77..ส่องไฟไต้เห็ดจากธรรมชาติที่ค่ายเปรมติสูลณานนท์ (ตอน 1)


ส่องไฟไต้เห็ดธรรมชาติของป่าโคก ค่ายเปรมติณสูลานนท์

        พี่น้องที่รัก มิตร GTK นับถือยิ่ง  ชีวิตของคนเรา เกิดมา ต่างสถานะ ต่างรูปแบบของแต่ละคน แต่ละภาคอยู่แล้ว  และชีวิตของทุกคนก็ต้องดิ้นรน ไปตามแบบฉบับของตนเอง  ชาวนาบางคน คนที่ไม่มีเงิน ก็ใช่ว่าเขาจะไม่มีกิน หรือแสนรัดทด เพราะในน้ำก็ยังมีปลา ในนาก็ยังมีข้าว ในป่าก็ยังมีอาหารป่าให้บริโภคอีก รับรองการกินไม่มีรันทด ถ้าไม่สร้างหนี้สินเพราะอยากได้เกินตัว  แบบไม่ประมาณตนเอง  อยากได้อย่างอื่นจนเป็นหนี้สิน

 การปลูกถั่วดินใช้  เริ่มปลูกตั้งแต่เดือนมีนาคม  แล้วมาเก็บเกี่ยว ในช่วงเดียวกันกับ เวลาที่กำลังดำนา คือเดือนกรกฎาคม  ซึ่งช่วงนี้ก็เป็นระยะเก็บเกี่ยวถั่วไปพร้อมกับดำนา แล้วแต่ใครจะเลือกทำก่อน  คนที่ดำนาเสร็จแล้วก็จะเก็บเกี่ยวถั่วลิสง  อยู่ในช่วงฤดูฝนนี่เอง

อาชีพที่สำคัณในช่วงฤดูฝน  ที่จะพลาด หรือเลือกไม่ทำไม่ได้

ชาวนาจ้า   กระดูกสันหลังของชาติ 

         โดยเฉพาะชาวเกษตรกร ชาวไร่ ชาวนา ยิ่งชาวนายิ่งเป็นกระดูกสันหลังของชาติ  ถ้าเราขาดอาชีพชาวนาไป  เราจะลำบากแค่ไหน เพราะไม่ใครปลูกข้าวให้เรากิน  ทั้งที่เราก็รู้ว่า ชาวนามีความสำคัญ ปลูกข้าวให้เรากิน แต่ชาวนากลับไม่มีใครสนใจ ดูแล เอาใจใส่เขาเท่าที่ควร  ในเรื่องปุ๋ยเคมี มีราคาแพง  ข้าวราคาถูก ขายไม่ได้ราคา ไม่สมกับความเหน็ดเหนื่อย  ทำอย่างไร ก็ไม่รวยสักที  บางคนถึงกับยอมทิ้งถิ่นไปขายแรงงาน เพราะมันมีตัวกำหนดว่า ทำงานแล้วจะได้รายได้ที่ตายตัวแน่นอนต่อเดือน คือเงินเดือน  พอมีความหวังว่าจะได้   แต่การปลูกข้าว เมื่อปลูกไปแล้ว หักค่าปุ๋ย ค่าจ้างแรงงานแล้วใช้หนี้หมดแล้ว  ต่อไปต้องหากินใหม่ (ซึ่งทุกวันนี้ไม่ค่อยจะมีลงแขกช่วยกัน ต้องจ้างรายวัน สูงด้วย)ปลูกข้าวมาเผื่อไว้ขายยามฉุกเฉินนั้นอย่าไปคิด    จึงปลูกข้าวไว้เพียงบริโภคในครัวเรือนเท่านั้น  ถ้าจะเอาไปขาย ก็คงคิดแล้วคิดอีก  เพราะถ้าไปซื้อเขากินไม่ไหวแน่นอน ยิ่งโดยเฉพาะคนที่ครอบครัวใหญ่ๆ  ชาวบ้านจะนิยมอยู่กันเป็นครอบครัวใหญ่คนที่มีนา  ปลูกข้าวจึงจะอยู่รอดได้

 

 

หลังจากดำนาแล้ว ก็จะเริ่มเก็บเกี่ยวถั่วฝักยาว  มะเขือเทศ ที่ปลูกไว้ก่อนลงนา กิจกรรมฤดูฝน

หลังจากดำนา กิจกรรมฤดูฝนชาวบ้านก็จะเก็บเกี่ยวพืชผักไปขาย เพื่อเป็นทุนเลี้ยงชีพประจำวัน

         บางครั้งการทำนาที่เคยเป็นอาชีพหลักก็กลายเป็นอาชีพเสริมไป  แล้วก็พากันไปทำอย่างอื่นผสมผสาน เพื่อความอยู่รอด เช่นปลูกอ้อย ปลูกมัน ปลูกยางพารา ปลูกพืชผักสวนครัวตามฤดูกาลไว้ขาย  แม้จะใช้หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาเสริม  ก็ยังไม่สามารถแก้ปัญหาได้   นับตั้งแต่ ไร่นาไม่มีเหลือ เพราะเอาไปจำนำ จำนองหลุดไปสาเหตุเพราะ วิ่งตามวัตถุนิยม  สิ่งอำนวยความสะดวกเข้ามา คนขี้เกียจเพราะสบายขึ้น  หลงวัตถุนิยม  อะไรก็ใช้เงินซื้อเอา  จึงต้องหาเงินให้พอใช้  และยอมเป็นหนี้ เพราะอยากได้ รถ อยากสร้างบ้านสวย อยากซื้อที่เพิ่ม

ขอแสดงความคิดด้วยคน

        พี่น้อง GTK ที่รักคะ  ดิฉันเป็นห่วงเรื่องหนึ่ง  ห่วงเรื่องชาวนาที่แท้จริง กลับทิ้งถิ่นไปขายแรงงาน  ดิฉันมีความคิดว่า  ถ้ามีใครหรือผู้มีส่วนร่วมเกี่ยวกับเกษตร  มาดูแลให้การสนับสนุน การปลูกข้าว ให้ได้ผลดี ขายให้ได้ราคา  สนับสนุนเท่าที่ทำได้อย่างดีที่สุด  เพราะชาวนาเขามีความสามารถทำนา อดทน ต่อสู้  และเข้าใจการทำนาดีที่สุด  ถ้ามีคนให้ความรู้ หรือดูแลให้ราคาดีๆ เขาคงไม่ทิ้งถิ่นไปขายแรงงานกันหรอก เพราะแรงงานของเขาที่ไปทำ  เมื่อมาเปรียบเทียบกับการทำนาแล้ว  แรงงานของเขาสามารถทำรายได้หรือปลูกข้าวได้ดีมากกว่าการไปรับจ้างเสียอีก แต่เขาก็จำเป็นต้องไป เพราะรายได้ไม่มี รายได้ไม่พอ  แถมมีหนี้สิน ล้นพ้นตัว

ได้ข่าวว่า

         ดิฉันได้ข่าวว่า พวกอาหรับ  ที่มีทรัพยากรน้ำมัน ทำให้ประเทศเขาร่ำรวยเป็นมหาเศรษฐี  น้ำมัน  แต่รู้ไหม แผ่นดินเขา เป็นทะเลทราย  หาที่จะปลูกข้าวกินก็ไม่มี  มีแต่เงินที่ได้จากน้ำมัน แล้วก็ไปหาซื้อข้าวกิน  พี่น้องคิดไหมว่า  ข้าวก็มีความสำคัญพอๆกับน้ำมัน ถ้าไม่มีข้าวคนเราก็อยู่ไม่ได้  เขามีน้ำมัน แต่เรามีข้าว ตามจริงชาวนาสมควรจะรวย พอๆกับการมีน้ำมันเนาะ  คิด   คิด ในเมื่อประเทศเราเป็นประเทศกสิกรรม มีแผ่นดิน  มีน้ำพร้อม ชาวนาก็มีพร้อม ทำไมเราถึงไม่สนับสนุน ชาวนาไทยบ้าง ในการปลูกข้าวให้ได้ราคา และได้ผลผลิต ออกขายต่างประเทศได้ ในราคา ที่พอสมควร  เดี๋ยวนี้ประเทศข้างเคียงเรา ปลูกข้าวขายตัดราคาขายแข่งเราแล้ว

      และรู้ไหมว่าตอนนี้  ประเทศที่เขาร่ำรวย  เขาไปเช่าที่ต่างประเทศ ปลูกข้าวแล้ว เช่นประเทศจีนและเกาหลีใต้  และตอนนี้ดิฉันได้ยินว่า ประเทศอาหรับ เศรษฐีน้ำมันทั้งหลาย จะมาเช่าที่ในประเทศไทย เพื่อปลูกข้าวกันแล้วเช่นกัน  คิด คิด  ยอมไหม   เขาเรียกกันว่า "ปฏิบัติการที่นาแลกดอลลาร์" ดิฉันมีความเป็นห่วงเป็นใย ที่ผืนนาของคนไทย จะไปอยู่ในมือคนต่างชาติ คนต่างชาติมาปลูกข้าวในไทย  แล้วก็ขายให้คนไทยกิน  คงจะน่าหัวเราะฟันหักเลยนะคะ

 ถึงแม้เขาจะมีกฎหมายกำหนดว่า คนต่างชาติสามารถมาเช่านาคนไทยโดยให้ถือหุ้นกับคนไทยได้ไม่เกิน  49.99%  ครึ่งต่อครึ่ง  แล้วเราจะตรวจสอบได้อย่างไร เพราะ อาจจะมีคนไทยสมรู้ร่วมคิด หรือไม่ก็แอบอ้างเอาชื่อคนไทยมาสรวมรอยเป็น  100% จะทำอย่างไง  ซึ่งแท้ที่จริง เขาเป็นผู้ลงทุนหมด   แล้วเอาเงินมาจ้างแรงงานชาวนาไทย  คราวนี้แหละชาวนาไทยจะมีเงินเดือนจากการรับจ้างปลูกข้าว  ถ้าเป็นจริง  สงสารประเทศไทยนะ  (คิดเอง ว่าเอง)  เราจะได้ซื้อข้าวเมืองนอก คนไทยทำนี้แหละ   MADE  IN THAILAND

                 แต่ก็ยังดี  ที่กำหนดไว้ว่า  อาชีพชาวนา และการปลูกพืชผัก  ทำได้แต่คนไทยเท่านั้น ไม่เช่นนั้น มันจะไปเป็นของชาวต่างชาติหมด  โดยเฉพาะประเทศที่มีพื้นที่การเกษตรน้อย เขามองหาอยู่แล้ว  อะไรก็ตามแต่  ขออย่าให้ชาวนาได้ ทิ้งถิ่น ต่อไปอีกเลย ให้กลับมาเห็นความจำเป็น ในชีวิต  และตระหนักถึงความเป็นไทย  ที่สำคัญก็คือ  รัฐบาลควรใส่ใจ มัวแต่เถียงกันอยู่ได้                             

         

            ดิฉันจะเล่าเรื่องปลูกแตงให้ฟังทีหลังนะคะ นี่ก็หลังเก็บเกี่ยวข้าวแล้วปลูกต่อ ปีไหนได้ราคาดี  ก็พากันยิ้มแย้ม ปีไหนราคาตก รายได้ก็หด

ไต้เห็ด นี่ก็กิจกรรมหน้าฝน

  จะว่าเรื่องใหม่  จะชวนไปไต้เห็ด นี่ก็เป็นกิจกรรมในหน้าฝนเช่นกัน

 อาหารธรรมชาติที่หาได้ จากป่าโคก จากค่ายทหารเปรม  ติณสูลานนท์ 

โดยการไปส่องเอา เหมือนไปส่องกบคะ (ไต้เห็ด ที่เหมือนไปไต้กบ)

 

        ที่เกริ่นมาทั้งหมดนี้ เป ไม่ใช่อะไรหรอกคะ  จะพาไปดูขาเก็บเห็ดกัน  ที่ป่าโคก ค่ายทหาร เปรม ติณสูลานนท์  เป็นป่าโคกที่ยังเหลืออยู่  อยู่ในเขตอำเภอน้ำพอง  ใกล้กับอำเภอกระนวน  เส้นถนนผ่านสู่ขอนแก่น ใช้เส้นทางเดียวกัน แล้วก็เป็นเส้นไปดูงู บ้านโคกสง่าด้วย   ทำไมดิฉันจึงอยากนำมาเล่า  เพราะที่นี่ เป็นป่าโคกใหญ่มาก  เป็นแนวเขตทหารมีรั้วล้อมรอบไปหมด  เอาไว้ซ้อมรบ  ซ้อมยิงปืน  ซ้อมขับเครื่องบิน เวลาเขาซ้อมรบ เขาห้ามเข้ามายุ่มย่าม ก็จะมีมาให้วิทยุชุมชนประกาศเตือนห้ามคนเข้าไปในระยะที่มีการซ้อม  แต่ระยะปกติก็ปล่อยให้ชาวบ้านเขาไปหาของป่ามากินได้ ก่อนเข้าป่า จะต้องเข้าทางประตู มีทหารถามไถ่กันก่อน เพราะเป็นค่ายฝึกทหาร ห้ามเข้าโดยไม่ได้รับอนุญาต

นี่แหละคะ  บรรยากาศ ที่มองเห็นคนพอรำไร  เพราะทุกคนที่เข้ามา ก็ลุยเข้าป่าไปหาเก็บเห็ดที่เห็นอยู่นี้เป็นป่าเต็งรังคะ  จะอุดมสมบูรณ์ไปด้วยอาหารป่าต่าง อีรอก ดอกกะเจียว นี่เป็นป่าในค่ายทหารเปรมคะ และที่เห็นใบหญ้า นั้นคือต้นเพ็กคะ  นำลำต้นที่เล็กเรียวเหมือนต้นไผ่มาสานกัน ทำสาดเสื่อได้ และพอหมดหน้าเห็ดระโงก  ก็จะมาเก็บเห็ดเพ็ก ที่มีดอกขาวเล็กมาก

นี่ สามคนไปเก็บเห็ดทั้วัน ทั้งคืน เป็นเพื่อนกัน หลายรอบแล้ว  มาดูซิกลางวันว่า ได้เห็ดมากไหม

การเก็บเห็ดยามกลางคืน  เพราะตอนกลางวัน คนมาก จึงไปในตอนกลางคืน  นี่ขากลับเก็บเห็ดกันมาแต่เมื่อเช้าแล้วนะคะ  เดี๋ยวเราจะดูว่า เขาได้เห็ดแค่ไหน เริ่มเข้าป่าเช้า  แล้วตอนค่ำจะออกหาอีกที   ตื่นตั้งแต่ ตี 1-  ตี 2   แล้วจะตามไปดูกันอีกที

เห็ดทั้งสามคน ที่เก็บมาเมื่อเช้านี้ ถึง 5 โมงเย็น   3 ตะกร้า ได้แกงกินตอนเย็น  ถ้าเบื่อเพราะกินทุกวันก็นำไปขาย    และคิดว่าจะไปไต้เห็ดในช่วงตี 1  หรือ ตี 2  อีกครั้งหนึ่ง

      การเก็บเห็ดไม่เหมือนใคร ก็เพราะเป็นป่าโคกใหญ่นี่เอง ยามกลางวัน  จะมีคนหลั่งไหลมาทั่วสารทิศ ในเขตใกล้เคียง เพื่อมาเก็บเห็ด  จะมีรถเรียงรายมาจอดเรียงแถวกัน ปานว่า มาเที่ยวห้าง รถบรรทุกคนเต็ม พร้อมด้วยตะกร้าใส่เห็ด คนจากแดนต่างๆ มาลงเก็บเห็ด และการที่คนมาพบกันมากมายนี่เอง  ดิฉันจึงขอบอกว่า  ปานงานบุญ สวนเสเฮฮา  แต่ละพวกที่มา จะจับกันเป็นกลุ่ม เรียงหน้ากระดานกันไป  พอเริ่มเข้าป่าเห็ด เห็นเห็ดก็จะตะโกนเรียกกันให้มาทางนี้ ไม่แย่งกัน ป่ามันกว้างใหญ่ และเพราะเห็ดมันมากมายเหลือเกิน เดินตามเก็บกันจนเพลิน  และถ้าหากว่าหลงกัน กะว่าไม่เห็นกันแล้ว ก็จะตะโกนเรียกกันเป็นระยะ  ที่หลงก็เพราะพอต่างคนก็ต่างเก็บเห็ดกันเพลิดเพลินนั่นเอง  ดิฉันเลยถามเขาว่า ไม่กลัวหลงป่าหรือ กลัวอยู่  แต่ขณะที่เก็บเห็ดไป  ก็เรียกกัน ส่งสัญญาณเป็นครั้งคราวให้รู้ว่าตอนนี้ใครอยู่ทิศไหน  อืม

        

ชาวบ้านไม่อดอยาก แต่ไม่มีเงิน ก็พออยู่ได้ กิจกรรมหน้าฝน 

 

พี่น้องที่รักทุกท่านคะ  วันนี้ เน็ทเป็นไรไม่รู้  ทั้งวัน ได้เรื่องเดียวกลับไปกลับมา  หยุดก่อนกลัวมันหายไปหมดคะ

เป็นกำลังใจให้ด้วย  อุตส่าห์ทำสกรุ๊ปให้อ่านชีวิตชาวบ้าน

กิจกรรมในช่วงฤดูฝน ที่ไม่อดอยาก

 

  

 พี่น้องคงยังไม่เคยเห็นการส่องไฟไต้เห็ด ก็มีที่ ป่าโคกค่ายเปรมติณสูลานนท์นี่แหละคะ

เคยได้ยินแต่ไปไต้กบ  ทีนี้มาไต้เห็ดกัน สาเหตุก็เพราะยามกลางวันคนมาเก็บมากมาย ตามรอยกัน มันจะได้น้อย  ฉะนั้นคนที่อยู่ใกล้บริเวณนี้  เขาจะมาเก็บกันยามกลางคืน ซึ่งผิดแผกแตกต่างไม่ธรรมดา เพราะเก็บเห็ด โดยทั่วไป เขานิยมมาเก็บกันยามกลางวัน  เป็นส่วนมาก 

มีที่นี่ที่เดียว เก็บเห็ดกันยามกลางคืน ตามไปดูได้

โดยการส่องเห็ดกันยามกลางคืน เป็นการหาเห็ดที่ไม่ธรรมดา

ภาษาอีสาน

การส่องเห็ด  คือการคาดไฟฉายที่หน้าผาก ส่องไปตามทางที่เดิน พร้อมมีไฟฉายกราดไปตามทางเดินสุมทุมพุ่มไม้  เพื่อหาเห็ด ที่ผุดขึ้นมาใหม่

ภาษาอีสาน เรียกการส่องเห็ดว่าไต้เห็ดคะ

 

หมายเลขบันทึก: 279191เขียนเมื่อ 22 กรกฎาคม 2009 22:04 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 21:07 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (24)

มาส่องไฟด้วยคนค่ะ..แต่ตอนนี้ตาจะปิดแล้วค่ะพี่สุ..ว่างๆไปเที่ยวงานมหกรรมวิชาการท้องถิ่น ชาเรนเจอร์2 เมืองทองธานีกันนะค่ะ..งานเริ่ม24-26ก.ค.52ค่ะ

สวัสดีค่ะ  ดูเห็ดด้วยจ๊ะ  ได้ความรู้เพิ่มขึ้นเยอะเลย

  • มาขอบคุณ ที่ไปเยือน กล้วยไม้ฯ ช้างน้าวฯ นะครับ

สวัสดีค่ะพี่สุที่คิดฮอด ขวัญใจชาวโกทูโน

ขอบคุณนะคะ... แหมพีสุนี่รู้นะคะ....คนมีความรักก็มักจะบทกลอนหวานๆ ดอกไม้สวยๆ...เอามาชดเชยวันที่เราเห็นภาพเศร้าๆ มาเป็นยาชูกำลังค่ะพี่...ความรัก สร้างสรรค์โลกให้งดงามค่ะ

ขอบคุณพี่สุนะคะ นำภาพวิถีชีวิตชนบท...การไต้เห็ดระโงก...

ขอเป็นกำลังใจให้ชาวนาไทย ให้มีคนมาดูแลจริงๆจังๆ....

ขอให้พี่สุมีความสุขมากๆนะคะ

อ่านแล้วคิดถึงที่รักค่ะ

อิอิ

ขอบคุณน่ะค่ะพี่สุ บันทึกนี้น่ารัก ชอบมากค่ะ

พี่สุทำบันทึกออกมา

อันนี้ดูดี จัดวางภาพสวย

ตกแต่งตัวอักษรได้แนว

และอธิบายคำได้แจ๋ว

เออน่ะ ชอบจังค่ะ

อ่านแล้วสบายใจดี

Pน้องกอที่น่ารัก  พอมาบล็อคพี่สุ  มีการเปลี่ยนร่างเลยนะ  ไปเห็นอยู่บล็อคคนอื่น มีแต่รูปตุ๊กตาที่น่ารัก เหมือนเจ้าของบล็อคเลย

วันนี้มีอะไรมาให้พี่สุอ่านอีกหนอ  เดี๋ยวเข้าไปเยี่ยมนะ  มีการมาชมกันด้วย  แสดงว่าที่พี่สุ เขียนที่แล้วๆมา  ดูไม่ได้  อ่านก็ไม่รู้เรื่องละซี

ไม่เป็นไร จะว่าอะไรก็ว่ามาโลด รับฟังได้หมดแหละคะ พี่สุก็ครึ่งๆกลางๆ  เดี๋ยวใจดี  เดี๋ยวใจร้าย  เหตุเพราะเดินทางสายกลาง หลายบล็อคบอกให้ทำแบบกลางๆมี  แต่ให้เดินสายกลาง เลยไม่ค่อยเต็ม   ขาดๆเขินๆ  คริ คริ  ตะแนว  ตะแนว รักนะ  จุ๊บ  จุ๊บ

Pน้องอ้อยเล็กคงไปออกงานที่เมืองทองธานีด้วยใช่ไหมคะ ถึงมาชวนพี่สุ ไกลไปคะ  ใกล้จะไปคะ

 

Pสวัสดีคะ  ครูป้อม เข้ามาทักทายให้กำลังใจกันทุกวันเลย คิดถึงคะ

 

Pขอบคุณคะ มีอะไรดีมาเยี่ยมได้คะ

 

Pอิจฉาคนที่มีความสุขความรักกับครอบครัวเหลือเกิน กลอนก็มีดอกไม้ก็สวย ดี ดีคะ

ชาวนา คือกระดูกสันหลังของชาติค่ะ

ถ้าไม่มีชาวนา เราต้องอดกินข้าวแน่ๆเลย

อ่านบันทึกนี้แล้ว เห็นบรรยากาศในชนบทเลยค่ะ

สวัสดีงามๆครับคุณ สุ ทีบรรจุบันทึกนี้ขึ้นมา ชอบครับมีกลิ่นไอของชนบทอยู่ให้เห็น

มีประเด็นแลกเปลี่ยนบางประการครับ ไปใต้เห็ด (ไปส่องเห็ด) ถ้ากรุณาใส่เชิงอรรถ ให้ความกระจ่างจะชัดเจนครับ เพราะคำถิ่นเฉพาะที่

"ถึงแม้เขาจะมีกฎหมายกำหนดว่า คนต่างชาติสามารถมาเช่านาคนไทยโดยให้ถือหุ้นกับคนไทยได้ไม่เกิน 49.99% ครึ่งต่อครึ่ง แล้วเราจะตรวจสอบได้อย่างไร เพราะ อาจจะมีคนไทยสมรู้ร่วมคิด หรือไม่ก็แอบอ้างเอาชื่อคนไทยมาสรวมรอยเป็น 100% จะทำอย่างไง ซึ่งแท้ที่จริง เขาเป็นผู้ลงทุนหมด แล้วเอาเงินมาจ้างแรงงานชาวนาไทย คราวนี้แหละชาวนาไทยจะมีเงินเดือนจากการรับจ้างปลูกข้าว ถ้าเป็นจริง สงสารประเทศไทยนะ (คิดเอง ว่าเอง) เราจะได้ซื้อข้าวเมืองนอก คนไทยทำนี้แหละ MADE IN THAILAND "

 ประเด็นนี้น่ากลัว สมาชิกกลุ่มเกษตรกรทั่วประเทศเคยประชุมหยิยยก)ปัญหานี้มาถกกันแล้ว โดยกฎหมายก็ใช่ แต่ความเป็นจริงตามรายงาน คนของเราถือครองที่ดินแทนต่างชาติไปมากแล้ว บ้านผม นากุ้ง ตามไปดูพบว่าเถ้าแก่ใหญ่ อยู่ ญิ่ปุ่น ใต้หวันคนไทยเราได้แต่รับจ้างเฝ้าที่ของตัวเองให้ต่างชาติ

"เป็นกำลังใจให้ด้วย อุตส่าห์ทำสกรุ๊ปให้อ่านชีวิตชาวบ้าน"

ขอเป็นกำลังใจให้เต็มร้อยครับ

"ชาวบ้านไม่อดอยาก แต่ไม่มีเงิน ก็พออยู่ได้ กิจกรรมหน้าฝน"

เพราะวิถีดั้งเดิมของชาวนา เขามีวิถีพึ่งตนเองเป็นหลัก เป็นอัตลักษณ์ของชาวตามวิถีว่า "เลี้ยงเป็ดไว้กินไข่ เลี้ยงไก่ไว้กินตัว เลี้ยงวัวไว้ไถนา เลี้ยงหมาไว้เฝ้าบ้าน เลี้ยงม้าไว้เดินทาง" ความเป็นอยู่จึงมีความมั่นคงทางด้านอาหารตลอดไปครับ

อิอิบันยาวก็เม้นต์ยาวตามไปด้วยอิอิ)

Pคะ ชาวนาคือกระดูกสันหลังของชาติ ฟังดูแล้วน่ายิ่งใหญ่ น่าชื่นชม   แต่ทำไม รัฐบาลถึงไม่ยอมเหลียวแล ให้เขาอยู่และมีรายได้ ที่ไม่ต้องทิ้งถิ่นไปทำอย่างอื่น ต่อไปชาวนาในประเทศไทยจะเหลือไหม

 

 

Pขอบคุณท่านวอญ่า ที่เข้ามาแสดงข้อคิดเห็นคะ  ท่ายวอญ่าเข้าใจวิถีชีวิตชาวบ้าน ได้อย่างลึกซึ้งคะ ที่เขามีวิถีพึ่งตนเองเป็นหลักคะชอบคนมาแสดงความคิดเห็นยาวๆคะ  อยากมีเพื่อนที่เข้าใจชาวบ้าน พอได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้กันคะ

สวัสดีค่ะคุณสุ

  • ตามมาอ่านเรื่องเห็ด
  • เลยได้ความรู้เพิ่มเติมอีกเยอะ
  • ตอนเรากินแป๊บเดียวง่ายๆ...แต่ขั้นตอนการเก็บเห็ดไม่ง่ายเลยนะ
  • เขียนได้ละเอียดจนคนอ่านต้องอ่านซ้ำสองรอบเพื่อทบทวนให้เข้าใจให้ชัดเจน..น่าสนใจ..ขอบคุณที่ให้ข้อมูลดีๆอีกเรื่องหนึ่ง

 

  • กว่าจะเม้นท์ได้ค่ะพี่สุ
  • มาอ่าน 3 - 4 รอบแล้วค่ะ...
  • ชอบฟังเพลง
  • เนตที่บ้านคงมีปัญหา
  • ครั้งนี้น่าจะเม้นท์ได้แล้ว
  • เป็นเรื่องน่าสนใจค่ะ ถ้ามีโอกาสสักครั้งในชีวิต
  • ขอบคุณที่ไปเยือนค่ะ

Pขอบคุณคุณพี่ปรีดามากเลยคะ ที่เข้ามาเยี่ยมอ่าน เห้ดธรรมชาติกว่าจะได้กิน มันก็หากันพัลวันไปหมด

เพราะใครๆก็อยากกินเห็ดจากธรรมชาติ  มันหาไม่ได้ง่ายๆ ลงทุนลงแรงไปหา เพื่อที่จะได้มันมากินซึ่งปีหนึ่งๆ  จะมีแค่ครั้งเดียวในช่วงหน้าฝนเท่านั้น

 คนแถบนี้และใกล้เคียง เขารอวันนี้ มานานเป็นปี  เรียกว่าตั้งตารอกินเห็ดโดยเฉพาะเห็ดระโงก ที่แสนอร่อย มันจะมีในระยะนี้  ต่อไปก็จะเป็นเห็ดอย่างอื่นที่ไม่อร่อยแล้วคะ

Pขอบคุณ คุณครูวรางภรณ์ ที่เข้ามาเยี่ยมคืนคะ ไม่รู้ว่าจะทานเห็ดธรรมชาติจากป่า เป็นหรือเปล่า  คงต้องมีสักครั้งกินเห็ดธรรมชาติเป็น ต้องหัดกินคะ ของดีคนอีสาน

เอาเห็ดเหม็ดมาฝากพี่สุครับ  ขอตัวไปนอนก่อนครับ  วันนี้ยังเมางานไม่สร่างเลย  ราตรีสวัสดิ์ครับพี่สุ

วันนี้ เน็ทเป็นไรไม่รู้  ทั้งวัน ได้เรื่องเดียวกลับไปกลับมา  หยุดก่อนกลัวมันหายไปหมดคะ

อ้าว.... ใจร้อนอีกคนแล้ว... (มีบางคนบอกว่า พิมพ์ใน word แล้วคัดลอกมาลงจะป้องกันการหาย ใครนะ....ใครกัน ฮิฮิ)

เรื่องส่องเห็ด ผมก็ได้ยินเขาคุยกัน ไม่เคยไปดูเขาส่อง จะเหมือนส่องสัตว์หรือเปล่านะ

มีดอกไม้ข้างบ้านมาฝากครับ

มาอีกทีครับคุณ สุ

" การส่องเห็ด คือการคาดไฟฉายที่หน้าผาก ส่องไปตามทางที่เดิน พร้อมมีไฟฉายกราดไปตามทางเดินสุมทุมพุ่มไม้ เพื่อหาเห็ด ที่ผุดขึ้นมาใหม่ ภาษาอีสาน เรียกการส่องเห็ดว่าไต้เห็ดคะ

 "ภาษาใต้บ้านผมเขาว่าไป โหล๊ะเห็ดครับ"(โหล๊ะ คือส่องครับ)

"เฮคืนนี้ฝนตกได้ยินเสียงกบร้องเราไป"โหล๊ะกบกันดหวา"

P ขอบคุณคะ น้องก้ามกุ้งที่เข้ามาเยี่ยม พอดีหละจะได้รูปเห็ดน้องก้ามกุ้ง  มีใส่ตอนสองอยู่นะจ๊ะ  นอนได้แล้ว ดึกแล้ว

 

Pมาแล้วหรือคะ เหนื่อยไหมคนดี กิจกรรมยุ่งตั้ง 3 ชาติ ขอบคุณนะคะสำหรับดอกไม้  พอดีหละให้คนที่อกหัก เขาได้ชมบ้าง

ส่องสัตว์ใช้ปืนไม่ใช่หรือคะ เห็ดคงไม่ใช้ปืนหรอกคะ  คริ คริ ถามได้ไง ไม่เข้าใจ 

การส่องก็ออกไปยามกลางคืน ใช้ไฟฉายส่องไปตามพื้น เจอก็เก็บเลย ไม่มีอะไรจะตอบ งง  งง เพราะคิดถึงมาก พูดไม่ถูกแล้ว คริ  คริ

Pขอบคุณท่านมหาคะ  งานเข้าเสร็จแล้วยัง เหนื่อยไหมคะ

 

Pท่านวอญ่า  มาตั้งสองรอบ เหมือนน้องกอเลย  ทางโน้นมีเห็ดให้หากันยามกลางคืนด้วยหรือคะ เข้าใจว่า มีแต่หากบ หรือไม่ก็เข้าใจว่า ส่องหาแต่สัตว์เหมือนท่านเปลวเทียน

อะไรก็ได้ทั้งนั้นแหละคะ  ขอแต่ไปหากินยามกลางคืน ดีดี เข้ามาสองรอบ  มาอีกก็ได้นะคะ ถ้ายังไม่หมด คริ คริ ตะแนว

  • มาขอบคุณ ที่ไปเยือน กล้วยไม้ฯ รองเท้านารี เหลืองปราจีนฯ นะครับ

สวัสดีครับ พี่สุ

ตามมาเก็บเห็ดครับ...

ช่วงที่เดินทางไปเชียงราย นั่งใกล้ๆกับยายคนหนึ่งเล่าให้ฟังเกี่ยวกับ เรื่องไปเก็บเห็ดที่ต่างประเทศ ทดสอบว่ามีพิษหรือไม่โดยใช้วิธีต้มกับข้าว หากข้าวดำ ก็ถือว่าเป็นพิษ หากข้าวสีปกติก็ทานได้ นับว่าเป็นความรู้ท้องถิ่นที่ดีมากๆครับ

จตุพร วิศิษฏ์โชติอังกูร
เมื่อ ส. 24 ต.ค. 2552 @ 20:01
#1631320 [ ลบ ]
ใช่เลยคะ น้องเอก  เยี่ยมมาก  น้องเอกไปทั่วทุกภาครู้จักวิถีชาวบ้านไปไหมดเลย จริงๆคะ ขอบคุณนะคะ ที่เข้ามาอ่านคะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท