ครูซัน ตะวันชีวิต ครูเพื่อเด็กน้อย ครูในดวงใจของครูข้างถนน


ถึงแม้ผมเป็นแสงเทียนดวงน้อยไม่ได้ ผมก็ ขอเป็นขี้ผึ้ง ที่จะนำมาทำเทียน

                 

             ผมคิดว่าเป็นผมคนด้อยโอกาส ทางการศึกษาคนหนึ่ง ผมจบประถมศึกษา ปีที่ 6 ก็อาศัยร่มใบบุญของผ้าเหลืองบวชเรียน จนจบ มัธยมศึกษาปีที่ 6 และจบปริญญาตรี จากร่มใบบุญนี้  ตอนเด็กได้พบได้เจอคุณครูใจดี มากมาย ผมมีความใส่ฝันว่าอยากเป็นครู อยากเป็นแสงเทียน(ผมไม่อยากคุณครูใช้สัพนามแทนตัวเองว่า "เรือจ้าง" )อยากให้เรียกว่า แสงเทียน มากกว่า  ผมอยากเป็นแสงเทียนดวงน้อยจะส่องสว่างที่ไหน กลางดงพงไพรก็ได้ ตัดสินใจเรียนเข้าเรียนคณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตเชียงใหม่  ตอนที่ผมเรียน ผมมีครูซันเป็นครูในอุดมการณ์คติ มีแรงใจ แรงบันดาล จากคุณครู และมีความใฝ่ฝันว่าอยากทำตามอุมการณ์ของครูท่าน และอยากจะเจอตัวครูสักครั้งหนึ่งในชีวิต แต่ก็ไม่มีโอกาส สักครั้ง จนผมจบการศึกษา รวมระยะเวลา 11 ปีที่อยู่ในร่มกาสาวพัตร ผมจึงลาสึกขาและ ล่าฝัน ดังที่ใฝ่ฝันไว้และทำตามอุดมการณ์ ที่วางไว้   ได้ทำตามอุดมการณ์ บ้างเป็นช่วงขณะ คือเป็นครูอัตราจ้าง ที่รัฐจัดให้กับโรงเรียนที่ขาดแคลน แต่ก็เป็นระยะสั้น 6 เดือน บ้าง 1 ปี หลังจากที่เป็นครูอัตราจ้างอยู่หลายแห่ง จนมาสอบและได้เข้ามาทำงานองค์กรพัฒนาเอกชนที่แม่สอด ผมรับมอบงานวันที่ 1 ธันวาคม 2548 พื้นที่ที่ผมได้รับผิดชอบคืออุ้มผาง ผมไม่ปฏิเสธ ถึงแม้ระยะทาง การเดินทางจะลำบากขนาดไหนก็ตาม  ขึ้นเขาลงดอย 1229 โค้ง เป็นพื้นที่ที่ใครๆก็ไม่อยากรับผิดชอบ   วันที่ 18 ธันวาคม 2548  วันแรกที่ผมได้ลงพื้นที่ ตามปกติ ถ้ามารับมอบงานใหม่ๆ จะมีเพื่อนร่วมงาน ที่อยู่ก่อนพาลงพื้นที่ แต่สำหรับผม ไม่มีใครนำไปทำความรู้จักพื้นที่อุ้มผาง ผมขี่มอเตอร์ไซด์ คู่ชีพ ของผมสุ่มไป ผมบอกตามตรงว่า ผมไม่เคย ไปอุ้มผาง เป็นครั้งแรก ที่ขึ้นไป กว่าจะถึงอุ้มลุ้นจนขาดใจว่า จะตกดอยหรือเปล่า ถึงอุ้มผาง สิ่งแรกที่ผมถามกรรมการเขต คือ ถามว่า บ้านครูซันอยู่ที่ไหน โรงเรียนที่ครูซันสอนอยู่ สอนที่ไหน  คำตอบคือ บ้านครูอยู่ในตัวอำเภออุ้มผาง โรงเรียนที่ครูสอน อยู่โรงเรียนสุดท้ายคือ โรงเรียนไม้กะพง  กรรมการท่านบอกต่อว่า คุณครูได้จาก พวกเราไปแล้ว จากไปแบบไม่มีวันกลับ  ผมเสียดาย มาก ครั้งหนึ่งในชีวิตผมตั้งปณิธานไว้ว่า จะไปกราบครู ขอชื่นชม อุดมการณ์ของครูสักครั้ง แต่สายไปจริงๆ  ถึงแม้ครูจะจากไปแต่ก็จากไปแต่เพียงกาย  แต่จิตวิญญาณ ความเป็นครูเพื่อชีวิต ครูเพื่อเด็กดอย ยังอยู่ในใจผมเสมอ 

             

       ตลอดระยะเวลา 1 ปี ที่ผมรับผิดชอบพื้นที่อุ้มผางขึ้นดอย ลงดอย ฟันฝ่า โค้ง 1219 โค้ง เวลาลงพื้นที่เมื่อ จะขาดไม่ได้คือไปบ้านครูซัน ไปโรงเรียนบ้านไม้กะพง  เพลงที่อยูในบันทึกผมทั้ง 3 เล่ม   เป็นเพลงของครูซัน ทั้ง 3 เล่ม ผมได้ขออนุญาต คุณครูสุนีย์ หมื่นจิต  คู่ทุกข์คู่ยาก ของคุณครูซัน นำเพลงของครูมาลงในบันทึก  เพื่อเชิดชู บูชาคุณครูตลอดไป  ผมสัญญากับตัวเองว่า ถึงแม้ผมเป็นแสงเทียนดวงน้อยไม่ได้ ผมก็ ขอเป็นขี้ผึ้ง ที่จะนำมาทำเทียน  อย่างนี้ ตลอดไป จะขอทำตามเสี้ยวหนึ่งของอุดมการณ์ครูซัน ตลอดไป  ขอบคุณครูซัน  ครูตะวันชีวิต ครูเพื่อเด็กน้อย ครูในดวงใจของครูข้างถนน

  

ประวัตและผลงานของครูชัน

จาก  www.bankrusun.com 

         http://www.9dern.com/rsa/view.php?id=1219

ครูซัน แสงตะวันฉายในดอยมืด
โดย : รัตติกาล  เมื่อ : 23/01/2006 01:29 PM

ชื่อจริง นายสมพงศ์ หมื่นจิตต์ - ตำแหน่ง อาจารย์ 2 ระดับ 7 กินตำแหน่งอาจารย์ใหญ่ รร. บ้านไม้กะพง อ. อุ้มผาง จ. ตาก เสียชีวิตเมื่อ 18 มิถุนายน 2544 ณ. โรงพยาบาลตากสินมหาราช จ. ตาก

ครูซัน เกิด 20 ธันวาคม พศ. 2502 ณ. ตำบลหนองบัวเหนือ อำเภอเมืองตาก จังหวัดตาก บิดาชื่อ นายสุพจน์ หมื่นจิตต์ มารดาชื่อ นางลำดวน หมื่นจิตต์ การศึกษา ระดับประถมศึกษา รร. ตากสินราชรนุสรณ์ จ.ตาก ระดับมัธยมศึกษา รร. ตากพิทยาคม จ.ตาก ระดับ ปกศ.ต้น วิทยาลัยครูกำแพงเพชร จ. กำแพงเพชร ระดับ พม. (ปกศ.สูง) ศึกษาด้วยตนเอง ระดับปริญญาตรี วิทยาลัยครูบ้านสมเด็จเจ้าพระยา กทม.

ประวัติการรับราชการ - บรรจุเข้ารับราชการครู ณ. รร. บ้านแม่กลองเก่า อ. อุ้มผาง จ. ตาก 1 กุมภาพันธ์ 2522 / พศ. 2522-2529 รับราชการครู รร. บ้านแม่กลองเก่า อ. อุ้มผาง จ. ตาก / พศ. 2530 รับตำแหน่ง ครูใหญ่ ณ. รร. บ้านกะแง่คี อ. อุ้มผาง จ. ตาก / พศ. 2531-2534 รับตำแหน่ง ครูใหญ่ ณ รร. สามัคคีวิทยา อ. อุ้มผาง จ. ตาก / พศ. 2535-2544 (ตำแหน่งสุดท้ายก่อนสิ้นชีวิต) อาจารย์ใหญ่ รร. บ้านไม้กะพง อ. อุ้มผาง จ. ตาก

ชีวิตครอบครับ - ปัจจุบันครูซันมีธิดา 2 คน คนแรกศึกษาอยู่มหาวิทยาลัยศิลปากร กทม. คนเล็กเรียนชั้น ม. 1 รร. อุ้มผางวิทยาคม อ. อุ้มผาง จ. ตาก

 

** บันทึกนี้ี่คัดลอกมาจากบันทึกของครูซัน สมัยที่ยังมีชีวิตอยู่เมื่อครั้งที่ครูซันทำผลงาน **

ชีวิตและงาน

 เกิดมาเป็นลูกครูประชาบาลเงินเดือนน้อย มีพี่น้องหลายคน แม่เป็นชาวนา ทุกคนในครอบครัวต้องช่วยกันทำงานตั้งแต่เล็กๆ อพยพตามพ่อที่ต้องย้ายไปสอนตามโรงเรียนที่อยู่ห่างไกล กันดาร เกือบสิ้นชีวิตด้วยโรคปอดบวมตั้งแต่เด็กๆ คือเมื่ออายุประมาณ 3 ขวบ ในขณะที่ตามพ่อซึ่งไปสอนหนังสืออยู่ที่ดอยมูเซอ

ก็เกิดอาการจากโรคปอดบวมกำเริบ พ่อต้องแบกขึ้นหลังมาออกจากหมู่บ้านมาหาหมอที่ในเมืองตาก เกือบเอาชีวิตไม่รอดเหมือนกัน พอเริ่มเติบโตขึ้นมาก็มาปักหลักอยู่ที่ตำบลหนองหลวง อ. เมืองตากในปัจจุบัน ช่วยแม่ทำอิฐมอญ ไปอยู่วัดเป็นเด็กวัดบ้าง ทำงานรับจ้างทั่วไปบ้าง งานก่อสร้าง จับกังเอาหมด เรียน ปกศ. ต้นด้วยเงินที่พ่อให้มา 500 บาท นอกจากนั้นก็ทำงานหาทุนเรียนด้วยตัวเองมาตลอด พอจบ ปกศ. ต้น ก็ไม่มีโอกาสได้เรียนต่อกับเขาเพราะไม่มีเงินเรียนต่อ ก็ออกมารับจ้างถีบรถสามล้ออยู่เกือบปี จนกระทั่งสุดท้ายสอบบรรจุเข้ารับราชการเป็นครูได้ ก็เลือกลงที่อุ้มผางเลย ปกติแล้ว อ. อุ้มผางนี่ไม่มีใครอยากไปอยู่

หลายคนถึงขนาดว่าพอรู้ตัวว่าต้องไปอยู่อุ้มผางก็ยอมสละสิทธ์เลย ก็มีหลายต่อหลายคน เพราะสมัยเมื่อ 20 กว่าปีที่แล้วนี่ อ. อุ้มผางนี่ถือว่าทุรกันดารมาก การเดินทางก็ลำบากต้องเดินทางตัดเข้าเขตประเทศพม่า ไข้ป่าก็แรง แล้วยุคนั้นนี่เรื่องของการแตกแยกทางอุดมการณ์นี่ยังมัอยู่สูงมากที่อุ้มผาง แต่ก็ด้วยวัยหนุ่มแน่น อายุเพิ่งจะประมาณ 20 ปี ก็ไม่สนใจอุปสรรคใดๆ อยู่แล้ว

อุ้มผางเมื่อ 20 กว่าปีที่แล้วนี่ ลำบากขนาดไหนก็ลองจินตนาการดู ฝนตกชุกตลอดทั้งปี สัตว์ป่ามากมาย ป่าไม้อุดมสมบูรณ์ อากาศหนาวเย็นตลอดปี สมัยนั้นการรบพุ่งตามแนวชายแดนไทย-พม่า ระหว่างกองทัพกะเหรี่ยงกู้ชาติกับกองทัพพม่าก็ยังรุนแรงอยู่ โดยที่สมรภูมิที่แรงที่สุดก็อยู่ติดเขต อ. อุ้มผางนี่แหละ เห็นภาพเด็กที่ขาดแคลนเสื้อผ้า เครื่องนุ่งห่ม เครื่องเขียนแบบเรียนอะไรต่างๆ นี่ก็ได้แต่ทนดูอยู่ ไม่รู้ว่าชะช่วยเหลือได้อย่างไร เงินเดือนหลังจากส่งไปให้น้องเรียนหนังสือแล้วก็เหลือเดือนละไม่กี่บาท

จนกระทั่งวันเวลาผ่านไปกว่า 10 ปี น้องๆ ก็เรียนจบกันไปหมดแล้ว ครอบครับก็พออยู่พอกินไม่เดือดร้อนอะไร ปี 2535 จึงได้เริ่มตั้งโครงการชื่อว่า “เพื่อเด็กน้อย” พอการใช้ความรู้ความสามารถทางดนตรีที่พอมีอยู่ ออกตระเวนเล่นดนตรีในลักษณะ “เปิดหมวก” และเข้าไปติดต่อขอเล่นตามร้านอาหารบ้าง และก็ได้บอกวัตถุประสงค์ของการทำงานเพื่อเด็กๆ ตามสถานที่ๆ เข้าไป พร้อมกับขอรับบริจาคเสื้อผ้าบ้าง เครื่องเขียนแบบเรียนบ้าง หรือเงินบ้างตามความสมัครใจของผู้บริจาค เพลงที่เล่นส่วนใหญ่เป็นเพลงแนว “เพื่อชีวิต” คือก็เล่นทั้งเพลงคนอื่นและเพลงของตัวเองบ้าง โดยจะเน้นเฉพาะเพลงที่เป็นเนื้อหาที่กล่าวถึงเรื่องราวของเด็กนักเรียนในชนบทที่อยู่ห่างไกลความเจริญเป็นหลัก และเพลงที่เกี่ยวกับการอนุรักษ์ธรรมชาติบ้าง เพลงเป็นสื่อที่เข้าถึงจิตใจคนได้ง่ายและรวดเร็ว จึงเริ่มมีคนรู้จักและให้การสนับสนุน โดยชมรมตะกร้อจังหวัดตากมอบเงินสนับสนุนเป็นทุนในการทำเทปชุดแรก ชื่อชุด “เพื่อเด็กน้อย” ก็ผลิตออกมาจำนวน 2000 ม้วน ใช้เวลาจำหน่ายประมาณ 1 ปี หักค่าใช้จ่ายแล้วเหลือเงินประมาณ 40,000 บาท ก็ได้มอบให้กับสำนักงานการประถมศึกษาจังหวัดตาก เพื่อมอบเป็นทุนให้แก่โรงเรียนที่อยู่ห่างไกลและกันดารที่สุดใน 8 อำเภอ ภายในจังหวัดตาก โรงเรียนละ 5,000 บาท เพื่อเป็นทุนหมุนเวียนในโครงการอาหารกลางวันของเด็กนักเรียน

จากนั้นเป็นต้นมา บทเพลงจึงถูกถ่ายทอดออกไปสู่สาธารณะเรื่อยๆ และในวงที่กว้างมากขึ้น อำเภออุ้มผางมีนักท่องเที่ยวจากต่างถิ่นเข้าไปเที่ยวมากมายในแต่ละปี จึงได้รับการสนับสนุนจากมวลชนในหลายกลุ่ม หลายองค์กร ในปีหนึ่งๆ จะมีรถบรรทุกอาหาร เครื่องนุ่งห่ม อุปกรณ์การศึกษา ฯลฯ ไปสู่อุ้มผางมากขึ้นเป็นลำดับ

จนกระทั่งสามารถกระจายความช่วยเหลือดังกล่าวออกไปได้ทั่วทุกโรงเรียน (ที่ขาดแคลน) ภายในอำเภออุ้มผาง

ผลงานเพลงได้รับการสนับสนุนจากนักฟังเพลงเพิ่มมากขึ้นเป็นเงาตามตัวเช่นเดียวกัน จึงได้สร้างงานเพลงต่อมาเป็นลำดับดังนี้

ครูซัน # 1 ชื่อชุด “ครูเพื่อชีวิต”
ครูซัน # 2 ชื่อชุด “แอ่วอุ้มผาง”
ครูซัน # 3 ชื่อชุด “เส้นทางตะวัน”
ครูซัน # 4 ชื่อชุด “ผ้าห่มใจ”
ครูซัน # 5 ชื่อชุด “ซันยิปซี”
ครูซัน # 6 ชื่อชุด “คนดีของแผ่นดิน”
ครูซัน # 7 ชื่อชุด “ดอกไม้แห่งชีวิต”
ครูซัน # 8 ชื่อชุด “ใต้เงาจันทร์”

การทำงานนั้นจะคำนึงถึงเสมอว่าจะสามารถช่วยเหลือผู้คนที่ขาดแคลน จรรโลงสังคมให้งดงามน่าอยู่ได้อย่างไร เมื่อมีเวลาวันหยุดหรือปิดเทอม ก็จะเข้าร่วมทำกิจกรรมกับกลุ่มศิลปินในสาขาต่างๆ และเข้าร่วมการแสดงดนตรีเท่าที่โอกาสจะเอื้อำนวย เช่น “โครงการศิลปินรักษ์ผืนป่าตะวันตก” โดยศิลปินต่างๆ จากหลากหลายสาขา จะรวมตัวกันเข้าไปสัมผัสพื้นที่ใจกลางป่า และนพเสนอเป็นผลงานทางศิลปะ บทเพลง ฯลฯ ตามความถนัดของแต่ละคน และนำผลงานออกแสดงตามโรงเรียนต่างๆ เพื่อให้เยาวชนและผู้คนในสังคมมีจิตสำนึกที่ดีงาม ในการอนุรักษ์ธรรมชาติและช่วยเหลือซึ่งกันและกันต่อๆ ไป


ประวัติชีวิตและผลงาน


 เริ่มรับราชการวันที่ 1 กุทภาพันธ์ 2522 บรรจุเป็นครูน้อย โรงเรียนบ้านแม่กลองเก่า อ. อุ้มผาง จ. ตาก

เดินทางสู่อุ้มผางพร้อมด้วยกีต้าร์เก่าๆ ตัวหนึ่ง ไว้สำหรับดีดเล่นในยามเหงา พบความยากลำบากในการเดินทาง มีรถโดยสารจากอำเภอแม่สอดเพียงวันละ 1 เที่ยว ใช้เวลา 8-10 ชั่วโมงในการเดินทางจากอำเภอแม่สอดถึงอุ้มผาง หากเป็นช่วงฤดูฝน ไม่สามารถใช้รถยนต์ในการเดินทางได้ ต้องเดินเท้าจากอำเภอพบพระสู่อุ้มผาง ใช้เวลา 2 วัน ก็ต้องพักค้างแรมกันในป่า แล้วเส้นทางที่เดินหรือนั่งรถยนต์โดยสารก็เป็นเขตแดนพม่า เพราะตามเขตแดนไทยจากพบพระถึงอุ้มผางนั้นเป็นเทือกเขาถนนธงชัย ดังนั้นการเดินทางที่สะดวกที่สุดคือ เดินทางผ่านเขตแดนพม่า

อำเภออุ้มผางนั้นพื้นที่ตั้งอยู่กลางหุบเขา อากาศหนาวเย็นตลอดทั้งปี เห็นสภาพที่น่าสงสารของเด็กนักเรียน ที่ต้องสวมเสื้อบางๆ เก่าๆ และขาดๆ ใช้ลูกส้มโอมาทุบจนอ่อนและเตะแทนลูกฟุตบอล จึงได้พาเด็กนักเรียนเข้าป่าไปตัดไม้ไผ่ เพื่อมาทำเป็นขลุ่ยให้เด็กได้เป่าเล่น มีเสียงบ้างไม่มีเสียงบ้าง ก็รู้สึกว่ายังดีกว่าการไล่เตะลูกส้มโอเพียงอย่างเดียว

พศ. 2528 ได้รับคำสั่งให้ไปช่วยราชการในตำแหน่งวิชาการอำเภอ อยู่บนสำนักงานการประถมศึกษา อ. อุ้มผางเป็นเวลา 1 ปี จึงได้ลาศึกษาต่อระดับปริญญาตรีที่วิทยาลัยครูบ้านสมเด็จเจ้าพระยา กรุงเทพ วิชาเอกที่เลือกเรียนคือ วิชาการดนตรี จบการศึกษาในปี 2529

พศ. 2530 สมัครสอบครูใหญ่และได้รับการบรรจุเป็นครูใหญ่ครั้งแรกที่โรงเรียนบ้านกะแง่คี อ. อุ้มผาง

พศ. 2531 ย้ายไปดำรงตำแหน่งครูใหญ่ที่โรงเรียนสามัคคีวิทยา ซึ่งมีโรงเรียนสาขาอีก 2 สาขาคือ สาขาบ้านแปโดทะ และสาขาบ้านอุ้มผางคี ต้องทำงานหนักเป็น 3 เท่าของโรงเรียนทั่วไป เพราะต้องดูแล 3 โรงเรียนในขณะเดียวกัน และที่สำคัญปัญหาใหญ่ของที่นี่คือการขาดกำลังบุคคลากร โดยเฉพาะที่โรงเรียนสาขาบ้านอุ้มผางคีนั้น ต้องเดินเท้าเข้าไปสอนเกือบ 20 กม.

พศ. 2535 ย้ายไปดำรงตำแหน่งครูใหญ่โรงเรียนบ้านไม้กะพง ฐานะครอบครับในช่วงนี้อยู่ในขั้นพอใช้ได้ พออยู่พอกิน จึงคิดช่วยเหลือเด็กนักเรียนที่ขาดแคลนด้วยการขับรถจากอำเภออุ้มผางหลังโรงเรียนเลิกเย็นวันศุกร์ ถึงอำเภอเมืองตากประมาณ 4 ทุ่ม เล่นดนตรีตามร้านอาหาร วันเสาร์จะเล่นเปิดหมวก รับบริจาคเสื้อผ้าบ้าง เครื่องอุปโภคบริโภคบ้าง เครื่องเขียนแบบเรียนบ้าง ฯลฯ วันอาทิตย์ใช้เงินที่หาได้จากการเล่นดนตรีหาซื้อสิ่งของที่จำเป็นต้องใช้ในการเรียนการสอนขึ้นไปอุ้มผาง


ประวัติการทำงานดีเด่นที่ภาคภูมิใจ


• ได้มีโอกาสเล่นดนตรีถวายต่อหน้าพระพักต์สมเด็จพระเทพรัตน์ราชสุดา ถึง 3 ครั้ง
• ได้รับการยกย่องจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยเรื่องเพลงแนะนำการท่องเที่ยวเมืองตาก
• ได้รับเชิญจาก สปช. ให้เป็นวิทยากร จัดทำเพลงให้กับสมัชชาเด็กแห่งชาติ
• ได้รับการเสนอชื่อจากสำนักงานศึกษาธิการจังหวัดให้เป็นศิลปินแห่งชาติ
• ได้รับโล่ห์เกียรติยศเป็นศิษย์เก่าดีเด่นของสถาบันราชภัฏกำแพงเพชร
• ได้รับการประกาศเกียนติคุณจากชมรมผู้สื่อข่าว ในสาขาพัฒนาคุณภาพชีวิตของเด็กในชนบท
• ได้รับเกียรติเชิญเข้าร่วมเป็นศิลปินในโครงการ “ศิลปินรักษ์ผืนป่าตะวันตก”
• เป็นวิทยากรอบรมดนตรี ศิลป วัฒนธรรม ให้กับนักเรียนใน ศปจ. ตาก
• ได้รับเกียรติเชิญเข้าร่วมในโครงการ “ประชาธิปไตยสัญจร” ในการจัดคอนเสิร์ต “รวมใจดอกไม้บาน”
• จัดตั้งกองทุน “เพื่อเด็กดอย” และเป็นผู้ดำเนินการหาทุนเข้ากองทุนเพื่อช่วยเหลือเด็กนักเรียนที่ขาดแคลน
• มอบทุนการศึกษาให้กับนักเรียน ทุนละ 500 บาท จำนวน 20 ทุน
• มอบทุนหมุนเวียนโครงการอาหารกลางวัน 8 โรงเรียนๆ ละ 5000 บาท
• มอบเครื่องนุ่งห่ม เครื่องเขียน แบบเรียนต่างๆ แก่เด็กนักเรียนในอำเภออุ้มผางเป็นจำนวนมาก
ฯลฯ

อนึ่ง นอกเหนือจากทั้ง 8 อัลบั้มดังกล่าวแล้ว ยังมีชุดพิเศษที่จัดทำโดยครูซัน สมัยเมื่อยังมีชีวิตอยู่ซึ่งเป็นการรวมเพลงดังนี้คือ เที่ยวเมืองตาก , ตะวันชีวิต

และหลังจากการสิ้นชีวิตของครูซัน ทางครอบครัวได้จัดทำอัลบั้มพิเศษขึ้นมาอีก 2 อัลบั้มคือ รำลึกครูซัน , ตะวันชีวิต จัดทำเป็นซีดีรวม 2000 แผ่น จำหน่ายแผ่นละ 200 บาท รายได้จากการขายซีดีในชุดนี้ ทางครอบครัวได้มอบให้ “กองทุนเพื่อเด็กดอย” สำนักงานการประถมศึกษา อ. อุ้มผางทั้งหมด

เมื่อครั้งการจัดคอนเสิร์ต รำลึกครูซัน ตะวันชีวิต เมื่อวันที่ 19 มกราคม 2545 ณ เวทีใหญ่เทศบาลเมืองตาก และล่าสุดทางครอบครัวได้จัดทำชุดพิเศษขึ้นมาอีก 1 ชุด คือชุด “เที่ยวเมืองตาก ๒๕๔๕” ทั้งเทปและซีดี ตามคำเรียกร้องของแฟนเพลงครูซันที่ได้มีการติดต่อไถ่ถามมาอย่างมาก และรายได้จากการขายเทป ซีดีก็เพื่อเป็นการช่วยเหลือเรื่องทุนการศึกษาของธิดาครูซันทั้ง 2 คน (รวมทั้งอัลบั้มเก่าต่างๆ)


ข้อมูลทั้งหมดโดย "เจ้านกหลงไพร"

 

หมายเลขบันทึก: 174315เขียนเมื่อ 31 มีนาคม 2008 10:13 น. ()แก้ไขเมื่อ 21 มิถุนายน 2012 19:22 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (24)

     สวัสดีเจ้าค่ะ คุณครูข้างถนน ที่น่ารัก

        น้องจิขอระลึกถึงคุณครูซันด้วยคนนะเจ้าค่ะ  คุณครูซันยังคงอยู่ในหัวใจของคุณครูข้างถนน เด็กๆทุกๆคน น้องจิเป็นกำลังใจให้เจ้าค่ะ

       รักษาสุขภาพด้วยนะเจ้าค่ะ ----> น้องจิ ^_^

สวัสดีน้องจิ

  • ดีมากน้องจิ
  • คนดีๆ เราควรที่จะระลึกถึงเสมอ
  • โดยเฉพาะคนดีๆเพื่อเด็กน้อย
  • ขอบคุณมากครับ

สวัสดีครับน้อง..

กลับมาแล้ว คงได้คิด ทบทวน สิ่งเก่าใหม่ ที่เข้ามาในชีวิตของน้อง ตั้งแต่นี้ก็ขอให้มีพบแต่ความสุข ความเจริญนะครับ

ขอบคุณที่นำเรื่องครูซันมาให้อ่าน ทำให้รู้ลึกขึ้นมากครับ

สวัสดี คุณครูสุ

  • สบายใจขึ้นมามากครับ
  • และได้หลายๆอย่าง ที่สำคัญได้รู้ว่า เราไม่ได้ทุกข์
  • อยู่เพียงลำพัง คนอื่นที่มีความทุกข์มากว่าเรายังมีอีกเยอะ
  • ขอบคุณครับ คุณครู

 

สวัสดีเจ้าค่ะ คุณครูข้างถนน ที่น่ารัก

ก๊อกๆๆๆๆๆ เปิดประตู เปิดมาดู ว่าคุณครูอยู่หรือเปล่า อยู่เปล่าค่ะ คุณครูๆๆๆ น้องจิมาแว้ววววววววว ขอบคุณสำหรับอมยิ้มนะค่ะ แต่ขออีกได้เปล่าค่ะ 555++

เป็นกำลังใจให้เจ้าค่ะ ----> น้องจิ ^_^

สวัสดีน้องจิ

  • ครูข้างถนนพึ่งตื่น
  • ตื่นตอนที่มีใครไม่รู้มาเคาะประตูบ้าน
  • กินหมดแล้วใช่ไหมอมยิ้ม เดียวซื้อให้ใหม่
  • ขอบคุณ จ๊าดนัก สำหรับกำลังใจ
  • จ๊าดนัก แปลว่า มากๆ

... รู้สึกดีมากเลยค่ะ..ที่ได้อ่านเรื่องราวของครูซัน...จากครูข้างถนน    ทำให้ครูที่อยู่เมืองหลวงอย่างเรารู้สึกว่าเราน่าจะทำอะไรๆได้มากกว่าที่เป็นอยู่.....ขอเป็นกำลังใจให้ทั้งครูข้างถนน...และก้อตัวเอง..ด้วย

ในที่เล็กห่างไกล ก็ส่องประกายแจ่มจ้า

ถึงแม้จากไป พวกเรามิเลือมมิเลือน

                                                                                             รวมตะกอน

สวัสดีครับคุณครู UbbIbb ( อุ๊บอิ๊บ)

  • ยินดีที่ได้รู้จัก
  • ขอบคุณที่แวะมาอ่านบันทึกนี้
  • อยู่ ณ ที่ไหน หนใด ก็ สามารถช่วยเด็กๆได้ครับ
  • ขอบคุณครับ

 

สวัสดีครับ คุณสิทธิรักษ์

  • ครูซัน แสงตะวันฉายในดอยมืด
  • ถึงจากไปก็จากไปแต่ร่างกาย
  • จิตวิญญาณความเป็นครู
  • อุดมการณ์ยังอยู่ในใจเสมอครับ

@  ขอร่วมรำลึก..ครูซัน  แสงเทียนแห่งแผ่นดิน  ด้วยคนนะคะ @

แม้จะรู้จักท่านช้าไป..แต่ขอให้คุณความดีของท่าน..คงอยู่ตลอดไป

คุณครูข้างถนนเองก็เหมือนกัน...ถึงแม้มิได้เป็นครูของรัฐ

จิตสำนึกในความเป็นครู   อุดมการณ์ของคุณครู....มีเปี่ยมล้น  อาจจะมากกว่าคณครูของรัฐหลายคนด้วยซ้ำไป

เรา...ขอชื่นชมด้วยความจริงใจ 

ขอคุณความดี  ความเสียสละของคุณครู  ปกป้องคุ้มครองคุณครูให้พบกะสิ่งดีดี  ปลอดภัยละกัน..นะคะ

ขอให้กำลังใจ  คุณครูเข้มแข็ง  แม้อาจเจอกะอะไรที่ไม่อยากเจอ ขอจงผ่านพ้น...ไปด้วยดี

ขอบคุณ  แทนคุณครูทุกคน...ในความเสียสละของคุณครู

พบแต่สิ่งดีดี  นะคะ  ใจดี(เข้มแข็ง)  แล้วทุกอย่างจะดีเอง

                         

 

 

สวัสดีครับ

  • แวะมาทักทาย
  • และมาอ่านบันทึก ครูในดวงใจครับ
  • น่าประทับใจนะครับที่มีครูดี ๆ แบบนี้
  • ขอบคุณที่นำสิ่งดี ๆ มาให้อ่าน
  • เป็นกำลังใจให้ครับ

 

สวสดีคุณครู @..สายธาร..@

  • ขอเพียงแค่แบ่งปันและอยู่ด้วยกันอย่างสงบสุข ก็พอแล้วครับ 
  • ขอบคุณมากครับคุณครู

สวัสดี คุณครูโย่ง

  • คุณครูโย่งและครสายธาร คุณครูทั้งสองมีโอกาส ที่จะทำตามอุดมการณ์ของตัวเอง
  • ของจงทำเพื่อเด็กๆต่อไปครับ

อุดมการณ์มันกินไม่ได้ ไม่เคยทำให้อิ่ม  แต่ชื่นใจและมีความสุขทุกครั้งเมื่อได้ทำ

ขอบคุณ ครูข้างถนน

  • ที่ให้กำลังใจครับ
  • ขอบคุณมาก ๆ

@ เพลงของครูซัน  ท่านแต่งเองใช่ไม๊คะ @

@ ฟังแล้ว รู้สึกได้ กับหลายสิ่งหลายอย่าง @

ขอเชิดชู...เส้นทาง...สายความดี..ของท่าน  เช่นกันค่ะ

                                   

สวัสดีขี้ผึ้งผู้จุดประกายแสงเทียนให้สว่างไสว

แวะมาทักทายยามดึก ขอให้มีความสุขและ

ก้าวเดินไปตามอุดมการณ์ที่วาดหวังอย่างมีความสุข

ซันตะวันยิ้ม (ซันสไมล์)

หวัดดีคับ

ผมเปงเด็กมหาลัยเทโนโนยีพระนคนใต้้

คณะเทคโนโลยีคหกรรมศาสตร์

มันเปงโครงการอาหารสันจรอะคับ

แต่ยังไม่มีที่ดีดีไปเลยช่วยแนะนำกันได้มัยคับ

อย่าได้แบบ ชนบทมากมายกายกอง

จะขอบพระคุญมากมายถ้าจะช่วยแนะนำ

ขอบคุญคับ

เพลงของครูซันฟังแล้วมีกำลังใจมากๆๆๆๆ

เป็นกำลังใจให้ครูน้องนพ กับทุกเส้นทางที่เลือกเดินตามใจปรารถนานะคะ

ผมไม่เคยรู้จักท่านมาก่อน..จนผมได้ฟังเพลงที่เขาใช้ในการอบรมคุณธรรม-จริยธรรมสำหรับเยาวชน ..แล้วเกิดคำถามว่าใครหนอเป็นคนแต่ง...เป็นเพลงที่เต็มไปด้วยความหมาย...จึงทำให้ผมสนใจเป็นพิเศษ ขอร่วมรำลึกด้วยคนครับ

เอามาฝาก http://www.luangpee.net/forum/index.php?action=mgallery;sa=item;id=60

-ศรัทธาครูซัน เช่นกันครับเคยใช้เพลงของท่านในการอบรมนักเรียนครั้งเรียกที่นำมาใช้สะดุดใจเลยครับเลยถามหาคนแต่งคนร้องพอมารู้ว่าท่านจากไปแล้วเสียดายมากครูดีแบบท่านน่าจะอยู่นานๆ ครูซันช่วยเป็นกำลังใจในการทำงานของผมมากเวลาท้อ ผมจะฟังเพลงตะวันล้า ของท่านครับ อยากไปบ้านท่านไปกราบอัฐิท่านสักครั้งเพราะผมนับถือครูซันเป็นครูของผมอีกคนด้วยใจจริงกราบได้อย่างสนิทใจแม้จะไม่เคยสอนผมในชั้นเรียนหรือในวิชา แต่ครุซันสอนความเป็นครูให้ผมจากการปฏิบัติตัวของท่านเอง ขอบคุณครูซันมากครับ

-ขอชื่นชม คุณครูข้างถนน และครูผู้เสียสละทุกท่านด้วยใจจริงครับขอเป็นกำลังใจให้ทุกท่านครับ ผมได้อ่านเรื่องของครูข้างถนนแล้วเลยอยากแสดงความคิดเห็นด้วยคน ผมเองก็อาศัยร่มกาสาวพัตร์ในการเล่าเรียนและฝึกตนเองเหมือนกันผมจบ คณะพุทธศาสตร์ เอกพระพุทธศาสนา จาก มจร.วิทยาเขตนครราชสีมาครับ ครบอายุบวชก้บวชตามประเพณีแล้วก็เรียน กศน.ไปด้วยจบ ม.6 ก็ต่อที่ มจร.เลย ในขณที่บวชเรียนก็ทำงานสอนหนังสือไปด้วย ทั้งนักธรรม ธรรมศึกษา และช่วยสอนวิชาพระพุทธศาสนาให้โรงเรียนที่ขอให้ช่วยสอน รวมทั้งอบรมค่ายคุณธรรมให้นักเรียนโรงเรียนต่างๆ จนความเป็นครูซึมซับเข้าในใจจึงอยากเป็นครูบ้างเมื่อลาสิกขาแต่ด้วยอายุที่มาเลยเลข3 แล้วและเอกที่จบมาก็ไม่ตรงเลยเข้าสอบที่ไหนยาก น่าอิจฉาคุณครูทุกท่านจังที่ได้มีโอกาสที่ดี แต่ผมก็ยังไม่ทิ้งอุดมการณ์เพราะตอนนี้ใจของผมก็ยังต้องการเป็นครูอยู่ผมตั้งใจว่าอีกสักระยะผมจะเดินตามความตั้งใจทำงานด้านการศึกษาให้ได้แม้จะสอนฟรีก็ตามแต่ตอนนี้คนรอบข้างยังไม่เข้าใจสิ่งที่เราตั้งใจทำเมื่อถึงวันนั้นผมจะเดินตามความตั้งใจ ท่านใดมีข้อมูลดีกรุณาแบ่งปั้นกันได้ครับที่ e-mail [email protected]

ผมฟังเพลงครูซันแล้วมันทำให้ผมมีแรงที่จะทำงานเพื่อเด๊กต่อไปผมเสียดายคนดีอย่างท่านที่จากโลกนี้ไปถึงแม้ร้างท่านไม่อยู่กับพวกเราแต่คำสอนของท่านก๊ยังอยู่(คือเพลงของท่านไง)ท่านคือวีระบุรุษในใจของผมและทุกคนที่ทำงานสังคมเกี่ยวกับเด๊กผมและเพื่อนจะพยายามเดินตามรอยครูซันให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ขอเสี้ยวหนึ่งของท่านก็ยังดีครูเป็นครูเพื่อชีวิตตัวจริงผมขคาราวะด้วยจิตวิญาณของท่านและอุดมการณ์ของท่านจริงๆจากมุสลิมแถวพระราม3โทรมาคุยกันได้นะ0814478040-0819859541จากประมวล มิลมาล

คมสิทธิ์ สิทธิวิชโย

ที่สุดของผู้เสียสละ คือ ครูซัน

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท