มันยุติธรรมกันดีอยู่หรือมันยุติธรรมกันดีแล้วหรือไร...ข่อยถืกกั่นแก้ง ข่อยบ่ได้รับความยุติธรรม... ความยุติธรรมอยู่ไหน?... คนหลายคนบ่นแทบทุกหน่วยงาน...ผู้คนเมื่อได้รับความไม่พอใจก็พยายามถามหาความยุติธรรม หรือเมื่อเราได้รับการกระทำจากคนบางคนที่ทำให้เราเสียผลประโยชน์ หรือแม้แต่เวลาถูกคนรักทิ้งเราก็หาว่าเขานะไม่ดีไม่มีความจริงใจไม่ยุติธรรมเลยที่ทำแบบนี้คือพยายามโยนลูกว่าที่เราเป็นอย่างนี้เพราะเขาทำอย่างนี้ ซึ่งเป็นความไม่ยุติธรรมอย่างยิ่ง ... เรายากจนอยู่ทุกวันนี้ก็เพราะนายทุนมาขูดรีดดอกเบี้ยจนเราไม่มีโอกาสพื้นตัวจึงต้องจนต่อไป....สารพัดคำพาดพิง
คนบางคนก็บ่นออกมาอย่างไม่คิดว่า “การให้ตำแหน่งคราวนี้ไม่มีความยุติธรรม” (ถ้าให้ผมได้เป็นถือว่ายุติธรรม) ต่อข้อถามว่าแล้วความยุติธรรมอยู่ไหน ถ้าเราย้อนมองตัวให้ดีเราจะเห็นว่า “ สิ่งใดที่เราถูกใจแม้คนอื่นไม่ถูกใจก็ถือว่าเราทำยุติธรรมแล้ว” ฉันแบ่งงานให้ทำอย่างนี้ก็เพราะเธอมีหน้าที่ทำ ฉันมีแค่หน้าที่แบ่งงาน แต่ถ้าเธอทำเสร็จงานนั้นคือผลงานของฉัน ถ้าทำอย่างนี้ยุติธรรมสุดๆ ถ้าเธอไม่ทำต้องให้ฉันทำเองถือว่าไม่ยุติธรรม และถือว่าขัดคำสั่งผู้บังคับบัญชา...
ดังนั้น ฟันธงลงไปเลยความยุติธรรมคือความพอใจของเรา ถ้าไม่ถูกใจเราก็ไม่ยุติธรรม ดังนั้นเวลาใดที่เราได้รับความพึงพอใจเวลานั้นเราได้ความยุติธรรมแล้ว...
อนึ่ง ที่จะขาดไม่ได้ก็คือวันนี้เรามีความยุติธรรมในใจหรือยัง หากยังเห็นว่ามีอะไรบ้างที่คนอื่นทำกับเราไม่ยุติธรรมก็อย่าทำสิ่งนั้นให้เขาบอบซ้ำ เท่านี้เราก็เหนื่อยแรง เรามาร่วมใจสร้างความยุติธรรมในบ้านกันก่อนเถิด ใครจะไม่ยุติธรรมอย่างไรก็ตาม ความยุติธรรมเริ่มที่บ้าน ไม่ต้องไปวิจารณ์ว่าใครๆก็ไม่ยุติธรรม....
เมื่อมองทางด้านคำสอนพระพุทธศาสนาท่านกล่าวว่า "ปุถุชน ย่อมถึงฉันทาคติ(ความลำเอียงเพราะรัก)ทำบาปกรรม ย่อมถึงโทสาคติ(ลำเอียงเพราะชัง)ทำบาปกรรม ย่อมถึงโมหาคติ(ลำเอียงเพราะเขลา)ทำบาปกรรม ย่อมถึงภยาคติ(ลำเอียงเพราะกลัว)ทำบาปกรรม บุคคลใดละเมิดความชอบธรรมเพราะฉันทาคติ โทสาคติ โมหาคติ ภยาคติ ยศของบุคคลนั้นย่อมเสื่อมเหมือนพระจันทร์ข้างแรม ฉะนั้นบุคคลใดไม่ละเมิดความชอบธรรมเพราะอคติ ๔ ยศของบุคคลนั้นย่อมเจริญเหมือนดวงจันทร์ข้างขึ้นฉะนั้นฯ(พระไตรปิฏกเล่มที่ ๑๑ ข้อที่ ๒๔๖ สิงคาลกสูตร)
ดังนั้น คนเป็นปุถุชนอย่างเราท่านย่อมมีความลำเอียงหรือทำตัวไมมีความยุติธรรมหรือมีความยุติธรรมน้อย ถ้าจะไม่ยุติธรรมก็ขอให้ลำเอียงน้อยที่สุด ขอให้การลำเอียงน้อยที่สุดเป็นความยุติธรรมเพื่อจะได้เกิดความไม่มัวหมองไม่ถุกตำหนิจากคนอื่นเหมือนพระจันทร์ข้างแรมที่นับวันจะแหว่ง...เขาลำเอียงให้พวกพ้องเขาก้ได้รับการตำหนิที่พอสมควร อีกอย่างหนึ่งความไม่ยุติธรรมทำให้คนเรามัวหมองเหมือนคนขาดศีลหรือเหมือนคนติดอบายมุข เป้นทางแห่งความเสื่อม ยิ่งทำมากก็ยิ่งมีโอกาสไปทางนรกมาก...
สวัสดียามสายๆค่ะน้องชาย
ขอบคุณค่ะที่เข้านี้ได้อ่านเรื่องที่ดี สุภาพบุรุษ ยุติธรรม
สวัสดีญาเอื้อย สิริพร กุ่ยกระโทก
ถ้าไม่มีกฎกติกา หรือมาตรฐานที่ตั้งไว้ให้ดี ก็มีสิทธิ์ถูกมองว่า "ไม่ยุติธรรม" เมื่อเกิดเรื่องที่ไม่พึงพอใจขึ้นมาค่ะ
สวัสดีครับRAK-NA
สวัสดีครับอาจารย์พิชชา พิชชา
สวัสดีค่ะ อาจารย์ โกศล คงสมปราชญ์
"วันนี้เรามีความยุติธรรมในใจหรือยัง หากยังเห็นว่ามีอะไรบ้างที่คนอื่นทำกับเราไม่ยุติธรรมก็อย่าทำสิ่งนั้น ให้เขาบอบซ้ำ"
ใช่ค่ะอาจารย์ความยุติธรรมต้องเริ่มจากตัวเรา เราชอบอะไร เราก็ต้องแสดงออกกับคนอื่นเหมือนอย่างกับตัวเองชอบด้วย และเราจะเห็นความยุติธรรมเกิดขึ้นในชีวิตของเรา
ขอบคุณนะค่ะ ได้ข้อคิดดีๆ
สวัสดีครับนางสาว สิริรัตน์ ศรีวัฒนะ
ขอบคุณครับ