ความฝันหรือจะสู้ความพยายาม


ความพิการถ้าเกิดขึ้นกับใครแล้ว ยากมากที่จะทำให้คนๆ นั้นยอมรับความเป็นจริงได้ เพราะมันเป็นเรื่องยากที่จะทำใจยอมรับ โดยเฉพาะคนที่ไม่ได้พิการมาตั้งแต่กำเนิด
       ความพิการถ้าเกิดขึ้นกับใครแล้ว ยากมากที่จะทำให้คนๆ นั้นยอมรับความเป็นจริงได้ เพราะมันเป็นเรื่องยากที่จะทำใจยอมรับ โดยเฉพาะคนที่ไม่ได้พิการมาตั้งแต่กำเนิด พึ่งจะมาพิการในภายหลัง เคยทำงานหาเลี้ยงครอบครัวได้ ไปไหนมาไหนด้วยตนเองได้ แต่แล้ววันหนึ่งต้องกลายมาเป็นภาระของครอบครัว  จะทำอะไรก็ทำไม่ได้ดั่งที่ใจปรารถนา แม้กระทั่งจะเคลื่อนไหวร่างกายของตนเองก็ยังทำไม่ได้ มีชีวิตอยู่ก็เหมือนชีวิตนี้ขาดหายไปแล้วครึ่งหนึ่ง ดั่งเช่นชีวิตของป้าเรไร ที่ต้องอยู่อย่างไร้ความหวัง และสู้ชีวิตเพียงลำพังกับสามี

 

       ป้าเรไร เป็นผู้ป่วยอัมพฤกษ์ แขน ขาข้างขวา อ่อนแรงขยับเคลื่อนไหวได้เพียงเล็กน้อยอาศัยอยู่ในบ้านหลังเล็ก ๆ เก่าๆ โทรมๆ กับสามีใหม่เพียงสองคน  เมื่อก่อนป้ามีอาชีพขายก๋วยเตี๋ยวอยู่ที่หน้าบ้าน แต่วันหนึ่งก็ได้เกิดเหตุการณ์เลวร้ายที่สุดขึ้นกับป้า เมื่อป้ากำลังนั่งรับประทานก๋วยเตี๋ยวแล้วอยู่ๆ ก็วูบลงไปเฉยๆ โดยไม่ทราบสาเหตุ ญาตินำตัวส่งโรงพยาบาลสระบุรีปรากฏว่าป้ามีเส้นเลือดในสมองแตก ทำให้ร่างกายซีกขวาใช้งานไม่ได้ ป้าเล่าว่าพอฟื้นขึ้นมารู้สึกเหมือนร่างกายซีกขวาหายไป อยากขยับแขน ขา ข้างขวามากแต่ก็ทำไม่ได้ ในวินาทีนั้นรู้สึกตกใจและเสียใจมาก ร้องให้ตลอดเวลายอมรับสภาพความเป็นจริงไม่ได้ แพทย์บอกว่าป้าเป็นอัมพฤกษ์เดี๋ยวอีกสักระยะหนึ่งอาการก็จะดีขึ้น หลังจากนั้นผ่านมาสองปีแขน ขา ข้างขวาของป้าเริ่มจะขยับเคลื่อนไหวได้บ้าง แต่ก็ทำได้เพียงแค่นั้น อยากจะลุกนั่งก็ไม่สามรถทำได้

 

        จนกระทั่งวันหนึ่งฉันได้ไปเยี่ยมป้าที่บ้าน  ได้พูดคุยกับป้าแรก ๆ ป้าก็ไม่อยากจะคุยด้วยนัก แต่พอฉันชวนคุยไปเรื่อย ๆ ป้าก็เริ่มจะคุยด้วยมากขึ้น ป้าเป็นคนคุยเก่งและอารมณ์ดี ฉันถามป้าว่า ป้านอนอยู่เฉย ๆ ไม่เบื่อเหรอนอนมาตั้ง 2 ปีแล้ว ป้าตอบว่าเบื่อซิหนู ป้าอยากกลับไปเดินได้เหมือนแต่ก่อน แต่ป้าทำไม่ได้ แล้วฉันก็ถามป้าว่า แล้วป้าอยากเดินได้อีกครั้งไหม ป้าตอบว่ามันจะเป็นไปได้เหรอพิการอย่างป้านี่นะ ฉันตอบว่าเป็นไปได้ซิป้า ถ้าป้าอยากเดินได้ป้าต้องไม่ท้อแท้ ต้องมีความพยายามในการฝึกฝน ต้องเชื่อมั่นในตนเองว่าต้องทำได้แล้ววันหนึ่งป้าก็จะเดินได้เอง ขึ้นอยู่กับตัวของป้าเท่านั้นว่าป้าจะสู้หรือเปล่า ป้าตอบกลับมาว่าต้องสู้ซิ ป้าอยากเดินได้มากที่สุด จะให้ป้าทำอะไรก็ได้ป้ายอมทั้งนั้น ขอให้ป้าเดินได้อีกครั้งก็พอใจแล้ว

 

        หลังจากฉันได้ยินดั่งนั้นแล้วก็มีกำลังใจและมีความหวังขึ้นมาอีกครั้งหนึ่งที่จะช่วยให้คนๆ หนึ่งกลับมาเดินได้อีกครั้งหนึ่ง แต่ในใจฉันก็มีความกังวลอยู่เหมือนกันว่าป้าจะกลับมาเดินได้จริงไหม เพระนอนเฉย ๆ มานาน 2 ปีแล้ว แต่ก็ลองดูจะทำให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ละกัน

 

        หลังจากนั้นมาฉันก็เริ่มฝึกป้าตั้งแต่ให้ออกกำลังกาย ให้ลุกขึ้นนั่งด้วยตนเอง ป้าก็เริ่มทำได้ และทำได้ดีขึ้นเรื่อยๆ  หลังจากนั้นฉันก็ได้แนะนำสามีของป้าให้ช่วยทำราวไม้ไผ่ให้ และช่วยทำถุงทรายสำหรับไว้ให้ป้าฝึกออกกำลังกาย ไม่น่าเชื่อว่าสามีของป้าจะทำได้ เพราะป้าบอกว่าเขาไม่สนใจชอบดื่มแต่เหล้า แต่หลังจากนั้นหนึ่งสัปดาห์ ฉันได้กลับไปดูปรากฏว่าทุกอย่างที่บอกไป ลุงทำให้ครบหมด ฉันรู้สึกดีใจมาก หลังจากป้าลุกขึ้นนั่งเองด้วยตนเองได้แล้ว ฉันก็เริ่มฝึกป้าจากนั่งให้ลุกขึ้นยืน ครั้งแรก ๆ ป้าทำไม่ได้ลุกแล้วล้มหลายครั้ง ขาขวาของป้าไม่ได้ลงน้ำหนักมานาน พอเริ่มลงน้ำหนักก็รู้สึกปวดขา เมื่อยล้าไปหมด

 

        ฉันก็ใช้ความพยายามในการฝึกป้าต่อไป ดีนะที่ป้าสู้ไม่ยอมท้อแท้ ฉันจึงมีกำลังใจฝึกป้าต่อ ทุกครั้งที่ฉันไปฝึกป้าถ้าลุงไม่ไปทำงานก็จะมาช่วยจับป้ายืนด้วย บางครั้งลุงกับป้าก็ทะเลาะกันเองแต่ส่วนใหญ่จะเป็นเพราะป้าชอบบ่นมากกว่า ลุงถ้าไม่เมาก็จะเฉย ไม่ค่อยพูด แต่ฉันบอกให้ทำอะไรก็ทำได้หมด หลังจากฉันฝึกป้ามาสักระยะหนึ่งป้าก็เริ่มแข็งแรงขึ้น เริ่มจะยืนจับราวได้ แต่ว่าต้องมีคนช่วยพยุงด้วย ขาที่เคยปวดตอนนี้ก็ไม่ปวดแล้วมีเพียงข้อเท้าเท่านั้นที่ชอบพลิกเวลายืน ยังควบคุมไม่ค่อยได้ แต่ก็ดีขึ้นกว่าเมื่อก่อนเยอะมาก

 

        แรก ๆ ฉันฝึกป้าอยู่บนบ้าน แต่เมื่อฉันกลับไปหาป้าอีกครั้ง พบว่ามีราวไม้ไผ่อยู่ที่ใต้ถุนบ้านแล้วและมีเตียงไม้ไผ่ไว้ให้ป้านั่งหนึ่งเตียง ป้าบอกว่าลุงทำให้  หลังจากฝึกป้ามาระยะหนึ่ง  ป้าเริ่มขึ้นลงบ้านเองได้โดยนั่งขยับถัด ๆ ลงมา ครั้งแรกที่ฉันเห็นป้าทำได้ ฉันดีใจมาก ถามป้าว่าทำได้นานหรือยังป้าบอกว่าพึ่งจะทำเองได้ รอลุงอย่างเดียวไม่ไหวเลยลองทำเอง แรกๆ ก็ล้มบ้าง แต่ก็ลุกขึ้นมาใหม่ จนสามารถขึ้นลงบ้านเองได้โดยไม่ต้องให้ใครช่วย ฉันกับป้าก็เริ่มมีความหวังขึ้นมาอีกครั้งหนึ่งที่จะทำให้ป้าเดินได้ แต่ไม่รู้ว่าป้าจะเดินได้ดังที่หวังไว้หรือเปล่า แล้วป้าจะทำได้ดีแค่ไหน โปรดติดตามตอนต่อไปค่ะ
นักกายภาพ...เยี่ยมบ้าน
หมายเลขบันทึก: 409923เขียนเมื่อ 23 พฤศจิกายน 2010 17:42 น. ()แก้ไขเมื่อ 19 มิถุนายน 2012 03:15 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (8)

..ขอเป็นกำลังใจให้กับการทำงานเจ้าค่ะ..ยายธี

สวัสดีค่ะ

นี่แหละค่ะ  ทำให้หัวใจของนักกายภาพบำบัดพองโต มีเรี่ยวมีแรงแกร่งกร้าต่อการที่จำดีต่อไป

ยายคิมมาให้กำลังใจค่ะ

ขอบคุณ คุณยายคิม

ที่มีกำลังใจมอบให้เสมอมา

อย่าลืมติดตามตอนต่อไปนะคะ

สวัสดีค่ะ

ส่งกำลังใจให้ทั้งผู้ให้บริการ และผู้รับบริการนะคะ

สวัสดีคะ

แม่ต้อยมาขอบคุณที่เป็นกำลังใจให้เสมอคะ

ที่แก่งคอยมีเรื่องราวดีดีมากมายจริงๆนะคะ

แม่ต้อยดีใจคะ

ขอบคุณค่ะ  คุณยาย

กำลังใจจากคุณยาย  ขอให้คุณยายมีความสุขมากๆนะคะ

สวัสดีค่ะ  แม่ต้อย

ตั้งแต่นำ SHA มาใช้ในโรงพยาบาลและพยายามให้ทุกคนบอกเล่าเรื่องราวที่ได้ทำให้กับคนไข้และญาติ  ทำให้มองเห็นความดีงาม  จากหัวใจของผู้ให้บริการจริงๆค่ะ

ขอบคุณแม่ต้อยค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท