คำเตือน
บันทึกนี้ไม่เหมาะกับเยาวชนอายุต่ำกว่า ๑๘ ปี
หรือบุคคลที่มีอาการคลื่นไส้อาเจียนเป็นนิสัย
ตอนแรกกะว่าจะไม่เขียนบันทึกถึงประสบการณ์อันน่าผะอืดผะอมตอนถูกส่องกล้องตรวจลำไส้ใหญ่ เพราะดูเป็นเรื่องส่วนตัวและออกจะติดเรตอาร์ไปนิดนึง
พอดีน้อง nussa-udon ถามว่า "ส่องกล้องเจ็บมั้ย" ผมจึงคิดได้ว่า ถ้าเขียนบันทึกไว้ น่าจะมีคนได้ประโยชน์ โดยเฉพาะคนที่กลัวการส่องกล้องทั้งหลาย
หลังจากถ่ายท้องจนได้ที่แล้ว พี่สาวสองคนของผมที่ลางานจากยะลาคนนึงกับโดดงานจากปัตตานีอีกคนนึงก็รับอาสาขับรถมาส่งผมที่โรงพยาบาล ความจริงผมไม่ได้รู้สึกเพลียอะไรหรอกนะครับ เพราะยังเดินไปส่งข้อสอบที่นั่งออกในห้องส้วมเมื่อเช้าที่ภาควิชาฯ..อืมม สงสารนักเรียนที่ต้องทำข้อสอบชุดนี้จัง แล้วก็ยังแวะไปให้กำลังใจอาจารย์ธวัชชัยก่อนไปแทงสายให้ยาเคมีด้วย
ผมไปที่ห้องส่องกล้องของโรงพยาบาลตอนเที่ยงครึ่ง น้องพยาบาลวัดส่วนสูงและความดันโลหิต ก่อนให้กรอกแบบฟอร์มยินยอมให้ทำการส่องกล้องตามระเบียบของโรงพยาบาล ผมถามน้องเขาว่า "มีคนที่ไม่ฉีดยา(ระงับปวดและนอนหลับ)หรือเปล่า" เออ..ทำเป็นซ่า.. ไม่ใช่อะไรหรอก ก็อยากเห็นลำไส้ตัวเองบนจอโทรทัศน์ ถ้าหลับไป ก็อดดู
น้องเขาทำหน้างง..งง กับคำถามที่ไม่น่าถามของผม ก่อนตอบว่า "มันเจ็บนะคะ อาจารย์" ผมถึงหายซ่า เพราะยังจำตอนพาพี่ชายมาตรวจด้วยวิธีเดียวกันเมื่อหลายปีก่อน ยังสยองไม่หายเลย ตอนนั้น พี่ผมตื่นตลอดเวลาแล้วก็กัดฟันจนหน้าเขียว
พอเดินเข้าไปในห้องด้านใน น้องพยาบาลก็บอกให้ผมไปเปลี่ยนชุด ก่อนหันมาบอกอีกหนว่า "อาจารย์ขา ชุดส่องกล้องหมด ต้องใส่ผ้าถุงไปก่อนนะคะ" ผมก็รับผ้าถุงมาแบบงง งง เออ..ผ้าถุงก็ผ้าถุง ปกติก็นุ่งโสร่งนอนอยู่แล้ว พอเปลี่ยนชุดออกมาได้ สังเกตว่าคนไข้ที่นั่งรออยู่ทั้งหมดตรงนั้นสี่ห้าคนทั้งหญิงและชายต่างสวมผ้าถุงกันทั่วหน้า เออ..ชุดมันคงหมดแต่เช้า คนไข้โรงพยาบาลเราคงเยอะมากๆ แต่ความจริงก็ดีไปอย่างเปลี่ยนแต่ผ้าถุง ไม่ต้องเปลี่ยนเสื้อให้วุ่นวาย
น้องพยาบาลอีกคนจัดการแทงเส้นหลอดเลือดดำที่หลังมือด้านขวา เนื่องจากต้องเตรียมเส้นไว้ให้ยาต่างๆและป้องกันอันตรายในกรณีฉุกเฉิน แน่นอน ผมไม่ยอมให้ใครมาทำอะไรกับมือซ้ายสุดที่รักของผมอยู่แล้ว ต้องบอกว่า ไอ้ที่บอกว่ามดกัดยังเจ็บกว่า อันนี้จริงๆครับ มือน้องเขานิ่งและนุ่มมาก
พอแทงเส้นเสร็จ ผมก็เดินเข้าไปในห้องส่องกล้อง ซึ่งน้องอาจารย์หมอ..พญ.ธีรนุช บุญพิพัฒนาพงศ์ ก็รออยู่แล้ว ผมขึ้นไปนอนบนเตียงตรวจ พยาบาลมาช่วยพลิกตัวผมให้นอนตะแคงแล้วงอเข่าเหมือนกุ้งก่อนเอาผ้ามาปิดท่อนล่างให้ รู้สึกเขินๆเหมือนกัน ที่จะต้องเปลือยก้นต่อหน้าสาวๆเป็นครั้งแรกในชีวิต
น้องพยาบาลเขาเอาสายวัดความดันมารัดที่ต้นแขน และเอาเครื่องวัดระดับออกซิเจนในเลือดมาหนีบที่นิ้วมือ สักพักผมก็รู้สึกว่ามีตัวยาเดินเข้าทางเส้นที่เตรียมไว้ตรงหลังมือขวา ผมขยับตัวนอนในท่าสบายๆ กำลังตั้งใจว่าจะจินตภาพ...
ผมยังนอนตะแคงในท่าเดิม เอ..น้องเขาทำเสร็จแล้วยัง
พอขยับตัวถึงรู้ว่าตัวเองไม่ได้นอนอยู่บนเตียงตรวจแล้ว ลืมตาขึ้นมาก็เห็นว่า มานอนอยู่บนเปลนอนในห้องสังเกตอาการพร้อมกับคนไข้คนอื่นอีกหลายคน อ้าวทำเสร็จแล้วรึนี่
ทั้งงง ทั้งดีใจที่ทำเสร็จแล้ว ใช้เวลาตั้งแต่เข้าห้องจนตื่นขึ้นมาไม่ถึงชั่วโมง พี่สาวผมเดินเข้ามาบอกว่า "หมอบอกว่า ไม่มีอะไร ถ้าลุกขึ้นได้ก็กลับได้" ผมลองลุกขึ้นนั่งบนเตียง ไม่มึนเท่าไร จึงลุกจากเตียงไปเปลี่ยนเสื้อผ้า เวลาเดินจะเซๆเล็กน้อยช่วงแรก แต่หลังจากนั้นก็เหมือนปกติ
ยาที่น้องหมอเขาฉีดให้เป็นยาระงับปวด pethidine กับยานอนหลับออกฤทธิ์สั้น midazolam ซึ่งออกฤทธิ์เร็วมาก ผมยังจำได้ว่า สมัยเป็นนิสิตแพทย์ เพื่อนผมคนหนึ่งกินยาตัวนี้ก่อนไปอาบน้ำ มันดันไปนอนหลับในห้องน้ำทั้งๆที่ฝักบัวยังเปิดอยู่เลย เรียกได้ว่า ฤทธิ์ยาเข้าหลอดเลือดดำที่ฉีดให้ผมนั้นรวดเร็วกว่านั้นมาก
ผมไม่มีอาการคลื่นไส้อาเจียนอะไร ผลข้างเคียงสำคัญอย่างเดียวคือ รู้สึกไม่หิวแต่ก็ไม่เบื่ออาหาร มีแต่อาการโหยหาไอติมที่เกิดขึ้นทันทีที่รู้สึกตัว คิดอยู่ในใจว่า ต้องไปสวาปามแก้เคล็ดให้ได้ ให้สมอยากที่ต้องอดอาหารมาทั้งวัน
ยืนยันอีกครั้งว่า การส่องกล้องในปัจจุบัน ทรมานน้อยมาก เรียกได้ว่า ไม่เจ็บไม่ปวดไม่ทรมานเหมือนเมื่อก่อนแล้ว หลับสบายอีกต่างหาก และไม่จำเป็นต้องสวนล้างลำไส้เป็นการเอิกเกริกเหมือนเมื่อก่อนด้วย เพียงแค่รับประทานยาระบายตามขั้นตอนนี้เท่านั้น ก็ได้ผลไม่ต่างกัน
ในวาระดิถีขึ้นปีใหม่ พ.ศ. ๒๕๕๓
ขอให้คุณหมอเต็มศักดิ์และครอบครัวมีความสุขดังบทบาลีที่ว่า เต อัตถลัทธา สุขิตา วิรุฬหา พุทธสาสเน อโรคา สุขิตา โหถะ สหสัพเพหิ ญาติภิ. ขอให้ครอบครัวของท่านพร้อมด้วยหมู่ญาติ จงประสบสุขในสิ่งที่ปรารถนา มีสุขภาวะที่สมบูรณ์ปราศจากโรคภัยและเจริญงอกงามไพบูลย์ในพุทธธรรมตลอดไป เทอญ.
เป็นประสบการณ์ ที่น่าตื่นเต้นครับ เสียวแทนเลย
มาลุ้นๆ ค่ะ...
คาดผิดไปนิดคิดว่า...อาจารย์จะดูเวทนา...โดยปราศจากการใช้ยา...
อ่านไปลุ้นระทึกไปค่ะ...จะเรดอาร์ตอนไหนนะ...
แต่โดยรวม...ทำให้ คนส่องกล้องที่ยังไม่เคย เบาใจไปได้เหมือนกันนะคะ...
(^___^)
กะปุ๋ม
เล่าละเอียดมากเลยครับ เสียดายที่อาจารย์หลับช่วงอาการหลับไม่ได้ ฮิฮิ
นึกว่าอาจารย์จะเอาจริงแบบไม่วางยา น่าจะเป็นประสบการณ์ที่ลืมไม่ลงเพราะคงเจ็บมาก ว่าแต่เขาใช้เจลมั้ยนั่น 555 เคยเกือบได้ส่องกล้องเหมือนกัน แต่น่าจะเป็นแบบกลืนเพราะเป็นโรคกระเพาะหนักพอควร ดีที่รักษาตัวได้หายก่อนเลยไม่ต้องทำ ตอนนั้นใช้ทำอัลตร้าซาวน์ดแทนค่ะ คืนนี้จะกินผักกับผลไม้เยอะๆ เพราะพึ่งไปซื้อมา จะได้ไม่ต้องเจอประสบการณ์หวาดเสียวแบบอาจารย์ ; P ป่านนี้น้องๆ พยาบาลเขาคงเม้าท์กันทั่วแล้วมั้งเนี่ย เหอๆๆ
กราบนมัสการ พระมหาแล ขำสุข(อาสโย)
สวัสดีปีเสือค่ะ"อาจารย์เต็มศักดิ์"
ปีใหม่นี้โล่งมากเลยนะครับอาจารย์
สวัสดีปีใหม่ครับ
โล่งใจไปนะคะ ที่ทุกอย่างผ่านพ้นไปด้วยดี ^_^
ไม่เคยตรวจลำไส้ใหญ่ เคยแต่ส่องกล้องกระเพาะอาหาร ทรมานเหมือนกันแต่จำอะไรไม่ได้แล้ว (แหะๆแล้วพูดทำไมเนี่ย ^^' )
สวัสดี ค่ะฝากลิงค์ "การประชุม Case จริยธรรม ครั้งที่ 3 (Ethical Conference 3) ณ ห้องประชุม เยียน โพธิสุวรรณ โดย ศูนย์แพทยศาสตรศึกษาชั้นคลินิก รพ.สวรรค์ประชารักษ์ สถาบันสมทบ มหาวิทยาลัยมหิดล" http://gotoknow.org/blog/manywad/324525 ค่ะ
ไม่ทันรู้ว่าเจ็บ...เพราะเสร็จเร็วเหลือเกิน...ต่อให้โฆษณาอย่างไร ก็ยังไม่ขอใช้บริการ อิอิ