วันนี้น้องๆจากบ.ไทยรวมสินพัฒนาอุตสาหกกรรมจำกัด 4 ท่านได้โทรศัพท์เข้ามา เพื่อขอพบ เป็นเหตุการณ์อันสืบเนื่องจากได้อ่านบทความจากg2k เรื่องทุ่นไม่ไผ่
และอีเมล์เข้ามาเพื่อขอข้อมูลเพิ่ม จึงเกิดกิจกรรมเติมเต็มผืนป่าขึ้นอีกครั้ง โดยครั้งนี้เราจะเจาะพื้นที่ ริมเลบริเวณโรงเรียนบ้านรางโคกขาม ที่ถูกน้ำทะเลซัดกระหน่ำจนเสียหายหมด ไม่สามารถใช้การได้ เด็กๆ ต้องอพยพเข้ามาเรียนที่โรงเรียนสหกรณ์นิคมเกลือ จึงเกิดคำว่าโรงเรียนสาขาขึ้น
ฉันวางแผนจัดการงานครั้งนี้ โดย
เช้าวันอาทิตย์ที่ 8 มีนาคม 2552 เวลา 05.30น. ฉันเดินออกกำลังกายจากบ้านระยะทาง 2500 เมตร และแวะตลาดเพื่อทำบุญใส่บาตร และหาอาหารเช้าพร้อมน้ำดื่ม ติดมือไปยังทีหมาย บ้านรางโคกขาม
06.00 น.เดินทางด้วยรถมอเตอร์ไซด์ไปยังที่หมาย ระยะทางจากตลาดถึงที่หมาย ประมาณ 13 กิโลเมตร
06.30 น.เตรียมความพร้อมด้วยการสำรวจพื้นที่ก่อนน้องๆจากไทยรวมสินจะมาถึง โดยจะใช้ลานกีฬาในหมู่บ้านเป็นที่จัดกิจกรรมก่อนลงปลูกป่า
การเดินทางไปชายทะเลบ้านรางโคกขามในปัจจุบันนี้ ค่อนข้างสะดวก ในสมัยก่อนหาก ใครบรรจุมาเป็นครูสอนที่นี่ ต้องนั่งเรือมาสอน มาทางทะเลนะคะ บางครั้งเรือล่มกลางทะเลก็ว่ายน้ำกันขึ้นบก แต่ปัจจุบันมีถนนคอนกรีตวิ่งเข้าออกสะดวก ขนาด 10 ล้อวิ่งกันโครมครามเพื่อขนดินออกมาเป็นขบวนทำให้เกิดสัจธรรมที่ว่า เกิดมาและจากไป คือฉันเอง ฉันคือดินที่คะยอรวมตัวกันเข้ามาเติมเต็มผืนแผ่นดินที่บ้านรางโคกขาม
และเมื่อถึงที่หมายก็จะนำกำหนดการปลูกป่าชายเลน ที่กำหนดเป็นแผน 1 และแผน 2
แผน1 ปลูกเมื่อน้ำลง
แผน2 ปลูกอย่างไรถ้าน้ำขึ้นในเวลาที่กำหนดไว้
แล้วเมื่อถึงเวลา จะลงเอยด้วยแผนไหน คงได้มาเล่าสู่กันนะคะ ตอนนี้ขอเตรียมข้อมูลที่จะให้ความรู้และแลกเปลี่ยนกับน้องๆ 150 ชีวิตที่มากันโดยความร่วมใจ จิตอาสาพามาเจอ ก่อนค่ะ โดยจะขอความคิดเห็นจากพี่น้องชาวบล็อกนี่แหละค่ะ ช่วยเสนอแนะความคิดให้ด้วยนะคะ ทำบุญร่วมกันเติมเต็มผืนแผ่นดินให้ประเทศไทยที่ทะเลสมุทรสาครอีกสักครั้งนะค่ะ ขอบคุณค่ะ
สวัสดีครับ..
ผมใฝ่ฝันมานานมากเลยครับสำหรับการนำนิสิตไปปลูกป่าชายเลน แต่ยังไม่เคยได้ทำให้สำเร็จ ส่วนใหญ่ได้แต่ปลูกป่าในวิถีชาวอีสานตามป่าโคก..ป่าสาธารณะ ฯลฯ แต่ที่ต้องการไปปลูกที่ชายเลนนั้น ก็เพื่อเปลี่ยนบรรยากาศการเรียนรู้ของนิสิตครับ...
ขอบคุณค่ะ ปลูกตรงไหนก็ดีหมดค่ะ เช่นกันครูต้อยก็มีฝันที่จะปลูกตามโคก ป่าสาธารณะเช่นกัน พร้อมลงมาเมื่อไหร่จะวิ่งหาคนดูแลเด็กๆให้ค่ะ
สวัสดีค่ะ พี่ครูต้อย
อยากลืมรักษาสุขภาพนะคะ
ขอบคุณน้องป้าแดง ..สบายดีนะคะ คิดถึงค่ะ
น้องปลายฟ้ายังไม่นอนค่ะ ฟังBB King โชว์ทางทีวีสนุกค่ะ เพลิน
และกำลังจะไปเตรียมตัวนอนแล้วค่ะ พรุ่งนี้มีนัดตอนตี5.30 ที่ลานกีฬา กับเล่าซือสอนไทเก็กค่ะ
เพียงความรูสึกที่มีส่วนร่วมพี่ก็เป็นปลื้มแล้วค่ะ
กับความรูสึกดีๆชองพี่น้องเรา
ขอบคุณน้องเอื้องแซะค่ะ
หน้าหน้านี้ ตั้งใจจะไปแม่ฮ่องสอนอีก
เพื่อจะได้ทำกิจกรรมดีๆอีกสักครังค่ะ
ขอบคุณค่ะ
สวัสดีค่ะ ครูต้อย
สมัยก่อน ครูต้องนั่งเรือมาสอน
เป้นครูแบบใช้ใจเป็นทุน น่าเคารพค่ะ
สวัสดีครับครูต้อย ยังไงก็ขอให้สำเร็จตามแผนด้วยดีทุกประการนะครับ เป็นกำลังใจให้ครับผม
ขอบคุณค่ะท่านเกษตร
ดีใจที่มีคนอิจฉาแสดงว่าท่านก็อยากมาปลูกป่าเหมือนกัน 555+
พรุ่งนี้กิจกรรมเป็นเช่นไร โปรดติดตาม ครูผู้เรียนรู้อย่างไร้ระเบียบเรียนรู้สัจธรรมจากชิวิตจริง อิอิ
ขอบคุณค่ะ
ชีวิตครูที่เราว่าลำบากนั้น ยังมีเรื่องราวที่น่าศึกษาเรียนรูอีกมากหลายแง่มุม
หากมีโอกาสพี่จะเล่าให้ฟังนะคะ
ขอบคุณกำลังใจค่ะ
เดี๋ยวนี้เขาส่งควันทางเน็ตแล้วหรือ ..อิอิ
อยู่ใกล้ๆจะให้ลงน้ำพ่นควันใต้น้ำให้เข็ดเลยดีไหม 55+
เย๊ ๆๆๆ
ลุ้นๆๆๆๆ ตัวโก่ง
น่าชื่นใจจังค่ะพี่
อยากให้มีกิจกรรมเพื่อสังคมเยอะ ๆ ในหมู่บริษัทเอกชนนะคะ
เดี๋ยวน้องครูปูเป็นนายหน้า (ม้า) ให้นะคะ พี่ครูต้อยขา อิอิ
สวัสดีค่ะพี่ต้อย
แวะมาอ่านด้วยความชื่นชม และ มีความสุขตามไปด้วยค่ะ
กิจกรรมเช่นนี้ ... เป็นกิจกรรมที่มีประโยชน์และที่สำคัญต้องมีการดำเนินการอย่างต่อเนื่อง
น้องคิดว่า กิจกรรมปลูกป่า น่าจะมีกลุ่มชาวบ้านเจ้าของพื้นที่และผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย มาเป็นทีมงาน และมีตารางในการที่จะทำกิจกรรมติดตามประเมินผลเป็นระยะ ๆ เมื่อสิ้นสุดการปลูกแล้วค่ะ
สู้ ๆ นะคะ
(^___^)
ขอบคุณน้องครูปูค่ะ
ที่นี่เลยน้องพี่
แนวแสมขาวข้างหน้าเพียง 2-3ต้นก็หมดแล้วเหลือแต่ทะเลเวิ้งว้าง บริเวณที่ปลูกนี้เป็นสนามฟุตบอลของเด็กน้อยในหมู่บ้านที่น้ำทะเลท่วมถึง ขึ้นลงจนชำนาญ หอบเอาคะยอมารวมตัวเป็นผืนดินน้อยหลังจากถูกพายุลินดาซัดเมื่อ 5-6 ปีที่แล้ว
เห็นมั๊ยค่ะ ทะเลชัดๆจากแนวที่น้องจิตอาสาทั้ง 2 คนยืนอยู่ หากมองถอยลงทะเลไปประมาณ กิโลกว่าๆ มันคือที่ๆเด็กๆเคยวิ่งเล่น มันเป็นหมู่บ้านประมาณ 110 หลังคาเรือน แต่วันนี้ถอยร่น เข้ามา และเหลือเพียง 20 หลังคาเรือนที่ยอมตายที่นี่ เพื่อรักษาผืนแผ่นดินนี้ไม่ให้ทะเลบุกยึด
ค่ะน้องคนไม่มีราก
พี่ไม่อยากให้เกิดกับที่นี่เลย เพราะที่นี่มีแสมมากกว่าโกงกาง
เมื่อเกิดพายุน้อยบ่อยๆเข้า แสมทานแรงกระแทกกัดเซาะไม่ไหว
ที่นี่ไม่มีโกงกางโอบกอดผืนดินไว้มันจึงอ้างว้าง
และต้องจากไปในไม่ช้า จากไปหาทะเล อีกประมาณกว่าครึ่งกิโลที่พี่
เรียกทะเลเขียวเป็นบริเวณน้ำลูก ที่พร้อมจะเอาผืนดินลงไปเป็น
สมาชิก วันนี้มีกองทัพมดร่วมกันให้คำแนะนำพี่ๆปลูกป่าโกงกางค่ะ
เป็นนักเรียนของโรงเรียนสหกรณ์นิคมเกลือที่พี่อาศัยทำนาอิอิ
นี้แหละกองทัพมดน้อย และอีกไม่นาน ประมาณเมษายน กองทัพมดน้อยของครูต้อยก็จะต้องทำงานแบบนี้อีก โดยกลุ่มคนรักป่า จิตอาสาพามาเจอให้คำสัญญาว่าจะมาปลูกกันอีก คราวหน้าจะสงกรานต์จะมากันทั้งโรงงานค่ะ
ขอบคุณค่ะ