แสงสีธรรม (เทคโนโลยี่เพื่อวรรณกรรม)


ละโลภโกรธ หลงบ้า ไม่อาลัย จ้องจิตใน ให้แจ้ง แหล่งบุญกรรม

    กลอน "แสงสีธรรม" เขียนด้วยวิธีการ สร้างภาพจากชิ้นส่วนเล็กๆ (bottom up)
เริ่มจากจด "คำ" ต่างๆ ที่อธิบาย "รูป" เช่น สี แสง ดวงอาทิตย์ ต้นไม้ ฯลฯ
ต่อมา ก็ใช้ คำ เหล่านี้มาเขียน "ข้อสังเกตุสั้นๆ" (abstraction) เกี่ยวกับ "รูป"
จากนั้น ก็เอาข้อสังเกตุมาเขียนให้ มี "คำสัมผัส" และปรับให้อยู่ใต้ แบบแผนของกลอน

    ประสบการณ์จากงาน (บุกเบิก ตามความรู้ของผม) ช่วยให้ผมเห็นว่า วิทยาศาสตร์ และ ศิลป์ มีศัพท์ที่ใช้ด้วยกันไม่ได้ง่ายๆ และเวลาเอา ศาสนา มารวมอีก ยิ่งท้าทายมากขึ้น

 

แสงสีธรรม (ส่องแรง แกล้งวรรณกรรม): 
 
    ก่อนฟ้าสาง ลางไม้ ดูไม่ชัด 
พระในวัด จัดสบง ลงกรรมฐาน 
แล้วเข้าโบสถ์ สวดมนต์ จนเห็นลาน 
ออกรับทาน บิณฑบาต กวาดล้างใจ 
คนบวชพระ สละบ้าน ละการโลก 
ละทุกข์โศก เลิกทรัพย์ สรรพสินไหม  
ละโลภโกรธ หลงบ้า ไม่อาลัย 
จ้องจิตใน ให้แจ้ง แหล่งบุญกรรม 
 
    หลังพระฉันท์ ปันบุญ ตามทุนแต่ง    
ตารับแสง จิตรับรู้ คู่อุปถัมภ์ 
แสงสว่าง สร้างจิต คิดทางธรรม 
แสงลดต่ำ จิตด้อย คล้อยตามลง 
แสงตอนสาย ฉายกล้า จนหน้าสุก 
แสงส่องทุกข์ ปลุกสติ ทิฐิหลง 
รับศีลห้า วาจาชอบ คิดซื่อตรง 
ผ่อนจิตปลง คลายรัด เชือกมัดตัว 
 
    จัดจีวร จะฉันท์เพล พระเณรนั่ง 
สวดพุทธัง ตั้งปัตร จัดเรียงหัว 
ลำดับธรรม กรรมพ้น เลิกพันพัว 
ประกาศตัว พุทธทายาท ทุกอาสน์องค์  
ก่อนถึงเที่ยง ตะวันใส เงาไม้หด 
เห็นปรากฎ เจดีย์ ธรณีสงฆ์ 
พุทธศาสน์ จะเรือง เหลืองดำรงค์ 
เมื่อทำตรง ตามวัตร ตรัสวินัย 
 
    หลังเที่ยงขาน อ่านบาลี ไตรปิฎก 
สูตรชาดก ยกประเด็น เป็นไฉน 
ตถาคต ชี้ความ ถามอะไร 
มีสิ่งใด ช่วยทำ นำสติ 
เวลาบ่าย หน่ายร้อน อยากนอนนัก 
แต่ต้องหัก ปักสิกขา สมาธิ 
เล็งดูฌาน วิปัสสนา วิมุตติ 
ตั้งใจพิจารณา มรรคาดี  
 
    ค่ำฟ้าแดง แข่งไฟ ในถนน 
ไฟรถยนต์ วิ่งไสว คล้ายสายสี 
ป้ายนีออน กระพริบไส่ ให้ขายดี 
ไฟโน่นนี่ โร่ไป ไล่มืดมัว 
เวลาดึก ฝึกหลับ ตาดับแสง 
ปิดแสดง โลกใหญ่ ไฟสลัว 
โลกมืดมิด ปิดใจ ไม่ให้กลัว 
แสงในตัว ส่องทาง ระหว่างตา 
 
    ชีวิตนี้ ที่เห็น แสงเป็นใหญ่ 
หมดแสงไป ไม่เห็น เป็นปัญหา 
จะขาวดำ ทำอะไร อยู่ไหนมา 
รูปหน้าตา สวยหล่อ หรือพอดี 
จะจับคลำ ดำใส ก็ไม่รู้ 
จะฟังหู กู่ขาว ยาวเขียวปี๋ 
จะดมสูด ดูดไอ เหลืองใหญ่รี 
กัดอมที สีหม่น ปนน้ำตาล 
 
    เรามีตา อาทิตย์ ผลิตแสง 
พ้าเขียวแดง แต่งสี ที่ประสาน 
ไร้แสงดำ รวมหมดใส ในหลักการ 
สีต่างงาน ก็ผสม ตามกลมกลืน 
เรามีตา อายตนะ อีกห้าอย่าง 
แสงเปิดทาง ให้รู้ เป็นผู้ตื่น 
รับรู้คิด ไม่ติดใจ ไม่กลับคืน 
ดับไฟฟืน ลุกไหม้ ในตัวเอง 
 
...สร... 
สุนทร รัตนมนัส  เดือน ๔ ปีเถาะ ๕๔

หมายเลขบันทึก: 436884เขียนเมื่อ 25 เมษายน 2011 04:58 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 ตุลาคม 2021 17:49 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (3)

ภาษากลอนคมมากค่ะ แต่งได้หลายบทด้วย ครูดาหลาเข้าไม่ถึงคำยากๆค่ะ

มาเรียนรู้ด้วยค่ะ

ขอบคุณค่ะ

ครูดาหลา ครับ

ผมก็ว่า "วิทยาศาสตร์ และ ศิลป์ มีศัพท์ที่ใช้ด้วยกันไม่ได้ง่ายๆ และเวลาเอา ศาสนา มารวมอีก ยิ่งท้าทายมากขึ้น"

แต่ก็หวังว่า กลอนนี้ อาจกระตุ้น ต่อมอัจฉริยะ ใน g2k และ ให้มีการแต่งกาพย์กลอน ที่แสดงความรู้ด้าน ศาสนา และ วิทยาศาสตร์ มากขึ้น เป็นงานท้าทายดีครับ

ที่แรกจะลงในกลุ่ม ข้อคิด ... ศาสนา แต่ก็อายผู้อ่านจาก มจร จะลงในกลุ่ม ...วรรณกรรม ยิ่งเขินใหญ่ ;-)

หมายเหตุ:

1) ... พ้าเขียวแดง แต่งสี ที่ประสาน

ไร้แสงดำ รวมหมดใส ในหลักการ

สีต่างงาน ก็ผสม ตามกลมกลืน ...

blue, green and red are fundamental 'light' colours (or frequencies) when mixed, produce other colours. By convention, no RGB gives 'black' colour and all 3 RGB give 'translucent' colour (not really 'white' -- though we call that 'white light').

2) daily routine of monks described in this poem is a 'typical' routine. Actual routine depends on 'wat'.

3) Pali words are used by their 'common' or 'primary' meanings (as the author understands them -- using Digital Pali Reader's Pali dictionary). Certain words may have local meanings different from what given in DPR.

Readers from MCU (มจร) may give better explanations for the use of these words in daily life.

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท