ถอดบทเรียนการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนภาษาอังกฤษ......Native Speaker


การเรียนการสอนภาษาที่ได้ผลควรเกิดขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ

เมื่อต้องทำหน้าที่เป็น

ครูสอนภาษาอังกฤษในโรงเรียนประถมศึกษา

ฉันมีเพื่อนต่างประเทศคือหนังสือนิทาน หนังสือการ์ตูน

หนังสือนิตยสาร เพลงรวมทั้งหนังตามโรงที่เสียงในฟิมล์

นี่คือสิ่งที่ฉันมีมาตลอด มันจำเป็นมากสำหรับฉัน

ผู้เชี่ยวชาญด้านภาษาหลายท่านที่ฉันรู้จักต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า

การเรียนการสอนภาษาที่ได้ผลควรเกิดขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ

 

ฉันต้องทำการบ้านหนักเพื่อตีโจทย์คำบอกเล่านั้น

เราอาจมีความพยายามให้เด็กได้จดจำ โดยใช้ภาษาไทยกำกับ

แต่นั่นไม่ใช่หนทางที่จะช่วยให้เด็กมีทักษะในการสื่อสารได้ดี

ฉันต้องตอบคำถามเพื่อนครูต่างประเทศบ่อยมาก

เมื่อฉันพยายามขอร้องเพื่อนให้ช่วยบอกความลับ

ของการเรียนภาษาให้สามารถสื่อสารกับชาวต่างประเทศได้

คนแล้วคนเล่าเรียกว่าแทบจะเค้นคอถามกันเลย

คำตอบก็คือคุณพูดกับผม/ฉันได้อย่างไรคุณจำได้ไหม

ฉันเพียงพยักหน้า และหัวเราะขำตัวเอง แต่มันไม่เป็นเช่นนั้นเสมอไป

หลังจากที่ฉันได้นำสิ่งที่ฉันรู้ ฉันทำได้และ

มาใช้กับเด็กนักเรียนของฉัน

ฉันพบว่าเด็กมีความพยายามที่จะเขียนคำอ่านเป็นภาษาไทย

กำกับไปบนคำภาษาอังกฤษ

เจ็บปวดยิ่งไปกว่านั้นเมื่อฉันพบว่าเด็กน้อยของฉันสะกดคำภาษาไทยไม่ถูกต้อง

แต่มันน่าแปลกใจที่ฉันพบว่าเด็กน้อยกลุ่มนี้กลับอ่านออกเสียงภาษาอังกฤษได้

ใกล้เคียงกับเจ้าของภาษาโดยที่เขียนคำอ่านภาษาไทยผิด

และฉันไม่แปลกใจเลยเมื่อเด็กที่เขียนคำอ่านไม่ถูกก็อ่านไม่ถูก

แต่ฉันไม่กังวลอะไร เพราะนั่นแสดงว่าเด็กน้อยอยากพูดได้ อ่านได้จริงๆ

สิ่งที่ฉันกังวลคือทำอย่างไรเด็กน้อยของฉันจึงจะมีภูมิทัศนคติที่ดีกับภาษา

ฉันเชื่อว่าเมื่อพวกเขาประทับใจความกระตือรือร้นในใจเขาจะเกิดขึ้นเอง

ความอยากรู้อยากเห็น อยากพูดมันเกิดขึ้นเอง

ยิ่งได้ร้องได้รำ ได้เต้น ได้เล่น ได้แข่งขัน ได้ดูหนัง ได้เห็นชีวิตและวัฒนธรรม

เด็กน้อยของฉันย่อมได้รับการจุดประกายขึ้นในใจ และการเรียนรู้ก็จะตามมา

ฉันนึกทบทวนความหลังเมื่อครั้งฉันต้องทำงานช่วยเหลืออาสาสมัครจากUK

ซึ่งเพื่อนชาวอเมริกันคนหนึ่งจัดสรรมาให้หลังจากเขารับรู้ปัญหาการเรียนการสอน

คำถามที่เขาถามให้ฉันต้องคิด และเกิดการเปลี่ยนแปลงตัวเองขึ้นนั้นคือ

เมื่อคุณก้าวเท้าเข้าชั้นเรียนคุณเคยยิ้ม และแสดงท่าทางกระฉับกระเฉงต่อเด็กไหม

บ่อยไหมที่ทักทายเขาก่อน หรือคุณรอให้เขาทักทายคุณ หรือคุณสลับกันทักทาย

คุณพูดคนเดียวตลอดชั่วโมงไหม

คุณใช้ภาษาแม่หรือคุณใช้ภาษาที่คุณกำลังสอน

คุณเคยให้กำลังใจพวกเขาไหม

คุณให้กำลังใจพวกเขาอย่างไร

คุณแก้ปัญหาอย่างไรเมื่อพวกเขาพูดผิด

คุณมีวิธีการอย่างไรถ้าเขาไม่สนใจคุณ

คุณสวมบทบาทเป็นเสมือนเจ้าของภาษาไหม

หรือคุณเพียงสอนให้เขาอ่าน ให้เขาท่องคำศัพท์ตามหนังสือ

มันจะมีความหมายอะไร ไม่นานเขาก็ลืมสิ่งที่คุณสอน

และเมื่อเขาไปเรียนต่อสูงขึ้น เขาไม่มีอะไรในสมองของเขาเลย

ไม่มีแม้แต่ความรัก เขาไม่เข้าใจ ไม่ซึบซับอะไรไว้เลย

แล้วเขาจะต้องเริ่มต้นใหม่เมื่อเขาเป็นผู้ใหญ่

มันเสียดายเวลาที่ผ่านไปไหม เขาจะรู้สึกอย่างไร

เขาจะเสียดายที่เขามานั่งเรียนโดยไม่ได้อะไรเลยไหม

คุณเคยเปิดเพลงสากลให้เขาฟังไหม

คุณเคยมีหนังสือการ์ตูนง่ายๆให้เขาดูไหม

คุณเชื่อไหมเพียงคำเดียวที่ตัวการ์ตูนในหนังสือพูด  เขาก็สนใจแล้ว

เขาอยากรู้เขาจะถามคุณ ถ้าคุณเป็นมิตรที่ดีกับเขา

คุณเคยให้เขาดูVCD ภาพยนตร์เสียงในฟิลม์ไหม

คุณเคยคิดว่ามันยากเกินไปสำหรับเด็กเล็กใช่ไหม

แล้วคุณสงสัยไหมว่าเด็กยุโรป เด็กทั่วโลกเขาเรียนรู้กันอย่างไร

ภาษา

มันคือธรรมชาติที่เราจะสื่อสารกันใช่ไหม

คุณต้องเรียนรู้อะไรคุณถึงสื่อสารกับผมได้

ผมเรียนรู้อะไร

ผมพูดภาษาของผม

คุณพูดภาษาของคุณ

แล้วมันค่อยๆเปลี่ยนไปใช่ไหม นานไหม

ไม่นานหรอกใช่ไหมคุณพูดภาษาอังกฤษให้ผมเข้าใจได้

เหมือนที่ผมพูดภาษาไทยให้คุณเข้าใจได้

มันมีที่คุณหัวเราะคำไทยผมพูดไม่ถูก แต่คุณเข้าใจใช่ไหม

แต่ผมไม่ขำที่คุณพูดไม่ถูกผมสอนคุณใหม่ได้ทุกครั้ง

เมื่อคุณพูดถูกมันก็ถูกไวยกรณ์ไปเอง

ฝรั่งเขาให้ลูกหัดพูดทีละคำเหมือนเด็กไทยหัดเรียกแม่

ทำไมคุณไม่ฝึกเด็กเหมือนแม่ฝึกให้ลูกพูดทั้งวันใช่ไหม

ไม่มีใครฝึกลูกให้พูดภาษาตัวเองเพียงครั้งเดียวในหนึ่งวันใช่ไหม

คุณต้องพูดกับเขาทุกครั้ง ที่มีโอกาส

อย่ารอพูดเฉพาะชั่วโมงที่คุณสอนเลยเชื่อผม

พูดให้ถูกเขาก็จะเรียนรู้ไวยกรณ์ไปเอง

ทั้งหมดนี้เป็นการสนทนากับเพื่อนMr.Long

ที่ฉันจดจำได้แม้จะผ่านมานานเกือบ 20 ปีแล้ว

ทุกวันนี้เพื่อนฉันเก่งพูดภาษาไทย และสอนชาวต่างประเทศให้พูดภาษาไทย

ส่วนฉันยังเหมือนเดิม ยังเป็นเป็ดก๊าบๆ

ที่ทำงานประสานช่วยเหลือเพื่อนต่างประเทศควบกับงานประจำ

และโรงเรียนของฉันมักได้รับความช่วยเหลือแบบนี้เสมอ

ซึ่งส่วนใหญ่แล้วเป็นคนอังกฤษ และอเมริกัน

ซึ่งมีทั้งคนทำงาน และที่กำลังเรียนในมหาวิทยาลัย

หลายคนกลับไปแล้วยังอุตส่าห์สัญญาว่ามีครอบครัวเมื่อไหร่จะพามาเที่ยวเมืองไทย

และหลายคนกลับไปแล้วไม่ถึงปี กลับมาเที่ยวอีกเพราะคิดถึงนักเรียนที่เขาสอน

มีบางคนที่ยังติดต่อกันทางอีเมล์

วันที่ 6 สิงหาคม ปีนี้ฉันขออนุญาตผู้อำนวยการโรงเรียน

จัดกิจกรรมการเรียนการสอนภาษาอังกฤษ

โดยครูอาสาจากต่างประเทศ 11 คน ได้จัดกิจกรรมการเรียนภาษาอังกฤษ

ให้เด็กๆได้เรียนรู้กันอย่างสนุกสนาน

คุณครูในโรงเรียนบางท่านก็ร่วมเรียนรู้ไปกับเด็กน้อยอย่างสนุกสนาน

เหมือนน้องครูชุลีพร ที่สนุกไปกับเด็กๆ ตลอดเวลา

ผอ.แม้จะไปอบรมก็ได้สั่งเสียเตรียมการเรื่องอาหารรับรองแขก

ฉันรู้สึกซาบซึ้งในน้ำใจของทุกฝ่ายที่ร่วมกันเสียสละ ทั้งเวลาสอน

เวลาทำงาน และอาสาสมัครที่สละเวลา

ให้กับเด็กน้อยของโรงเรียนสหกรณ์นิคมเกลือได้รับประสบการณ์ตรง

ฉันพาเพื่อนๆไปสัมผัสธรรมชาติบ้านครูฉวีวรรณ ร้าครูฉวีฟีชชิ่ง

ที่อยู่หลังโรงเรียน การเดินทางสร้างความตื่นเต้นให้พวกเขามาก

เราถ่ายรูปร่วมกันหลังรับประทานอาหารกลางวันเรียบร้อยแล้ว

ไม่มีรูปบนโต๊ะอาหารเนื่องจากเรากำลังมีความสุขกับอาหารที่อยู่ตรงหน้า

ในขณะที่ฉัน

ฉันเองก็กำลังมีความสุขกับสลัดกุ้งทอด และปูผัดผงกระหรี่

อิอิ..ลืม!

เตรียมคำตอบว่าผงกระหรี่ ภาษาอังกฤษเรียกอะไร

จึงเกิดเสียงเฮฮาขึ้นเมื่อมีคนพูดออกเสียงภาษาไทยตามฉัน..

สุขใจที่ฉันได้วางสิ่งพิเศษไว้ในใจเด็กน้อยแล้วทุกคน

และฉันเองยังต้องลงมือทำตามที่ฉันฝันต่อไป

ขอบคุณเพื่อนอเมริกัน

คุณStephen  และอ.David

ขอบคุณค่ะ

 

หมายเลขบันทึก: 385185เขียนเมื่อ 16 สิงหาคม 2010 01:09 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 23:22 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (16)

ผมยังหวังเสมอว่า เด็กไทยจะสามารถ

อ่าน-ฟัง-พูด-เขียน ภาษาอังกฤษได้ทุกพื้นที่

ขอบคุณครับ

P

มันยังคงเป็นความฝันของเด็กน้อยในทุกพื้นที่

พอๆกับที่ครูไทยก็ยังหวังว่าจะเดินมาถูกทาง

เมื่อมองย้อนอดีตการศึกษาไทยถึงปัจจุบัน

และวันนี้พี่รับประเมินโครงการโรงเรียนสุขภาพ..ในช่วงเช้า

ก็ดีนะคะ ละเอียดดี เห็นการทำงานของคณะกรรมการแล้ว

อดชื่นชมกรมอนามัยไม่ได้ และทำให้คิดถึงคุณพ่อที่จากไปมากยิ่งขึ้น

ในส่วนที่พี่รับผิดชอบคะแนนเต็ม ผ่าน100 เปอร์เซ็นต์ค่ะ

ขอบคุณค่ะ

สวัสดีค่ะ

มาเอาใจช่วยคุณครูค่ะ

สวัสดีค่ะพี่ครูต้อย

  • วิธีการสอนภาษาอังกฤษในบันทึกของพี่ครูต้อย
  • ก็สามารถประยุกต์ใช้กับการสอนภาษาไทยได้ดีไม่แพ้กัน
  • ขออนุญาตนำไปเผยแพร่ครูสอนภาษาอังกฤษที่โรงเรียนนะคะ
  • พี่ครูสบายดีนะคะ  คิดถึงเสมอค่ะ

 

พี่ครูต้อยครับ อยากให้โรงเรียนอื่นๆๆมีโอกาสได้พบกับชาวต่างประเทศแบบโรงเรียนพี่บ้างจังเลย เด็กๆๆคงตื่นเต้นน่าดูนะครับ

มาชื่น มาชม มาเชียร์ มาส่งกำลังใจให้เด็กน้อยครูพี่ต้อย หนับหนุนการเรียนแบบธรรมชาติค่ะ ภาษาถ้าไม่รัก ไม่ชอบก่อนก็ นอนนิ่งแน่ๆ ขอบคุณพี่ต้อยค่ะ

Pน้องณัฐรดา ส่งกำลังใจทำให้พี่ทำให้มีลุ้นแล้วค่ะ

ก็พยายามเท่าที่มีโอกาสนะคะ พยายามทุกวิธีที่จะให้เด็กน้อยได้มีโอกาส

ได้ประสบการณ์ตรง วันนี้ช่วงบ่ายคุณครูประจำชั้นป4/2.ติดธุระ

ผอ.มอบหมยให้พี่เข้าสอนแทน

ก็เลยทดสอบเด็กๆว่าจะสามารถสื่อสารโดยไม่ใช้ภาษาไทยจะได้ไหม

พบว่าเกือบทั้งห้องยังคงมีความตื่นเต้นให้เห็น และพยายามพูดตอบคำถาม

และดูเหมือนเด็กน้อยจะเข้าใจการสื่อสาร เพราะต่างกระตือรือร้น

เมื่อมอบหมายงานหลังเรียนให้ทำแบบฝึกหลังเรียน

และออกแบบแบบฝึกหัดเติมอักษรที่หายไปได้ด้วยตัวเอง

มีบางคนต้องอาศัยการดูงานเพื่อน ก็เป็นการเรียนรู้อีกแบบหนึ่ง

ทุกเส้นทางเรียนรู้ของเด็กๆ ล้วนมีความหมายต่อทัศนคติที่ดีทั้งนั้น

อิสระภาพทางความคิดต้องเปิดและให้โอกาสเด็กน้อย

เพราะเขาจะรู้สึกดีที่ครูให้ความสำคัญ เรียกว่าขอใจเธอก่อนนั่นเอง

อย่างอื่นค่อยๆว่ากันไปตามบริบทค่ะ

ขอบคุณค่ะ

 

Pขอบคุณน้องอิงจันทร์

ด้วยความยินดีนะคะ หากเป็นประโยชน์ต่อเด็กน้อยของเรา

เด็กน้อยของพี่ 3ใน4 คนที่เข้ารับการสอนเสริมภาษาไทยจากช่วงเวลาที่ผ่านมา

ขณะนี้กำลังเรียนเสริมภาษาอังกฤษ หลังเลิกเรียนทุกวันค่ะ

พี่ก็สนทนากับเขาวันละ 1-2 ประโยค

เมื่อเข้าใจ และสามารถพูดได้ถูกต้อง

เราจะฝึกเพิ่มเติมด้วยการเขียนโครงสร้างประโยค

แล้วให้เด็กๆช่วยกันหาคำมาเปลี่ยนโดยยังคงโครงสร้างเดิมไว้

ซึ่งเด็กๆจะดีใจมากเมื่อเขาพูดประโยคเดิมซ้ำๆจนมั่นใจ

และสามารถเปลี่ยนคำในตำแหน่งเดียวกัน

ซึ่งอาจเป็นคำกริยา หรือคำนามก็แล้วแต่จุดมุ่งหมายของการเรียนนั้น

เราจะไม่ให้โครงสร้างรูปประโยคที่แตกต่างกันได้ด้วยความเข้าใจ

แล้วจึงให้เขียนประโยคที่พูดได้ ก็เป็นขั้นตอนการสอนง่ายๆ

แบบค่อยเป็นค่อยไป ระวังการสะดุดค่ะ

ขอบคุณค่ะ

 

P

เรียนน้องอ.ขจิต

กำลังคิดอยู่เหมือนกันค่ะ

เรื่องช่วยโรงเรียนอื่น

แต่ก็มีข้อจำกัดตรงที่เราติดตามการทำงาน

และทุกข์สุขของเขาไม่ได้เต็มที่

ขอบคุณค่ะ

P

น้องสาวเชียร์เสียงดังจังเลย

เล่นเอาสะดุ้ง..อิอิ นอนนิ่งไม่ดีแน่ค่ะ

เสียเวลา เสียงบ เสียความรู้สึก แน่เลยน้องเอ๋ย

นี่เพราะกลัวแหละเลยต้องแคร์ความรู้สึก

ทัศนคติทั้งของอาสาที่มาทำงาน

และทั้งของเด็กน้อย แถมเพื่อนร่วมงานอีก

ขอบคุณกำลังใจจากอันดามันค่ะ

พี่ครูต้อยคะ

   * เป็นโอกาสที่ดีต่อเด็กๆนะคะ
   * Pually เองก็นำเทคนิคหลายรูปแบบมาผสมผสานสอนเด็กๆ ค่ะ   และเปิดโอกาสให้ทุกคนได้ฝึกฝนแบบเสมอภาค ... อิอิอิ
   * ช่วงนี้จะรับผิดชอบภาษาญี่ปุ่นมากกว่าภาษาอังกฤษค่ะ  แต่ก็ยังดูแลโครงการห้องเรียนพิเศษภาษาอังกฤษและจัดกิจกรรมส่งเสริมอยู่นะคะ
   * ขอบคุณสำหรับบันทึกดีๆที่เตือนให้ระลึกถึงข้อเท็จจริงที่ไม่ควรมองข้ามค่ะ
                                      
 

                                                       

                

P

ขอบคุณค่ะน้องPually

ยุคนี้เป็นยุคของการผสมผสานกลมกลืน

การยึดมั่นถือมั่นในรูปแบบเก่านั้นมีข้อดี

หากถ้าได้ปรับให้มันเหมาะกับผู้เรียนแล้วยิ่งดีใหญ่เลย

การเรียนรู้แบบธรรมชาติก็คงต้องดูหลักสูตรแกนกลางเป็นหลักเหมือนกัน

เพียงแต่รูปแบบการนำเสนอ การสอนก็ปรับให้เหมาะกับธรรมชาติของภาษา

นักการศึกษาหลายคนที่เข้ามาในไทย และแอบมาเป็นครูอาสาช่วยพี่นั้น

มีความพยายามที่จะบอกให้รู้ว่าการเรียนภาษาที่พวกเขาปฏิบัตินั้น

ไม่เพียงแต่ครูต้องเตรียมเนื้อหาเท่านั้น

การวิเคราะห์ช่วงเวลาให้เหมาะสมกันฤดูการเรียนในเนื้อหาต่างๆ

ก็เป็นสิ่งที่ครูไม่ควรพลาดโอกาส รวมถึงวิถีชีวิตประจำวันของขุมขน

ก็สามารถนำมาบรูณาการเรียนรู้ภาษาได้

นักวิชาการบางคนกล่าวถึงเนื้อหาที่เด็กควรได้รับในแต่ละระดับชั้น

ในขณะที่เจ้าของภาษาบอกว่าเข่าเรียนรู้ภาษาไทยในทุกสถานการณ์

ไม่ว่าจะเป็นตัวเขาเอง หรือลูกๆก็ตาม

เขาไม่จำกัดเนื้อหาว่าควรหรือไม่ แต่เขาคำนึงว่าเด็กควรได้รับอะไร

และเด็กจะได้อะไรมากกว่า รวมทั้งเขาไม่ยัดเยียด

เพราะเขาเชื่อมั่นถึงความแตกต่างของบุคคล

จึงเกิดความหลากหลายขึ้นมาในการจัดกิจกรรมในขั้นเรียน

ขอบคุณค่ะ

 

Dear all professinal teacher,

Just a few words to say hello,

i am going to be an english teacher next week. i never learn how to be teacher. But once I have done I felt that so wonderful when your students enjoy and happy to learn english and dare to ask questions which i do not khow.I said to him i do not know a word what you asked me,but i will tell you tomorrow.

Next week i am going to have 2 new students for english program. This is why i am here.

I will bring my guitar and i will teach them in english as much as possible[no speak thai]. I will continue to talk to them everyday in english. Even i know i am not so good as the others. But i am pround to me myself because i do not afraid english language.

make them happy and smile then English is so easy to learn.

 

Dear kheeta Imvithaya

Good sound.

" Do not afraid english language.

Make it happy and smile when we use it"

Thank you.

 

You're welcome Krutoiting.

I'll try my best.

Beat Regards,

Kheeta

Kheeta ,you get the gotoknow.

Shows.Tell me.

What ? you have a block.

Maybe .. I could support your kids as possible.

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท