ช่วงนี้มีเรื่องเล่าถึงแหล่งที่ 4 มีชื่อว่ากุสินารา เป็นเมืองหลวงของชนชาวแคว้นมัลละอันเป็นพุทะสถานที่พระพุทะเจ้าเลือกที่จะปลงสังขาร ( ตาย ) ปัจจุบันเรียกว่ากุสินาคาร์ ต. มถากัวร์ อ. กาเซีย จ. โครักขะปูร์ อยู่ในรัฐอุตตรประเทศ อยู่ห่างจากเมืองพาราณสีไปประมาณ 260 กม.
เมืองนี้ในอดีตเคยเป็นเมืองการค้าขายที่สำคัญเพราะตั้งอยู่ริมแม่น้ำหิรัญวดี เป็นเมืองตั้งอยู่ระหว่างกลางเส้นไปของเมืองราชคฤห์กับเมืองสาวัตถี และไม่ไกลจากเมืองปิตุภูมิมาตุภูมิของพระพุทธเจ้าคราวเกิดกายเป็นพระสิทธัตถะกุมารเท่าไหร่
เมื่อพระองค์อยู่จำพรรษาครั้งท้ายสุดที่หมู่บ้านเวฬุวคามแล้วก็บอกพระอานนท์ว่าต่อไปนี้อีก 3 เดือนเราจะปรินิพพาน ( ตาย )แสดงว่ารู้วันตายและใกล้ถึงวันเพ็ญเดือน 6
พระองค์เดินผ่านเมืองปาวาไปอาศัยใต้ต้นมะม่วงในสวนของนายจุนทะแล้วฉันภัตตาหารมื้อท้ายสุดชื่อว่า สูกรมัททวะ ( เป็นอาหารปรุงด้วยเห็ดอ่อนชนิดหนึ่งแต่มีพิษถึงตาย ) อาหารนั้นให้ถวายพระพุทธเจ้าองค์เดียวเท่านั้นห้ามใครอื่นกิน
แล้วพระพุทะเจ้าดำเนินข้ามแม่น้ำหิรัญวดีเข้าสู่เมืองกุสินาราเข้าไปอาศัยในสวนสาละทางทิศตะวันตกของเมือง จัดที่นอนตะแคงขวาหันพระเศียร (หัว ) ไปทางทิศเหนือ แล้วกำหนดว่าจะไม่ลุกขึ้นอีกต่อไป พร้อมเฝ้าสอนธรรมว่าท้ายสุดด้วยความว่า...อย่าประมาท...
นั้นคือสังเวชนียสถาน 4 แห่งที่สำคัญในอารยธรรมอินเดียโดยเฉพาะของชาวพุทธที่ควรเดินทางไปจาริกแสวงบุญตามศรัทธาที่ตนเองได้เกิดมาพบพระพุทธศาสนาคือ
1 . สถานที่ประสูติคือลุมมินเด
2 . สถานที่ตรัสรู้คือพุทธคยา
3 . สถานที่แสดงปฐมเทศนาคือสารนาถ
4 . สถานที่ปรินิพพานคือกุสินาคาร์ นั้นแล.
มาเรียนรู้เรื่องดีๆค่ะ
สวัสดีครับ คุณberger0123
เป็นเรื่องเล่าไว้ในเรื่องราวเกี่ยวกับยุคอารยันของอินเดียนะครับ...