ไปเที่ยวโคราชกันมั๊ย


โคราชเมืองท่องเที่ยวไม่ใกล้ไม่ไกล...จากขอนแก่น

 

การออกทริปช่วงหน้าร้อน คนส่วนใหญ่มักไปทะเลกัน เราจึงเชื่อว่าทะเลหน้าร้อนมีคนเยอะ ตอนนี้กระแสการท่องเที่ยวของเรามีแนวคิดสวนกระแส

  • Low Season ที่ไหนเราไปที่นั่น (อะ อะ ล้อเล่น) แบบว่าถูกเงิน คนน้อย แต่การเลือกที่เที่ยวให้เหมาะสมนั้นเป็นโจทย์ที่ตอบยากมาก แต่ internet ก็เป็นเครื่องมือที่ช่วยให้ข้อมูลที่ดีในการตัดสินใจทุกครั้ง 

 

 

 

 

้นเดือนพฤษภาคม ปี 2551 สภาพอากาศยังร้อนอบอ้าว แถมมีพยากรณ์อากาศให้ระวังลมมรสุม ซึ่งไทยเราเองเจอหางๆ ของนากรีส ที่ได้นำฝนล่วงหล่นมาให้เย็นกายเย็นใจบ้าง  แต่สำหรับประเทศพม่าเจอเข้าไปเต็มๆ นำมาซึ่งความสูญเสียที่ประมาณค่าไม่ได้  แสดงให้เห็นสัจธรรมของโลกที่ทุกอย่างย่อมมีสองด้านเสมอ

 เช่นเดียวกับเมืองโคราช ที่บางครั้งเราก็เห็นแค่เป็นเมืองผ่าน ดูเหมือนไม่มีอะไรน่าสนใจ หากมีวันหยุดเรามักจะเลือกชลบุรี ระยอง ลพบุรี มุ่งผ่านลงไปทางภาคกลางและภาคใต้ซะมากกว่า จะแวะก็ต่อเมื่อเข้าปั๊ม พักรถ เติมน้ำมัน และกินกาแฟ  แต่อีกมุมของเมืองโคราชเป็นเมืองที่เพียบพร้อม ที่เดินทางไปมาได้อย่างสะดวกสบาย  ที่ท่องเที่ยวก็ไม่ไกลที่จะมาจาก กทม. หรือ ขอนแก่นถิ่นที่เราพักอาศัย รูปแบบการท่องเที่ยวก็มีให้เลือกหลากหลาย อาหารการกินก็แยะไปหมด ของซื้อของฝากก็มีให้เลือกไม่หวาดไม่ไหว ดังนั้นวันนี้โคราชจึงเป็นจังหวัดที่เราเลือกสำหรับออกทริปครั้งนี้ หลังจากที่ถกถียงกันว่าจะไปทะเล (ทะเลไหนดี) หรือจะไปอ.ปาย(คนที่ปายยังมาเที่ยวตราด) เอ้าเราไปเที่ยวโคราชกัน โดยโฟกัสไปที่ ปากช่อง แบบว่า ถ้าไปเขาใหญ่ ก็ไม่รู้จะทำกิจกรรมอะไรกัน เดินป่า และแคมป์ปิ้งเวลาและสังขารก็ไม่ให้เท่าไหร่ แถมสมาชิกส่วนใหญ่ก็เป็นประเภทบูติค...เอาแบบสบายหน่อยแล้วกัน

เราทำโปรแกรมกันคร่าวๆ สำหรับ 2 วัน 1 คืน ครั้งนี้มีผู้ร่วมขบวนทั้งหมด 6 คน รถ 2 คัน เดี๋ยวหลง ซึ่งโปรแกรมนี้ปรับเปลี่ยนได้ตามสถานการณ์  ส่วนหนึ่งได้ข้อมูลมาจาก www.pakchongdd.com/

  วันที่ 1      เริ่มต้นทริปด้วยการกินไข่กะทะ เกาเหลา ของขึ้นชื่อในเมืองขอนแก่น ออกจากขอนแก่นได้จริงๆ ก็เกือบ 10.00 น. พลขับขับรถตามสบาย ด้วยถนนสี่เลนระยะทางจากขอนแก่น-โคราช ที่ห่างกัน  197 กม. จึงใช้เวลาประมาณ 3 ชม. นัดเจอกันที่ร้านอเมซอนปั๊ม ปตท. เลี่ยงเมืองขาออกโคราช-กทม. ซึ่งร้านนี้พลพรรครักเอยของเราชมว่า ทำรสชาติกาแฟได้อร่อยและมีมาตรฐานเสมอ Accessories เพียบ เช่น ซินาม่อนป่นและผงโกโก้ เป็นต้น (บางร้านไม่เตรียมให้เลย)

 

 

           

 

ต่อจากนั้นเราตั้งใจจะทานข้าวเที่ยงที่ร้าน ลาน-ลี-ลาร์ ซึ่งร้านนี้ขอเลย ต้องไปให้ได้ เพราะข้อมูลจาก Internet นำเสนอข้อดีไว้มาก ซึ่งเพื่อนร่วมทริปของเราก็ไม่ขัดคอ  พอรถจอด บรรยากาศ รสชาติอาหาร ไมตรีของเจ้าของร้าน พร้อมด้วยมุมสวยๆ นั้นไม่ทำให้เราเสียใจเลย...ลาน-ลี-ลาร์ เป็นสวนอาหารที่จัดกึ่งบาหลี ขายอาหารไทย กาแฟสด เครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ มีที่พัก และจำหน่ายของตกแต่งบ้าน ไปง่ายมาง่ายค่ะ จากถนนสาย 2 หากมาจากโคราชเลี้ยวซ้ายเข้าสู่ถนนมุ่งตรงไปเขาใหญ่ ที่มีชื่อเฉพาะว่า ถนนธนรัชต์ ลาน-ลี-ลาร์ จะอยู่ด้านซ้ายมือ กม. 9 มีป้ายบอกตลอดทาง ราคาอาหารก็เหมาะสม ราคาเริ่มตั้งแต่ 50-180 บาท เสียดายที่ไม่ได้ลองชิมสตอเบอรี่ปั่นที่ทางร้านรับรองว่าดื่มแล้วจะติดใจ ที่ร้านนี้พวกสาวๆ ถ่ายรูปทุกมุม...จนต้องแซวว่า ถ่ายรูปเสร็จก็สามารถกลับขอนแก่นได้เลย โทร. 044-365501

หลังจากทานเข้าเสร็จ เราตั้งใจจะแวะเข้าที่พัก แล้วไปแวะเที่ยวไร่องุ่น เอ้าท์เลท์วิลเลจ และค่ำๆ พอหายร้อนแวะไปไหว้พระขาวบนเขา (จำชื่อวัดไม่ได้)ที่อยู่ใกล้กับฟาร์มโชคชัย....ซึ่งต้องเดินขึ้นบันไดไร้อยกว่าขั้น จิ๊บๆ…แวะกินกาแฟสดและไอศครีม อืมม์มิลค์ ที่ฟาร์มโชคชัยด้วยยังได้

แต่มีเหตุที่ทำให้โปรแกรมของเราต้องปรับเปลี่ยน...ด้วยหางของพายุนากรีส ที่ทำให้มีฝนกระหน่ำ ดังนั้นเวลาหลังบ่าย 2 เราจึงใช้ในการขับรถเลือกที่พัก โดยขับรถไปในไร่องุ่นบ้าง ไร่ไม้ผล สีเขียวๆ ของต้นไม้ใบหญ้าและเม็ดฝนดูโรแมนติกดี เสียอย่างเดียวที่ไม่สามารถลงไปถ่ายรูปได้

แบบว่าขับรถจนเหนื่อย เห็นโหม้ดว่าที่พักแต่ละแห่งเป็นอย่างไร เช่น ภูผาหมอกที่เหมาะกับคนรักการทำกิจกรรมกลางแจ้ง เขาใหญ่วนาลี ที่เหมาะกับคนที่ชอบบรรยากาศเงียบๆ  สักภูเดือน สวยและหรูมาก ราคาบ้านพักและห้องพักแบบโรงแรมรู้สึกจะราคาเท่ากัน  ถ้าเลือกได้หลายคนคงเลือกบ้านพักบนเนินเพราะบรรยากาศดีกว่า แต่พอเริ่มมืด...เราก็เลือกวิลลา พาราดี ที่พักที่เรามีข้อมูลมาก่อน...ไม่ผิดหวัง 

 

 

 

   วันที่ 2    หลังจากตื่นนอนในวิลลา พาราดี สูดอากาศแสนสดชื่นและอาหารแสนอร่อยแล้ว โปรแกรมไร่องุ่นจึงมาเป็นอันดับหนึ่ง เราเลือกแวะไร่สัตยา ที่อยู่ห่างจากที่พักเพียง 1 กม. ทำไร่องุ่นแบบปลอดสารพิษ เห็นมุ้งสีขาวครอบแปลงปลูกดูแปลกตาไปอีกแบบ ที่นี่ปลูกองุ่นไร้เมล็ดพันธุ์แบล็คโอปอล...ซึ่งองุ่นอายุ 1 ปีจึงเป็นให้ผลผลิตได้... ชิมของฟรีจนพุงกาง และก็อร่อยติดใจ...ได้ซื้อติดไม้ติดมือมาทานที่บ้านต่อ...ของฝากอื่นๆ ก็มีริมสองข้างทาง กลางดงก็มีผลไม้ให้เลือกซื้อมากมาย หากอยากแวะชมไร่องุ่น...ที่ปากช่องมีให้เลือกแวะชมตลอดเส้นทาง

                          

ใกล้เที่ยงเราตั้งใจจะแวะสวนอาหารและซุปเปอร์มาเก็ตต้นไม้ สวนเมืองพร ที่มองเห็นทัศนียภาพของเขื่อนลำตะคองแบบพานอรามา ที่นี่ขึ้นชื่อเรื่องสเต๊กเนื้อนกกระจอกเทศ อาหารไทยอื่นๆ ก็อร่อย แต่ด้วยมื้อเช้าที่กินค่อนข้างล่าไปจึงยังไม่ย่อย พลพรรคจึงบอกไปเรื่อยๆ หิวเมื่อไหร่ก็แวะกินอะไรง่ายๆ ถัดจากลำตะคองจะมีผลิตภัณฑ์จากหินทรายสกัดจำหน่ายสองข้างทางให้เลือกซื้อ เช่น ตะเกียงหิน และมีสวนท้าวสุรนารีให้แวะพัก

ช่วงบ่ายเราตั้งใจจะแวะไปด่านเกวียน และแดดร่มลมตก เราจะแวะที่อุทยานประวัติศาสตร์พิมาย ซึ่งเป็นทางผ่านกลับขอนแก่น ห่างจากโคราชประมาณ 1 ชม. เท่านั้นเอง

แต่แผนไม่ได้เป็นไปดังแผน  ตกลงเราได้ก๋วยเตี๋ยวเป็ด ผัดหมี่โคราชและส้มตำแถวหน้ามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสานเป็นอาหารกลางวัน จากนั้นถนนสาย 224 มุ่งสู่อำเภอโชคชัยก็นำเราไปสู่จุดหมายต่อไป ประมาณ กม.ที่ 16 เราก็ถึงด่านเกวียน ที่สองฝากฝั่งล้วนแต่เป็นผลิตภัณฑ์ประดับตกแต่งบ้านและสวน  ที่ทำมาจากดินเผาและหินทราย มีหลากหลายสไตล์ มีตั้งแต่ราคา 5 บาท ถึงหลักหมื่นเลยหล่ะ ซึ่งเห็นแล้วต้องภูมิใจในงานฝีมือของคนไทยเรา  เราแวะดูที่ร้านชาวดิน ที่เป็นงานคัด มีดีไซน์และงานส่งออก ราคาจึงค่อนข้างสูง  เมื่อ 2 ปีที่ผ่านมามีคนท้องถิ่นแนะนำให้ไปเลือกชมผลิตภัณฑ์ฝีมือชาวบ้านที่หมู่บ้านหนองโสน ซึ่งเลยจากด่านเกวียนไปอีกประมาณ 5 กม. สังเกตได้ง่ายว่าหากพบป้ายให้เลี้ยวขวาไปสวนสัตว์ให้ขับเลยไปอีกจี๊ดหนึ่ง หมู่บ้านนี้อยู่ด้านซ้ายมือ ประมาณ กม.ที่ 21 ถนนสายโคราช-โชคชัย ตลอดระยะทางประมาณ 5 กม. ของหมู่บ้าน สองฝากถนนจะเห็นหน้าร้านที่วางโชว์สินค้า และรอบๆ จะเห็นชาวบ้านกำลังทำผลิตภัณฑ์จากหินทราย...ผลิตภัณฑ์ที่นี่ส่วนใหญ่จะเป็นหินทรายแบบแกะบล๊อคและแบบพ่น(ม่ายรุว่าเรียกถูกหรือเปล่า ก้ออยากเล่านี่นา)   ราคาถูกรับรองได้...ถ้ามีเด็กๆ มาด้วยยิ่งดีใหญ่...เป็นแหล่งเรียนรู้ที่ให้ความรู้มากมาย...น่าสนใจนะคะ...

ฝีมืองานของชาวบ้านหนองโสน    

ตกลงปราสาทหินพิมายก็เป็นหมัน เพราะเราใช้เวลาเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ที่ด่านเกวียนและหมู่บ้านหนองโสนมากไปหน่อย...เอาไว้คราวหน้าก็แล้วกัน...ซึ่งครั้งต่อไปหากไปวันเดียวกลับ...เรามีแผนจะไปเที่ยวพิพิธภัณฑ์ไม้กลายเป็นหินบ้าง...

ห็นรายการทีวีนำเสนอแล้วน่าสนใจดีเหมือนกัน

มี link บันทึกของเพื่อน ๆที่ไปด้วยกัน...เขียนโดยคุณวิลาวัณย์  http://gotoknow.org/blog/formal2/180927

 

หมายเลขบันทึก: 181220เขียนเมื่อ 8 พฤษภาคม 2008 12:00 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 19:02 น. ()สัญญาอนุญาต: สงวนสิทธิ์ทุกประการจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (9)

น่าสนใจ  ขอให้มีความสุข สนุกสนาน

สวัสดีค่ะ อาจารย์ประจักษ์

สนุกมากค่ะ...ก็ได้เติมแบตให้ตนเอง...ตอนนี้ก็ลุยงานคะ..แต่ก้แว้บ..แวะมาบล๊อคอยู่เรื่อย

เป็นทริปที่น่าสนใจมากเลย

อ่านแล้วดูน่าลองไปเที่ยวบ้างครับ

ป้า..จีนันก็ซื้อกระหน่ำ..จิงจิ๊ง(สโลแกน..ถูกเหมือนได้เปล่ายังใช้ได้เหมอ.อิอิ)จนลืมไปว่า..รถไม่มีที่จะวางแล้ว..แป่ว!!!!ดีนะที่แอะแอ้..ไม่ขนทั้งคนทั้งของออกนอกรถน่ะ..555

แล้วเราไปเที่ยว.กระจายรายได้ออกสู่ชุมชนกันอีกนะจ๊ะ..^^(ยังไม่เข็ดจ้า...)

  • Wow miss Korat ...na ka
  • Have a good day...see you soon ka

ขอบคุณคุณนารี ที่แวะมาทักทายค่ะ

คงสบายดีนะคะ

ชอบเรื่องราวต่างแดนที่คุณนารีนำมาฝาก...อ่านสนุกค่ะ

แนะนำร้านอาหารสไตล์อตาเลี่ยนในบรรยากาศต่างประเทศ...มีกาแฟขาย อาหารเป็นมื้อกลางวันและมื้อค่ำ มีร้านขายของที่ระลึก ได้รับคำแนะนำผ่านเว็บมาเช่นกัน จะหาโอกาสไปอยุ่เหมือนกัน ใครไปมาแล้วช่วยส่งข่าวด้วยจ้า

ชื่อร้าน primo-Posto ร้านนี้ตั้งอยู่บนถนนกุดคล้า-ผ่านศึก เป็นถนนที่เชื่อมระหว่างถนนมิตรภาพ กับถนนธนรัชต์ (ทางไปเขาใหญ่) ค่ะ

โทร. 084-035-0554 www.primo-posto.net

 

 

 

ชีพจรลงเท้านะคะ พี่ก็ชอบปากช่อง

พี่แก้วคะ P

ตอนนี้ตุ่นอยากไปที่ไหนๆ เพราะร่างกายยังแข็งแรงอยู่

สวนกระแสการออมมาก...ที่บอกว่าต้องออมเกินไว้ใช้ในบั้นปลายชีวิต

และชอบปากช่องเหมือนพี่แก้วค่ะ....ด้วยว่าใกล้...เหมาะกับร่างกายที่เริ่มไม่ไหวกับการนั่งรถเป็นระยะเวลายาวนาน...

พี่แก้วสบายดีนะคะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท