สถานนีวิทยุโทรทัศน์ของกรมประชาสัมพันธ์ ช่อง 5 (คนละช่องกับช่อง 5 กองทัพบกปัจจุบัน) เขตขอนแก่น เมื่อปี 2514-15 แพร่ภาพทั่วภาคอีสาน ในกลางวันวันเสาร์จะมีรายการประกวดหมอลำหมู่ มีหมอลำหมู่ดี ๆ จากทั่วภาคอีสานมาประกวด หมอลำดี ๆ แต่ละทำนอง (วาดลำ) เช่น หมอลำอุบลราชธานี ร้อยเอ็ด กาฬสินธุ์/สารคาม อุดรธานี ยโสธร และขอนแก่นเมืองเจ้าภาพ
ทำให้พี่น้องทั่วภาคอีสานได้รู้จักและนำ (ตาม) ไปจ้างข้ามจังหวัดมาลำที่หมู่บ้านตนเองก็ตอนหลังจากการประกวดแต่ละครั้ง พิธีกรรายการคือท่านวิชัย จันทร์เจริญ ข้าราชการกรมประชาสัมพันธ์ขณะนั้น (ท่านอธิบดีกรม ปชส. รักศักดิ์ วัฒนพาณิชย์ มามอบรางวัลทุกครั้ง) มีหมอลำศิลปินดังเกิดขึ้นภายหลังการประกวด 2-3 ครั้งแรก ประกวดคราวละราว 1 ปี ก็ตัดสินที หลัง ๆ ปีต่อ ๆ ก็ประกวดมาตลอดแต่หมอลำที่ผ่านเข้ารอบไม่เด่นดังระดับประเทศเหมือนครั้งแรก ๆ โน้นครับ
พระเอก นางเอกหมอลำที่ทั้งชนะเลิศและอันดับรอง ๆ ที่ผ่านเวทีช่อง 5 ขอนแก่นแต่ละครั้ง สมัยนั้น ต่อมาดัง ๆ ทั้งสิ้น เช่น หมอลำอังคนาง คุณไชย, หมอลำ ป.ฉลาดน้อย ส่งเสริม(ศิลปินแห่งชาติปี 2549) หมอลำสไบแพร บัวสด จากคณะอุบลพัฒนา(อุบลราชธานี) หมอลำสุภาพ ดาวดวงเด่น จากคณะเพชรบูรพา (ร้อยเอ็ด) หมอลำอรอุมา สิงห์ศิริ จากคณะแก่นเพชร (อ.พล ขอนแก่น/คนร้องเพลงสาวอีสานรอรัก) ที่ประกวดแล้วดังแบบเป็นคณะไม่เน้นพระเอก นางเอกอัดแผ่นเสียง เช่น คณะร้อยเอ็ดเนรมิตร (ร้อยเอ็ด) คณะอุดรมิตรนิยม คณะ ผ.ร่วมมิตร (อุดรธานี) คณะหงส์ฟ้ามหาราช คณะขวัญอุบล (อุบลราชธานี) เป็นต้น
เกริ่นมายาวขอเกริ่นต่อครับ... หมอลำที่ดัง ๆ จากที่กล่าวมาดังทั้งทางประชาชน และทางนายห้างแผ่นเสียงด้วย ปี 2516 หมอลำอังคนาง คุณไชย ดังเปรี้ยงปร้างจากหลาย ๆ เพลงลูกทุ่งอีสาน เช่นเพลงพี่จ๋าหลับตาไว้ เพลงอีสานลำเพลิน อยากสิกลับอีสาน อย่าขี้โอ่ง โดยครูเพลงอีสาน สุรินทร์ ภาคศิริ ครูพงษ์ศักด์ จันทรุกขา ครูสัญญา จุฬาพร (กลุ่มท่านเหล่านี้ครับ)
ในเพลงอีสานลำเพลิน มีช่วงที่โตน (กระโจน)ลงมาใส่ทำนองลำเพลินคำร้องภาษาอีสานว่า
"ตีกลองน้ำดังมาตุ้มเติ่น ตุ้มเติดเติ่นละวังเวินเติดเติ่น ตีบาดยาว ๆ ตีคราวเยิ่น ๆ ตีเอิ้นใส่แฟน คิ้วแล่นแค่นเจ้าผู้แม่นแฟนใผ มวยผมดกผู้ปกผมดำ มาโอลำลงฟ้อน มาโอ่ลำลงฟ้อน..."
ศัพท์ที่ควรทราบ
1) ตีกลองน้ำ : สาวอีสานนุ่งผ้าถุงกระโจมอก อาบน้ำตามแหล่งน้ำธรรมชาติ ใช้มือตีลมเข้าผ้าถุง ซึ่งเรียกว่าตีอีโปง ถุงอีโปงก็โป่งลมขึ้นมาข้างบน สาว ๆ ก็ขี่ถุงโป่งลมลอยคอไปเล่นน้ำลึก ๆ สนุกสนาน (ส่วนมากนิยมตีตอนไม่มีผู้ชายอยู่ด้วย เพราะว่าการตีอีโปงผ้าถุงจะรูดขึ้นมาที่ร่องแขนบน ใช้ลำน้ำห่มร่างกายแทนผ้าถุง) อาการตีลมเข้าผ้าถุงดังตุ้ม ๆ จึงเรียกว่าตีกลองน้ำ
2) ตุ้มเติน : เสียงดังของการตีกลองน้ำดังตุ้ม ๆ ๆ ในบทกวี/ลำ ก็ว่าตุ้มเติน หรือ ตุ้มเติดเติ่น คำว่า "ตุ้มเติดเติ่น" นี่ดูท่านกวีอีสานจะเจตนาให้มีจังหวะคำไพเราะให้เข้ากับลำเพลิน ในจังหวะกลองลายเซิ้ง และให้สัมผัสกับคำว่า "วังเวิน"
3) วังเวิน : วังน้ำ, คุ้งน้ำ, เวิ้งน้ำกว้าง ๆ
4) บาด : คราว, ครั้ง ตีบาดยาว ๆ จึงหมายถึง ตีคราวละยาว ๆ
5) เยิ่น ๆ : ช้า ๆ (ตีบาดยาว ๆ ตีคราวเยิ่น ๆ ตีเอิ้นใส่แฟน หมายถึง ตียาว ๆ และตีช้า ๆ สลับกันไป อยากเรียกร้องให้ผู้บ่าวได้ยิน..)
6) คิ้วแล่นแค่น : คิ้วเป็นวงเรียวงามพอดี ๆ
หมอลำฉวีวรรณ พันธุ (ฉวีวรรณ ดำเนิน/ศิลปินแห่งชาติ ปี 2536 อดีตนางเอกหมอลำคณะรังสิมันต์ ก่อนนางเอกบานเย็น รากแก่น) อัดแผ่นเสียงแบบลำเพลินดังมาก กับครูชาและลูกชาย ปี 2545 ภาพขวา ศิลปินตลกอีสาน หนิงหนอง (เพชรพิณทอง) ท่านหนิงหน่องนอกจากการแสดงตลกอีสาน ท่านก็เป็นศิลปินหมอลำชั้นครูคนหนึ่ง กับครูชาในห้องบันทึกเสียงแห่งหนึ่ง
เพลงอีสานลำเพลิน ดังมากในปีนั้น ในวงการลูกทุ่งหมอลำนี้นับว่าเป็นเพลงเนื้อหาแบบลูกทุ่งอีสานมีภาษาไทยกลาง แล้วมาหักลง(ท่อนฮุก) ใส่แบบหมอลำ สลับกันไปอย่างนี้ ซึ่งนิยมกันมากในการทำเพลงแนวลูกทุ่งอีสานปัจจุบัน แม้แต่แอ๊ด คาราบาว ยังนำแนวหมอลำเดินกลอนขอนแก่น มาร้องในเพลงที่กล่าวถึงสาวเบียร์... จังหวะช่า ช่า ช่า สนุก ๆ
เกริ่นมายาวยังไม่เข้าเรื่องเลยครับ ขอยกยอดไปตอนต่อไปก็แล้วกันครับ
สวัสดีครับ
กำลังสนุกครับ จะติดตามตอนต่อไป
สวัสดีค่ะ คุณครูชา
สมัยก่อนที่อ๋ออยู่ขอนแก่น ยังเคยฟังข่าวภาษาอีสาน ที่มีผู้ประกาศข่าวชื่อ นาย ธีรพงศ์ โสดาศรี ค่ะ (ถ้าจำไม่ผิดค่ะ) ราวปี 2526 - 27ประมาณนั้นค่ะ
ตอนนั้นรับทีวีได้ไม่กี่ช่อง จึงได้ชมได้ดู รำเพลิน รำซิ่ง เซิ้ง โปงลาง อย่างสนุกสนาน ฟังออกบ้างไม่ออกบ้างค่ะ จำได้ว่าเรียนอยู่ชั้นประถมค่ะ แปลกนะคะ ฟังมาก็มาก อยู่ขอนแก่นก็นาน แต่ก็ยังเว้าลาว บ่ได้ คือเก่าค่ะ
อ๋อค่ะ
เรียน คุณครูชา
๑. ขอบคุณที่คุณครูนำข้อมูลคณะหมอลำและหมอลำชื่อดังเก่า ๆ มาบอกเล่า ณ ที่นี้ครับ นับว่าเป็นประโยชน์อย่างยิ่ง เพราะหมอลำที่คุณครูเอ่ยถึงนี้ ล้วนแต่เป็นหมอลำระดับคลาสสิคของอีสาน ในแวดวงวิชาการที่เกี่ยวข้องยังมีการศึกษาหรือเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับเรื่องนี้กันน้อย การที่มีผู้รู้เช่นคุณครูเอ่ยถึง ก็ช่วยให้ผู้ที่รักและชื่นชอบหมอลำได้ตระหนักและระลึกถึงท่านครับ
๒. ผมขออนุญาตขยายความเพิ่มเติมนะครับว่า คำว่า "ตุ้มเติดเติ่น" "เติดเติ่น" หรือ "เตอะเติ่น" ล้วนแสดงให้เห็นถึงจินตภาพของคนอีสานในการให้ความหมายเกี่ยวกับการใช้เสียง เช่น อธิบายท่วงทำนองจังหวะดนตรี เป็นต้น กรณีการตีกลองน้ำ ก็ประมาณว่า เขาตีแบบมี "เสียงสูงเสียงต่ำ" "มีขึ้นมีลง" เพราะดนตรีอีสานให้ความสำคัญทั้งจังหวะขึ้น (ยก) และจังหวะลง (ตก) โดยเฉพาะจังหวะขึ้นหรือยกนั้น ถือเป็นเสน่ห์ของดนตรีอีสานขนาดนั้นเลยครับ เพราะเขาต้องเล่นให้คนได้ "ย้อน" (อาการยืดยุบเข่าตามจังหวะดนตรี) ได้ "ฟ้อน" (วาดมือวาดแขน แกว่งตีนแกว่งขา) ไปด้วย
ขอบคุณครับ
เรียน คุณครูชา
ยินดีครับ ขอบคุณครับ