“โลกคือมนทิรแผ้ว ไพศาล
ห้องหับสรรพโอฬาร เลิศแล้
หนังสือดุจประแจทวาร ไขสู่ ห้องนา
จักพบรัตนแท้ ก่องแก้ววิทยา”
พระราชนิพนธ์
ในสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี
บันทึกนี้เป็นเรื่องราวของความพยายามของเด็กน้อย 4 คน ที่อ่านไม่ได้
และได้เริ่มฝึกอ่านโดยครูประจำชั้นที่ไม่มีประสบการณ์การสอนภาษาไทย
มากไปกว่าเคยสอนลูกเมื่อครั้งยังเป็นเด็กอนุบาล
และมีประสบการณ์สอนเด็กนักเรียนข้างบ้าน
ชื่อเล่นว่าน้องเม่น และน้องชายของเม่นคือน้องเม
พ่อแม่ของทั้งสองเป็นเพื่อนบ้านของฉัน
ขณะนั้นทั้งคู่มี อายุ 10 และ 7 ขวบ
อ่านไม่ออก คิดเลขไม่เป็น รวมทั้งการสื่อแปลความไม่ได้
และผลการช่วยเหลือทำให้เด็กทั้งสอง
กลายเป็นเด็กที่อยู่ในกลุ่มเรียนเก่งได้ในเวลาต่อมา
โดยใช้เวลารวม 1 ปี เต็มๆ
จากเดิมที่เด็กทั้งสองมีผลการเรียนอยู่ในลำดับที่ก่อนสุดท้าย
ของชั้นเรียน ป.4 และป.1 ของโรงเรียนใกล้บ้านโรงเรียนหนึ่ง
ปัจจุบัน ได้ศึกษาต่อที่โรงเรียนมัธยมในกทม.แล้ว
ประสบการณ์การสอนนอกกรอบในวันนั้น
เป็นแรงขับ เป็นแรงบันดาลใจ และตอกย้ำความเชื่อว่าเด็กทุกคนไม่มีใครโง่
แต่ใครจะเป็นผู้ให้โอกาสเขาเท่านั้น
ฉันนำเด็ก 4 คนมาสอนเพื่อให้อ่านออก เขียนได้
หลังจากเด็กๆมีความพยายาม และความต้องการอ่านให้ได้แล้ว
เราเริ่มกิจกรรมฝึกอ่านมาเป็นเวลา 1 สัปดาห์ แล้ว
และเมื่อขึ้นสัปดาห์ที่สองของการฝึกอ่านวันจันทร์
ฉันคิดว่าประสบการณ์น้อยนิดที่ผ่านมา
อาจไม่เพียงพอสำหรับกลุ่มเด็ก 4 คนนี้เสียแล้ว
ฉันเริ่มไม่ไปโรงอาหาร ตอนพักกลางวันแล้ว
เนื่องจากที่ผ่านมาได้เทียวไปมากับเด็กๆตั้งแต่เปิดเรียนมา
เป็นเวลา 1 สัปดาห์เต็ม เพื่อให้คำแนะนำปลูกฝัง
เรื่องมารยาทการรับประทานอาหาร
และเฝ้าสังเกตพฤติกรรมของเด็ก การเลือกซื้ออาหารรับประทาน
รวมทั้งช่วยเหลือเด็กที่ไม่กล้ารับถาดอาหารฟรีมารับประทาน
และสังเกตว่าเด็กๆของฉันเริ่มมีวินัยในการรับประทานอาหารร่วมกันแล้ว
และฉันตั้งใจว่า จะใช้เวลาบางวันเท่านั้นเพื่อติดตาม
ประเมินผลการสร้างวินัยในโรงอาหาร
เพื่อย้ำเตือนเด็กน้อยจนกว่าพวกเขาจะปฏิบัติได้จนเป็นนิสัยที่ดี
ฉันเริ่มใช้เวลาที่เด็กๆไปรับประทานอาหารจัดการกับกระเพาะตัวเอง
ด้วยอาหารจานเดียว และใช้เวลาที่เหลือเตรียมการสอน
เลือกเนื้อหาที่เหมาะกับเด็กน้อยทั้ง 4 คนนี้ในช่วงระหว่างพัก
ฉันคิดว่ามันเป็นนาทีทองสำหรับฉัน
ฉันต้องทำอะไรสักอย่างที่
สามารถดึงเด็กให้กลับมาสนใจพัฒนาตัวเองให้เท่าเทียมเพื่อนๆ
หรืออย่างน้อยๆก็สามารถอ่านหนังสือออก
พร้อมกับสร้างทัศนคติรักการอ่านให้เกิดขึ้น
ฉันพบบทความที่บ่งบอกความสำเร็จที่ช่วยให้เด็กอ่านได้
เขาให้เด็กอ่านให้เจ้าตูบฟัง สำหรับเด็ก 4 คนนี้ จะให้อ่านให้ใครฟังดี
บางทีวิธีนี้อาจช่วยร่นระยะเวลาให้เด็กเรียนรู้ได้ดี และเร็วขึ้น
หน้าที่ของฉันคือสอนภาษาอังกฤษ ให้กับนักเรียนชั้น ป5-6
จำนวน 4 ห้องเรียน ถามว่าปัญหาในวิชาที่รับผิดชอบนั้นมีไหม
ไม่ต้องถามเลย ตอบว่ามีแน่นอน และมากกว่าภาษาไทยด้วย
แต่ไม่สำคัญเท่ากับเด็กไทยอ่านภาษาไทยไม่ออก
วิชาภาษาอังกฤษก็มีปัญหาไม่น้อยไปกว่าภาษาไทย
วันนี้น้องรมิต คนหน้าเศร้าเริ่มยิ้มน้อยๆมากขึ้น กล้าพูดกับครูมากขึ้น
ที่สำคัญน้องเริ่มอ่านได้แล้ว เริ่มจำตัวสะกดได้ จำพยัญชนะได้
โอ้..เธอเริ่มทำได้แล้ว เธอมีความพยายาม
ทีแรกฉันนึกว่าฉันจะต้องพูดคนเดียว เพราะเธอไม่พูดด้วย
อย่างเก่งก็ยิ้มน้อยๆ ส่วนน้องเกียรติ ยังคงอ่านเสียง อู้อี้ๆ ในคอ
ฉันพยายามตั้งใจฟังเพราะวันนี้ลองให้อ่านเป็นกลุ่มคำ
จำนวน 10 คำค่ะ แต่ปรากฏว่าอ่านไม่ได้
และพบว่าคำที่เป็นเสียงควบกล้ำ
เช่น เพลีย เคลีย เปรี้ยว เปลี่ยว
หรือฉันให้บทเรียนยากเกินไป
น้องเกียรติมีความพยายามที่จะสะกด
มีความสามารถที่จะจำชื่อเรียกอักษรได้แล้ว
ยกเว้นอักษร ฏ ฎ ฐ ฑ ฆ ฒ
พฤติกรรมที่แสดงออกมีอาการไม่มั่นใจเหมือนแรกๆที่มาหัดอ่าน..
วันก่อนอ่านคำที่มี สระเอีย ได้แล้วค่ะ
แต่พอมาเจอคำควบกล้ำ กลับอ่านแยกคำ
เช่น อ่านเพลีย เป็น เพ-ลี-ย อ่านออกมาแล้วก็งงเอง
เกาศีรษะเป็นการบอกว่างงเหมือนกัน สับสน เหมือนกัน
เพราะอ่านออกมาแล้วมันไม่รู้จักความหมายก็ยิ่งอุบอิบ ๆ
เสียงยิ่งเบาลงๆ ค่อยๆก้มหน้าเพื่อไม่ให้ได้ยินเสียงอ่าน
เห็นแล้วก็รู้สึกอึดอัด และสงสาร
อีกทั้งความรู้สึกในขณะนั้น ยังพาให้นึกอะไรไปเรื่อยเปื่อยว่า
ในสังคมมนุษย์ปัจจุบันนั้น
นอกจากการเรียนรู้เพื่อก้าวไปสู่การมีชีวิตที่ดีแล้ว
การเรียนรู้ช่วยให้มีชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่างปลอดภัย
ฉันรู้สึกว่าการที่ฉันนั้นได้มาเจอเด็กกลุ่มนี้ คือความโชคดี ๆที่ฉันได้
มีโอกาสนำสิ่งที่ฉันได้รับจากพ่อ แม่ ครูบาอาจารย์มา
ก่อให้เกิดกุศลต่อเนื่อง ฉันมองเด็ก 4 คนนี้ แล้วก็เปลี่ยนใจ
พักเบรคกันก่อนดีกว่าด้วยการแจกมังคุดให้รับประทาน
เราพูดคุยกันเบาๆสนุกๆ และบอกเด็กน้อยว่า
มังคุดคือราชินีแห่งผลไม้นะคะ การรู้เรื่องราวสิ่งต่างๆที่เข้ามาในชีวิตเรา
ช่วยให้เราดำเนินชีวิตในแต่ละวันอย่างมีคุณค่า
ไม่เสียแรงที่ได้ชื่อว่าได้เรียนรู้ การอ่านได้ จะช่วยให้เราทุกคนสามารถ
รับรู้สิ่งดีงามต่างๆได้ดี และไม่เสียโอกาส มนุษย์เกิดมาต้องบริโภค
หากเราเรียนรู้ได้ดี เราก็สามารถบริโภคสิ่งดีงาม และเป็นประโยชน์
ต่อชีวิตเรา อีกทั้งยังสามารถช่วยเหลือผู้อื่นได้
ภาษาไทยนี่มีความน่ารักมากๆเลยรู้ไหม
เช่นเอาแม่กับน้ำมาเขียนติดกันกลายเป็นแม่น้ำได้
น้องรมิต ยิ้มน้อยๆ ไม่เหมือนน้องดุลย์ที่ก้มหน้าก้มตารับประทานมังคุด
น้องเกียรติพูดว่า ดีครับเวลาไม่มีน้ำ
เราก็เอาแม่มานั่งคู่กับน้ำ เราก็จะมีแม่น้ำ..ฮาเลย
เออ...เด็กๆเขาคิดอย่างนี้ จะว่าอย่างไร……………การสนทนากันแบบนี้
สะท้อนให้เห็นมุมคิด ความสามารถในการคิดของเด็ก
ฉันคิดว่านี่เป็นเชิงประจักษ์ที่น่าจะเป็นข้อมูลได้ดีสำหรับการตั้งต้นพัฒนาการคิด
วันนี้มีเด็กที่ไม่ต้องฝึกอ่าน ก็มาร่วมสนทนา
และช่วยกันยกตัวอย่างคำประสม หันไปเห็นน้องนนท์ที่กำลังทำเลข
ส่ายหัวไปมา แล้วยังอดที่จะตะโกนบอกเพื่อนว่า คำนี่ไง..วัดป่า...
เพื่อนๆช่วยกันถามว่าประสมยังไง น้องนนท์อธิบายว่าวัด ไงเธอเช่น
วัดสหกรณ์ วัดศาลพันท้าย วัดที่เราไปทำบุญ เผาศพ
แล้วก็ป่าที่มีต้นไม้เยอะๆ มีภูเขา มีสัตว์ป่า มีน้ำตก
วัดป่า ก็ต้องอยู่ในป่าที่มีสัตว์เยอะๆ เสียงเพื่อนๆพากันหัวเราะ………
มุมคิดของเด็กสะท้อนให้เห็นถึงสิ่งที่ครูต้องเติมเต็ม
ฉันชมน้องนนท์ว่าเข้าใจคิดดีจังเลย เคยเห็นไหม กลับส่ายหัว
นี่ถ้าน้องนนท์พยายามอ่านทุกวันๆ
รับรองว่า เพื่อนๆต้องมาให้น้องนนท์สอนแน่เลย
วันนี้น้องนนท์ไม่ได้ฝึกอ่านหนังสือ การอ่านได้จะช่วยเพิ่มศักยภาพการเรียนรู้
แต่เพราะฉันให้ทำแบบฝึกหัดวิชาคณิตศาสตร์แทน
และรับรู้ว่าเด็กอ่านไม่ได้นั้น
ส่งผลให้การเรียนสาระวิชาอื่นๆนั้นด้อยลงไปด้วย
วันนี้ขาดครูสอนคณิตศาสตร์ เพราะคุณครูคณิตศาสตร์สอบบรรจุได้
ต้องไปรับงานสอนที่พัทยา และกำลังอยู่ระหว่างถ่ายโอนงาน
ครูประจำชั้นจึงรับหน้าที่สอนแทน
โชคดีเป็นชั่วโมงที่ฉันว่างพอดี ทำให้ได้สอนแทนและรู้จักเด็กมากขึ้น
น้องนนท์เขียนหนังสือช้ามากๆ และต้องคอยกระตุ้นให้เขียน
พรุ่งนี้น้องนนท์จะฝึกอ่านหลังจากรับประทานอาหารกลางวันแล้ว
ไม่รู้จะ work หรือไม่
ฉันได้มีโอกาสคุยกับคุณครูปราโมทย์
ที่น้องนนท์อาศัยนั่งรถมาโรงเรียน
ทำให้ทราบเรื่องน้องนนท์มากขึ้นว่า น้องนนท์เคยไม่กลับบ้านบ่อย
แต่ไปอาศัยเพื่อนที่เคยเรียนอยู่ชั้น ป4.
เคยเป็นนักเรียนโข่งในชั้นเดียวกัน แต่เวลานี้มีครอบครัวไปแล้ว
ทำให้ต้องประเมินน้องนนท์ใหม่
ฉันเคยไปบ้านน้องนนท์ที่อยู่ริมทะเล เมื่อปีที่แล้ว
ตอนจัดกิจกรรมคืนป่าให้ผืนแผ่นดินไทยที่สมุทรสาคร
โดยได้รับความร่วมมือจาก น้องๆโรงงานไทยรวมสินไปร่วมกิจกรรม
ปลูกป่าชายเลน ถวายพ่อหลวง
บ้านของน้องนนท์เป็นบ้านไม้หลังคาจาก
และพื้นบ้านนั้นน้ำทะเลสามารถท่วมถึงได้บ่อยครั้ง
นี่ก็เป็นปัญหาหนึ่งที่ส่งผลกระทบต่อการมาเรียนของน้องนนท์
ที่นอกเหนือจากปัญหาด้านเศรษฐกิจทางบ้าน
ฉันคิดว่ายังมีปัจจัยอื่นอีกที่ทำให้ประเทศไทยมีปริมาณของคนอ่านน้อยมาก
โดยเฉพาะนักเรียนที่เข้าสู่ระบบในระดับชั้นป.3 ซึ่งเป็นพื้นฐาน
ต่อยอดให้เด็กต้องเรียนสาระความรู้เริ่มมีความเข้มข้นขึ้น
อีกทั้งวิธีการประเมินการอ่านของทางราชการ เพื่อสำรวจนั้นยังมีข้อควรเพิ่มเติม
เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงคือจะต้องให้เด็กทุกคนเข้ารับการประเมิน
แม้วันที่มาประเมินจะมีนักเรียนขาดเรียนก็ตาม
ควรติดตามให้ได้รับการประเมินโดยทั่วหน้า
เพราะเด็กที่ได้รับการประเมินนั้นจะมีการนำผลการประเมินมาติดตามความก้าวหน้า
ดังนั้นจึงมีเด็กตกสำรวจรับการประเมิน
พร้อมกับขาดโอกาสที่จะได้รับการพัฒนาการอ่าน
ผู้รับผิดชอบอาจมองข้าม จนเป็นเหตุให้เด็กไม่ได้รับการฝึกให้อ่านออกอย่างจริงจัง
นานาประเทศล้วน นับถือ
คนที่รู้หนังสือ แต่งได้
ใครเกลียดอักษรคือ คนป่า
ใครเยาะกะวีไซร้ แน่แท้คนดง
จาก พระนลคำหลวง
พระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว
ขอบคุณ line สวยๆ ช่วยให้สบายอารมณ์จาก
http://www.thainn.com/blog.php?m=nuuqzaa&d=7852
และบทความเพื่อนใจทำให้เกิดข้อคิด มุมคิดจาก
http://www.thainn.com/blog.php?m=nuuqzaa&d=7852
ขอบคุณค่ะ
อ่านแล้วทำให้เห็นใจคุณครูขึ้นอีกเป็นทวีคูณ...
เป็นกำลังใจให้กับทั้งเด็กและครูนะคะ
ปัญหาทุกอย่างไม่เกินความสามารถของครูดีๆหรอกค่ะ...เชื่อมั่น
สวัสดีวันวิสาขบูชาค่ะ
เทคนิคน่าสนใจมากครับ แต่ความมุ่งมั่นพยายามน่าศรัทธายิ่ง ทำให้อยากรู้จักมากขึ้น ขอบคุณแทนเด็กๆ ครับ
ขอบคุณค่ะ น้องkrugui Chutima
พยายามเต็มที่ค่ะ สู้ค่ะ
อยากเห็นเด็กไทยอ่านหนังสือมากๆ
เช้านี้โชคดีค่ะ เจอแหล่งเรียนรู้น่าศึกษา และนำมาใช้ช่วยเหลือเด็ก
ที่นี่ค่ะhttp://cop019.tkc.go.th/index.asp
พี่ไม่เคยสอนภาษาไทยในโรงเรียน
มาเห็นแหล่งเรียนรู้มากมายหลายที
ดีใจแทนครูสอนภาษาไทย
หากมีครูแบบนี้มากๆ
ประเทศไทยไปได้อีกไกลโขค่ะ
ขอบคุณค่ะ
นาย นายวัลลภ ตังคณานุรักษ์ (ครูหยุย)
สวัสดีค่ะคุณครูหยุย
เป็นเกียรติแก่ครูต้อยแล้วนะคะ
ไม่มีอะไรมากค่ะ เพียงแต่ทำตามบทบาทของครูประจำชั้น
เมื่อวานซืน ผู้ปกครองของน้องอักษรมาฝากลูกอีกคน
ก็ดีค่ะ ให้โอกาสเด็กๆรวมตัวกัน แบ่งปันให้กันและกัน
สังคมบ้านเรา แม้มีความไม่เข้าใจกัน แต่ไม่นาน เราก็เข้าใจกันได้
ขอเพียงทุกคนทำคำว่า"ให้"ให้เป็นความจริง
ขอบคุณครูหยุยนะคะ ตื่นเต้นค่ะ นึกไม่ถึงว่า
เรื่องราวความพยายามของเด็กน้อยชายทะเล
จะได้รับความสนใจจากครูหยุย
ขอบคุณค่ะ
ดีใจแทนเด็กน้อยนะคะ ในที่สุดก็ครบสี่สลึง ^^ อ้าวพี่ครูต้อยสอนภาษาอังกฤษนี่นา
สวัสดีค่ะ
ปรบมือให้ดังก้องฟ้าเลยค่ะอาจารย์
มีจิตวิญาณของความเป็นครูอยู่เต็มเปี่ยม ด้วยเมตาตา กรุณา
ชื่นชื่นจังเลยที่ได้รับรู้เรื่องราวที่ดีๆ เช่นนี้
เป็นโชคดีของเด็กอย่างมหาศาลค่ะ
ขอให้กุศลที่อาจารย์กระทำกับลูกศิษย์ส่งผลให้พบแต่ความสุขความเจริญ
* ค่ำๆ พาครอบครัวไปเวียนเทียนกันนะคะ
* ด้วยความระลึกถึงค่ะ
มาชวนไปเวียนเทียนกันค่ะ
ดาวลูกไก่ ชื่นชมยินดี
สวัสดีค่ะน้องดาว
ธรรมสวัสดีนะคะ
เป็นเช่นนั้นจริงๆ พี่ได้รับมอบหมายให้วิชาสอนภาษาอังกฤษ
ในระดับประถมมานานถึง37 ปีแล้วค่ะ
และการสอนภาษาไทยเป็นภารกิจเพื่อชาติที่สมัครใจทำค่ะ
ก็อยากให้ครบสี่สลึงเหมือนกัน
แต่ดูเหมือนว่ายังจัดกิจกรรมช่วยเด็กน้อยไม่ครบสี่สลึงนะคะ
ต้องพยายามต่อไป
น้องดาวคะ เมื่อวานพี่ไปดูงาน โรงเรียนที่ได้รับรางวัลส้วมสะอาด
และโรงเรียนสุขภาพระดับเพชรมาค่ะ
และได้มีโอกาสสนทนาขอความรู้จากคุณครูที่สอนเด็กพิเศษ
พี่ได้ความคิดอีกมุมหนึ่งว่าพี่จะนำcase น้องนนท์ น้องดุลย์ และน้องเกียรติไปปรึกษา
ผู้เชี่ยวชาญด้านการจัดการศึกษาพิเศษ บางทีอาจได้ข้อมูลช่วยเหลือเด็กมากขึ้น
ส่วนน้องรมิต สาวน้อยผู้เงียบขรึม นั้นคงต้องให้เวลาดูแลเธอมากขึ้น
ในด้านการอ่านเธอเริ่มอ่านได้แล้ว
และรับหนังสือฝึกอ่านผสมคำกับสระเล่มสองไปแล้วค่ะ
ตั้งใจหานิทานไปอ่านให้เธอฟัง และให้เธอฝึกอ่าน
ถ้าอ่านได้แล้วจะให้เธอไปอ่านให้น้องอนุบาลฟังค่ะ
บุญรักษานะคะ
ขอบคุณค่ะ
สวัสดี ครับ ครูต้อย
อ่านบันทึกนี้ ยิ้มแก้มไม่หุบเลย ครับ
....เป็นความพยายาม ที่วิเศษสุด
ที่นี่ คือบ้าน ของเรา และภาษาก็เป็นของเรา
ภูมิใจแทนเด็กน้อย ที่อยู่ในอ้อมอกของครู จริงๆ ครับ
...ชื่นชม...ครับครู
พาดวงใจ มาเล่นที่บ้านครูต้อย ด้วย นะครับ
ฝากดวงใจ ไว้เรียนภาษาอังกฤษกับครู ด้วย นะครับ
...
ด้วยความระลึกถึงครูครับ
อ่านแล้วซาบซึ้งกับสิ่งที่พี่ครูต้อยทำด้วยหัวใจเมตตาและมุ่งมั่น ความสุขของครูมาจากความก้าวหน้า ความสำเร็จ จากก้าวเล็กๆของศิษย์ คงเป็นบุญกุศลที่เคยมีต่อกันศิษย์เหล่านี้จึงได้มารับการเกื้อกูลด้วยหัวใจจากพี่ครูต้อยเช่นนี้ค่ะ
ประสบการณ์การสอนนอกกรอบในวันนั้น
เป็นแรงขับ เป็นแรงบันดาลใจ และตอกย้ำความเชื่อว่าเด็กทุกคนไม่มีใครโง่
แต่ใครจะเป็นผู้ให้โอกาสเขาเท่านั้น
สวัสดีค่ะคุณครู
เสียงปรบมือดังสนั่น!!!!!!!!
สำหรับภารกิจของครูต้อยครั้งนี้
แหม่มขอปรบมือดังๆให้กับ
จิตวิญญาณของคุณครูผู้ให้
อย่างแท้จริง