บันทึกไปบันทึกมาก็เริ่มรู้สึกว่าอยากเล่าด้วยภาพสัก 1 บันทึก
เป็นภาพเหตุการณ์การฝึกสมาธิบำบัด โดยอ.ดร.ป๊อบ หรือดร.ศุภลักษณ์ เข็มทอง
จากม.มหิดล หนุ่มรูปหล่อใส่เสื้อสีม่วงค่ะ
เพิ่งพบกันครั้งแรกของนพ.สิทธิพร กับดร.ป๊อบค่ะ
ในระหว่างที่จิตอาสาผู้ป่วยเบาหวานวัดความดัน
เพื่อนำผลมาเปรียบเทียบก่อน-หลัง การทำสมาธิบำบัดค่ะ
เมื่อพร้อมแล้วกิจกรรมเริ่มต้นด้วยการบรรยายพร้อมๆกับให้ทุกคนปฏิบัติตาม
กิจกรรมแรกให้รู้จักวิธีจับชีพจรตัวเอง และจับให้กันและกัน
นอนสมาธิ ผู้ป่วยที่นอนราบแล้วหลังไม่ติดพื้น ให้ตั้งเข่าขึ้นให้หลังติดพื้นค่ะ
มีบางคนหลับไปเลย แถมส่งเสียงดังด้วยค่ะ
ต่อจากนั้นจึง ฝึกนั่งสมาธิ และยืนสมาธิ
ค่อยๆลุกขึ้นช้าๆ อย่างมีสติ
ให้หมุนตัวตามเสียงเคาะวัตถุ
กายเคลื่อน ใจรับรู้การเคลื่อนของกายอย่างมีสติ
ขาที่ก้าวเดินอย่างมีสติ น้อมใจรับรู้การก้าวขา การวางเท้า และประคองตนเอง
เดินไปรอบๆห้องอย่างมีสติ
ส่งยิ้มให้กันขณะที่ก้าวเดินไปรอบๆห้องรับรู้ความรู้สึกที่เกิดขึ้น
แล้วกลับมา ยืนนิ่ง แล้วจับชีพจรตัวเอง นับการเต้นของหัวใจ
แลกเปลี่ยนเรียนรู้สิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างฝึกสมาธิบำบัด
หลังจากที่ได้อยู่กับตัวเองนานจนหลายคนมีอาการอยากบอกอยากเล่า สิ่งที่เกิดขึ้น
น้องดร.ป๊อบจึงบอกให้ทุกคนพูดสิ่งดีเสียงดังๆ น้องมดเภสัชกร เธอคงอึดอัดมาก
จึงตะโกนเสียงดังกว่าคนอื่น กิจกรรมนี้ชื่นชมน้องอ.ดร.ขจิต และจนท.ของโรงพยาบาล
ทุกคนเลยนะคะ เพราะได้เข้าร่วมกิจกรรมทุกวินาที เว้นแต่ฉันที่ต้องทำหน้าที่เก็บภาพ
แห่งความทรงจำนี้ไว้เพื่อให้เกิดการต่อยอดการเรียนรู้
ส่วนที่เห็นนี้ ผู้ป่วยจิตอาสา ใช้นิ้วขีดเขียนข้อความสั้นๆลงบนหลังของเพื่อน
ผู้ที่ถูกเขียนจะต้องใช้สมาธิอ่านข้อความที่หลังตัวเอง
โดยรับรู้ข้อความนั้นๆทางสัมผัสกายค่ะ
สลับกันเขียนสลับกันอ่าน และบอกว่าเพื่อนเขียนให้นั้นคืออะไร
ภาพนี้เป็นกิจกรรมให้ใช้สมาธิบวกเลขอายุสมาชิกกลุ่มรวมกัน
ไม่ให้ส่งเสียง ให้นับในใจได้บางกลุ่ม
น้องขจิตร่วมกิจกรรมกลุ่มด้วยค่ะ นับเร็วมากเลยสุดท้ายก็งงเหมือนกัน ฮามากค่ะ
เอ้าแอบมาอยู่กลุ่มเดียวกับน้องมดเภสัชกรดีเด่นของรพ.สมุทรสาคร
กลุ่มนี้รวมอายุกันไม่ถึง 100 ปีค่ะ
ดูท่าทางการนับช่วยกันแบบจุ๋มจิ๋มๆ
บางกลุ่มรวมได้แค่ร้อย สงสัยจะลืมนับตัวเองค่ะ
กลุ่มนี้เอานิ้วมือมากางแล้วนับในใจ บางกลุ่มนับแล้วนับอีก ก็ไม่เท่าเดิมใคร
หลังจากกิจกรรมสมาธิบำบัดผ่านไปแล้ว
สมาชิกทุกคนได้ทำการวัดความดันอีกครั้ง
ผลปรากฏว่าทุกคนมีความดันลดลง
และฉันเชื่อว่าสมาธิสามารถควบคุมความดันให้เป็นปกติได้
ด้วยความยินดีในผลที่ทุกคนได้รับจากการทำกิจกรรมสมาธิบำบัดนี้
ทุกคนต่างก็ร่วมกัน สรุปบทเรียน และถอดบทเรียน
จากกิจกรรม โดยทีมงานได้ช่วยกันนำด้วยคำถามดังนี้
สมาธิบำบัดช่วยให้เกิดประโยชน์ต่อตนเองอย่างไร
ถ้าจะต้องแนะนำเพื่อนผู้ป่วยต้องทำอะไรบ้าง อย่างไร
สิ่งที่ควรทำก่อนทำสมาธิบำบัด และหลังทำสมาธิบำบัด
สมาธิบำบัดเกี่ยวข้องกับการควบคุมเบาหวาน และความดันอย่างไร
งานนี้ได้น้องอ.ขจิตช่วยกระตุ้นให้แต่ละได้พูดค่ะ
อ่านข้อมูลกิจกรรมเพิ่มเติมจาก
http://gotoknow.org/blog/otpop/400536
ขอบคุณดร.ศุภลักษณ์ เข็มทอง (ดร.ป๊อบ)
ขอบคุณน้องอ.ดร.ขจิต ฝอยทอง
ขอบคุณนพ.สิทธิพร เหล่าหริกุล
และขอบคุณเพื่อนเบาหวานทุกคน ขอบคุณจนท.รพ.สมุทรสาครทุกคน
ไว้ ณ โอกาสนี้อีกครั้งค่ะ
ขอบคุณค่ะ
ขอบคุณ slide.com ที่เอื้อเฟื้อค่ะ.... ขอบคุณทุกท่านที่อ่านค่ะ
เข้าเยี่ยมชมจิตอาสาด้วยคนครับ
เป็นการเล่าเรื่องด้วยภาพที่สวยงามและอิ่มใจกับบรรยากาศของเหล่าจิตอาสาที่มีความสุขขณะทำกิจกรรมบำบัดด้วยการฝึกสมาธิ
ขอบคุณกับภาพและโอกาสแลกเปลี่ยนเรียนรู้ที่ดีเยี่ยมจากบันทึกของครูต้อย
ขอส่งความสุขภาพดีถ้วนหน้าแด่ทุกท่าน รวมถึงคุณครูต้อย พี่มด และพี่ ดร. ขจิต ผู้เป็นกัลยาณมิตรที่นับถือของผมครับ
ดร.ป๊อป
เสียดายจังค่ะ ไม่ได้อยู่ร่วมด้วย
สมาธิบำบัดหน้าจะช่วยคนสมาธิสั้นอย่างแหม่มได้ อิอิ
สวัสดีครับสนใจเรื่องสมาธิบำบัดครับ
ขอคำแนะนำการปฏิบัตครับ หรือขอหนังสือการปฏิบัติครับ
ขอบคุณครับ 12หมู่ 3 ต.ดอนมะสังข์ อ. เมือง จ.สุพรรณบุรี 72000
สวัสดีค่ะ เมฆี ศรีสุพรรณ
เรายังถอดบทเรียนไม่เสร็จนะคะ
แต่สามารถหาข้อมูลได้ที่ดร.ศุภลักษณ์ เข็มทอง Dr. Pop
ลองคลิ๊กเข้าไปนะคะ ท่านเป็นอ.สอนที่มหาวิทยาลัยมหิดล
บทความของท่านช่วยให้เราสามารถดูแลตัวเองได้ดีทีเดียว
ครูต้อยเชิญท่านมาให้ความรู้และฝึกผู้ป่วยให้สามารถทำสมาธิเพื่อลดความดัน
และใช้สมาธิทำความรู้ตัว รู้ใจ จะได้ไม่เผลอรับประทานอาหารที่มีผลไม่ดีต่อสุขภาพค่ะ
ขอบคุณค่ะ
ขอ ลปรร คือ สมาธิบำบัดในรูปแบบส่งเสริมสุขภาพผู้ที่ใช้ชีวิตร่วมกับเบาหวานนั้นไม่สามารถนำไปใช้กับเด็กพิเศษที่มีสมาธิสั้นและไม่อยู่นิ่ง จนถึงกลุ่มอาการออทิสติก เพราะพยาธิสภาพของสมอง รวมถึงศูนย์ควมคุมระดับการรู้คิดของเด็กพิเศษนั้นทำงานได้ช้า ต้องมีการประเมินโดยนักกิจกรรมบำบัดในระดับการรู้คิด การรับรู้ และกระบวนการรับความรู้สึกที่หลากหลาย ว่าจะต้องระบายแรงขับอย่างสร้างสรรค์อย่างไร ก่อนที่จะเพิ่มกิจกรรมการผ่อนคลายและฝึกควบคุมตนเอง (self-regulation) ซึ่งต้องมีการใช้สมาธิบวกกับการชี้นำด้วยวาจาหรือท่าทางอย่างมีความหมาย มีขั้นตอนชัดเจน และใช้ช่วงความสนใจที่เหมาะสมครับ
ขอบคุณคุณครูต้อยมากครับ
ไม่ทราบว่าจะมีโอกาสช่วยเหลือเด็กออทิสติกคนนี้ไหมคะ
ถ้ามี.....จะไปคุยกับพ่อแม่ของเด็กก่อนแล้วประสานกลับมาทางน้องดร.ป๊อบอีกครั้งค่ะ
เพื่อให้นักกิจกรรมบำบัดประเมินเพื่อช่วยเหลือและพัฒนาเด็กค่ะ
ขอบคุณค่ะ