เมื่อวันอาทิตย์ที่ ๖ มิถุนายน ๒๕๕๓ ผศ.ดร.ไมตรี อินทร์ประสิทธิ์ ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยคณิตศาสตรศึกษา คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น และคณะ ได้กรุณาเดินทางมาหลายร้อยกิโลเมตร เพื่อมาแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับคณะครูโรงเรียนเพลินพัฒนา ในเรื่อง “การศึกษาชั้นเรียน” (Lesson Study) และวิธีการแบบเปิด (Open Approach) ซึ่งเป็นกระบวนการพัฒนาครูของญี่ปุ่นที่เริ่มมาตั้งแต่ปี ค.ศ. ๑๙๗๐ จนกระทั่งกลายมาเป็นระบบการพัฒนาวิชาชีพครู และวัฒนธรรมการเรียนการสอน และวัฒนธรรมการเรียนรู้ร่วมกันของประเทศญี่ปุ่นในปัจจุบัน
“การศึกษาชั้นเรียน” จึงเป็นกระบวนการพัฒนาการเรียนรู้ในหน้างานครู และเป็นการพัฒนาการเรียนรู้ของผู้เรียนไปในขณะเดียวกัน การทำงานในลักษณะนี้จึงเป็นวงจรการทำงานต่อเนื่อง เหมือนที่อาจารย์ไมตรีใช้อุปมาว่า “แต่งแล้วหย่าไม่ได้” นั่นเอง
การศึกษาชั้นเรียน (Lesson Study) คือ ระบบการพัฒนาวิชาชีพครูแบบหนึ่งของญี่ปุ่นที่ใช้โรงเรียนเป็นฐานของการพัฒนา ซึ่งครูญี่ปุ่นจะต้องได้รับการพัฒนาตั้งแต่เริ่มต้นวิชาชีพครู ลักษณะที่สำคัญของระบบดังกล่าวคือ กลุ่มครูญี่ปุ่นจะพบกันเป็นระยะๆ เพื่อร่วมกันพัฒนาแผนการสอน สร้างสรรค์นวัตกรรมการสอน การทดลองใช้แผนการสอนดังกล่าวในห้องเรียนจริง และการปรับปรุงแผนร่วมกัน
แนวคิดพื้นฐาน : วิธีการที่มีประสิทธิภาพที่สุดในการปรับปรุงและพัฒนาการเรียนการสอนในห้องเรียน ก็คือการพัฒนาและปรับปรุงบทเรียนในบริบทของห้องเรียนจริง สิ่งที่ท้าทายคือ
ขั้นตอนการพัฒนาวิชาชีพครูด้วย “การศึกษาชั้นเรียน”
ขั้น ๑ ขั้นการกำหนดปัญหา (Defining the Problem) “การศึกษาชั้นเรียน(Lesson Study) เป็นระบบที่เน้นกระบวนการแก้ปัญหา และการทำให้การกำหนดปัญหานำไปสู่แรงจูงใจและการกำหนดกรอบในการทำงานของกลุ่มครู
ปัญหาอาจเริ่มในลักษณะกว้างหรือทั่วไป เช่นจะทำให้นักเรียนสนใจคณิตศาสตร์ได้อย่างไร หรือเป็นประเด็นเฉพาะเจาะจงเช่น จะพัฒนาความเข้าใจของนักเรียนในการบวกเศษส่วนที่ส่วนไม่เท่ากันอย่างไร ปกติปัญหาที่ครูเลือกมักจะเป็นปัญหาที่มาจากประสบการณ์การสอนในห้องเรียนที่ส่งผลต่อการเรียนรู้ของนักเรียน หรืออาจเป็นปัญหานโยบายระดับชาติ
ขั้น ๒ ขั้นการวางแผนบทเรียน (Planning the lesson) เมื่อเป้าหมายการเรียนรู้ถูกกำหนดหรือเลือกโดยกลุ่มครู กลุ่มครูจะเริ่มประชุมปรึกษาหารือเพื่อวางแผนบทเรียน เป้าหมายของการวางแผนบทเรียนไม่เพียงแต่เพื่อให้ได้บทเรียนที่มีประสิทธิภาพ และสร้างความเข้าใจได้จริง
แผนการเรียนรู้ที่กลุ่มครูสร้างขึ้นจะต้องนำไปเสนอต่อที่ประชุมครูในระดับโรงเรียน เพื่อรับฟังการสะท้อน และนำข้อมูลที่ได้รับกลับมาปรับพัฒนา ขั้นการวางแผนนี้อาจใช้เวลาเป็นเดือนหรือหลายเดือนก่อนที่จะนำไปสู่การใช้จริงในห้องเรียน
สวัสดีครับคุณครูใหม่
มาร่วมเรียนรู้นวัตกรรมการพัฒนาครูฯ ด้วยคนครับ
น่าสนใจและน่านำไปปรับใช้ยิ่งครับ
ขอบคุณสาระที่ดีดีครับ
สวัสดีค่ะคุณบินหลาดง ยังมีสาระดีๆ เกี่ยวกับ LS และ OA ให้ติดตามกันอีกหลายตอนเลยล่ะค่ะ :)