อารยธรรมอินเดีย 17


ตำนานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่าหญิงชายเมื่อตกลงแต่งงานกันอย่างถูกต้องแล้วควรมีความรักเดียวใจเดียวนั้นแล.

ช่วงนี้มีเรื่องเล่าต่อจากตอนที่แล้วเกี่ยวกับสตรีในอารยธรรมอินเดีย  เกี่ยวกับฐานะของสตรีในสมัยราชวงศ์นกยูงทองหรือยุคพระราชานามอโศกมหาราชปกครองอินเดีย  หลังจากที่พระองค์หันมานับถือพุทธศาสนาแล้วทรงยกฐานะหญิงเท่าเทียมชายทุกประการ 

 แม้การส่งพระสงฆ์ออกไปประกาศพุทธศาสนายังแดนไกลก็ยังส่งลูกหญิงของพระองค์ไปร่วมประกาศพุทธธรรมกับพี่ชายที่เราทราบตามประวัติคือนางภิกษุณีชื่อพระสังฆมิตตาเถรีไปยังเกาะลังกาฝ่ายพระสงฆ์ชื่อพระมหินทเถระนั้นเอง

ฐานะหญิงในยุคมหากาพย์หรือในยุคต่อมาเปลี่ยนไปอีกคือหญิงไม่ยุ่งเกี่ยวในพิธีกรรมอันศักดิ์สิทธิ์ของพราหมณ์หญิงมีหน้าที่อยู่บ้านบริการครอบครัวตามปรนเปรอสามี

และมีวรรณกรรมที่สอนหญิงให้ซื่อสัตย์ต่อสามีเช่นในเรื่องรามเกียรติ์คือนางสีดากับพระรามที่มีอิทธพลต่อสตรีอินเดียมากจะเห็นได้ว่าสตรีได้รับการอบรมสั่งสอนผ่านนวนิยายหรือตำนานที่เล่าขานจากปากชายโดยที่ตนเองไม่ได้เรียนรู้หนังสือ

ภาพลักษณ์ของหญิงอินเดียจึงขึ้นอยู่กับวรรณกรรมเหล่านั้นที่มีอิทธิพลต่อการดำเนินชีวิตอย่างเรื่อง  ศกุนตลา  หญิงผู้รอคอยสามีด้วยความรักและภักดีดังมีเรื่องเล่าว่า...

ณ. ขุนเขาหิมพานต์มีลูกสาวท้าวฤาษีวิศวามิตรกับนางอัปสรมาเนกาออกมาเดินป่าหาผลไม้ พระราชาชื่อทุษยันต์มาล่าสัตว์เจอนางหลงรักได้เสียเป็นผัวเมียก่อนจากฝากแหวนไว้กันลืม 1 วง จะกลับเมืองยกขบวนมารับนาง

ฝ่ายนางก็เฝ้ารอคอยคนรักด้วยความภักดีมั่นต่อมามีฤาษีตนหนึ่งมาขออาหารที่บ้านนางศกุนตลาไม่เห็น ฤาษีโกรธสาปนางว่าให้คนรักลืมนางเสียจนกว่าจะเห็นแหวนจึงนึกได้นานเหลือเกิน

จนวันหนึ่งนางทำแหวนตกน้ำปลากินแหวนไปติดอวนชาวประมงผ่าท้องปลานำแหวนมอบพระราชาทุษยันต์  แล้วจำได้จึงจัดขบวนไปรับนางเข้าสู่เมืองครองรักอันหวานฉ่ำชื่นใจตลอดไป...

ตำนานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่าหญิงชายเมื่อตกลงแต่งงานกันอย่างถูกต้องแล้วควรมีความรักเดียวใจเดียวนั้นแล.

หมายเลขบันทึก: 314068เขียนเมื่อ 17 พฤศจิกายน 2009 10:10 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 10:48 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (16)

แล้วในช่วง อินเดียตอนต้น ชาวอินเดียหรือชาว

พราม ได้นับถือ พระเจ้ายังครับ ( พระศิวะ พระพิฆเนศ ) หรือพึ่งเริ่มมานี้เอง

สวัสดีครับ  คุณsarawut

เดิมทียังเป็นศาสนาธรรมชาติอยู่ ต่อมายุคอารยันจึงเริ่มมีเทพเจ้าดังกล่าวนั้นแล...

ได้ความรู้มากจริงๆขอบคุณอาจารย์เป็นอย่างยิ่ง

สวัสดีค่ะ

มาขอความรู้เหมือนเดิมค่ะ

..................

เรื่องหญิงแต่งงานแล้วต้องซื่อสัตย์ต่อสามีนี้ เป็นธรรมที่มาช้านาน และเป็นเรื่องสมควรอยู่แล้ว

แต่

ก็น่าแปลกนะคะ

ชายโสดใด มีสัมพันธ์กับหญิง แม้แต่กับนครโสเภณี กลับคลุมเคลือ ตัดสินไม่ได้ ว่าผิดหรือไม่ผิด (บางท่านมองว่าผิด เพราะสร้างราคานุสัย อันเป้นอุปสรรคต่อพรหมจรรย์)

แต่หญิงใด มีสัมพันธ์กับชายโสด (โสดนะคะ) กลับมองว่าไม่ผิด

ก็เธอเป็นเจ้าของผัสสะ จะมอบร่างกายให้ใครเชยชมก็ได้

???

เหมือนจะเป็นการไม่สนับสนุนหญิงให้ประพฤติพรหมจรรย์หรือเปล่าคะ

เอ หรือว่าดิฉันเข้าใจอะไรผิดไป

รบกวนอาจารย์ชี้แนะหน่อยซีคะ

สวัสดีครับ คุณเบดูอิน

เรื่องเล่าของอารยธรรมอินเดียนั้นมีมาก เหมือนคนเกิดมานานมีประสบการณ์ผ่านชีวิตเยอะอย่างนั้นละ...

สวัสดีครับ คุณณัฐรดา

อาจจะผิดก็ได้นะผมว่าคือว่า...เป็นเรื่องของคนทั้งนั้นละครับ ขึ้นอยู่กับอำนาจเป็นของใคร

แต่ก่อนชายมีอำนาจก็บัญญัติให้ตนเองได้ในสิ่งที่ต้องการ

ทำอะไรก็ไม่ผิด อย่างนั้นแล...

สวัสดีครับ คุณberger0123

เออ...ดีจังเดี๋ยวตามไปนะครับ...

สวัสดีค่ะอาจารย์ยูมิ

* ขอบคุณที่ไปเยี่ยมครูใจดีค่ะ

* อยากให้ผู้หญิงสมัยนี้เป็นเหมือนผู้หญิงอินเดียวโบราญจังเลย

* การมีอิสริเสรีภาพมากขึ้นของผู้หญิง บางเรื่องกไม่ดีนะคะ เช่น การมีมีคู่ครอง มีกิ๊ก ประมาณนี้

*ทำให้วัฒนธรรมอันดีงามที่ผู้หญิงต้องซื้อสัตย์ รักนวลสงวนตัวหายไป กลายเป็น....อย่างที่เห็นในปัจจุบัน

* อยากให้หญิงไทยปัจจุบันเป็นหญิงไทยเหมือนสมัยก่อนเน๊าะอาจารย์ ปัญหาสังคมจะได้ลดลงไปบ้าง

* มีความสุขกับการทำงานนะคะ

           

 

สวัสดีอาจารย์อีกครั้งค่ะ

ขอบพระคุณค่ะสำหรับคำอธิบาย

เรื่องของคนนี่ เข้าใจยากจังนะคะ

หากถามอะไรไม่สมควรมา ต้องขออภัยด้วยนะคะ

_/|\_

สวัสดีค่ะท่านอ.หล่อใหญ่

ขอร่วมสนับสนุน และเห็นด้วยกับท่านอาจารย์ รักเดียวใจเดียว ค่ะ ...

หากแต่ประเด็นเรื่องผู้หญิงยุคใหม่ ไม่เห็นด้วยค่ะ กรณีจากค่านิยมของสังคมที่เปลี่ยนไป .. พูดยากมากค่ะ ถ้าเป็นไปได้ ขออ้างคำพูดเชยๆที่ว่า เมื่อคู่ใดตัดสินใจแต่งงานกันแล้ว อยากให้สาวน้อยเป็นคนแรกของผู้บ่าว และชายหนุ่มก็เป็นคนสุดท้ายของสาวเจ้า  ประมาณนี้ได้ไหมคะ หรือหนูฝันไป อิ อิ ... 

ส่วนหลังแต่งหากประคับประคองกันอย่างไร ก็ไม่รอดปลอดภัยถึงฝั่ง  ก็ไม่อยากให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ต้องทนแบกภาระความรับผิดชอบกับผลของการตัดสินใจร่วมกัน เคยเจอกรณีผู้หญิงที่ต้องทนทุกข์ รับผิดชอบภาระลูกๆอยู่คนเดียว โดยที่ฝ่ายชายก็ไปมีใหม่ได้ เพราะสังคมไม่ประณาม ไม่ยุติธรรมกับผู้หญิงค่ะ ... ปัญหาสังคมเกิดจากทั้งสองฝ่ายค่ะ ไม่มีข้อแม้ หญิงชายเท่าเทียม

  • สวัสดีค่ะ อาจารย์ยูมิ
  • มานั่งอ่านอารยธรรมอินเดียย้อนหลัง ตั้งแต่ตอนที่ ๑ - ๑๗
    จบแล้วค่ะ
  • อ่านแล้วก็เพลิดเพลินเจริญใจ  อาจารย์น่าจะนำไปรวมเล่มตีพิมพ์
    จำหน่ายเป็นวิทยาทานนะคะ
  • ขอบพระคุณค่ะที่แบ่งปันความรู้อ้นยิ่งใหญ่...

สวัสดีครับ คุณครูใจดี

ก็เป็นภาพสะท้อนออกมาจากผู้หญิงนะครับ...น่าสนใจดีจัง...

ช่วงนี้ที่เมืองหาดใหญ่สายฝนเทลงมาหนาเม็ดท่าทางจะไปมองดูฝนดาวตกไม่ได้วะแล้วละ

ข่าวว่าชมได้ตั้งแต่ 4 ทุ่มเศษไปจนถึงหัวรุ่งละ...

สวัสดีครับ คุณณัฐรดา

เพราะคำว่าคน มีคอควายและนอหนูมาผสมกันมันเลยยุ่งอีลุงตุงนัง...อย่างนี้ละ

อิ อิ อิ

สวัสดีครับ คุณpoo

อ่านแล้วเห็น เป็นข้อคิดดีจัง

ทุกอย่างล้วนหมุนไปตามกระแสโลกนะครับ เหมือนกับจะห่างจากกระแสธรรมออกไป ๆ

ในความเป็นไปของโลกทุกวันนี้...

สวัสดีครับ คุณธรรมทิพย์

วาว ๆ มีมุมคิดดีจัง...ที่ว่า...อาจารย์น่าจะนำไปรวมเล่มตีพิมพ์

จำหน่ายเป็นวิทยาทานนะคะ ...

ยังไม่มีเจ้าภาพนะครับผม...ขอบคุณสำหรับคำแนะนำนี้...

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท