ราวหนึ่งปี ที่แม่เลี้ยงพี่น้ำปลามาตั้งแต่อย่านมแม่ จนถึงวันนี้
ตั้งแต่ มาอยู่ที่บ้านวันแรก และหวาดผวากับทุกคน คุณแม่จัดผ้านุ่ม ๆ ใส่ตะกร้าให้น้องนอนหลับอย่างรู้สึกอบอุ่นและปลอดภัย ช่วงแรกน้ำปลาไม่กล้าออกไปไหน อยู่แต่ในห้องนั่งเล่น แต่น้ำปลาก็น่ารัก ไม่อึเพ่นพ่าน ให้เราต้องคอยเช็ด
โตขึ้นมาหน่อย เริ่มที่จะกล้าออกจากห้อง เริ่มกระโดดขึ้นที่สูงได้ แต่ก็ยังไม่ออกนอกบ้าน เพราะนอกบ้านนั้นคงจะน่ากลัวเกินไปสำหรับน้อง ตอนนี้น้องน้ำปลาเริ่มมีนิสัยชอบกัด ไม่รู้ว่าเกิดจากความเครียดอะไรรึเปล่า ที่ถูกพาออกจากบ้านแม่ตั้งแต่เด็ก น้ำปลาชอบกัดทุกคน แต่เป็นลักษณะกัดเล่น ไม่ได้กัดให้เขี้ยวจมจนเลือดออก น้ำปลากัดแกล้งเล่น เราจะรู้สึกเจ็บหน่อย ๆ เท่านั้น
พอเริ่มโตขึ้น คุณแม่เริ่มพาออกนอกบ้าน ไปฝึกปีนต้นไม้ เพื่อฝึกเอาตัวรอด ตอนแรกน้ำปลากลัวนิดหน่อย แต่ก็สนุกสนานกับนอกบ้าน และกล้าที่จะออกนอกบ้าน และฝึกหาที่ถ่ายและกลบด้วยตัวเอง ตอนนี้น้ำปลาเริ่มรู้แล้วว่าตัวเองชื่อน้ำปลา จากที่เราเรียกันบ่อยมากจนจำได้ ทุกครั้งที่คุณแม่เรียกน้ำปลา น้ำปลาจะวิ่งมาอย่างรวดเร็วจนเบรกไม่อยู่ ต้องใช้ผนังช่วยเบรกเสียส่วนใหญ่
ทุก เช้าน้ำปลาจะได้ปลาคลุกกับข้าวเป็นมื้อเช้า ส่วนมื้ออื่น ๆ ก็เป็นสิ่งที่ทุกคนในครอบครัวกินกัน ขนมเค้กบ้าง มันฝรั่งทอดกรอบบ้าง ไมโลบ้าง อาหารที่เรากินทุกอย่างน้ำปลาล้วนเคยได้ลิ้มลอง ขึ้นอยู่กับว่าจะชอบหรือไม่ชอบเท่านั้น มื้อเย็นคุณแม่จะให้อาหารเสริมเป็นอาหารแมวสำเร็จรูป เพราะหลายคนบอกว่ากินอาหารสำเร็จรูปแล้วขนมักไม่ค่อยร่วง ที่สำคัญแม่อยากให้น้ำปลาเปลี่ยนบรรยากาศบ้างจะได้ไม่เบื่อกับข้าวกับปลาใน ทุก ๆ เช้า
คุณย่าจะเป็นคนไปซื้อปลาที่ตลาดนัดและนำมานึ่งให้น้ำปลา ทุกสัปดาห์ แรก ๆ ที่น้ำปลามา น้ำปลาจะได้กินปลาทูนึ่งสำเร็จรูป แต่หลังจากคุณย่าลองซื้อปลาสด พบว่าน้ำปลาชอบมากกว่าและกินได้เยอะกว่า แสดงว่าน้ำปลาไม่ค่อยชอบปลาทู
http://healthy.in.th/categories/cute/news/1349
ช่วง น้ำท่วม น้ำปลาต้องอยู่แต่ชั้นบน เพราะชั้นล่างบ้านเราน้ำท่วมหมด วันหนึ่งน้ำปลาคงปวดอึมาก เพราะไม่มีทรายให้อึ น้ำปลาจึงเรียกคุณแม่ คุณแม่พาลงมากินข้าวแล้ว แต่ก็ยังไม่หยุดร้อง จึงหาทรายให้น้ำปลาลองอึ ปรากฏว่าน้ำปลาปวดอึจริง ๆ โชคดีที่น้ำปลาเป็นแมวผู้ดีไม่มีเรี่ยราดให้ทุกคนในครอบครัวต้องวุ่นวายกัน เลยสักครั้ง
ตอนน้ำปลาเริ่มเป็นสาว เริ่มมีแมวหนุ่มมาจีบ แต่มีช่วงหนึ่งที่น้ำปลาเกิดติดสัตว์ และไม่มีแมวหนุ่มมาหาเลย น้ำปลาเดินเด้งก้นทั้งวัน และไม่ยอมใครจับโดนบริเวณก้น คุณพ่อแซวว่า "ไอเด้ง" คุณแม่ก็เปรยว่า "นี่ลูกคุณแม่ ทั้งสวย ทั้งรวย ทั้งมีการศึกษาดี ทำไมไม่มีใครมาจีบเลย" ทุกคนหัวเราะกันใหญ่
ช่วงอากาศหนาว น้ำปลาจะมานอนบนที่นอนกับคุณแม่ บางครั้งคุณแม่พลิกตัวไปทับ บางทีผ้าห่มคลุมทับหายใจไม่ออก แต่น้ำปลาก็มานอนกับคุณพ่อคุณแม่ทุกคืน
http://healthy.in.th/categories/cute/news/1574
คุณ ย่าจะกลัวที่สุดกลัวว่าน้ำปลาจะโดนมาข้างบ้านไล่กัดเอา แต่คุณแม่บอกว่าไม่ต้องกลัวเพราะนำ้ปลาปีนต้นไม้เก่งมาก คุณแม่ฝึกให้น้องจนเก่ง ครั้งหนึ่งโดนแมวด้วยกันไล่กัด น้ำปลาหนีขึ้นไปอยู่บนยอดไม้ ไม่กล้าลงมาเพราะสูงเกินไป คุณย่าเอาขึ้นไปช่วยให้น้ำปลาเกาะลงมา แต่น้ำปลาตกใจมาก อึราดลงมาจากบนต้นไม้ ดีที่ไม่โดนคุณแย่า จนคุณแม่กลับจากทำงาน คุณแม่จึงปีนขึนไปจับลงมา น้ำปลาจับคุณแม่ได้ก็เลยกล้าลงมาด้วย
วันหนึ่งคุณแม่ได้ยินเสียงตะกุกตะกักตอนกลางคืน ปรากฏว่าเป็นเสียงน้ำปลากระโดดเปิดหน้าต่างจากกันสาดชั้นสองด้านนอก เพื่อเข้ามาในบ้าน ความเก่งและช่างคิดของน้ำปลาครั้งนี้ คุณแม่จึงให้ฉายาว่า "ซุปเปอร์แมว" พลางประกาศว่า เรื่องหมาเป็นเรื่องจิ๊บ ๆ สำหรับน้ำปลาไปแล้ว ต่อไปน้ำปลาคงเปิดประตูบ้านเองได้ และช่วยดูแลน้องเฏได้
แต่วันนี้ 22 กุมพาพันธ์ 2553 น้ำปลาไม่มานอนใกล้ ๆ คุณแม่อย่างที่เคยเป็น ไม่มาคลอเคลียร์ขออาหารเช้าอย่างที่เคยทำ คุณแม่เรียกเป็นร้อยครั้งก็ไม่ตอบและไม่มาหา...
หรือจะเป็นหมาที่กัดลูกคุณแม่...
หรือจะเป็นรถยนต์บนถนนเหยียบลูกของคุณแม่...
หรือจะตกลงไปในคลองหลังบ้าน...
หรือจะโดนงูกัด...
หรือไปเที่ยวไกล กลับบ้านไม่ถูก...
แต่ไม่มีร่องรอยใด ๆ ให้รู้ได้ว่าทำไมน้ำปลาจึงไม่ตอบที่คุณแม่เรียก
ลูกแม่ไปไหน...
ทำไมไม่กลับบ้าน
หรือ ถึงเวลาของวิถีของนักผจญภัยที่จะต้องออกเดินทาง เมื่อวานนี้น้ำปลามาคลอเคลียร์คุณแม่มากกว่าปกติ หรือจะเป็นการสั่งลา เพราะคุณยายของน้ำปลาก็ออกเดินทางหายไปจากบ้านเช่นกัน...หรือจะเป็นวิถีของ น้ำปลาเองที่ต้องทำเช่นนั้น
อย่างไรแม่ก็ภาวนาให้ลูกปลอดภัย
และได้ตามหาความฝันแบบที่ตัวเองต้องการ
จานข้าวยังวางอยู่ที่เดิม อาหารก็ยังอยู่ที่เดิม น้ำก็มีอยู่เต็มถัง..ลูกหิวก็กลับมากินนะ
น้ำปลา..ลูกแม่
น้องน้ำปลาหายไปนานหรือยังค่ะ
เศร้าจังเลย ภาวนาให้น้องน้ำปลาไปเที่ยวเล่น
และกลับบ้านมาไวไว และมาอย่าปลอดภัยค่ะ
น้องน้ำปลาจะต้องกลับมา ^_^