รัชดาวัลย์ วงษ์ชื่น(อิงจันทร์)
รัชดาวัลย์ วงษ์ชื่น(อิงจันทร์) ครูตาล วงษ์ชื่น

เที่ยวละไมไปกับเพลง (1) เสน่ห์สงขลา - ศุ บุญเลี้ยง


เพลง เสน่ห์สงขลา

ศิลปิน  ศุ  บุญเลี้ยง

 

ขอถามมีเมืองไหน บนด้ามขวานทองมีสองเลใหญ่
มีนางเงือกสาวสวย มีลักยิ้มด้วย ไม่บอกว่าข้างไหน
งามหาดสมิหลา สุดหูสุดตา เสียงสนเสียดใบ
เกาะหมูเกาแมวไล่กัน ทุกวี่ทุกวันมันไล่กันทำไม

ลองขึ้นเขาตังกวน ฝูงลิงมันชวนขึ้นลิฟท์ว่องไว
มองไปในทะเล เห็นเรืองตังเก กอและ ห่างไกล
ชวนน้องไปลองผลักหิน คงเคยได้ยินเก้าเส้งใช่ไหม
อยากจังอยากมาสู่ขอ เงินยกให้พ่อ พ่อมายกหินไป

สงขลา สงขลา
ลองมาสงขลากันหม๊าย

ลองชิมเต้าหู้ยี้ เถ้ากั่วหมี่ หรือขนมไข่
ไอศครีมไข่แข็ง ถั่วเขียว ครองแครง ข้าวมันแกงไก่
ข้าวฟ่าง ข้าวเม่า ข้าวยำ ลองกินเหนียวดำ ซาละเปาลูกใหญ่
กวยเตี๋ยวอยู่ใต้โรงงิ้ว ใครอย่าแซงคิว แม่ค้าเขาปากไว

เดินสองขาพาเดิน สองตามองเพลินถ้ายังเดินไหว
หรือจะนั่งสามล้อ คนถีบเขารอ พ่วงข้างพาไป
ถนนยังชื่อนางงาม ยิ่งแยิ่งงาม นครนอก คอนใน
ห้องแถวบ้านเก่าโบราณ อยู่กันมานาน ทั้งคนจีนแขกไทย

หมายเลขบันทึก: 387062เขียนเมื่อ 22 สิงหาคม 2010 06:13 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 23:25 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (6)

๑. ที่มาของเนื้อเพลง "ชวนน้องไปลองผลักหิน คงเคยได้ยินเก้าเส้งใช่ไหม
อยากจังอยากมาสู่ขอ เงินยกให้พ่อ พ่อมายกหินไป"

                  

                                                  หัวนายแรง

                   

                                     หัวนายแรง ถ่ายจากชายหาดเก้าเส้ง

        หัวนายแรง...คืออะไร
        คำตอบสั้นๆก็คือ หัวนายแรงซึ่งเป็นโขดหินอยู่แถวเก้าเส้ง ซึ่งห่างจากหาดสมิหลาประมาณ 3 กิโลเมตร
        "หัวนายแรง"มีประวัติเล่าว่า นายแรงเป็นพ่อค้าสำเภาที่ร่ำรวยมาก เมื่อทราบข่าวว่ามีการสร้างพระธาตุที่เมืองนครศรีธรรมราช เขาก็แล่นเรือสำเภาไปเพื่อจะร่วมบุญด้วย แต่ปรากฎว่าเมื่อเรือมาถึงสงขลา ก็เจอเกิดพายุจนเรือแตกจึงต้องจอดซ่อมเรือที่บริเวณหาดเก้าเส้ง และเมื่อเรือซ่อมเสร็จ ก็ได้ข่าวว่าพระธาตุเมืองนครศรีธรรมราชสร้างเสร็จเรียบร้อยแล้ว ทำให้นายแรงเสียใจมากที่ไม่ได้ไปร่วมทำบุญจนล้มป่วย เขาจึงนำทรัพย์สมบัติจำนวนมากไปฝังไว้ที่เชิงหน้าผา และอธิษฐานให้ตัวเขามีเรี่ยวแรงยกก้อนหินใหญ่มาปิดไว้ พร้อมอธิษฐานว่าผู้ที่จะมาเอาสมบัติดังกล่าวไปได้ จะต้องเป็นลูกหลานของเขา หรือเมื่อพระธาตุนครศรีธรรมราชทรุดโทรมและต้องบูรณะปฏิสังขรณ์ ก็จะมีคนสามารถมานำสมบัตินั้นไป
        ส่วนที่เรียก"หัวนายแรง"นั้น มีเรื่องเล่าวว่านายแรงให้ผู้อื่นตัดศีรษะเขาด้วยความน้อยเนื้อต่ำใจที่ไม่สามารถเดินทางไปร่วมสร้างพระธาตุนครศรีธรรมราชได้ โดยเขาเชื่อว่าเพราะตัวเองเป็นผู้มีบาป จึงให้คนตัดหัวเขาแล้ววางไว้บนทรัพย์สมบัติที่ฝังไว้ โดยเชื่อกันว่า"สมบัติ"ที่นายแรงฝังไว้คิดเป็นเงินประมาณ 9 แสนบาท(ถึงตอนนี้น่าจะเป็นสิบๆล้าน) ชายหาดแถวนั้นจึงเรียก"หาดเก้าแสน"และเพี้ยนเป็น"เก้าเส้ง"ในปัจจุบัน
        จนถึงปัจจุบัน ยังไม่มีใครผลักหิน"หัวนายแรง"ตกหน้าผาได้

ภาพและข้อมูลจากhttp://www.oknation.net/blog/chai/2010/02/16/entry-1 

๒.ที่มาของเนื้อเพลง "ถนนยังชื่อนางงาม ยิ่งแยิ่งงาม นครนอก คอนใน
ห้องแถวบ้านเก่าโบราณ อยู่กันมานาน ทั้งคนจีนแขกไทย"

       มีถนนสายหนึ่งในตัวเมืองสงขลาที่"น่าสนใจ" 

                                                    

 
       นั่นคือ"ถนนนางงาม" ซึ่งเป็นย่านเมืองเก่าในจังหวัดสงขลา ซึ่ง"ดัง"คู่กับย่านเมืองเก่าอีก 2 สาย คือถนนนครนอก และถนนนครใน
       ถนนทั้ง 3 สายมีห้องแถวไม้แบบจีน ตึกคลาสสิกสไตล์ "ชิโน-โปรตุกีส"(หลายคนคงคุ้นจากเมืองภูเก็ต) และยังเป็นถนนที่มีขนมอร่อยๆทั้งของไทย จีน ฝรั่ง ให้เลือกชมและชิมอย่างเพลิดเพลินเจริญใจ 

       หลายคนอาจจะอยากรู้เรื่อง"ชื่อ"ของ"ถนนนางงาม" ว่านางงามอะไร? ใครคือนางงาม? และทำไมกลายมาเป็นตำนานของถนนชื่อน่ารักสายนี้
       เดิมถนนสายนี้ ชื่อ"ถนนเก้าห้อง" และถูกเรียกเป็น "ถนนนางงาม" 

        คนเก่าแก่จะเล่าว่า คนที่เป็นเจ้าของ"ชื่อถนน"คือคุณกมลทิพย์ สุดลาภา ชาวสงขลาที่เกิดและเติบโตย่านถนนสายนี้ เป็นศิษย์เก่าโรงเรียน"วรนารีเฉลิม" โรงเรียนสตรีคู่เมืองสงขลา และครุศาสตรบัณฑิต วิทยาลัยครูสวนดุสิต และแต่งงานกับคุณเชาวน์วัศ สุดลาภา อดีตผู้ว่าฯหลายจังหวัด 
       แต่ดร.ศรีสุพร ช่วงสกุล อาจารย์ประจำคณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตหาดใหญ่ ผู้ทำวิทยานิพนธ์ปริญญาเอกเรื่อง "ประวัติศาสตร์ท้องถิ่นเมืองสงขลา" ระบุว่า "ถนนเก้าห้อง" มีมาตั้งแต่ พ.ศ.2385 ถูกเรียกขานเป็น "ถนนนางงาม" หลังปี 2478 เพราะเป็นปีที่จังหวัดสงขลาเริ่มจัดงานปีใหม่และงานฉลองรัฐธรรมนูญ และมีประกวดนางงามสงขลาเป็นปีแรก
       ประวัติศาสตร์ระบุว่า นางงามสงขลาคนแรก เป็นสาวงามจากถนนเก้าห้อง คือ คุณนงเยาว์ โพธิสาร (นามสกุลเดิม "บุญยะศิวะ") ทำให้ชาวสงขลา(พร้อมใจกัน)เรียก"ถนนเก้าห้อง" ว่า"ถนนนางงาม" ตั้งแต่นั้น
 
  
       อีกตำนานระบุว่า ชื่อ "นางงาม" อาจเพี้ยนเสียงมาจาก "นางาม" เพราะบริเวณนี้เคยเป็นท้องนามาก่อน และพัฒนาเป็นย่านการค้าของสงขลา มีเรือสินค้ามาขึ้นฝั่งคึกคักมา โดยมีโรงชื่อดังที่สุดคือ"โรงสีแดง" หรือ"โรงสีหับโห้หิ้น" เป็นภาษาจีนฮกเกี้ยนแปลว่า เอกภาพ ความกลมกลืน และความเจริญรุ่งเรือง
       (ชื่อนี้ถูกบริษัทหนังเอาไปใช้)

 

       สำนวนสุดท้าย ระบุว่า "ถนนนางงาม" อาจจะมาจากการที่บริเวณดังกล่าวเป็นถนนเริงรมณ์ มีหญิงงามบริการ (แต่ข้อนี้ไม่มีการยืนยัน)

ข้อมูลจาก  http://www.oknation.net/blog และ http://www.skyscrapercity.com

เพลงโปรดอีกเพลงของครูนกค่ะ....

เพิ่งเคยได้ยินเพลงนี้ค่ะพี่ตาล แต่ต้องมนต์สงขลา หาดใหญ่มานานแล้ว

ตั้งแต่อ่านเรื่อง พันธะหัวใจ ตำนานรักเก้าเส้ง ขอบคุณบันทึกที่มา หัวนายแรงค่ะ

สวัสดีค่ะน้องนกPnoktalay

ถ้าได้ร่วมบรรยากาศการแสดงสด ๆ ของคุณ ศุ คงมีควาสุขกว่านี้เลยหล่ะค่ะปลื้มเขาจริง ๆ หล่ะ พ่อคนนี้หน่ะขอบพระคุณนะคะที่แวะมาซึมซับเสน่ห์เมืองสงขลา

สวัสดีค่ะน้องPpoo

  • สงขลาเป็นเมืองที่น่าอยู่มากนะคะ
  • มีความสงบน่าอยู่ดีค่ะ  ผู้คนก็น่ารัก  จริง ๆ นะคะ
  • พี่อิงอยู่มาตั้งแต่เด็ก ๆ  เรื่องอาหารการกินเนี่ยสุดยอดเลยหล่ะค่ะ
  • ว่าง ๆ เมื่อไหร่จะนำมาขึ้นบันทึกแนะนำค่ะ
  • ขอบพระคุณนะคะที่แวะมาเยี่ยมเยือน
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท