เย็นวันศุกร์ที่ 30 ตุลาคม 52 ประมาณ เวลา 2ทุ่ม ดิฉันเข้ามาเล่น GTK ขึ้นบล็อกใหม่เรื่อง เรื่อง ที่ 114 มีชื่อเรื่อง ว่า เปิดใจ การใช้ชีวิต ต้องมีคำคม เสร็จแล้ว ไม่ได้ตรวจทานเท่าไหร่ ปล่อยเรื่องไปก่อน เพราะเหนื่อยและหิวข้าวแล้ว ด้วยวันนี้ ทั้งวัน ก็นั่งเล่นแต่คอมสลับค้าขาย สลับว่างก็มานั่งแต่งบทความ ทั้งหารูป ใน GTK ตลอดทั้งวัน ซึ่งก็ปฏิบัติเป็นประจำทุกๆวันที่ว่าง หลังจากลูกค้าไปแล้ว วันนี้เต็มที่กับบทความใหม่ กว่าจะได้บทความ คำคม กว่าจะค้นได้ภาพ ก็แทบจะไม่ได้ ดูแลตนเองเกี่ยวการรับประทานอาหารเลย หิวข้าวอย่างแรง ท้องร้อง จ๊อก จ๊อก ทำไมเราถึงตั้งใจทำขนาดถึงต้อง อดข้าวอดน้ำเชียวหรือ จะทุ่มเทอะไรขนาดนั้น ดิฉันคิดแล้วก็ เดินเข้าครัว เพื่อที่จะหาอะไรมารองท้อง ตอนนี้ 2 ทุ่มแล้วยังไม่ได้ทานข้าวเย็นเลย ด้วยเล่นคอมจนเพลินคะ เป็นประจำ ขณะที่ดิฉันเดินเข้าครัวนั้นเอง ดิฉันมีความรู้สึกว่า ดิฉันเหยียบเข้ากับอะไรซักอย่าง ซึ่งดิฉันก็ไม่รู้ว่า อะไรมากัดนิ้วเท้าดิฉัน แขวกเบาๆ เสียงที่มีความรู้สึกเหมือนโดนแมวข่วน พอดิฉันเหยียบไปแล้วนั้น รู้สึกปวดแปล๊บขึ้นมาเบาๆที่นิ้วเท้านิ้วกลางก่อน ดิฉันรีบบีบนิ้วที่ปวดนั้นทันที เพราะเริ่มปวดอย่างแรง ดิฉันคิดไม่ออกว่าตัวอะไรมากัด ขณะที่ดิฉันใช้นิ้วกดบีบแผลไว้นั้น ดิฉันเห็นตะขาบตัวเขื่อง ยาวประมาณ 6 นิ้ว วิ่งผ่านหน้าไป ดิฉันถึงรู้ทันทีว่า ดิฉันได้เหยียบ เข้ากับตะขาบตัวใหญ่ และมันกัดดิฉันเข้าให้แล้ว ดิฉันตกใจมาก ทำอะไรไม่ถูก แต่ก็ตั้งสติได้ทันที ดิฉันปล่อยให้มันวิ่งผ่านหน้าหนีไปเลย เพราะดิฉันรู้สึกปวดๆ แปล๊บ ๆๆๆๆๆๆ ปล่อยตะขาบมันจะไปไหนก็ไปเถอะ มาดูตนเองดีกว่า ถ้าเป็นคนอื่น คงจะวิ่งฆ่ามันก่อน แล้วถึงกลับมาดูตนเอง เพราะดิฉันเคยได้ยินว่า พิษของมันจะวิ่งสู่กระแสเลือด ถ้าเรากระดุกกระดิกหรือออกแรงเคลื่อนไหวมากๆ ยิ่งดิ้นพิษยิ่งซ่าน
ดิฉันเอายางรัดพิษไม่ให้มันซ่าน ขาเริ่มบวมแล้ว ดิฉันคิดว่ามันเอาหางมาเกาะกัด
ดิฉันตะโกน ช่วยด้วย ช่วยด้วย ตะขาบกัด เพราะลูกชายดิฉัน ก็เล่นคอมพิวเตอร์อยู่ ห้องนั่งเล่น ใกล้ๆ ลูกได้ยิน ลูกวิ่งเข้ามาด้วยความรวดเร็ว ทันทีที่ได้ยินดิฉันร้องเรียก ลูกวิ่งมาหาดิฉัน ยังเห็นตะ ขาบตัวนั้น วิ่งไปผ่านทางหน้าตนเองเฉียดฉิวไปเหมือนกัน ลูกก็ตื่นเต้น หาอะไรมาตีตัวตะขาบก็ไม่ทัน ทิ้งมันไปก่อน เพราะห่วงใยแม่ มากกว่า ดิฉันบอกลูก “ไปลูกไปหาอะไรก็ได้ มารัดแผลแม่ด้วย เร็ว” ลูกไวเท่ากับคำสั่งของแม่ หาได้ยางสติ๊กวงเล็กๆ ในครัว มามัดแผลที่นิ้วเท้าแม่ ตรงที่โดนกัด ดูท่าทาง ลูกก็ตื่นเต้น ทำอะไรไม่ถูก ดิฉันเลยนำยางมารัดนิ้วเท้านิ้วชี้กับนิ้วกลางเอาเอง จุดมุ่งหมายที่ดิฉันรัดนี้คือ ไม่ให้พิษกระจายไปทั่วเท้า ถ้ากระจายไปมาก มันก็จะปวดมาก ดิฉันมัดที่นิ้วชี้กับนิ้วนาง ที่ตะขาบกัด พร้อมกับลูกชายก็ตะโกน ร้องเรียก พ่อ “ปา ปา ปา เสียงลูกเรียกพ่อ แบบภาษาจีน ภาษาฝรั่ง ปา ปา มามา แม่ถูกตะขาบกัด เร็ว เร็ว พาแม่ไปโรงพยาบาล” สามีดิฉันแต่งตัวนอนแล้วด้วย แต่เมื่อได้ยินเสียงลูกชายเรียก ตนเอง ก็รีบลุกจากที่นอน ถอยรถ จิ๊บแคริเบียนรถประจำตัวดิฉัน คันเล็กที่เข้าออกง่ายที่สุด เตรียมจะไปโรงพยาบาล ลูกชายประคองดิฉันขึ้นรถ ปิดประตูให้เรียบร้อย สามีก็ขับรถด่วนจี๋ ไม่ถึง 10 นาที ก็ถึงโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชอ.กระนวน เพราะอยู่ใกล้ ถ้าคนไม่มีรถก็จะว่าไกล การจราจร ไม่ติดขัดเพราะมันค่ำมากแล้ว สามีขับรถเกยที่หน้าห้องฉุกเฉินเลย พอถึงสามีก็ลงรถ นำรถเข็นมารับดิฉันต่อเลย เพราะดิฉันปวดมาก จนเดินไม่ได้เลย สามีเข็นรถพาดิฉันมาขึ้นเตียง คนไข้ฉุกเฉินทันทีโดยเร็ว
ดิฉันขึ้นนั่ง เตียงพยาบาลห้องฉุกเฉิน พยาบาลผู้หญิงผู้ชายก็กุลีกุจอ มาหาที่ดิฉัน หลายๆคน ต่างคนก็ต่างรู้หน้าที่ คนหนึ่งก็ไปเตรียมเข็มฉีดยาชา อีกคนก็ทำการล้างแผล แล้วก็ทาทิงเจอร์ไอโอดีน แผลสด เสร็จแล้ว อีกคน ก็มาฉีดยาชาที่นิ้ว ที่เห็นรอยตะขาบกัด คะ รวดเร็วทันใจดี ดิฉันมานั่งคิด ถ้าเป็นชาวบ้านอยู่ห่างไกลโรงพยาบาล คงจะรักษากันตามมีตามเกิด รู้ไหมว่า การปวดนี้ มันปวดแค่ไหน ถ้ามาโรงพยาบาลไม่ทัน มันจะทรมานมากทีเดียว อย่าให้พี่น้องGTK โดนกัดเลย จงดูแลเด็กๆ คนชราและสัตว์เลี้ยงด้วยนะคะ พูดไม่เป็น ว่าปวดแบบไหนขนาดไหน รู้ไหมมันปวดจริงๆ ถ้าโดนสัตว์มีพิษกัด ดิฉันยังดีใจ ที่คนในบ้าน เป็นดิฉันที่ถูกกัดแทน เพราะดิฉัน รู้ถึงความรู้สึกเจ็บปวด จึงไม่อยากให้คนที่รัก สามีและลูกต้องมารับเคราะห์ ในลักษณะแบบนี้ ดิฉันขอเป็นฝ่ายมาโดนกัดเสียเองดีกว่า เพราะมันเจ็บปวดมากคะ ดิฉันยังดีใจด้วยความเจ็บปวด ที่มันกัดดิฉัน แทนที่จะเป็นสามีและลูกคะ
ไม้บันทัด ยาว 1 ฟุต ตัวมันยาว ประมาณ ครึ่งฟุตทีเดียว ยาว 6 นิ้ว
พอฉีดยาชาหนึ่งเข็ม พยาบาลบอกว่า ยาชา ยานี้ จะระงับการปวด ไปซักประมาณ 2 ชั่วโมง ถ้าปวดอีก ก็กลับมาฉีดอีก ดิฉันเตรียมตัวจะกลับบ้าน แต่ต้องเดินไปรับยาที่ห้องจ่ายยาอีกด้านหนึ่ง
ฉันเดินเขยก เพื่อจะไปห้องรับยา ขณะที่ดิฉันเดินเขยกไปนั้น ดิฉันมีความรู้สึกว่า แต่ละช่วงเก้าย่าง ดิฉันเริ่มปวดแปล๊บๆ อีกแล้ว แล้วยิ่งเดินก็ยิ่งปวดมากขึ้น ดิฉันรีบหาที่นั่ง ให้สามีไปรับยาแทนให้ด้วย แล้วให้เอายามาเร็วๆ ยาไหนแก้ปวด เอามาให้ดิฉันทานระงับการปวดโดยด่วน
ดิฉันมานั่งคิดไหน คุณพยาบาลบอกว่าอีก 2 ชั่วโมง ยาชาจะหมดฤทธิ์ นี่ยังไม่ถึงชั่วโมงเลย สามีรีบรับยา นำยาที่เภสัชแผนกจ่ายยาได้จ่ายให้ ดิฉันก็ไม่รู้ว่าเจ็บปวดมากแค่ไหน ดิฉันคงระงับปวด ด้วยวิธีการทานยาแก้ปวดเป็นกิจกรรมที่ควรทำต่อไป สามีเอายามาให้ทาน มีกี่เม็ดรวบยอดหมดเลย คงเป็นยาแก้ปวด แก้อักเสบ ก่อนอาหารหลังอาหารไม่รู้หละ ดิฉันก็ทานหมดคงจะเป็นยา ยาพารา ยาอักเสบ ยาแก้ปวด นี่แหละ ดื่มน้ำตามลงไปมากๆ ดิฉันมานั่งคิดดู คงจะเป็นเพราะดิฉันได้ออกแรงเดิน จึงทำให้พิษวิ่งตามกระแสเลือด เพิ่มความปวด ดิฉันไม่ควรทำอะไร ที่ทำให้หัวใจเต้นแรง หรือเลือดสูบฉีดกว่านี้ เพราะขณะนี้พิษ ไม่รู้วิ่งไปตามกระแสเลือดทางไหนบ้าง มันจะปวด ยาชาคงช่วยอะไรไม่ได้มาก
สักครู่ ยาที่รับประทานไปเมื่อกี่นี้ ไม่รู้กี่อย่าง คงจะไม่บรรเทาปวดได้ทันใจ ดิฉันบอกสามี ให้พากลับไปห้องฉุกเฉินอีกครั้ง แต่ดิฉันจะไม่เดินอีก กลัวพิษซ่าน สามีก็หารถเข็นมาพาดิฉันกลับไป ห้องฉุกเฉิน ดิฉัน คิดว่า ยาชาที่ฉีดเมื่อกี้ คงหมดฤทธิ์แล้ว ช่วยอะไรไม่ได้อีกแล้ว พิษเริ่มกระจาย ทำให้ปวดอย่างมาก พยาบาลบอกว่า ถ้าฉีดยาชาอีก มันจะถี่เกินไป อันตราย เอายาฉีดแก้ปวด มาฉีดสะโพกให้ ดิฉันเห็นเข็ม ที่มาฉีดสะโพก แก้ปวด ดิฉันกลัวทั้งเข็ม และพร้อมทั้งรู้สึกปวดมาก อยากบอกพยาบาลเหลือเกินว่า “อย่า ! เอายาแก้ปวดมาฉีดเลย เอายาที่ฉีดแล้ว ให้ดิฉันสลบไปเลยมีไหม เพราะปวดเหลือเกิน” ดิฉันก็คงได้แต่คิด อย่าขำนะ ที่ดิฉันคิดแบบนี้
ตะขาบมันตายแล้วคะ ยาพ่นสมุนไพรฉีดพ่นที่โดนกัดรู้สึกว่าเย็น
ลดพิษได้ ดูใต้ท้องมันซิคะรอยตีหลัง นอนสิ้นชีพท่าสวยเชียว
หลังจากฉีดยาแก้ปวดที่สะโพกเป็นเข็มที่ สองแล้ว ความรู้สึกปวดยังหลงเหลืออยู่ มันไม่ได้หายปวดทันทีเหมือนยาชา ปวด จนดิฉันตัดสินใจ นอนที่โรงพยาบาลเลย กลัวปวดมากยามดึก แล้วจะวิ่งกลับมา โรงพยาบาลไม่ไหว ดิฉันให้สามีกลับไปบ้าน ดิฉันจะนอนที่โรงพยาบาล เอง ถ้าค่อยยังชั่ว แล้วจะโทรบอกให้มารับ ดิฉันนอนปวดอยู่โรงพยาบาลเป็นชั่วโมง ขณะที่นอนปวดอยู่นั้น ก็มีคนไข้ฉุกเฉินเข้ามาไม่ขาดระยะ เดี๋ยวรถล้มถลอกปอกเปิก เดี๋ยวเป็นลมเพราะโรคความดัน ท้องร่วง นอนอยู่ข้างดิฉัน ฉุกเฉินทั้งนั้น
ดิฉันปวดมาก พอดีสามีกลับไปถึงบ้านกลับมาอีกครั้งพร้อมนำยาแบบพ่นฉีดแก้พิษแมลง ที่มีอยู่ที่บ้าน มาพ่นให้ รู้สึกเย็นดี บรรเทาความรู้สึกปวดได้บ้าง พ่นยาแล้วเอาปากเป่า เอ้อ! มันเย็นๆ รู้สึกว่าเย็นๆจะระงับได้ สามีกลับไปเอาน้ำแข็ง ใส่ถุงพลาสติกเล็กๆมาวาง ที่ปวมปวด ก็บรรเทาลงได้อีก ดิฉันใช้ยาพ่นเมื่อปวด ดิฉันอ่านดู ข้างขวดยาพ่น เป็นยาสมุนไพรยาหม่องน้ำมันงา โอท็อป วิสาหกิจชุมชนบ้านโนนสวาท อ.เสนานิคม ของจังหวัดอำนาจเจริญ นำมาขาย มันหอม สดชื่น ดิฉันถึงซื้อประจำบ้านไว้ เพื่อคลายเล็ดขัดยอก และสูดดม ราคาขวดเล็กนี่ ราคา 120 บาท ไม่คิดว่าจะได้มีโอกาสนำมาใช้ เป็นยาเย็นสมุนไพร แก้พิษสัตว์หรือแมงกัดต่อย ดิฉันปวดเมื่อไหร่ ก็ฉีดพ่นใส่แผลปวดบวม ก็บรรเทาลงได้
เที่ยงคืน ดิฉันตัดสินใจ กลับบ้าน มานอนที่บ้าน พอมาถึงบ้าน ทั้งวันในวันนั้น น้ำก็ไม่ได้อาบ มานอนที่โชฟาร์เลย ไม่อยากเดินมากเดี๋ยวพิษซ่านอีก ไม่นานดิฉันก็เผลอหลับไป คงจะเป็นเพราะยาที่ดิฉันทานไปหลายอย่างมันออกฤทธิ์พร้อมกัน ทำให้ดิฉันหลับลงไปโดยลืมความเจ็บปวดไปเลยคะ จนเช้าอีกที ขาบวมขึ้นมาเล็กน้อย มีอาการปวด ลดลง ปวดเพียงเล็กน้อยพอให้รำคาญ แต่ถ้าเดินจะปวดมาก แล้วขาก็มีผื่นแดง นั่นคือ พิษมันขยับขึ้นมาเรื่อยๆ เตรียมกระจาย เตรียมที่จะบวมขึ้น
ตะขาบกัดวันศุกร์ที่ 30 ตุลาคม 52 มาบวมแบบนี้ วันที่ 31 ตุลา วันที่ 1 พฤศจิกา ยุบแล้ว อาการคันยิบๆ พอให้เการำคาณยังมีอยู่
สิ่งที่ดิฉันจะทำแล้วให้ลืมความเจ็บปวด ดิฉันมาเข้านั่งบันทึกเพิ่ม GTK เขียนเรื่องใหม่เลยคะ เพราะเวลาที่เขียน มันเพลินลืมความเจ็บปวด วันธรรมดา ดิฉันก็เพลิน แม้แต่เวลาทานอาหาร ก็ไม่ตรงเวลา บางวันเที่ยงคืนยังไม่นอนเลย ดิฉันตัดสินใจ ขึ้นเรื่องใหม่ ทั้งที่ปวดบวม ที่ขา เรื่องที่ 115.ทุกอย่างคือวิทยา เพื่อให้เพลินคลายปวดคะ และดิฉันก็เขียนเรื่องใหม่จนจบลงอีก โดยลืมความเจ็บปวดเสียถนัดใจ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น และขณะนี้ที่เขียนอยู่ ความเจ็บปวด ได้หายไปบ้างแล้ว แต่ความบวมยังมีอยู่ คงจะหายภายในเวลา 2-3 วัน บางครั้ง ที่นิ้วที่ถูกกัด ยังรู้สึกคันยิบๆ เกาเบาๆ ทั้งที่อยากจะเกาแรงๆ ยิ่งเกา ยิ่งบวม พิษมันยังเหลืออยู่ที่แผล ระยะ วันที่ 4-5 พฤศจิกายน ดิฉันได้มาบันทึกเพิ่ม มีอาการคันที่แผลและบริเวณใกล้เคียง แม้ไม่ปวด แต่อยากจะเกาให้มากๆเเลย ยิ่งเกายิ่งมัน จนแผลและบริเวณใกล้เคียงบวมมากขึ้น ขณะที่บันทึกอยู่นี้ ก็ยังคัน อยากเกา อยากเกา คันๆ คัน ๆ ได้แต่ฉีดยาพ่น ยาหม่องทา รำคาญ รำคาญ คัน คัน
แล้วดิฉันก็มานั่งคิด ว่าทำไม ตะขาบมาจากไหน มากัดดิฉันได้ และดิฉันพยาบาลตนเอง ขั้นต้นโดยเอายางรัดที่แผล เพื่อไม่ให้พิษซ่าน มีส่วนช่วยได้มาก เพราะมันหายเร็วขึ้นคะ และจะเห็นช่วงนี้ ดิฉันเว้นยังไม่ไปเยี่ยมน้องๆในGTK กลับคืนเลย ห่างหายก็ด้วย ตะขาบกัด บำบัดการปวดด้วยการเขียนบทความใหม่ มันเพลิน จนลืมความเจ็บปวด ฉะนั้น น้องๆ มิตร GTK ทั้งหลาย ถ้าปกติ แล้วจะกลับไปเยี่ยมคืนทุกๆคนนะคะ
ท่านพี่น้อง มิตร GTK ทั้งหลายคะ ที่ดิฉันมานั่งเขียนอยู่นี่ ยังไมได้ฆ่า เจ้าตะขาบเลยคะ วันที่ 30,31, เป็นเวลา 2 วันแล้ว ที่ดิฉันและคนในครอบครัว ก็ขยาดที่จะเดิน ไปแต่ละก้าว ภายในครัว และในบ้าน เพราะยังไม่ฆ่ามันเลย หาตัวมันไม่เห็น ดิฉันคิดว่า เจ้าตะขาบเอ๋ย เจ้าช่างเล่นซ่อนแอบเก่งจังเลยนะ คนทั้งบ้านกลัวความเงียบสงบสยบความเคลื่อนไหว ของเจ้านะ รู้ไหม เพราะไม่รู้ว่า ใครจะเผลอเหยียบเจ้าอีก
แล้วในที่สุด เช้าวันที่ 1 พฤศจิกายน 52 เสียงดังโป๊ก ภายในครัว เสียงสามีร้อง มาดูเร็ว มาดูเร็ว สามีฟาดมันตายแล้วคะ สามีเล่าว่า เขาก็เกือบเหยียบมันเหมือนกัน แต่เผอิญว่า เขาก็ระวังตัว เพราะเขารู้ว่ามันอยู่แถวนี้แหละ มันไต่หลบไปแอบอยู่มุมไหนก็ไม่รู้ แล้วยังไม่ได้ฆ่ามันเลย ใครเผลอเหยียบมันเมื่อไหร่ ก็จะเหมือนดิฉันต้องทนเจ็บในขณะนี้ ทุกๆคนจึงต้องเดินอย่างระมัดระวัง ตราบใดที่มันยังไม่ตาย ต้องมีใครในบ้านโดนมันกัดอีก อโหสิกรรมเถอะนะ มันจำเป็นจริงๆ ถ้าเจ้ายังไม่ตาย ชีวิตก็จะอยู่ด้วยความหวาดระแวง ไม่รู้เมื่อไหร่ จะเผลอเหยียบอีก
ตะขาบมากัด ในบ้าน ที่ไม่มีป่า มีแต่ป่าคอนกรีต ไม่มีสวน เป็นเรื่องที่ดิฉันมานั่งวิเคราะห์ คะ ว่าตะขาบ มันเข้ามาบ้านดิฉันได้อย่างไร ทั้งที่ บ้านไม่ได้อยู่ในป่า บ้านไม่รก ดิฉันมานั่งทบทวน ว่า มันเป็นได้ไง ในที่สุดก็รู้ว่า มันมาจากท่อน้ำทิ้ง ที่ดึงสายเครื่องซักผ้าที่หย่อนลงไป ในท่อใหญ่ เพราะยกเครื่องซักผ้าไปซ่อม ดิฉันไม๋รู้ว่ามันจะไต่มาตามท่อ คาดไม่ถึง เพราะไม่เคยพบและมีประสบการณ์ ว่ามันจะไต่ขึ้นมาจากท่อน้ำทิ้งนี่เอง เมื่อรู้เป็นเช่นนี้แล้ว จะได้ระวังกัน สิ่งไม่คาดคิด ก็อาจเกิดขึ้นได้ ถ้าเรารู้เท่าไม่ถึงการณ์คะ จงไปปิดท่อน้ำทิ้งเสีย อยู่ในครัว อยู่ในห้องน้ำด้วย เมื่อกี้ฝนยิ่งตก น้ำคงจะท่วมรูมัน มันไต่หนี คงมาเจอทางสะดวกพอดี
วันที่ 5พฤศจิกายน พี่น้องGTK ที่รักท่านคะ บทความนี้ขอเพิ่มเติมอีกนะคะ ดิฉันได้ไปทราบวิธีแก้พิษตะขาบกัด ในยามฉุกเฉิน โดยเอาผงชูรส เทลงที่แผล แล้วเอามะนาวบีบน้ำมันลงไป คนที่แนะนำเขาบอกว่า วิธีนี้หาง่ายที่สุดในครัวต้องมีกันทุกๆบ้าน ความรู้สึก เขาบอกว่า มันจะมีความรู้สึกผงชูรสกับน้ำมะนาว มันจะดูดจุ๊บ จุ๊บ มันจะดูดพิษได้ดี มีความรู้สึกนั้นได้ แล้วมันจะไม่เจ็บปวดมาก
วันที่ 5 พฤศจิกายน 52 เวลา 11.00 น.ขณะที่ดิฉันกำลังบันทึก อยู่นี้ มีความรู้สึกทรมาน ในการคันมาก อยากเกา อยากเกา
บริเวณท่อน้ำทิ้ง มันปล่อยลงไปสู่ท่อน้ำทิ้งใหญ่ ถ้าเปิดเมื่อไหร่ จะมีตะขาบ หนูเข้ามา
ดิฉันหลังจากที่หายเจ็บปวดแล้ว ก็มานั่งคิดวิเคราะห์ว่า สาเหตุ ที่ตะขาบเข้ามาในบ้านดิฉันได้นั้น ก็เพราะว่า วันนั้นดิฉันเอาเครื่องซักผ้าไปซ่อม ท่อน้ำทิ้ง เครื่องซักผ้า มันถูกดัดแปลงให้แหย่ลงไปในท่อน้ำทิ้งใหญ่ เมื่อดิฉันเอาเครื่องซักผ้าไปซ่อม ยกเครื่องออกจากที่ตรงนั้น ดิฉันก็ต้องดึงท่อสายน้ำทิ้งของเครื่องซักผ้าขึ้นมา ให้ไปกับเครื่องซักผ้า เพื่อที่จะไปซ่อม
เมื่อท่อน้ำทิ้งเครื่องซักผ้า เอาออกจากท่อน้ำทิ้งใหญ่ มันจะมีรูที่ท่อเครื่องซักผ้าดึงออกมา เป็นรูใหญ่มาก หนูก็ขึ้นตามรูนี้เข้ามาในครัวได้ ตะขาบก็สามารถไต่เข้ามาได้ นี่แหละคะ ที่มาของตะขาบ มันมาตามท่อน้ำทิ้ง ที่เปิดไว้คะ
ฉะนั้น อย่าชะล่าใจ ฝาท่อน้ำทิ้ง ในห้องน้ำ หรือเป็นท่อ ควรระวังตะขาบ หรือหนู มันจะเข้ามาตามรูนั้นคะ ให้ระวังด้วย มันเข้ามาเราไม่รู้ตัวคะ อย่าเผลอเชียว
สวัสดีค่ะพี่สุ...
โอ้โห!! ตะขาบตัวใหญ่มาก เห็นขาพี่สุแล้วน่าขยาดเลยค่ะ ... แดงเป็นปื้นเลย บวมด้วย น้องยังไม่เคยโดนเจ้าตะขาบกัดค่ะ เคยโดนแต่กุ้งแทงมือ เจ็บไปหลายวันเหมือนกันค่ะ ... รักษาสุขภาพนะคะพี่สุ ส่งกำลังใจไปช่วยให้หายไว ๆ ค่ะ
ตะขาบเคยมาไต่หน้าครูอ้อยเล็กตอนหลับ..คิดว่าตัวไรด้วยความรำคาญ เลยจับแบบกำหมับแล้วเหวี่ยงทิ้งคิดว่าฝัน..แต่มาเอะใจเฮ้ยเหมือนตะขาบเลยนี่นาไอ้ตัวเมื่อกี้..เลยรีบไปจุดตะเกียงมาส่องดู..โหไอ้ที่เหวี่ยงทิ้งนะมันไปติดอยู่ที่มุ้งค่ะพี่สุ..ตัวเบ้อเร่อเลย...งงล่ะคะอิๆ..สาเหตุคือว่าตอนนั้นอ้อยเป็นเด็กอยู่กลางทุ่งค่ะ..กลางมุ้งนอน..และจุดตะเกียงค่ะ..ไม่มีไฟฟ้า ไม่มีน้ำประปาค่ะ...ผลปรากฏว่าตะขาบตัวนั้นหมดกรรมไปเกิดใหม่ด้วยฝีมือน้องชายค่ะ..เอาโคมแขวนมาฝากด้วยนะคะ..
หวัดดีคับ คุณป้าสุ
มาเป็นกำลังใจคับ ขอให้ป้าสุหายวันหายคืน โดยเร็ววันนะคับ
ตะขาบน่ากลัวจริงๆ อ่านแล้วต้องจำไว้เป็นอุธาหรณ์เลยทีเดียวคับ น่ากลัวมาก..
บ้านกู๊ดดี้เครื่องซักผ้าก็อยู่ห้องใต้ดินมีสายท่อระบายน้ำด้วย.. ต้องตรวจตราเพื่อความปลอดภัยเช่นกันคับ..
รักษาสุขภาพด้วยนะคับ.. กู๊ดดี้เป็นห่วงคับ :)
แก้พิษตะขาบ ใช้ไลดทะนงแดงครับ เห็นใช้ได้ผลที่รพ.กาบเชิง ไปคุดต้นโลดทะนงแดงที่ เขาพนมดงรัก สุรินทร์เอาใช้แล้ว แก้พิษปลาแทงได้ดีครับ
หายปวด หายเจ็บครับ เป็นกำลังใจครับ
อุบัติเหต เกิดขึ้นได้ทุกสถานที่ครับ
อ่านไปเศร้าไป
ตะขาบ จัดอยู่ใน Class Chilopoda เป็นสัตว์ขาข้อที่พบได้ในเขตร้อนชื้น อาศัยอยู่บนบกตะขาบมีขนาดความยาวของลำตัวตั้งแต่ 3 - 8 cm. ขนาดใหญ่ที่สุดคือชนิด Scolopendra heros มีความยาว 8 - 10 " ลำตัวแบนราบ มีปล้อง 15 - 100 ปล้อง แต่ละปล้องมีขา 1 คู่ ส่วนหัวแยกจากลำตัวชัดเจน มีหนวด 1 คู่ โดยมีเขี้ยวพิษ 1 คู่ ซึ่งดัดแปลงมาจากปล้องแรกของลำตัว เขี้ยวพิษเชื่อมต่อกับต่อมพิษเมื่อกัดเหยื่อจะปล่อยพิษออกมา ทำให้เหยื่อเจ็บปวด และเป็นอัมพาต ตะขาบวางไข่ในที่ชื้นหรือต้นพืชหญ้า ใช้เวลาในการเจริญเติบโตนาน ลอกคราบ 10 ครั้ง มันชอบที่ชื้นแฉะ และบริเวณเย็นๆ
ตัวเต็มวัยมีอายุ 3 - 5 ปี ในเวลากลางวันจะซ่อนอยู่ในที่เย็นๆ ใต้ก้อนหิน ออกหาเหยื่อในเวลากลางคืนกินแมลงเป็นอาหาร เมื่อถูกตะขาบกัดจะพบรอยเขี้ยวสองรอย ลักษณะเป็นจุดเลือดออกตรงบริเวณที่ถูกกัด พิษของตะขาบทำให้มีการอักเสบ ปวดบวมแดงร้อน ชา เกิดอัมพาต ตรงบริเวณที่ถูกกัดในบางรายอาจมีอาการแพ้ หรือกระวนกระวาย อาเจียน หัวใจเต้นไม่เป็นจังหวะ มึนงง ปวดศีรษะอาจมีการติดเชื้อแบคทีเรียแทรกซ้อนตรงบริเวณที่ถูกกัด อาจเป็นแผลไหม้อยู่ 2-3 วัน
ระวังการบวม เพราะไม่รู้ว่าเป็นงูหรือตะขาบกัด เนื้อที่บวมจะไปกดเส้นเลือด จนเกิดการขาดเลือด อย่างที่ดิฉัน เอายางหนังสะติ๊กไปรัดแผลไว้นั้น ถ้านาน ก็จะทำให้เลือดไม่วิ่ง เนื้อตาย เนื้อเน่าได้ ฉะนั้น จะรัดแผลก็ดู ระวังกดเส้นเลือดจนวิ่งไม่ได้ ก็เป็นอันตรายต่อบริเวณนั้นเหมือนกัน คือบริเวณนั้นก็จะเป็นเนื้อตาย ยิ่งไปกันใหญ่
ดิฉันได้เล่าให้น้องนีน่านันท์ฟัง น้องเขาเคยได้ยินยาสมุนไพรจีน มีชื่อว่าเซียมไหล เอามาทุบๆหรือโขลกตำกับข้าวต้มข้นๆ โปะปิดไว้ที่แผล เอาผ้ามาพันไว้ แล้วได้ผล ก็ให้รู้ไว้ก็แล้วกันนะคะ เวลาฉุกเฉินมา ก็ต้องหาสิ่งที่หาง่าย ใกล้ตัวที่สุด นำมารักษากันให้หายปวด บางคนก็แนะนำว่า ให้เอาพริกขี้หนูแห้ง มาตำให้ละเอียด แล้วบีบมะนาวลงไปคลุกเคล้า แล้วนำไปโปะที่แผล ก็ลองดูนะคะ ส่วนท่านวอญ่า ก็แนะนำเอาไหล คงเป็นว่านสมุนไพร มีชื่อว่าทะนงแดง มาทุบแล้วโปะที่แผล ก็คงจะต้องศึกษากันแหละคะ แต่ละท้องที่ ย่อมรักษา แตกต่างกันไป
เอารูป แขนหรือขาที่บวมมาก จนบางครั้งความบวมไปทับเส้นเลือด เลือดวิ่งไม่สะดวก ต้องผ่าแยกแผล บริเวณที่บวม เพื่อไม่ให้กดทับเส้นเลือดคะ นี่ก็คงเป็นงูกัดคะ บวมมากมายถึงขนาดนั้น สัตว์มีพิษอะไรก็อันตราย ทั้งนั้น ขอให้รู้การรักษาพยาบาลขั้นต้น แล้วรีบนำส่งโรงพยาบาลโดยเร็วคะ อย่าชักช้า อย่าให้พิษวิ่งตามเส้นเลือดเข้าสู่หัวใจก็แล้วกัน ถ้าหากมีหมอมาอ่านบทความนี้ ก็ขอให้คำแนะนำ เพิ่มเติมหรือคนที่ มีประสบการณ์ เคยผ่าน แมลงหรือสัตว์มีพิษกัดต่อย จะได้บอกกล่าวพี่น้อง GTK ได้รับรู้ และรู้จักแก้ไข สถานการณ์ รักษาพยาบาลขั้นต้น ถ้าหากว่า เมื่อเกิดพบเจอด้วยตนเองจะแก้ไขอย่างไร
พี่น้องที่รักทุกท่านคะ เมื่ออวัยวะที่บวมมาก จนไปทับเส้นเลือด เลือดวิ่งไม่สะดวก บางครั้งต้องกรีดเนื้อ เพื่อไม่ให้มันบวม จนตึงเกินไป
ภาพจากแพทย์ ที่ค้นหาได้ในอินเตอร์เน็ตคะ ค้นหาอ่านได้นะคะ เสริมความรู้คะ
สวัสดีค่ะป้าสุ
หนูอ่านแล้วใจหายค่ะป้า
ขอให้ป้าสุหายปวดเร็ว ๆนะคะ
โอ้! ตัวมันใหญ่มากนะคะ
ความปวดคงไม่ต้องพูดถึง
พี่สุคนเก่ง..เพี๊ยง !หายนะคะ
เจ้าอิฐฝากพลุไฟงานลอยกระทงมาให้ค่ะ
สวัสดีค่ะพี่สุ......น้องเคยโดนครั้งหนึ่งที่นิ้วค่ะ ..ปวดแสบมาก ...ต้องจับนิ้วไว้แน่นค่ะ ..มีหมอที่คุ้นเคยกันรีบบอกให้ทายาเหลือง(น้ำมันเหลืองชนิดหนึ่ง) เราก็งง งง เพราะวันก่อนมีดบาด ก็ให้ใส่ยาเหลือง วันนี้โดนตะขาบกัดก็ยาเหลือง 555 หายไวๆนะคะ
สวัสดีคะพี่สุ.... อ่านแล้วรู้สึกปวดไปด้วยเลยค่ะ
แต่โชคดีที่มีโกทูโนว์ ยาแก้ปวด ทุกขนาน ปวด ขา ปวดหัว ปวดใจ...ใช้ได้ค่ะพี่...
ต้องครบขวบเวลาที่ตะขาบกัด บางคนได้ย่าง ปวดมากๆ มาเด้อขวัญเอ้ย เซาสาเด้อ
สวัสดีค่ะพี่สุ อแดงก็มีประสบการณ์มาแลกเปลี่ยนนะคะ โดนตะขาบกัด แต่ไม่ได้ไปรพ.
มันบวมและปาดมากๆ ถือพิษไข้เลยนะคะ...นอนซมหลายวัน...ทายาสมุนไพร...
เห็นตัวมันแล้วน่ากลัวจัง
ทั้งลูกชาย และพ่อบ้านช่วยกันดีจังค่ะ...พี่สุขา การรัดพิษของพี่น่ารักมากๆๆๆๆ
ขวัญมานะคะ...
อ่านเพลินดีมาก ไม่ได้เครียดตามไปด้วยความปวดไปด้วย เพราะมีความสุขกับสามี ภรรยา และลูกๆ
สวัสดีคะพี่สุ
ที่จิรงอ่านตั้งแต่แรกแล้วคะพอดีไม่ได้เข้าระบบ Net ช้ามากคะ
ขอให้หายไว ๆนะคะ จะได้ทันไปงานแต่งน้องเดย์
มาเยี่ยมไข้ค่ะ คนไข้จะหายป่วยแล้วรึยังเป็นห่วงนะ มาช้าแต่รักและเป็นห่วงนะค่ะเลยมาหาเป็นกำลังใจให้เสมอค่ะ หายไวๆ รักษาสุขภาพด้วยนะค่ะ
พี่สุหายดีหรือยังคะ
มาเยี่ยมด้วยความเป็นห่วงค่ะ
ขาบวมเลยน่ะค่ะพี่สู
ปวดมาก ๆ เลย
หายปวดเร็ว ๆ น่ะค่ะ
สวัสดีค่ะ อ่านแล้วหวาดเสียวนะคะ
ที่บ้านก็เคยเจอตัวใหญ่ขนาดนี้
โถ โถ.... พี่สุจ๋า
นึกว่าพี่สุหายไปไหนหนอ.... ที่แท้ก็โดยตะขาบกัด.... คงเจ็บและทรมานมากๆ เลย
เป็นกำลังใจให้ หายไวๆ นะคะ... จะได้ไปเม้าส์กันให้ซะใจไปเลย ไม่ได้คุยตั้งนานแล้ว น้องก็งานแสนยุ่งจนหัวฟู... อิ ฮิ
รักและคิดถึงพี่สาวเสมอ
จับมาทอดกรอบ หรือดองเหล้าเลยดีไหม อิอิ คิดถึงค่ะพี่สุ
สวัสดีค่ะพี่สุ
คุณย่าที่มาอยู่ด้วยเพิ่งโนตะขาบกัด ปวดมากๆเลยค่ะ
ตอนนี้ทายา ให้ยาแก้ปวด ประคบน้ำแข็งให้
มาเปิดดูบันทึก ขอคำแนะนาดีๆค่ะ
ดีคะพี่กอล์ฟเป็นเด็กบ้านนอกนะคะ เวลาโดนตะขาบกัด จะวิ่งหาคางคก หรือไก่ และ ลิ้นของกบนะคะ ของพวกนี้แก้พิษกัน
1ไก่ ใช้น้ำลายไก่ทาตรงที่ตะขาบกัดคะ หายปวดภายใน15นาที
2 คางคก เอาตัวคางคกมาถูตรง ที่ตะขาบกัด ห้ามทำร้ายคางคกนะคะ เดี่ยวพ่นยาง จะเกิดเรื่องอีก ไม่ถึง10นาทีหายคะ
3 ลิ้นกบ หาได้ตามตลาดสด น้ำลิ้นกบมาล้าง แล้วปิดตรงแผลที่ตะขาบกัด จากพิษที่วิ่งเข้าร่างกาย ก็จะโดนดูดด้วยลิ้นกบวิ่งกลับมาที่แผลเลยคร่ะ หัวยปวด ใน1นาที เลยทีเดียว
ปล.นะคะ ทุกวิทีที่กล่าวมา หนูทำมาหมดแล้ว ได้ผลจริงจัง ตามปรระสาเด็กบ้านนอกคร่า
ขอบคุณ ความรู้ ของทุกท่านที่เล่ามาล้วนเป็นวิทยาทานอย่างดี เพิ่งโดนตะขาบตัวใหญ่กัดตรงนิ้วโป้งเท้าข้างขวา
ไปหาหมอได้ทั้งฉีดยาชา2เข็มและยากระตุ้นภูมิคุ้มกันบาดทะยักและกินแก้อักเสบยาแก้ปวดก็ไม่หายปวดนอนปวดไปทั้งคืนเท้าบวม หลังจากนั้น2วันดีขึ้น ไม่ปวดบวมยุบลง พอใกล้หายกลับคันและบวมใหม่หลังจากวันโดนกัดได้หนึ่งอาทิตย์ ไปหาหมอเลยได้ยาฉีดฆ่าเชื้อเข้าเส้นผ่านสายน้ำเกลือนัดไปรับยา3วันและได้ยากินฆ่าเชื้อแบรคทีเรียมาด้วยผ่านไป3วันอาการบวมคงเดิมบวมแดงร้อนคันแต่ถ้าได้แช่น้ำเย็นประคบเย็นจะหายบ่ายวันนี้หมอนัดให้ไปดูอาการถ้าไม่หายจะให้นอนรพ.รับยาฆ่าเชื้อที่หนักขึ้น ตอนนี้ช่วยตนเองโดยลองทุกอย่างยาไหนดีเอามาทาเพื่อให้หาย ตอนนี้รู้สึกมันเริ่มดีขึ้นจากการเอากากใบย่านางที่ปั่นกินไปใส่น้าแล่วแช่เท้าไว้5นาทีแล้วเอาเท้าวางยกสูงบนเก้าอี้อีกตัวเริ่มรูสึกว่าสีแดงที่เท้าเริ่มจางลง หวังว่าบ่ายนี้คงรอดจากการต้องนอนรพ.
สัตว์จำพวกงู ตะขาบ ปลิง หอย ชอบไขมันทั้งกลิ่นและรสชาติ ย่อยเหยื่อด้วยแรงบดของกระเพาะ และ ใช้น้ำย่อยละลายเหยื่อ บางชนิดสูบกินเลือด
Sulfer ร่างกายมนุษย์สร้างไม่ได้
สัตว์จำพวกงู ตะขาบ ปลิง หอย ชอบไขมันในเลือดทั้งกลิ่นและรสชาติ ย่อยเหยื่อด้วยแรงบดของกระเพาะ และ ใช้น้ำย่อยละลายเหยื่อ บางชนิดสูบกินเลือด
Sulfer ร่างกายมนุษย์สร้างไม่ได้ ยังคงมีพิษ เชื้อโรคที่เล็กกว่าแฝงอยู่ในตัวสัตว์พวกนี้มากมายหลายชนิดแบบหวงถิ่น ไม่น่าเชื่อว่าคนเอาลักษณะนิสัยแบบนี้มาใช้
เพื่อครองสังคม ! ทหารลดอธรรม วิทยาศาสตร์ มีที่ชนะ วิทยาศาสตร์ คือ ชัยชนะที่ยิ่งใหญ่