การแลกเปลี่ยนเรียนรู้กว่า ๖ ครั้ง ในช่วงเวลา ๒ เดือนของกลุ่มเครือข่ายโรงเรียนไทยไท ทั้ง ๑๒ โรง (๖ x ๒ = ๑๒) นั้น กลายเป็นช่วงเวลาของการได้กลับมาทบทวนตัวเอง และตกผลึกคำถามที่มีต่อการเรียนรู้ ต่อกระบวนการเรียนรู้ และต่อองค์ความรู้ ที่ได้รับจากประสบการณ์การจัดการศึกษาของแต่ละโรงร่วมกัน ดังต่อไปนี้
๑. การเรียนรู้เกิดขึ้นกับใคร สิ่งที่เรียนรู้มากมายจะเกิดความหมายได้อย่างไร หากผู้เรียนไม่รู้จักตนเอง
๒. การเรียนรู้เกิดขึ้นที่ไหน มนุษย์ยังเรียนรู้อยู่หรือไม่ ถ้าไม่มีระบบโรงเรียน
๓. เมื่อไหร่คือเวลาแห่งการเรียนรู้ ผู้เรียนจะเรียนรู้ในสิ่งที่ตนยังไม่รู้สึกสนใจ (และผู้สอนจะสอนในสิ่งที่ตนไม่ได้รัก) ได้อย่างไร
๔. เด็กเรียนรู้ได้อย่างไร คิดและให้ความหมายได้ด้วยตัวเอง หรือด้วยวิธีการป้อนข้อมูลกลับไปในสมองที่ว่างเปล่า
๕. ควรเรียนอะไร อะไรที่เรียกว่า “ความรู้” และอะไรที่ “มิใช่ความรู้”
๖. ความรู้ที่มีอยู่ในโลกและวิธีการแก้ปัญหาล้วนเชื่อมโยงถึงกันหมด แต่เหตุใดการเรียนการสอนจึงแบ่งแยกออกเป็นวิชาอย่างตายตัว
๗. ใครควรเป็นผู้ประเมินผลการเรียนรู้ ใครควรเป็นผู้กำหนดและตัดสินว่า “มีสิ่งใดบ้างที่ได้เรียนรู้” และ “มีสิ่งใดบ้างที่ยังไม่ได้เรียนรู้”
คำถามเหล่านี้มีคำตอบที่แตกต่างกันออกไป ตามแนวทางการจัดการศึกษาที่แต่ละโรงนำมาใช้ เพื่อการเดินทางไปสู่เป้าหมายของการพัฒนาคนให้สมบูรณ์ และนำพาสังคมไปสู่สันติสุข ดังเจตนารมณ์ที่ทุกโรงเรียนในเครือข่ายโรงเรียนไทยไท รวมไปถึงกลุ่มการศึกษาทางเลือกอื่นๆ ที่สนใจนำเอาตัวชีวิตเป็นประธานของการเรียนรู้มีอยู่ร่วมกัน และทุกกลุ่มต่างก็ได้สร้างสรรค์เส้นทางกันมาอย่างหลากหลาย การแลกเปลี่ยนเรียนรู้ที่เกิดขึ้นนี้จึงมีประโยชน์ยิ่ง
ขอบคุณหนุ่มกร สำหรับคำพรปีใหม่ค่ะ เรามาช่วยกันทำให้จริยธรรมนำการพัฒนากันนะคะ