ชวนไปชมวิดีโอคลิปสนุกก่อนค่ะ
http://atcloud.com/stories/2828
ภารกิจ (Mission) กรอบดำเนินงานที่ชัดเจน
สามารถกำหนดทิศทางได้ในระยะยาว
และยังแสดงออกถึงความมุ่งมั่นที่จะดำเนินการนั้นๆให้ลุล่วง
ฉันเริ่มไม่มั่นใจตัวเองแล้วว่าภารกิจของฉันจะเข้าข่ายตามหลักวิชาการ
ภารกิจของฉันจะเป็นหนึ่งของการจัดการเชิงกลยุทธ์หรือไม่ อย่างไร
ฉันไม่ได้สนใจมากมาย เพียงแต่นึกสนุกกับการจัดการความคิดของตัวเองเท่านั้น
และที่ฉันหมายมั่นคือผลสัมฤทธิ์ที่ไม่ต้องประเมิน
แต่เป็นความสามารถของเด็กน้อยที่อ่านหนังสือออก
เพราะการจัดการเชิงกลยุทธ์นั้นมีองค์ประกอบพื้นฐานในเรื่อง
1.การกำหนดทิศทาง (และในการดำหนดทิศทางนั้นจะต้องประกอบไปด้วย
vision,missionและ gold)
2.การประเมินองค์กร และสภาพแวดล้อม(Environment Scanning)
ข้อนี้คงไม่เกี่ยวกับงานนี้ แต่จะว่าไปแล้วก็วิเคราะห์ได้ทั้งองค์ประกอบภายนอก ภายใน
จุดอ่อน จุดแข็ง โอกาส และอุปสรรค
โรงเรียนเปิดเรียนมาวันนี้เป็นวันที่ 4 ฉันพบนักเรียน ชั้นป.5 จำนวน 4 คน
ซึ่งฉันเป็นครูประจำชั้นในปีการศึกษา 2553 นี้
มีปัญหาด้านการอ่านออกเสียงภาษาไทย อ่านไม่ออก สะกดคำไม่เป็น
เรียกชื่ออักษรไทยไม่ถูก ไม่รู้จักสระ
มิน่าเด็กทั้งสี่คนนี้จึงมีอะไรในสมุดแต่ละวิชาที่ไปเรียนมา
ไม่เท่าเพื่อนๆในชั้น
ไม่ว่าจะเป็นการเขียนลอกงานบนกระดานก็เขียนผิด
อีกทั้งลายมือก็น่าสงสารเสียจริง
ในชั่วโมงภาษาอังกฤษที่ฉันรับผิดชอบ ฉันพบว่าเขาเขียนตามยังไม่เป็นเลย
และมันทำให้ฉันรู้สึกห่อเหี่ยวหัวใจ
และเกิดความรู้สึกขึ้นว่านี่คือภารกิจที่ฉันต้องเร่งรีบ เป็นภารกิจใจ
ในฐานะครูประจำชั้น ครูแนะแนว ฉันต้องแก้ปัญหานี้ให้ได้
แม้ว่าฉันจะไม่ได้เป็นครูผู้สอนภาษาไทย
มันคงไม่หนักหนาเกินไปสำหรับฉัน และตัดสินใจเรียนให้ผู้บริหารทราบ
ซึ่งท่านก็สาธุ และอนุญาตให้สอนหลังเลิกเรียนได้
และยังได้แนะนำแบบฝึกที่จะนำมาใช้ในการนี้
นี่เป็นภารกิจที่ฉันอยากทำ ฉันจึงคุยกับเด็กทั้ง 4 เราจะเริ่มต้นไปพร้อมๆกัน!
ทั้ง 4 คน มีท่าทีดีใจ น้องดุลย์กล่าว่าจะเริ่มเมื่อไหร่ครับ
น้องนนท์บอกว่าเอาวันนี้เลยนะครับม่ามี๊
ส่วนน้องเกียรติ นั่งเฉย ดูท่าจะยังงงๆอยู่
จึงถามว่าเป็นไงลูก กลัวไหม
ที่ถามเช่นนี้เพราะเด็กยังไม่เคยเรียนกับฉัน
นักเรียนที่เลื่อนชั้นขึ้นมาเรียนภาษาอังกฤษ จะพูดว่าสนุกค่ะ/ ครับ
ที่แรกนึกว่าจะยาก เลยกลัว ไม่อยากเรียน
ส่วนสาวน้อย รมิต นั่งยิ้มน้อยๆ
ถามว่าอยากอ่านหนังสืออกไหมลูก ก็พยักหน้า
ถามว่าทำไมหนูอ่านไม่ออก ก็ส่ายหน้า แล้วพูดว่าจำไม่ได้
หันไปถามน้องนนท์ว่าเรียนเลยหรือเปล่า ก็พยักหน้า
แถมพูดเสียงดังว่ากลัวทำไม ม่ามี๊ใจดี
เรายังจำกไก่ ไม่ได้เลย ( หมายถึงจำอักษรในภาษาไทยไม่ได้)
ฉันตัดสินใจให้น้องนนท์ไปพบครูวิชาการโรงเรียน
แล้วขอยืมหนังสือสำหรับฝึกอ่านตั้งแต่เริ่มแรกของเด็กป.1
ให้เด็กจำนวนสี่คนในชั้นเรียนของฉันได้ฝึกอ่านให้ออก เขียนได้
แล้วเริ่มทดสอบน้องนนท์ก่อน จริงดังที่เจ้าตัวสารภาพ (บาปนี้ใครสร้าง)
น้องนนท์อ่านอักษรไทยได้เป็นบางตัว ส่วนสระไม่ต้องพูดถึง
ยิ่งเป็นสระผสมด้วยยิ่งไม่มีอยู่ในสมองของน้องนนท์เลย
ฉันรู้สึกสะเทือนใจ นึกสงสารเด็ก 4 คนนี้มาก
15.30 น.สอบถามความสนใจว่า อยากอ่านอะไรก่อน ตกลงว่าอ่านกลอน
ฉันหาเจอในเวลานั้นคือกาพย์ยานี 11 ของชั้น ป.1
เริ่มอ่านให้เด็กฟัง 2 เที่ยว แล้วถามว่าเข้าใจไหม
ว่าหมายความว่าอย่างไร อธิบายเพิ่มเติมเล้กน้อย เพื่อไม่ให้นอกประเด็น
ผล....เด็กเข้าใจ แต่สารภาพอีกครั้งว่าอ่านไม่ออก เออ.....
เมื่อทดสอบให้อ่านทีละคน อ่านไม่ออกจริงๆ
เชื่อเลย ลองถามว่าตัวอะไรสะกด กว่าจะไล่เรียงได้มันช้า
จนฉันอึดอัด ไม่ได้การแล้ว ขื่นถามแบบนี้
จะมีอะไรไปกระตุ้น มีแต่จะเบื่อๆๆ
เปลี่ยนใหม่ ให้อ่านตามทีละวรรค ปรากฏว่าอ่านไม่ได้
เพราะเหมือนฟังแล้วจับไม่ได้
ดูถ้าว่าจะเครียด
เลยล้อเลียนประโยคที่เขาอ่านได้ผล เขาพากันหัวเราะ
เวลา 15.43 น. แม่ของน้องดุลย์ให้เพื่อนนักเรียนมาตาม
และถามว่าจะกลับบ้านเมื่อไหร่
จึงได้รู้ว่าน้องดุลย์นั้นต้องรีบกลับบ้านทุกวัน เพื่อไปเลี้ยงน้อง ..
ฉันนึกหวั่นใจ ภารกิจฉันจะไปรอดไหมนี่
ส่วนน้องรมิต น้องนนท์ และน้องเกียรติ ไม่มีปัญหา
ฉันแจ้งให้แม่น้องดุลย์ทราบอีกครั้งว่าน้องดุลย์นั้นอ่านไม่ออก....แม่รู้ไหม
แม่ส่ายหน้า ..ฉันรู้สึก..เซ็งเป็ดเลย
เอาละ ฉันใหม่เริ่มวิธีใหม่ อ่านคำทีละหนึ่งคำ แล้วอ่านตาม
ครั้งที่สองอ่านคำที่สอง แล้วอ่านตาม และอ่านตามคำที่หนึ่งกับสองตามกันมา
เพิ่มทีละคำ แต่ย้อนคำเดิมทั้งหมดที่ผ่านมา จนอ่านได้ทั้งวรรค
ทดสอบอีกที น้องนนท์ลืม อ่านไม่ออกอีก
คราวนี้ให้สะกดตาม ทำท่าว่าจะอ่านได้ แต่อ่านไม่ได้
คือเมื่ออ่านสะกดคำให้ฟังเด็กๆก็ไม่สะกดตาม
แต่คอยออกเสียงคำท้ายเช่น ปอ เอีย เด็กจะต่อว่าเปีย
แต่พอให้ลองสะกดเองกลับอ่านสะกดผิด ซึ่งมีทั้งผิดที่อักษร และสระ
เอาใหม่อีกครั้งคราวนี้ไม่สะกดแล้ว ลองอ่านย้อนหลังมาหน้าในแต่ละวรรค
ทั้งสี่คนอ่านไม่ได้ จึงให้อ่านตาม และออกเสียงดังๆ แล้วเพิ่มคำจนหมดวรรค
เอนึกในใจจะทำอย่างไรดี ถึงจะอ่านได้ แบบรวดเร็ว
แต่ก็เสียวเหมือนกันเกรงว่าเด็กจะจำแบบนกแก้วนกขุนทอง
ตัดสินใจใส่จังหวะลงไปอ่านให้มันเป็นจังหวะจะเป็นไร
ว่าแล้วก็ให้ปรมมือตามจำนวนคำ
ปรากฏว่าได้เรื่องเลย เด็กอ่านแยกคำไม่ถูก ดันไปนับเป็นพยางค์เสียนี่
นี่เป็นเพราะเราเอง ลืมไปว่าเป็นเด็กกลุ่มคัดพิเศษ
เอาใหม่ทีนี้ให้อ่านตามแบบกาพย์นั่นแหละ ไม่ต้องไปดัดแปลงเขาเลย
อ่านหลายๆเที่ยว เสียงเริ่มดังขึ้น แสดงว่าเริ่มมั่นใจแล้ว
ต้องให้รางวัลด้วยการชมว่าใครอ่านเสียงดังกว่ากันบ้าง
ใครออกเสียงตัวร ล ว เสียงควบกล้ำได้ชัดบ้าง
และชมว่าหนูทำได้แล้ว ดีลูก เก่งลูก อีกครั้งนะคะๆๆ ก็พูดอยู่อย่างนี้
แล้วก็มาหัดสะกดคำ ให้เลือกเองว่าคำไหนยากสะกดไม่ได้
เด็กเริ่มสนุก เมื่อน้องดุลย์บอกว่าสเอาสระ เอ อี ยอ บ้างครับ
ก็อดขำไม่ได้ บอกว่าเขาเรียกสระเอียยะ
เสียงหัวเราะคิกคักๆ
ไหนช่วยกันนึกซิลูกว่ารู้จักคำอะไรที่ออกเสียเอียๆ
น้องนนท์โพล่งออกมาว่าเมียครับเมีย
ฮากันอีก เริ่มสนุกแล้ว เอ้าคำไหนอีก
เอาคนละสามคำก่อนจะได้ 3 คะแนน
ที่เหลือ 7 คะแนน จะดูว่าใครที่เวลาพูดแล้วเสียงดัง ฟังชัด
ก็ได้คำเพิ่มามีคำว่าเพีย แต่มันไม่รู้ความหมายทั้งครูและลูกศิษย์ก็ขำอีก
เอ้า ! ให้คะแนนในฐานะที่มีสระเอีย
เพราะตอนแรกกติกาไม่ได้บอกว่าต้องมีความหมายด้วย
คำต่อมาเป็นเกีย เขีย เลีย เสีย เตีย เหีย เจีย เรีย เวีย.....
น้องนนท์บอกว่าเอาคำว่า เลีย ฉันเขียนเลีย แต่น้องนนท์บอกว่า ไม่ใช่
ฉันก็งง แต่พยายามทำความเข้าใจ
น้องนนท์บอกว่าเอา แล้วทำท่า เขียนในอากาศเป็น ฬ
แต่กว่าจะรู้เรื่องกันก็หลายหนึบเหมือนกัน
เออ คิดได้ไงนี่แล้วเคยเห็นคำนี้ไหม ส่ายหัวดุดดิก
แต่พูดว่าเอาคำแปลกๆครับ เอ้า..เอาก็ได้ ต้องยอมๆ
ทุกคนอ่านได้แม้ยังอ่านไม่คล่อง
แต่สำหรับน้องรมิตถามว่า
เขียนลงในสมุดด้วยไหมคะ
เออ.. ฉันก็ว่าดี ถามเด็กๆว่าไหวไหมลูก
ค่อยๆเขียนตาม ทุกคนยอมเขียน
เป็นอันว่าภารกิจใจของฉันวันนี้ผ่านไปแล้ว
พรุ่งนี้จะทำอย่างไรต่อ ตอนนี้ยังนึกไม่ออก
อยากได้เพลงสระที่สอนการสะกด จำได้ว่าเคยซื้อมาสอนลูก
ตอนลูกเล็กๆ ปรากฏว่าลูกอ่านหนังสือได้ตั้งแต่ยังเล็กมาก
และฉันคิดว่านี่ยังไม่ถึงขั้นพัฒนามูลค่าเพิ่มตามแนวคิดของฉัน
แต่ฉันได้ให้บริการเด็กๆไปแล้ว
คงเหลืออีกอย่างหนึ่งที่เรียกว่าเพิ่มศักยภาพทั้งการสอน และผู้เรียน
หากฉันทำได้สำเร็จ เด็ก 4 คนนี้อ่านหนังสือออก ก็นับเป็น
ยุทธศาสตร์ที่เยี่ยมยอดสำหรับปีการศึกษา 2553
พรุ่งนี้จะสรุปผลการสอนภาษาอังกฤษของนร.ชั้นป.5 ในโอกาสครบ 1สัปดาห์
อยากรู้เหมือนกันว่าภารกิจงานในหน้าที่จะเหมือนกับภารกิจใจหรือไม่
ขอบคุณเด็กน้อยที่ตั้งใจพัฒนาตัวเอง
ขอบคุณครูเหมียวที่ให้ยืมหนังสือหัดอ่านของห้องสมุดโรงเรียน
ขอบคุณลายสวยๆ น่ารักๆ ดุกๆ ดิดๆ จาก
http://play.kapook.com/dookdik/line/cat-534-5
http://play.kapook.com/dookdik/animation/cat-1041-1
ขอบคุณวีดีโอคลิปลายเส้น สนุกๆ
http://atcloud.com/stories/2828
ขอบคุณความรักที่มีให้กัน
เป้าหมายชุมนุมของเด็กน้อย
http://www.slide.com/r/1yLvdETm7T-jtJs868apDcWJ9PEz7pH-?previous_view=mscd_embedded_url&view=original
* ข้ามาชื่นชมการเสียสละทุ่มเทให้เด็กๆ อ่านหนังสือได้ เป็นงานที่ยาก และ ต้องอดทนใจเย็น
* บันทึกอย่างละเอียด เห็นเส้นทางการพัฒนาเลยครับ
ขอบคุณครับ
สวัสดีค่ะ
*แวะมาเป็นกำลังใจค่ะ ภาษาไทยยังไม่แข็งแรง...อิอิ
* โรงเรียนบางลี่เพิ่งเปิดเมื่อวันที่ ๑๙ พ.ค. ๕๓ นี่เอง...ปั่งให้พี่ต้อยก่อน
* สุขกายสุขใจนะคะ
สวัสดีค่ะ
เรียนท่านรองSmallman
ขอโทษค่ะ ที่ตอบช้า เนื่องจากคอมถูกไวรัสแทรกกแซง
ทั้งของลูกและของแม่ มันแปลกมากเลยค่ะ เครื่องมันร้องเหมือนรถหวอ
เล่นเอาตกใจ ลูกบอกว่าไวรัส โดนเข้าแล้ว เป็นตัวใหม่โชคดีที่สะกัดบอมทัน
เด็ก 4 คน เข้าสู่กระบวนการเรียบร้อย
ทุกเย็นก่อนกลับบ้านเราจะฝึกอ่านด้วยกัน
วันละ 1 บทเรียน วันแรกเป็นกาพย์ยานี 11
จากกาพย์ยานี 11 ให้เด็กเลือกคำที่ชอบ หรืออ่านยาก
เด็กเลือกคำที่มีสระเอีย เอามาฝึกอ่านฝึกสะกด กันสนุกสนาน
ผิดบ้างถูกบ้าง แต่เขาก็พอใจ ครูก็ดีใจ
วันที่สองฝึกอ่านสระอาค่ะ
อ่านแบบ ป. 1 สมัยหลักสูตร 2503 เลย
แล้วแฉลบออกข้างๆ จาก กา เป็นกาง กาล การ กาว
ก็พยายามให้มีความหมายใกล้ตัวเด็กค่ะ จะได้จำได้
วันที่สามเป็นสระเอ เกเร เนติ
วันที่ 4 น้องนนท์ขาดเรียนค่ะ
ยังไม่ทราบสาเหตุ แต่คาดว่าคงเป็นเรื่องการเดินทาง
เนื่องจากบ้านอยู่ทะเล ระยะทางก็ประมาณ 10 กิโล
ค่าเดินทางมาโรงเรียนวันละ 100 บาท(รถมอเตอร์ไซด์รับจ้าง) ไม่มีรถประจำทาง
ตอนเช้าอาศัยนั่งรถคุณครูปราโมทย์โดยเดินมาที่บ้านครู
ขากลับก็กลับกับครู แต่ช่วงเรียนอ่านให้ได้ต้องกลับเอง
เพราะเลิกเย็น พี่จะช่วยค่ารถกลับบ้านค่ะ
วันศุกร์..ในจำนวนเด็กที่เรียน มี 2 คน
ขอยืมหนังสืออ่านไปฝึกอ่านต่อที่บ้าน
แต่พี่ไม่มีให้ จึงเขียนให้อ่านแทน แล้วให้เด็กวาดภาพเอาเอง
วันนี้ไปรับเครื่องคอมจากร้านซ่อม
แวะไปร้านหนังสือ ตั้งใจว่าจะซื้อหนังสือการ์ตูนให้
แต่ไปเห็นสติกเกอร์น่ารักๆ เลยซื้อมาสติกเกอร์แทนหนังสือ
ตั้งใจว่าจะให้พวกเขาทำหนังสือขึ้นมาเอง
โดยใช้สสติกเกอร์ติดเป็นภาพประกอบค่ะ
อีกอย่างห้างเจอเคอร์ฟิวต้องรีบกลับ
ขอบคุณค่ะ
ขอบคุณค่ะkrugui Chutima
ลองคลิ๊กเข้าไปที่นี่นะคะ
http://play.kapook.com/dookdik/line/cat-534-5 ชอบ line ไหน
ก็copy มาวางได้เลยค่ะ
ขอบคุณค่ะ
สวัสดีค่ะ
น่าสนุกนะคะพี่ต้อย อ่านแรก ๆ ก็เครียดตาม อ่านไปอ่านมาสนุกดีค่ะ แถมพูดเสียงดังว่ากลัวทำไม ม่ามี๊ใจดี
คิดถึงค่ะ ขอเป็นกำลังใจให้นะคะ
ฮาเลยค่ะ น้องบุษบา
วันนี้นักเรียนคัดพิเศษ เหลือ 3คนค่ะ
ไม่ใช่ว่าอ่านได้แล้วนะคะ
แต่น้องนนท์ได้ทุนค่ารถไป- กลับ บ้านกับโรงเรียน
และต้องรีบบ้านเพราะเดี๋ยวรถเดือนไม่รอ
อีกอย่างระยะนี้ฝนตกตาใจฝน
จึงวางแผนว่าจะสอนน้องนนท์หลังจากรับประทานอาหารกลางวันแล้ว
วันละ 20 นาที เหนื่อยใจเหมือนกันค่ะ
แต่เห็นภาพที่ส่งมาให้ อดขำไม่ได้
เอ ...เหมือนเราหรือเปล่า หุ หุ
ขอบคุณค่ะ
สวัสดีค่ะน้องแจ่มใส
พี่ตั้งใจจะเปิดให้เด็กๆได้เข้าไปเล่นแล้วนะคะวันนี้ แต่เน็ตโรงเรียนช้ามากๆ
พอจะทดลองเล่นก็...กริ๊งงงงงงง กริ๊ง ไว้พรุ่งนี้ตอนไหนดี
หลังทานอาหารกลางวันแล้ว จะถามความสมัครใจว่า
นักเรียนคนไหนอยากทดลองสื่อนะคะ เอาสัก 3 คนก่อน เพราะมีคอมตัวเดียว
พร้อมทั้งหนีบน้องนนท์ไปด้วย
จะได้มีแรงจูงใจว่าอ่านหนังสือเก่งๆแล้ว
จะสามารถเรียนรู้อะไรๆได้อีกมากมาย...แบบอิสระ
ขอบคุณค่ะ
สวัสดีค่ะ คุณครูkrutoiting
ม่ามี๊ น่ารักที่สุดในโลกเลยค่ะ
ม่ามี๊ทำทุกอย่างเพราะเค้าคือลูกม่ามี๊
แค่นี้เล็กๆเอง ม่ามี๊ทำได้สบายอยู่แล้ว
ขอให้ม่ามี๊ของลูกๆมีสุขภาพแข็งแรงนะคะและมีความสุขมากๆค่ะ
สวัสดีค่ะพี่krutoiting อ่านบันทึกไล่เรียงลงมา เห็นความรัก ความปรารถนาดีและใจที่พร้อมปรับกลยุทธ์สู้ไม่ถอยในการช่วยเหลือศิษย์ นับถือและชื่นชมอย่างยิ่งเลยค่ะ ขอเป็ฯกำลังใจให้ด้วยคนนะคะ
ขอบพระคุณค่ะพี่ใหญ่
วันนี้ไม่ได้เรียนเพราะผอ.พาคุณครูไปดูงาน
เสียดายเหมือนกัน แต่เมื่อวานได้พูดคุยกับเด็กๆทั้ง 4 คนแล้ว และ
ร่วมกันวางแผนฝึกอ่านในช่วงปิดเรียน 4 วันนี้ค่ะ
โดยให้เด็กๆอ่านคำที่ปรากฏหน้า TV ที่เด็กดู เขียนคำตามที่เห็นมาสองคำ
และจดคำที่อ่านจากป้าย หรือสลากมาอ่านให้ฟังในวันจันทร์ค่ะ
เด็กคนอื่นๆได้มอบสมุดบันทึกรักการอ่านให้ไปอ่านเรื่องที่สนใจ แล้วบันทึกย่อมาส่ง
วันจันทร์คงได้ทราบว่าเด็กน้อยจะมีความสามารถเพียงใด