บ้านของแม่ที่กลับมาอยู่ เป็นบ้านชั้นเดียวกว้างขวาง ฝาบ้านสังกะสีทั้งเรือน หลังคามุงจากไว้รับน้ำฝน เวลาฝนตกเย็นสบาย ได้น้ำไว้ใช้มากมาย สมัยนั้นแถวบ้านแล้งน้ำ คนบ้านติดถนนที่รวยเท่านั้นที่มีประปาใช้ หน้าบ้านข้างเรือนของเด็กน้อยจึงมีถังน้ำมันใบใหญ่เปิดฝา วางเรียงรายรอบบ้านเอาไว้รองน้ำฝนไว้ใช้ให้พอ เวลาที่ไม่มีน้ำใช้ก็เอารถเข็นออกไปซื้อน้ำประปาปากซอย หนึ่งรถที่เข็นมาได้สิบสองปี๊บพอดีๆ ระยะทางที่ไปเข็นห่างออกไปจากบ้านสองร้อยเมตร ไป-กลับเข็นมาสนุกดี ความจริงเรื่องเข็นน้ำนั้น เด็กน้อยไม่ทำก็ไม่มีใครว่า แต่ด้วยนึกสนุกอยากลอง เด็กน้อยลงมือลองเข็นดู เข็นแล้วเข้าทางผู้ใหญ่ เข็นได้เข็นไปเถอะลูก ทำอะไรทำไปถ้าสนุก ผู้ใหญ่เขาว่าอย่างนั้น
การกลับมาอยู่กับพ่อแม่ ทำให้เด็กน้อยสัมผัสโลกกว้างขึ้น เริ่มมีคนอื่นเข้ามา เป็นบทเรียนความสัมพันธ์ระหว่างคน คนนอกเพื่อนแม่คือคนสอนให้เด็กน้อยรู้จักเล่นไพ่ ไพ่ขาว ไพ่จีน รัมมี่ ป๊อกเด้ง หมากฮอส สอนให้โดยให้นั่งดูใช่สอนให้ลงมือเล่นซะเอง ในความรู้สึกของเด็กน้อย ใหม่ๆที่ดูน่าเบื่อเล่นอะไรกันได้สนุกนัก เบื่อไปเบื่อมาก็ลอง อ้อ! ไพ่มันสอนให้คิด เวลาผ่านพ้นไปเร็วรี่เมื่อใช้เวลากับมัน เวลาผู้ใหญ่เขาเล่น เขามีได้เสียกันด้วย ความอยากได้มาก อยากได้คืน ทำให้เขาติดการเล่นเพลินไป
เด็กน้อยมีโรงเรียนแห่งใหม่ แยกเรียนคนละโรงกับพี่ชาย ต่างคนต่างไปคนละทาง การไปโรงเรียนแห่งใหม่ พ่อแม่ผูกรถให้ด้วย โรงเรียนใหม่ห่างจากบ้าน 10 กิโล โรงเรียนแห่งนี้เป็นโรงเรียนราษฎร์อีกแห่งที่เธอเข้าเรียน เป็นโรงเรียนที่มีนักเรียนหญิงล้วน มีครูไทยอยู่น้อยกว่าน้อย ครูส่วนใหญ่เป็นซิสเตอร์ต่างชาติที่พูดไทยได้กันแล้ว
ชีวิตในโรงเรียนแห่งนี้ ไม่ทำให้เด็กน้อยหงอยเหงา ด้วยว่ามีเพื่อนเก่าๆตามมาเรียนด้วยกันหลายคน การเรียนการเล่นที่นี่ไม่มีอะไรที่โลดโผน เพื่อนเก่าๆที่ตามมานั้นเป็นลูกของเพื่อนๆพ่อแม่ ความสนิทสนมกันที่มีแนบแน่นดูดียิ่งนัก ชีวิตการเรียนที่รักจึงเกิดจากการมีสังฆะที่ดีห้อมล้อมเธออยู่
เพื่อนเป็นกลุ่มคนอีกกลุ่มที่สอนเด็กน้อยในเรื่องชีวิต ชีวิตครอบครัวที่มีแตกต่าง มีเหมือนกันบ้างแล้วแต่วาระ จำได้ว่ามีวาระที่โดนเปรียบเทียบกับเพื่อนเหมือนกัน แม่คือคนชอบเปรียบเทียบว่าไยไม่เหมือน ทำตัวเหมือนคนนั้นหน่อยคนนี้หน่อยลูกจ๋า ฟังแล้วเด็กน้อยระอา เหตุใดต้องเปรียบเธอกับคนอื่น ขอให้ตัวเธอเป็นเธอ ยอมรับไม่ได้หรือไร เสียงนี้มันส่งเสียงดังที่เธอย้อนถามแม่ไป แต่เสียงมันดังอยู่ในใจ ของจริงเธอกลับไม่กล้าเอ่ยพูดให้ได้ยิน
เด็กน้อยมีสุขกับการได้อยู่ครบหน้ากันที่บ้านแม่ พ่อเธอสอนให้เรียนรู้ ปลูกผัก ข้าวโพดทำได้อย่างไร ข้างบ้านของแม่ที่อยู่มีต้นน้อยหน่าสองเมตรเห็นจะได้ ต้นไม้ต้นนี้แหละค่ะที่เป็นต้นไม้ต้นแรกที่เธอได้ปีน เหตุผลที่ปีนขึ้นไปเธอแค่อยากได้ผลที่ปลายสุดของมันมากิน วันนี้เธอบอกฉันว่าเธอไม่รู้สึกว่ามันสูงเท่าไร ปีนได้ยังไงเธอก็ไม่รู้ รู้อยู่แต่ว่าใช่ว่ามีใครสอนเธอ ฉันฟังแล้วย้อนเห็นภาพที่เธอปีนได้เธอทำได้เอง เหตุผลที่เธอทำได้เพราะเธอคำนวณระยะก่อนปีน ทุกก้าวที่เธอเคลื่อนที่เธอมีการกะระยะปลอดภัยเทียบไปกับแขนขาเธอ เออหนอ!ความคิดของเด็กมันช่างมีค่าให้เรียนรู้ซะนี่ อย่างเช่นตัวอย่างเรื่องนี้เคยคิดแค่ว่าเด็กซน วันนี้เมื่อมองต่างมุมกลับพบว่าเด็กมีเรื่องความคิดวิเคราะห์ซ่อนอยู่ด้วยนะ อืม! น่าสนใจ
หน้าบ้านเธอมีเข็มขาวสูงสองเมตรเศษ ต้นนี้มีดอกพราวทั้งต้นตลอดปี หัวค่ำมันส่งกลิ่นหอมชื่นใจยิ่งนัก ถัดไปก็มีเข็มเหลืองเป็นพุ่มสูงราวๆเมตรเศษอยู่ใกล้ อีกด้านของพุ่มเข็มเหลืองเป็นลานว่างๆมีเสาเรียงรายอยู่เป็นช่องๆ ลานนี้มีไว้ตากอวนของญาติของแม่ เลยไปจากลานมีมะขามสูงใหญ่ขึ้นอยู่ใกล้ มะขามต้นนี้มีกล้วยไม้งามเกาะอยู่เต็มไปหมดจนละลานตา ใกล้ๆมะขามต้นใหญ่มีจอ มปลวกใหญ่ที่แถวบ้านบูชา วันไหนใครกลุ้มอุราก็พากันมาพร้อมคนทรงเจ้า ถามไถ่ปรึกษาทางออกได้แล้วนำไปผ่อนคลายปัญหา เลยไปจากศาลจอมปลวก ก็เป็นป่าจากอยู่ด้านตรงข้าม ยามใดที่ฝนตกมาก น้ำทะเลหนุนหนัก น้ำก็ท่วมถนน เด็กๆแถวบ้านที่ซนก็จะไปเล่นจับปลาด้วยกัน บางครั้งที่เป็นหน้าน้ำ เด็กน้อยก็ตามเพื่อนบ้านไปเล่น สิ่งที่ไปเล่นกันคือ หาฟองปลากัดแล้วจับมันมา จับแล้วก็พากันไปหาลูกน้ำในถังน้ำฝนมาเลี้ยงกัน เลี้ยงแล้วนั่งดูปลาว่ายแผ่หางส่ายหัวโชว์สีสันงาม ฟังแล้วรู้สึกเลยว่า วิถีนี้เป็นเครื่องมือสร้างความสุขให้เธอ
ข้างบ้านเลยแนวต้นน้อยหน่า เป็นที่ซึ่งพ่อฝึกเธอให้เพาะปลูก เวลาเพาะปลูกพ่อชวนเด็กแถวบ้านมาปลูกด้วยกัน เด็กน้อยเธอบอกจำได้ขุดดินกันใหญ่มอมแมมด้วยกัน สนุกสนานทั้งตอนขุดดินและตอนเก็บผักที่ปลูกไว้ไปกินด้วยกัน ถอยจากแปลงผักไปหน่อย ค่อนไปหลังบ้านก็เป็นป่าละเมาะติดกับป่าจาก ป่าจากมีส้วมชาวบ้านที่ปลูกเอาไว้หลายหลังด้วยกัน มีส้วมที่มีหลังคาและส้วมที่ฟ้าเป็นหลังคาไว้ใช้ของแต่ละบ้าน เวลาปล่อยทุกข์ออกมามันก็กองลงมาบนหลุมบนพื้นซึ่งน้ำทะเลขึ้นถึง ป่าจากหลังบ้านจึงเป็นแหล่งแพร่โรคฮิตได้เลยค่ะท่าน เด็กน้อยบอกว่าจำได้เธอเป็นโรคฮิตของเด็กไปด้วย โรคฮิตที่เธอเล่าไว้คือโรคพยาธิตัวกลมที่สมัยนี้เจอยากกันแล้ว
พื้นที่ป่าจากหลังบ้านเป็นพื้นที่ซึ่งเด็กน้อยได้ใช้เรียนรู้วิธีตกปลา ครูสอนในเรื่องตกปลาเป็นลูกเพื่อนบ้านที่อยู่ใกล้ๆกัน คันเบ็ดที่ใช้ตกปลาเป็นแค่ไม้ไผ่ที่เหลาสั้นๆ ปลายไม้ผูกด้วยเชือกว่าว ปลายเชือกนั้นเล่าโยงเบ็ดเอาไว้ เช้ามาก็แค่เดินลงในน้ำแล้วปักเบ็ดไว้รอปลามากินเหยื่อ พ่อคือคนสอนเรื่องปลาผ่านทางวิถีที่ไปเที่ยวด้วยกัน ทุกครั้งเมื่อมีโอกาสพ่อมักนำพาครอบครัวและเพื่อนบ้านไปเที่ยวปิกนิกด้วยกัน สถานที่ปิกนิกนั้นคือริมหาดใกล้บ้านไปแล้วกลับได้ภายในหนึ่งวัน ไปถึงผู้หญิงพากันจัดครัวเครื่องปรุงรอไว้ พ่อนั้นนำพาเด็กๆเดินลงทะเลวางอวนเหวี่ยงแหจับปลาด้วยกัน เด็กๆว่ายน้ำเล่นๆพร้อมดูอวนไปว่ามีปลาติดไหม มีแล้วก็ปลดมันมาให้แม่และน้าปรุงอาหารกิน บางที่ก็เดินหาหอยเก็บหอยมาให้แม่น้าปรุงกัน ชีวิตของช่วงวัยนี้ที่จำความได้เธอบอกว่าเด็กๆแก้ผ้าเล่นน้ำกันค่ะ ผู้ใหญ่เขาใส่วันพีซกันทั้งนั้น ผู้ชายใส่ขะม้า ผู้หญิงกระโจมอก เล่นน้ำ ทำอาหาร กินข้าวด้วยกันตรงหาดนั่นแล
บทเรียนรู้จากชีวิตจริง
พ่อ-แม่ คือ คนสำคัญที่เป็นผู้ทำให้เด็กนั้นกล้าลอง
วิถีทุกเมื่อของชีวิต เป็นบทเรียนทุกบทที่เด็กเรียนอยู่นะ
เด็กๆนั้นใช้ การดู การมอง การได้ยิน การเห็น และความรู้สึกเป็นเครื่องมือเรียนรู้
ความสัมพันธ์กับคนรอบข้าง คือ บทเรียนสอนเด็กที่ไม่ต้องมีครูสอน
เด็กใช้ความรู้สึกเป็นข้อตัดสินการเลือกคำตอบสำหรับตอบโจทย์ที่กำลังเรียนรู้ เลือกแล้วมันกลายเป็นเสื้อที่เด็กถักทอสวมใส่คลุมกาย
ธรรมชาติสอนความคิดวิเคราะห์ได้
ภายใต้ความซนของเด็ก มีความคิดวิเคราะห์ตามแบบของเขาซ่อนอยู่ด้วยนะ
Keywords :
อิสระในความสัมพันธ์ คือ บทเรียนยิ่งใหญ่ที่สอนให้เด็กเรียนรู้ ความรู้สึกต่อความสัมพันธ์คือคำถามที่เด็กถามตัวเองเสมอมา คำตอบที่เด็กตอบไว้เป็นไปอย่างไรอยู่ที่การแปลความหมายของความสัมพันธ์ คำตอบนั้นยังคงอยู่มั่นไม่เปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลาจนกว่าคำถามใหม่จะถูกถามแทน
บทเรียนรู้จากชีวิตจริง
พ่อ-แม่ คือ คนสำคัญที่เป็นผู้ทำให้เด็กนั้นกล้าลอง
เห็นด้วยค่ะ...
แวะมาทักทายค่ะ
กระบี่น้ำท่วมหรือเปล่าคะ
รักษาสุขภาพด้วยนะคะ มีความสุขเสมอๆนะคะ
มาร่วมขบวนเด็ก "ซน" ค่ะ
ภาพยามเข้าของพิษณุโลกค่ะ
พ่อ-แม่ คือ คนสำคัญที่เป็นผู้ทำให้เด็กนั้นกล้าลอง
วิถีทุกเมื่อของชีวิต เป็นบทเรียนทุกบทที่เด็กเรียนอยู่นะ
***************
เห็นด้วยและชอบวิธีเล่าเรื่องพี่หมอเจ๊ มาก ๆ ค่ะ
สวัสดีค่ะ
สวัสดีค่ะ
อิสระในความสัมพันธ์
มาอ่านซ้ำเพราะคุ้น ๆ ว่าเห็นคำนี้ในตอนไหน(สักตอน)
บางบทบางคราวเราลืมไปค่ะ
หลงยึด ติด นึกเอาว่า ความสัมพันธ์แล้วต้องตามด้วย ความเป็นเจ้าของ
เพิ่งอ่านจากไหนในช่วงก่อนหน้านี้มาและเห็นด้วยว่า
ความสัมพันธ์และอิสระ ควรคู่กัน
เสาบ้านจะค้ำตัวบ้านให้แข็งแรง ดำรงได้ ต้องมีระยะห่างระดับหนึ่งที่แบกรับแรง น้ำหนักบ้าน ได้พอดี
ครอบครัว..คงคล้ายกัน พ่อ-แม่-ลูก
แวะมาคุยอีกในวันสบาย ๆ วันที่อยู่ร่วมกันกับคนของความรัก..ค่ะ
สุขสันต์วันพ่อด้วยค่ะ พี่หมอเจ๊ (แม่ที่น่ารักของลูก ๆ)