตย์ที่ 29 ด้วยวิสัยของคุณแม่ที่มักจะกังวลว่าต้องตื่นเช้าทำให้ท่านตื่นนอนตั้งแต่ เวลา 03.45 น. และนอนไม่หลับ ฉันได้ยินจึงตื่นนอนมาเตรียมอาหารทั้งของท่าน ของพระ รวมถึงช่อดอกไม้ พุทธรักษา และธรรมรักษาเช่นเคย เสร็จสรรพเรียบร้อยตั้งแต่ตี 5 ด้วยจิตใจที่สงบเย็นและเบิกบานเป็นที่สุด ยังมีเวลาเหลืออีกมากเลยตัดสินใจเล่นโยคะ เนื่องจากสัปดาห์ที่แล้วเป็นสัปดาห์แห่งการเดินทาง ประชุม อบรม และจัดงาน ทำให้ฉันไม่ได้เล่นโยคะเลย เช้านี้อากาศเย็นสบาย บรรยากาศสงบเงียบ สอดคล้องกับจิตใจตอนนี้ดีแท้
เสียงเพลง “การเดินทางของใจที่เที่ยงแท้” เพลงแรก ในชุดนิพพาน ของคุณจำรัส ดังขึ้นเบาๆ ความสุขซึ่งมีอยู่แล้วพอกพูนมากขึ้น สิ่งแวดล้อมที่เอื้ออำนวย ผนวกกับจิตสงบเย็นด้วยกุศลกรรมตั้งแต่วันวาน มีผลถึงนาทีนี้ ฉันพบกับสภาวะปีติสุขขณะเล่นโยคะอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ขนลุกชัน (ผรณาปีติ) รู้สึกถึงความเย็น อิ่มเอิบ แผ่ซ่านไปทั่วกาย คอยตามรู้ สภาวะนี้เพื่อไม่ให้หลงติดในปีติสุข เมื่อเล่นโยคะเสร็จฉันรีบอาบน้ำ แต่งตัว เข้าห้องพระ จุดเทียน ธูป บูชาพระ สวดมนต์และนั่งสมาธิในห้องพระต่ออีกครึ่งชั่วโมง หลังแผ่เมตตาเสร็จ คุณพ่อกับคุณแม่ก็กลับมาจากทำบุญพอดี ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ฉันควรปฏิบัติธรรมต่อบุพการี ในทุกๆด้าน รู้สึกว่าบรรยากาศของครอบครัวเปี่ยมไปด้วยความสุข สงบ เบิกบาน จริงๆ
14.00 น. เป็นเวลาแห่งการทำกุศลกรรมส่วนรวม ฉันขับรถไปที่ รพ. ช่วยกันจัดรถแห่เทียนพรรษาของ รพ.ร่วมกับทีมงาน อีก 5 คน เตรียมร่วมงานกับเทศบาลเพื่อแห่เทียนถวายวัดต่างๆ ในวันพรุ่งนี้ ทำให้วันนี้ของฉัน หมดไปอีก 1 วันด้วยกิจทางธรรม ทั้งส่วนตัวและส่วนรวม ช่วงหัวค่ำก่อนนอนฉันนั่งสมาธิได้เพียง 15 นาที ก็เริ่มง่วงมาก มึนศรีษะ สัญชาติญาณต้องการพักผ่อนกาย ตั้งใจว่าพรุ่งนี้จะดูแลกิจทั้งปวงเพื่อให้คุณพ่อและคุณแม่ไปทำบุญอย่างมีความสุขเหมือนเคย แล้วเลยนอนสมาธิ แบบเผลอบ้างเป็นระยะจนหลับไป
วันจันทร์ที่ 29 โชคดีที่นัดแนะคุณแม่ไว้เรียบร้อยว่าท่านอยากตื่นเมื่อใด จะปลุกให้ ไม่ต้องกังวลเรื่องอาหาร เพราะทุกอย่างฉันจัดเตรียมให้ จนเสร็จเรียบร้อย สุดท้ายฉันต้องปรับแผนไปทำบุญกับท่านทั้ง 2 ด้วยเพื่อช่วยนำพาข้าวของสำหรับทำบุญอันมีอยู่มากไปวัดโดยสะดวก ซึ่งทำให้ฉันได้รับความสุขสงบกับการก่อกิจอันเป็นกุศลที่วัดอีก 1 วัน ได้เจริญสติ และทำสมาธิภาวนาเป็นช่วงๆ ด้วยความสุขสงบของใจแม้จะมีผู้คนไปทำบุญมาก แต่มิได้เป็นปัญหาต่อการเจริญสติและสมาธิภาวนานัก
9.00 น. เสร็จจากทำบุญ ส่งคุณพ่อคุณแม่กลับบ้านฉันรีบมาร่วมขบวนแห่เทียน ซึ่งมีการไปตั้งขบวนกันเรียบร้อยแล้ว ความร้อนของแสงแดดไม่ปราณีใคร แต่ทีมก็มีความมุ่งมั่นในใจเพื่อรักษาวัฒนธรรมประเพณี โดยมีคุณหมอสมมาตร ผอ.โรงพยาบาลเป็นผู้ขับรถแห่เทียนด้วยตนเอง ร่วมกับ น้องอ้อย เภสัชกรที่ซิ่งกลับมาจากกรุงเทพฯ เพื่อร่วมกิจกรรม รวมถึง แม่ครัว 2 คน และภรรยาเจ้าหน้าที่อีก 1 ท่านที่ท้าแดดอันแผดเผาอยู่ท้ายรถ และสุดท้ายพวกเราได้ไปถวายเทียนนี้ที่วัดในเขตของ รพ. คือวัดท้าวอู่ทอง
สามสหาย (น้องวัง น้องอ้อย น้องเหมียว)
18.00 น. ฉันและอีก 3 สหายกัลยาณมิตรรุ่นน้อง ต้องเตรียมตัวไปช่วยเชียร์ “พี่ตุ้ย” หัวหน้าพยาบาล ที่มี spirit เข้าร่วมการประกวด “ 50 ยังสวย” โดยฉันไปร่วมลุ้นช่วงแต่งตัวและช่วยแต่งหน้าแต่งตาตามประสาพวกเราเจ้าหน้าที่ๆ ไม่ค่อยสันทัดในด้านนี้ แต่ก็เป็นธรรมชาติดี...ฉันชอบแบบนี้
(แหวว พี่ตุ้ย และคุณโหน่ง:พิธีกรสาวสวย ผู้นำเต้นแอโรบิคทุกจันทร์ พุธ ศุกร์)
อุปสรรคมากมี เวลาที่ต้องไปร่วมงาน ฝนเทลงมาอย่างหนัก พร้อมเสียงฟ้าคำรามลั่น เมื่อฝนซาลง เราไปที่บริเวณงาน ฝนกลับตกลงมาอีก ๆไฟทั่วไปดับเหลือแต่เครื่องปั่นไฟ แต่ยังเริ่มงานไม่ได้อยู่ดี ทีมเทศบาลผู้จัดงานต้องเปลี่ยนแผน ย้ายคณะไปยังห้องประชุมเทศบาล กว่างานจะเริ่มได้ก็ 21.30 น. ฉันต้องโทรบอกทางบ้าน ว่า คืนนี้คงดึกและต้องพักบ้านพักที่ รพ.แทน
“พี่ตุ้ย” เป็น Model ของบุคคลสร้างสุขภาพ ตามที่ตั้งใจกันไว้ได้อย่างงดงาม และเกินคาด ด้วยบุคคลิกที่สง่า และภูมิฐาน เป็นภาพลักษณ์ที่เหมาะสมของผู้มีสุขภาพดี เมื่อพิธีกรประกาศเกณฑ์ให้คะแนนประกอบด้วย บุคลิกภาพ สุขภาพ และ สติปัญญา พวกเราคิดว่าพี่ของเราไม่น้อยหน้าใคร แต่ก็ไม่ได้หวังว่าจะต้องได้ที่ 1 เพราะการมาร่วมงาน ครั้งนี้ทำเพื่อการสานสัมพันธ์ชุมชน และนำ Idea ด้านสร้างสุขภาพ มาขาย ให้คนได้ยินได้ฟังบ่อยๆ เท่านั้นเอง
งานดำเนินไปเรื่อย ๆ ด้วยเหตุที่ฉันตื่นนอนตั้งแต่ 04.00 น. และมีกิจกรรมเยอะในวันนี้ ทำให้ฉันง่วงมากๆ บางช่วงก็นั่งหลับ แต่ยังไงเสียต้องมาเชียร์พี่และให้ความร่วมมือกับผู้จัดงาน ในช่วงสัมภาษณ์ พี่ตุ้ยได้พูดแนวคิดด้านการรักษาสุขภาพตามคำถาม ได้เยี่ยมมากๆ ตามความเป็นจริง สรุปความว่า ที่พี่เขาปฏิบัติอยู่คือ แอโรบิค เวลา 3 ทุ่มเพราะติดภารกิจประจำวัน แต่ก็สามารถทำได้ถ้าเราให้ความสำคัญ แถมถ้าวันไหนทำไม่ได้ก็ชักชวนคนอื่นให้ทำสมาธิเพื่อสุขภาพใจ สำหรับบุคคลในดวงใจที่เป็นแบบอย่างด้านการดูแลสุขภาพ พี่ตุ้ยตอบว่าคือ “ในหลวง” กับทุกครั้งที่เห็นภาพการทรงงานต่อประชาราษฎร์อย่างหนักของพระองค์ ฉันฟังแล้วปลาบปลื้มไปด้วย เพราะเวลาที่งานหนักและเหนื่อยฉันจะคิดเช่นนั้นเหมือนกัน ปิดท้ายเมื่อพิธีกรให้ร้องเพลง พี่เขาก็ร้อง “ลุ่มเจ้าพระยา” ได้ไพเราะเป็นพิเศษ รอยยิ้มทั้งปากและตา ทั้งใบหน้า ตลอดงาน ทำให้รู้ว่าเป็นคนมีสุขภาพจิตดี ไม่เครียดกับปัจจุบันขณะ (หลังเสร็จสิ้นการตอบคำถาม มีน้องพยาบาล 1 ใน 3 สหายของฉัน พูดขึ้นว่า “ตอบได้ดีมาก อนุมัติให้เป็นหัวหน้าพยาบาลต่อได้”) ฮ่า...ฮ่า...ฮ่า...
เมื่อพิธีกรประกาศผล 3 คนที่จะได้รับรางวัล พี่ตุ้ยคือหนึ่งในนั้น พวกเราดีใจว่า คณะกรรมการก็เน้นตามเกณฑ์ที่ตั้งไว้ พิธีกรสัมภาษณ์ความรู้สึกอีกครั้ง พี่ตุ้ยตอบว่า “รู้สึกดีใจที่ได้รับเลือกจาก 12 คน แต่ที่สำคัญคือไม่ได้คิดว่านี่คือการแข่งขัน แต่เป็นโอกาสที่จะได้มาแสดงการมีส่วนร่วมในการสืบสานวัฒนธรรมไทยที่ดีงาม เช่นการแต่งชุดไทย และการได้นำเสนอเรื่องการสร้างสุขภาพอันเป็นเรื่องสำคัญ และอยากชักชวนให้ผู้อื่นได้ทำด้วย” (ฉันย่อๆ คำพูดต่างๆ ของพี่ตุ้ยไปบ้างเพราะจำได้ไม่หมด ต้องขออภัยกับเจ้าตัวไว้ก่อน เพราะมิได้อัดเสียงไว้ )
และแล้วเมื่อประกาศผล พี่ตุ้ยของเราได้รับรางวัล “50 ยังสวย” ลำดับที่หนึ่งซึ่งเป็นรางวัลชนะเลิศ เป็นอันจบงานเวลา 23.30 น. ฉันและ 3 สหายกลับมาอาบน้ำนอนด้วยความอ่อนเพลียกายแต่ สุขใจ และหลับไปโดยเร็ว
บทสรุปในด้านการปฏิบัติธรรมประจำวัน สนับสนุนเรื่องการทำบุญ หรือ กุศลกรรม สามารถทำได้ทุกที่ และถ้าทำใจให้ตั้งมั่นด้วยกุศลจิต ความสุขและสมาธิจะสะสม มีผลต่อเนื่องมากขึ้นๆ อาทิการเกิดอาการ ปีติขณะทำโยคะ ซึ่งไม่เคยเป็นถึงขนาดนี้ การปฏิบัติธรรมด้วยการดูแลบิดามารดา ก็สามารถสร้างบุญกุศลที่ยิ่งใหญ่ได้โดยมิต้องปลีกวิเวก แต่ขอให้มีความเห็นและปฏิบัติถูกต้อง ไม่มุ่งหวัง (ไม่มีกิเลสเป็นตัวชักนำ และเจริญสติประจำวันคือการรู้ตามจริงด้วยจิตเป็นกลาง)
บทสรุปในฐานะผู้ประสานงานด้านคุณภาพและสร้างสุขภาพ ช่วงวันหยุดในครั้งนี้ฉันและทีมงานได้ปฏิบัติธรรมกับชุมชน และ การเชื่อมโยงงานด้านสร้างสุขภาพลงไปในชุมชนในส่วนที่จะสามารถทำได้ ในเทศกาลที่เป็นกุศลนี้ ด้วยการมีส่วนร่วม สนับสนุน และเปล่งกระแสการสร้างสุขภาพ เพื่อการขยายผลในงานที่ชุมชนเป็นเจ้าภาพ ซึ่งก็ทำให้ทั้งเราและเขาได้รับความสุขและความดีงามกันทั้ง 2 ฝ่ายเข้าข่ายปฏิสัมพันธ์ แบบ Win-Win ซึ่งทุกคนทุกฝ่ายจะได้รับความสุขกับกิจที่ได้ทำ
(หมายเหตุ ปีติ 5 (ความอิ่มใจ, ความดื่มด่ำ )
1. ขุททกาปีติ (ปีติเล็กน้อย พอขนชูชันน้ำตาไหล)
2. ขณิกาปีติ (ปีติชั่วขณะ ทำให้รู้สึกแปลบๆ เป็นขณะๆ ดุจฟ้าแลบ
3. โอกกันติกาปีติ (ปีติเป็นระลอกหรือปีติเป็นพักๆ ให้รู้สึกซู่ลงมาๆ ในกาย ดุจคลื่นซัดต้องฝั่ง
4. อุพเพตาปีติ หรือ อุพเพงคาปีติ (ปีติโลดลอย เป็นอย่างแรงให้รู้สึกใจฟูแสดงอาการหรือทำการบางอย่างโดยมิได้ตั้งใจ เช่น เปล่งอุทาน เป็นต้น หรือให้รู้สึกตัวเบา ลอยขึ้นไปในอากาศ
5. ผรณาปีติ (ปีติซาบซ่าน ให้รู้สึกเย็นซ่านแผ่เอิบอาบไปทั่วสรรพางค์ ปีติที่ประกอบกับสมาธิ ท่านมุ่งเอาข้อนี้
หมายเหตุ จาก พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลธรรม พระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ. ปยุตฺโต) // พระธรรมปิฎก (ประยุทธ์ ปยุตฺโต)
อ่านแล้วเกิดปิติ แม้ไม่ได้เกิดจากตัวเองแต่สามารถทำให้หัวใจเกิดสุข......ข้าน้อยขอบคุณสำหรับเรื่องราวดีดีในการนำเหนอ ....... ฮ่า...ฮ่า...ฮ่า...
จาก จั่นเจา...รูปงาม
โธ่!! มีหนึ่งใน 3 สหาย เข้ามาอ่านตอนพี่เผลอหลังบันทึกเสร็จใหม่ๆ... หวังจะแกล้งพี่ ...ที่แท้ลืมไปว่าพี่แหววเข้าระบบด้วยรหัส พี่แหวว ออกมามันก็เป็นความคิดเห็นพี่แหววน่ะซี...น้องรัก...(จั่นเจา..รูปงาม?) 555 จับได้เลย...
สวัสดีครับคุณแหวว
-หมู่นี้คุณแหววปิติบ่อยมากเลยนะครับไม่ว่าจะเป็นงานราษฎร์งานหลวง ถ้าเป็นภาษาโลกว่าคงจะเรียกว่า "ขาขึ้น"ในภาษาธรรมนั้นผมก็ได้ความรู้เพิ่มเติมจากปิติ 5 ที่เป็นแนวทางที่จะนำไปปฎิบัติในโอกาสต่อไป
-ได้อ่านเรื่องราวดีหลายเรื่องจากคุณแหววทำให้เกิดความอยากรู้จักโรงพยาบาลบ้านแพรกมากขึ้นจึงมีคำถามว่าอะไรเป็น KEY TO SUSCESS ของโรงพยาบาลบ้านแพรกและ KEY TO SUSCESS ของคุณแหวว (ขออนุญาติถามเนื่องจากเป็น สาวก KM มือใหม่)
แต่เกิดความรู้สึกแปลกใจที่คุณแหววสนใจธรรมะและแปลกใจมากขึ้นที่คุณแหววแสดงออกอย่างชัดเจนว่าเป็นผู้สนใจและปฎิบัติธรรมอย่างเปิดเผยทั้งยังให้การแลกเปลี่ยนกับผู้อื่นอย่างสม่ำเสมอ โดยที่ประสานกลมกลืนกับการทำงานประจำและการดำเนินชีวิตอย่างน่าสนใจยิ่ง ไม่ได้ปลีกวิเวกหรือแยกธรรมออกจากโลก นับว่าเป็นแนวทางที่น่าศึกษามาก
ขอบคุณสำหรับเรื่องราวทางธรรมที่นำเสนอให้ผมได้เรียนรู้
อรุณสวัสดิ์ค่ะ คุณ ลมใต้ปีก
I'm glad to see KM 21. The best your life in Asarnha Bucha Day. You are the popular model. I'm bye. See you again in the next time..
'In love '
Sandee
สวัสดีค่ะพี่แหว๋ว เข้ามาเยี่ยมเยียนตามที่รับปากไว้ รูปพี่ตุ้ยสวยกริ๊บ ค่อยหายคิดถึงบ้านแพรกหน่อย หาววววว..... ดึกแล้ว แถมอ่านธรรมะพี่แหว๋วเข้าไปเลยง่วงเลย แล้วจะเข้ามาใหม่นะคะ แล้วแวะไปเยี่ยมบัวบ้างนะ http://prakaitip.multiply.com จ้ะ
สวัสดีคร๊าบ....
และแล้ว 1 ใน 3 สหาย (ที่ไม่ใช่จั่นเจา) ก็ได้โอกาสแวะมา post ข้อความ ใน blog ของพี่แหววซะที จริงๆแล้วก็เข้ามาอ่านอยู่ตลอด เพียงแต่ยังไม่ได้ถ่ายทอดความคิดเห็นลงมาเป็นตัวหนังสือเท่านั้นเอง :-) เอาเป็นว่า โคนันคุงคนนี้แอบชื่นชมผลงานของพี่แหววอย่างมาก คนอะไร...เขียนบันทึกได้น่าอ่าน มีสีสัน ไม่รู้สึกเบื่อเลย แถมทำให้รู้สึกยืดดดดด มากๆ เวลามีกัลยาณมิตรจากหลากหลายที่ แวะมาเยี่ยมเยียนและชมพี่แหววของเราด้วย....อ้อ...แหม..เกือบลืม..ขอบพระคุณมากๆที่ลงรูปน้องๆผู้น่ารักทั้ง 3...อิอิ และขอแสดงความยินดีกับคุณพี่ตุ้ย ผ่านทาง blog นี้เลยนะคร๊าบ แล้วจะแวะมาใหม่....โคนันคุง
evening ...sandee
สวัสดีค่ะ..คุณหมอบัว
หวัดดีนะจ๊ะ..โคนัน คุง
รู้สึกว่าในบล็อกคุณแหววเริ่มคึกคักแล้วซีนะครับ
ขอแสดงความยินดี ขอให้รื่นเริงในธรรมครับ
ธรรมะสวัสดีครับ
หวัดเดค่ะ
ม่ามี๊จัง
คิดถึงที่สูดเลยอ่ะ
ภาพสวย
ดอกไม้บ้านเราทั้งนั้นเลย
น้า ๆ ทุกคนยังน่ารักเหมือนเดิมเลยอ่ะ
แต่แม่ก้อสวยขึ้นไปพร้อม ๆ กับลูกเลย
อิ อิ
[ แอบชมตัวเอง ]
วัน อาสาฬหบูชา – เข้าพรรษา
อินก้อไปทามบุญมาเหมือนกานน้า
สบายกาย - ใจ อย่างมากมาย
สมองปอดโปร่ง
ด้ายรับบุญจนหน้าบานแล้วเนี่ย
[ อ้วนขึ้น ]
คริ คริ
ไปแระดีกว่า วันนี้การบ้านเยอะ
บาย บาย
ฝากบอกน้า ๆ ด้วยน้า
ว่า. ... หนูคิดถึง
ดูแลสุขภาพด้วยน้า
อย่าทามงานหนักเกินไป
และอย่าหลับดึกด้วยหล่ะ
เด๋วม้ายสบาย
หวัดดีจ้า..จั่นเจา
สวัสดีค่ะ..ธรรมาวุธ
สุขสดชื่นยามเช้าจ้า...หนูอิน
สวัสดีค่ะ คุณ แผ่นดิน
สวัสดีครับ เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลบ้านแพรกทุกคน
-ก่อนอื่นขอแสดงความยินดีกับพี่ตุ้ยด้วย
-ได้ทราบว่า รพ บ้านแพรกทอดผ้าป่าได้เงินมาพัฒนาโรงพยาบาลตั้งร่วมล้าน เก่งจริงๆ ขอแสดงความยินดีในวันงานพอดีติดธุระต้องอภัยที่ไม่ได้มาร่วมงาน
-ทราบว่าโรงพยาบาลบ้านแพรกมีความก้าวหน้าเป็นอย่างมากและพัฒนางานต่างๆรวมทั้งงานคุณภาพงานชุมชนเป็นอย่างมากก็ขอชื่นชมและให้กำลังใจ
-ได้คุยกับ คุณเบิ้ม ทางโทรศัพท์เป็นครั้งคราวเห็นว่าทุกคนสบายดี มีความสุข
-สุดท้าย>>>ฝากความคิดถึงทุกๆคนด้วยนะครับ
หมอสายัณห์
โรงพยาบาลองครักษ์
ขอชื่นชมคะ...ว่าบริหารจัดการได้ดีทั้งงานประจำและความรับผิดชอบต่อครอบครัว...และสามารถปฏิบัติรักษาใจตนเองได้ด้วยการปฏิบัติธรรม...ขอให้บุญรักษานะคะ
สวัสดีค่ะ...คุณหมอ "ต้อม"
ยินดีต้อนรับและสวัสดีในการมาเยี่ยมเยือนนะคะคุณ
blog p'แหว๋ว เจ๋ง ไปเลยค่ะ ขอบคุงนะคะ
ที่มีรูปสวยๆของคุงแม่มาลงด้วย
สุดท้าย ท้ายสุด"ขอให้ blog นี้มีคนมาเยี่ยมชมเยอะๆนะคะ p-o-p-u-l-a-r ..^_^"
ฝากถึงเจ้าของขอให้สุขภาพแข็งแรง..สวยวันสวยคืน ....เด้อค่ะเด้อ
ฝากนิดฝากหน่อย ~*~อย่าลืมรักษาสุขภาพด้วยนะคะ หนูจะเป็นกำลังใจให้ค่ะ ~*~
*-*ด้วยความปรารถนาดีจาก
g.u.g_g.i.g.g.s ค่ะ*-* อิ อิ อิ
หวัด D... P' แหว๋วและชาวบพ.ทุกคน
***ครั้งแรกที่เข้ามาขอบอกว่าชื่นชมจริงๆ คนอารายขยัน มุ่งมั่นและช่างสรรหาแต่สิ่งดีๆ น่าประทับใจหั้ยใครๆไม่หยุดยั้งๆๆๆๆๆๆๆๆ
* เจ็ตุ้ยของเรากี่ทีๆ ก้อจาบเหมียนเดิม คิดถึงจัง ขอเป็นกำลังใจหั้นเด้อ วันแม่ปีนี้ขอกราบตักงามๆซักทีจ๊ะและขอให้พี่เป็นแม่ที่ดีอย่างนี้ตลอดไป(แม่พระผู้ใจบุญ)
*อิจฉาพาเที่ยวทุ่งกระเจียวสร้างสุขกับสองสีพี่น้องนี้จัง ขนาดไม่เคยไปยังเห็นภาพทำให้อยากไป
ซะแย้วๆๆๆ
*มีข่าวดีจะบอกทายาทบ้านแพรกคนแรกของเราตอนนี้ไปเป็นลูกราชวิท ....RV 46 นำชื่อเสียงมาให้ด้วยนะ
***ประกวดวาดภาพระบายสีวันแม่ได้รางวัลชนะเลิศระดับประถม
***ประกวดจัดบอร์ดนิเทศร่วมกับพี่ ป.6 วันแม่
ได้รางวัลชนะเลิศ
***สอบเก็บคะแนนได้ 84.44% เป็นที่ 5ของห้อง เป็นที่ 36 ของระดับชั้นจาก 174 คน