ครูคิมขา พี่สุ ได้อ่านบทความในบล็อคนี้ เอาว่าเหมือนฟ้าผ่าเลย มิน่าถึงไม่ไปเม้นท์ บทความทางเลือก ของครูเออรี่ของพี่สุ หรือไปอ่านแล้ว แอบพิจารณา ว่าจะออกดีหรือไม่ออกดี
พี่สุไม่ได้เป็นครูนะคะ แต่พอรู้ว่า ถ้าคุณครูคนใด อยู่อายุราชการครบ 25 ปี เออรี่ตนเองได้ เลือกเอาจะเอาบำเหน็จหรือบำนาญ ถ้าหากว่าครูคิมยังไม่ถึง อย่าพึ่งออกนะคะ เพราะเราจะเสียสิทธิ์อีกมากมาย ขอให้อยู่ต่อไปจนครบวาระเสียก่อน ค่อยลาออกแบบยังไงหละ คือลาออกแบบนี้ไม่มีใครมาทัดทานได้คะ เมื่อเราได้รับสิทธิ์แล้วเราออกมาแล้ว จงหันหลังเลยคะ เพราะตอนนั้นใจไม่อยู่แน่นอนคะ เพราะบั้นปลายชีวิตบางคนอาจจะไปทำค้าขายเล็กๆน้อยเพราะมีเงินบำนาญอยู่แล้ว บางคนก็ไปเลี้ยงลูกเลี้ยงหลาน สู้มาเป็นครูอีกไม่ไหวหรอกคะ วิ่งตามเด็กไม่ทัน เป็นเรื่องของอนาคต ให้มันถึงเสียก่อน จึงตัดสินใจเลือก เลือกทางใดทางหนึ่ง เวลานั้นอีกยาวไกล
(ฟังเหมือนครูคิมน้อยใจ) ถึงแม้การประเมินภาษาอังกฤษ ครูคิมสอนไม่ได้ตามกำหนดเขาประเมิน ครูคิมไม่ต้องไปสนใจ ใครว่านะจากข้างบน เด็กดีมันจะเก่งเอง ขวนขวายเอง จะไปเปรียบเทียบโรงเรียนในเมืองได้อย่างไร สอนพิเศษแข่งกันเสียจน เด็กจะไม่เป็นผู้เป็นคนแล้ว ครูก็มีรายได้พิเศษ แต่เด็กน่าสงสารบังคับกันเหลือเกิน ภาษาอังกฤษก็ไม่ใช่ภาษาพ่อภาษาแม่เรา(ไม่สุภาพหรือเปล่า) เอาแค่ทักทายฝรั่งได้ สำเนียงพอใช้ได้ ก็ดีแล้ว ส่วนหลักการหรือไวยกรณ์ ก็เอาไว้เด็กเมื่อโตเลือกวิชาภาษาอังกฤษตามที่เขาชอบเอง เขาจะฝักใฝ่เอง
พี่สุก็ไม่รู้ว่าครูคิมสอนภาษาอังกฤษชั้นไหนเลยแนะนำไม่ถูก แต่ครูคิมไม่ต้องน้อยใจนะคะ เราก็ต้องยอมรับว่าเด็กในเมืองกับเด็กชนบทมันต่างกันคะ ประเมินไปเถอะ
ในเมือง เรียนภาษาอังกฤษตั้งแต่ชั้นอนุบาล A-Z ก็พอรู้แล้ว แต่โรงเรียนบ้านนอก A-Z มาเริ่มเรียน ป.4 ทักษะมันก็ย่อมต่างกัน ถ้าเขาว่าครูคิมอีก ก็ปล่อยเขาว่าไปเถอะคะ เราลองมาหาวิธีการแนวใหม่ แนวประเมินเขาเป็นแบบไหนหละ เราก็ค่อยปรับปรุงเปลี่ยนแปลงตามแนวประเมินนั่นแหละ (โอ้ย ขนาดไม่ได้เป็นครู แสดงความคิดเห็นเป็นตุเป็นตะ ก็ด้วยว่าอยากให้กำลังใจ อย่าพึ่งลาออก)
พี่สุก็ไม่รู้ว่า มีเรื่องเออรี่ฝังใจอยู่พี่สุดันไปเขียนทางเลือกของครู ทำให้ครูคิมคิดหนักไปอีก เฮ่อ! จะทำอย่างไรดี ถ้าครูคิมออกไป โรงเรียนที่นั่นคงเงียบเหงา และประเมินอะไรก็ยิ่งไม่สู้กับเขาอีก
แต่ถ้าประเมินเรื่องคุณธรรมความดี หรือความสามารถช่วยเหลือตนเองปลูกจิตสำนึก ของเด็กก็น่าจะชนะเขา แต่เขากลับไม่มีแข่งขันแบบนี้เอาแต่เก่งอย่างเดียว ดีไม่เอาหรือไง คิดดีๆ นะคะ อดทนให้ถึงวันของมันจริงๆ ค่อยลาออกอีกไม่นาน ถ้าจะเดาไม่เกิน 3 ปี สู้ สู้ คะ พี่สุ จะเข้ามาติดตาม เช่นเคย ดีแล้วที่ยังอยู่ ไม่ลาจริง
โอ้โฮ! คนมาเม้นท์เยอะเลย สรุปแล้ว ไม่ให้ลาออก สอนต่อไป
ตามจริงการเป็นครูก็เหนื่อยเนาะ ไปโรงเรียนสายก็ไม่ได้ ถูกเพื่อน หรือครูใหญ่ตำหนิ พอทำอะไรเกินหน้า ก็อิจฉานะ เราสอนคนเดียวเหนื่อย ถ้าเราลาออก สามารถจ้างครูคนใหม่ สมัยใหม่ มาสอนได้ถึง 6 คน(อย่าคิดมาก)
ที่โรงเรียนบ้านนอก...ภาระหน้าที่ของครูคือ..จะทำอย่างไรให้เด็กได้มาโรงเรียนทุกวัน และให้มีกินครบมื้อ ไม่ออกโรงเรียนกลางคัน
(ครูคิดดีอย่างนี้มีอีกกี่คน ที่คิดเหมือนครูคิม)