เหตุผลเพราะมหาวิทยาลัยแห่งชาติสิงคโปร์เป็นมหาวิทยาลัยชั้นนําของโลก (world-class-university) เน้นการจัดการเรียนการสอนที่คล่องตัว การนํานวัตกรรมการเรียนการสอนใหม่ ๆ มาใช้ ฉันจึงได้มาศึกษาดูงานห้องสมุดมหาวิทยาลัยแห่งชาติสิงคโปร์ ในวันที่ 20 สิงหาคม 2551
เมื่อการดำเนินงานด้านการประกันคุณภาพการศึกษาเข้ามามีส่วนสำคัญในการตัดสินใจดำเนินกิจกรรม บริหารจัดการ จำเป็นต้องมีการเทียบเคียงกับหน่วยงานสถาบันที่ถือได้ว่าเป็น Best Practice ในเรื่องนั้นๆ จึงเป็นที่มาของการที่สถาบันการศึกษาหลายแห่งของไทย ส่งเสริม สนับสนุนการศึกษาดูงานสถาบันการศึกษาและห้องสมุดในประเทศสิงคโปร์บ่อยมาก ซึ่งเราจะพบว่ามีการรายงานการเดินทางไปยังประเทศนี้ บอกเล่าสิ่งที่ได้สัมผัสพบ และสิ่งที่น่าจะนำมาปรับใช้กับกิจกรรมการดำเนินงานของผู้ที่ได้ไปศึกษาดูงาน
เพียงแค่ใส่คำสำคัญเพื่อค้นหาข้อมูลผ่าน Search Engine ข้อมูลที่คุณอยากทราบก็จะหลั่งไหลมาให้อ่าน แม้กระทั่งในบล็อกที่ Gotoknow.org แห่งนี้
เรามาดูมุมมองอื่นๆ กันบ้างค่ะ มุมที่ฉันสนใจ แต่คนอื่นอาจไม่สนใจ ก็ไม่เห็นแปลกใช่ไหมคะ
ฉันขอให้ความสำคัญกับห้องสมุดมหาวิทยาลัยแห่งชาติสิงคโปร์มากหน่อย เพราะห้องสมุดมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ก็ฝันอยากจะสมบูรณ์แบบนี้ด้วย วันนี้ขอเป็นแรงกำลัง(ใจ) สำคัญแม้นว่าจะสักเศษส่วนน้อยๆ ก็ยังดีค่ะ เพื่อห้องสมุดมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ของเรา (ปีหน้าส่งเราไปญี่ปุ่นด้วยนะ ^^)
อย่างที่เขียนในบันทึกก่อนหน้าว่าฉันไปในมุมที่ฉันเกี่ยวข้องดูแลรับ-ผิด-ชอบ มุมของการประชาสัมพันธ์เชิงรุก(รวมการตลาด) เน้นให้ประชากรได้รับข่าวสารของห้องสมุดอย่างทั่วถึง
ห้องสมุดมหาวิทยาลัยแห่งชาติสิงคโปร์ จัดเป็นห้องสมุดมหาวิทยาลัยที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ โดยแบ่งออกเป็นห้องสมุดกลาง (Central Library) และห้องสมุดคณะ/สาขาอีก 5 ห้องสมุด ได้แก่ ห้องสมุดภาษาจีน ห้องสมุดกฎหมาย ห้องสมุดด้านบริหารธุรกิจและการเงิน ห้องสมุดแพทยศาสตร์ และห้องสมุดวิทยาศาสตร์ และห้องสมุดดนตรี
ห้องสมุดกลางมีจุดเด่นเน้นสารสนเทศทางด้านสิงคโปร์ และมาเลเซีย ดูภาพค่ะ
ที่ห้องสมุดกลางที่ไปดูงาน เป็นห้องสมุดขนาดใหญ่ที่ทันสมัยที่สุดแห่งหนึ่งของโลก มีการนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้อำนวยความสะดวกในการให้ผู้ใช้บริการ ให้บริการตนเองในเรื่องต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการ ยืม-คืนหนังสือ การชำระเงินค่าปรับต่างๆ ผ่านบัตรเครดิต การถ่ายสำเนาเอกสารและใช้บริการไมโครฟิล์ม จนแทบจะรู้สึกว่าผู้ใช้บริการไม่ต้องพูดคุยกับบรรณารักษ์มากนัก ก็ประสบความสำเร็จในการเข้าใช้บริการห้องสมุด
วันที่เราเข้าศึกษาดูงาน แม้ช่วงเวลาจะสั้นๆ สองชั่วโมง ผู้บริหารของห้องสุมดรวมทีมมาต้อนรับ พาเราเข้าห้องบรรยายสรุป แนะนำ ฉายสื่ออิเล็กทรอนิกส์ให้เราชม ตอบคำถาม ก่อนนำแบ่งกลุ่มลูกทัวร์ท่องเกือบทั่วห้องสมุด ที่ฉันติดใจมากมายก็คือ การนำชมห้องสมุดผ่านระบบ virtual คือ 3D Interactive Tour ซึ่งเราสามารถชมผ่านเว็บไซต์ได้ด้วยที่นี่ค่ะ
ไปทัวร์ท่องห้องสมุดมหาวิทยาลัยแห่งชาติสิงคโปร์กันแล้ว กลับมาต่อกันด้วยเรื่องราวที่ฉันสนใจค่ะ ภายในช่วงเวลาสั้นๆ
เอกสารสิ่งพิมพ์ มีเหมือนห้องสมุดบ้านเราค่ะ เช่น เอกสารแนะนำการใช้ห้องสมุด Newsletter ฉบับพิมพ์ ปีละ 4 ฉบับ แถมด้วยฉบับออนไลน์ คือ LINUS blog มีบรรณาธิการคอยเป็น editor ด้วย
เว็บไซต์ ที่นี่ เป็นทุกอย่างที่ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกกลุ่ม ตั้งแต่ บุคลากร อาจารย์ นักวิจัย นักศึกษา จะคุ้นเคยกับเว็บไซต์ เพราะมีทุออย่างที่เกี่ยวข้อง เป็น Gateway ที่จะล้วงลึกให้ถึงฐานข้อมูลมากมาย
Weblog (LINUS blog)เป็นอะไรที่น่าสนใจมาก เพราะทั้งผู้ให้บริการและผู้ใช้บริการจะรู้สึกผูกพัน มีปฏิสัมพันธ์กัน ยกตัวอย่างเช่น การสร้างวีดิทัศน์สำหรับนักศึกษาใหม่ ตัดต่อเป้นเรื่องราวและเผยแพร่ด้วยการให้ YouTube เป็นผู้เชื่อมรู้และเข้าใจ เราเข้าไปดูได้ค่ะ
สื่อแนะนำสถานที่/ภาพรวมห้องสมุดกลางที่นี่ ในรูป 3D Interactive Tour และที่เว็บไซต์ ตามภาพนี้ เป็นความร่วมมือกับกูลเกิ้ล ทำให้ผู้สนใจเยี่ยมชมห้องสมุดมหาวิทยาลัยได้ภาพชัดเจนมากขึ้น ก่อนที่จะไปสัมผัสชมสถานที่จริงค่ะ (ไม่รู้ทำไมฉันจึงติดใจห้องสมุดมหาวิทยาลัยแห่งนี้เป็นนักเป็นหนา มีเวลาเลยกลับเข้าไปเยี่ยมชมโดยไม่ต้องเสียเงินค่าเดินทาง จนขยับเขียนเพิ่มเติมได้อีก 1 บันทึก ค่ะ)
พอคลิ้กบอลลูนก็พบข้อมูลรายละเอียด
การแจ้งข้อมูลข่าวสารให้ผู้เข้าใช้ห้องสมุดทราบผ่านสื่อป้ายต่างๆ
ห้องสมุดกลางที่นี่ยังมีจุดเด่นน่าสนใจที่ฉันเห็นแล้วก็อยากให้มีบ้างที่ห้องสมุดของเรา แต่บางเรื่องที่เรามีแบบไม่ค่อยจะเต็มใจ เขาก็มีเหมือนเรา ซึ่งไม่รู้ว่าเขาเต็มใจ หรือจำยอมนะคะ สิ่งที่ดีๆ อย่างเช่น การจัดบริเวณ Perk Point สำหรับผ่อนคลาย หรือเป็นจุดนัดพบ อยากให้ห้องโถงด้านหน้าห้องสมุด มีแบบนี้บ้าง ห้องสมุดที่ ม.บูรพา ก็มีไว้ด้านหน้าเลยค่ะ ^^สวยด้วย มีบรรยากาศดีด้วย(ขอชมเจ้าภาพจัดสัมมนาและดูงานจากใจจริงค่ะ)
บริเวณที่จัดไว้สำหรับการใช้ Notebook มีทุกชั้น แต่ว่า ภาพสายไฟระโยงระยาง เก๋ไปอีกแบบนะคะ บางทีอาจใช้เป้นแรงบันดาลใจ ปลอบใจตัวเราเล่นได้ว่า เราพยายามร้องขอผู้ใช้บริการให้คำนึงถึงความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินอย่างไรก็ ไม่สำเร็จ เขาก็เหมือนไม่สำเร็จเหมือนกัน ดูสิคะ
ห้องถ่ายเอกสารขนาดใหญ่ให้ผู้ใช้สามารถถ่ายเอกสารได้ด้วยตนเอง
(เก็บตก) พนักงานทำความสะอาด (ดูดฝุ่นพรม) เหมือนบ้านเราเลยค่ะ แต่ที่บ้านเราน่าสงสารผู้ใช้บริการมากกว่า เครื่องทำงานในเวลาเปิดบริการค่ะ ^^
หรือการติดป้ายแผ่นปลิว โปสเตอร์ จนดูไม่ออกเลยว่าอะไรเป็นอะไร เราทำแบบนี้ได้ไหมคะ ฉันว่าเค้าเปิดอิสระทางความคิด และจินตนาการของเด็ก ๆ ปลูกฝังกันมาตั้งแต่เล็กๆ ภาพที่เห็นมุมขวา เป็นภาพจากห้องสมุดประชาชนจูล่งค่ะ จะเล่าในบันทึกต่อไปนะคะ
ก่อนจบ เก็บบรรยากาศภายนอกอาคารห้องสมุดกลางมาให้ชมด้วย ซึ่งเมืองสิงคโปร์เป็นเมืองเขียวขจีในทุกที่ ที่มีอาคารก็จะมีสนามและต้นไม้ใหญ่ๆ ให้เป็นของคู่กันค่ะ
ก่อนจบ(อีกที) ขอเสริฟด้วยกลิ่นอายพวกนกฮูกเล็กๆ น้อย ๆ (พอให้รู้ว่าคือทัวร์ห้องสมุดน่ะค่ะ)
และก่อนกลับ บันทึกภาพเป็นหลักฐานเล็กน้อยค่ะ
ยังมีเวลาเหลืออีกหนึ่งบ่ายที่ได้เดินตามบรรณารักษ์เขาไปชมห้องสมุดประชาชนจูล่งค่ะ
สวัสดีค่ะครูโย่ง
สวัสดีค่ะพี่ดาวลูกไก่
อิอิ ว้าว ถึงตอน 5แล้วเหรอค่ะ
กำลังมองหาจุดแตกต่าง ระหว่าง
ห้องสมุดบ้านเรากับบ้านเขาค่ะ อิอิ
ขอบคุณค่ะ...
น้องกล้วยแขกค่ะ
สักวันนึง ยังมีความหวังเล็กๆว่า เมืองไทย เรา ต้องทำให้ได้ สักวันหนึ่ง(วันไหนละเนี่ย)
สวัสดีค่ะ น้องดาว
ขอบคุณค่ะ รักษาสุขภาพนะคะ บล็อกน่ารักมากค่ะ
มีห้องสมุดแบบนี้ทุกจังหวัดทั่วไทยก็ดีเนาะ
ขอบคุณที่พาทัวร์ค่ะ :)
ฮัลโหลพี่เจ๊ มนัญญา คะ
มาถึงตอนที่ 5 แล้ว
ดีจัง ส่งแม่ช่างจำ คนนี้ไปดูงาน
เก็บความรู้มาเผื่อแผ่เพียบๆ
สวัสดีค่ะคุณหมอsarah
สวัสดีค่ะคุณครูพี่อ้อย
สวัสดีค่ะคุณครูพี่ Gutjang
น้องโก๊ะจิจัง แซ่เฮ~natadee ที่สุดในแก๊ง คะ
อือม์ คุณจร
หากถึงโค้งสุดท้าย เมื่อไหร่ สัญญาว่า บันทึกที่ติดไว้ ออกมาให้อ่านแน่นอนครับ
สวัสดีค่ะน้องดาวลูกไก่ตัวที่เจ็ด
krutoiชอบห้องสมุดนี้มากเลย เก็บรายละเอียดดีมากเลยคะ
หากบ้านเรามีห้องสมุดแบบที่น้องดาวเอามาฝากก็คงจะดีน๊ะ
จะเก็บภาพและบทความจากบล็อกน่ารักๆ ไปฝากเจ้าตัวน้อยจอมซน
คุณจรค่ะ
สวัสดีค่ะคุณ krutoiting
สวัสดีค่ะอาจารย์นายเฉ