มีโอกาสไปเป็นผู้สังเกตการณ์กับครอบครัวชาวบ้านที่ไปปฏิบัติการ “สร้างความสุขให้ครอบครัวเข้มแข็ง” ทริปนี้ประกอบด้วย คน 3 รุ่น รุ่นแรกแย้มคือ รุ่นคุณปู่-คุณย่า รุ่นเฮฮา คือ รุ่นพ่อ-แม่ และอาๆ และรุ่นจูเนียร์ คือ รุ่นหลาน ผู้ทำหน้าที่เป็น Tour Reader จึงค่อนข้างหนักใจ เพราะอาหารการกินก้อแตกต่างกันแล้ว ปู่ชอบลาบ หลู่ คุณย่าอะไรก็ได้ที่ไม่เปรี้ยวไม่เผ็ด ส่วนหลานตัวน้อยขอให้มีปีกไก่อบหรือย่าง แต่เรื่องอาหารก็ไม่ใช้เรื่องใหญ่ ใครจะคิดว่าเจ้าโฟล์คที่กินแต่ไก่ทอดเป็นหลัก จะรู้จักกินข้าวต้มเครื่อง ทั้งที่หากเป็นที่บ้านคงไม่คิดแม้แต่จะลอง เช่นเดียวกับคุณปู่ที่กินขนมจีนหล่มสักหมดไปจานใหญ่เอ๊บ....ซึ่งเมื่ออยู่บ้านร้อยวันพันปี ไม่คิดที่จะมองด้วยซ้ำ....วัตถุประสงค์แรกเรื่องการปรับตัวจึงผ่านไปได้ง่ายดาย สิ่งที่ได้รับคือการเรียนรู้ความแตกต่างระหว่างช่วงวัย...ทำให้การอยู่เป็นครอบครัวใหญ่มีความสุขมากยิ่งขึ้น
เวลา 2 วันและความหนาวเย็น เป็นตัวกำหนดที่ทำให้เราเลือกเขาค้อ ซึ่งไม่ไกลจากขอนแก่นเกิน 3 ชม. (แล้วแต่ความเร็วและการแวะ) แม้ว่าจะไปกันหลายหน แต่เขาค้อเป็นคำตอบที่ดีสำหรับวันว่าง 2 วัน
วันที่ 1 เรามีแผนแวะอุทยานแห่งชาติน้ำหนาว น้ำหนาวนี้ขึ้นชื่อเรื่องการเดินป่าและดูนก หากมีกล้องส่องทางไกล แค่เดินบริเวณที่ทำการฯ ก้อมีนักสวยๆ ให้ดูแล้ว อาหารที่นี่อร่อยค่ะ โดยเฉพาะร้านป้าตุ๊ จึงถูกเลือกเป็นที่พักท้องช่วงเที่ยง ช่วงรออาหารเรามีกิจกรรมดูสไลด์แนะนำอุทยาน และดูพิพิธภัณฑ์เกี่ยวกับสัตว์และป่าน้ำหนาว ได้ความรู้ดีเหมือนกัน...ขอบอกอีกอย่างว่า ใครชอบซื้อเสื้อที่ระลึก...เสื้อน้ำหนาวที่สวยสุดยอด...จริงหรือโม้ก็ต้องพิสูจน์กันต่อไป (มีค่าเขาชมอุทยาน)
ต่อจากนั้นเรามุ่งหน้าไปเขาค้อ ระหว่างทางมีจุดชมวิว และร้านกาแฟให้คนชอบง่วงแวะจิบ เล็งร้าน in&out ไว้หลายรอบ...แต่ไม่ได้แวะสักที
ที่เขาค้อมีจุดท่องเที่ยวหลายจุด เช่น ไร่บีเอ็น ร้านเขาค้อทะเลภูสำหรับช้อปของฝากและพักชิมกาแฟสด เจดีย์กาญจนาภิเษก หอสมุดนานาชาติ พิพิธภัณฑ์อาวุธ(ฐานอิทธิ) อนุสรณ์สถานผู้เสียสละ พระตำหนัก ไร่ปลูกพืชแบบปลอดสารพิษ น้ำตกศรีดิษฐ์ เนินมหัศจรรย์ที่รถขึ้นเขาได้เองแม้ดับเครื่อง Amazing อยู่ตรงกลางกิโลเมตรที่ 17.5 ถนนายนางั่ว-สะเดาพง หมายเลข2258 ซึ่งเลือกเที่ยวได้ตามความต้องการ ครอบครัวนี้เที่ยวเพียงที่ สองที่ ด้วยว่าไม่เร่งรีบนัก ไม่แปลกใจเลยที่เด็กๆ เห็นพิพิธภัณฑ์อาวุธ จะตื่นเต้นกับซากยุทโธปกรณ์และหน้าผาที่มองไปเห็นชุมชนอยู่ด้านล่าง มองเห็นเจดีย์สีขาวที่เพิ่งผ่านมา จึงสนุกสนานกันใหญ่ แต่ที่น่าแปลกใจ คือ ป่าป๊ะของเด็ก หรือพี่ชายเรากลับติดใจเดินออกจากพิพิธภัณฑ์อาวุธเป็นคนสุดท้าย ด้วยว่าเค้าเกิดช่วงวัยในยุค 16 ตุลา จึง in กับสถานที่....และคงรู้สึกได้ถึงเวลาที่ย้อนกลับ แม้แดดจะจ้าในช่วงบ่ายแต่อากาศเย็นและท้องฟ้าสีสวย
จากการแนะนำของน้องอ้อมทำให้เราได้บ้านรชดาเป็นที่พัก จำนวนบ้านพักมีประมาณ 4-5 หลัง ราคา 2,500 บาท รวมอาหารเช้า 1 มื้อ มีทีวี น้ำอุ่น จุคนได้หลังละ 8-10 คน มีระเบียงและลานสำหรับสังสันท์ ความสุขจักรวาลล้านโลกเริ่มขึ้นตอนไหนเราไม่ทราบ แต่พอเด็กๆ เห็นที่พักที่เป็นเรือนไม้ 2 ชั้น ชั้นบนเป็นห้องใต้หลังคาเท่านั้น เสียงกรี๊ดกร๊าด และแย่งกันวิ่งขึ้นไปห้องใต้หลังคาเพื่อขอจองห้อง...ทดลองนอน (แบบว่ากลัวหัวชนหลังคา) ในขณะที่ด้านล่าง รุ่นเฮฮาก็เล็งห้องรับรองซึ่งเป็นกระจกยาว เปิดออกรับลมเย็นธรรมชาติ มองเห็นภาพพานอรามาเป็นถนนสายยาวพาดผ่านเนินเขาสีเขียว คลิ๊กซะไม่มี และแล้วมีสมาชิก 4 คนยึดที่นี่เป็นที่นอน เด็กๆ วิ่งเล่น หยอกล้อกัน อาจจะหกล้มเจ็บตัวบ้าง ซ่อน-แอบตามพุ่มไม้ และทำหน้าที่เป็นตากล้องให้อาๆ แม่ครัวเตรียมการปิ้งย่างและ Drink for Health ไปเรื่อยๆ มี BBQ ที่หมักไว้เรียบร้อย ลูกชิ้น ปลาหมึก และกุ้ง ซึ่งแพคมาในกล่องโฟม...น้ำจิ้มนั้นปั่นสำเร็จมาจากบ้าน...บอกแล้วว่ากึ่งสำเร็จรูป...ขอให้มีกิจกรรมร่วมกันไม่ต้องเหนื่อยแรงนัก ไม่ขอหน้ามันจ้า....ของกินเล่นอีกอย่างคือ “แจ่วฮ้อน” หั่นทุกอย่างไว้ในกล่องโฟม...เพียงมีกระทะไฟฟ้ามหัศจรรย์ ก้อจะได้ซุปเนื้อรสชาติพื้นเมืองซดอุ่นๆ อา-หร่อย บ้านรชดา 086-936-1845 http://www.rachada.tourkhaokor.com/
เริ่มมืด เด็กๆงัดเอาเครื่องกันหนาวสุดฮิปมาสวมใส่...บรรยากาศเริ่มสนุกสนานมากยิ่งขึ้น หลายคนแหงนหน้าดูดาวบนฟ้า... น่าเสียดายที่คืนนี้ฟ้าไม่เปิดจึงไม่มีดาวให้เห็น....อาหารที่สั่งกับทางรีสอร์ทเริ่มทยอยมา วงสังสันท์ก็เริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการ ....การสังสันท์ท่ามกลางคนคุ้นเคย จึงทำเครื่องดื่มรสดีขึ้น ก่อนเด็กจะง่วง เราชวนกันไปปิดไฟคลุมโปง เล่าเรื่องหีบหลอนซ่อนวิญญาณ...ในห้องใต้หลังคา บรื๋อส์...มันส์ซะไม่มี….
ความสุขของครอบครัวนี้เริ่มอีกครั้งเมื่อเวลาตี 5 ด้วยเสียงเพลง Happy Birthday และการเป่าเค้กวันเกิดให้วาระอายุ 69 ปีของคุณย่า กินเค้กแกล้มกับกาแฟอุ่นๆ ริมระเบียง....สุขใจซ้า....เริ่มเห็นพ้องกับหลานตัวเล็กแล้วในความสุขจักรวาลล้านโลก ด้วยบ้านรชดามีห้องน้ำเพียงห้องเดียว สมาชิก 5 คน จึงแยกไปชมบรรยากาศของทะเลหมอกเหนืออ่างเก็บน้ำรัตนัย...ที่เหลือทยอยกันอาบน้ำ และจัดเตรียมข้าวของให้พร้อมสำหรับการเคลื่อนที่ เจ้าของบ้านพักบอกว่าหากวันไหนมีลมพัด จะไม่มีหมอก...จริงแฮะ จุดชมวิวไม่มีหมอก แต่หลานๆ บอกว่าอากาศเย็นฉ่ำสบายใจจังเล้ย...นี่แหละเสี้ยวหนึ่งของความสุขจักรวาลล้านโลก
พอพรรคพวกกลับมาจากชมบรรยากาศยามเช้า…ทั้งคณะก็ย้ายไปเรือนครัว สำหรับรับประทานอาหารเช้า มีข้าวต้มกุ้ง+หมูสับ+เห็ดหอม กาแฟ+โอวัลติน และขนมปังปิ้ง...ใช้ได้ค่ะ เสียดายแต่แยมไม่มีรสให้เลือก และไม่มีเนย...มีแต่มาการีน จากนั้น...เราจะไปภูทับเบิกกัน ผ่านร้านขายของข้างทาง เช่น ยอดฟักแม้ว เสาวรส ปลาส้มกำนันจุล ถัดมาหน่อยจะเห็นทิวแถวขายต้นไม้ กล้วยไม้ มีเวลาก็แวะลงไปดู ที่น่าซื้อคือต้น ลำโพง...หรือมะเขือบ้า มีหลากหลายสี ปลูกง่าย...ดอกสวยดี ได้ของที่ระลึกติดไม้ติดมือเป็นของฝากจนสำราญใจแล้ว จุดมุ่งหมายต่อไปคือทับเบิก ระยะทางไม่ไกลนัก แต่ด้วยเพิ่งเสร็จสิ้นจากฤดูฝน ถนนจะค่อนข้างแย่ พี่สะใภ้จึงเกิดอาการ มาว ววว รถ...แต่พอถึงทุ่งกะหล่ำปลีที่มีพื้นที่ปลูกใหญ่ที่สุดในประเทศที่สุดลูกหูลูกตา และเขียวชอุ่มแล้ว ทำให้หายอาการเมารถเป็นปลิดทิ้ง...เกิดอาการบ้ากล้องแทน...อิอิ อะอ่ะ ล้อเล่น นอกจากกะหล่ำแล้ว ยังมีผักกาดขาวด้วย....เป็นแหล่งเรียนรู้ชั้นยอดสำหรับเด็ก ความตื่นตาตื่นใจนี่แหละทำให้ความสุขของพวกเด็กๆ พุ่งขึ้นถึงระดับจักรวาลล้านโลกเลยทีเดียว หากมีเวลาพอเราตั้งใจจะพาเด็กไปผจญภัยกันต่อที่ลานหินปุ่มและผาชูธง ที่อุทยานภูหินร่องกล้ากัน...เด็กๆ คงกรี๊ดพิลึก ซึ่งอยากให้เด็กๆ ได้เรียนรู้เรื่องธรณีวิทยานอกห้องเรียนบ้าง แต่เวลาและอากาศไม่เป็นใจเลย...คงต้องเอาไว้งวดหน้า
ลงจากทับเบิก...แวะกินขนมจีนเส้นสดที่ทำจากสมุนไพร เส้นสีเหลืองทำจากขมิ้น เส้นสีชมพูทำจากเปลือกต้นฝาง เส้นสีม่วงทำจากดอกอัญชัน และเส้นสีส้มทำจากแครอท เด็กๆ ก็ได้เรียนรู้การทำเส้นขนมจีนแบบจะๆ แถมอร่อยด้วย อย่างร้านเจ้สั้น (Jeson) มีน้ำยา 5 อย่าง คิดราคาเฉพาะขนมจีน สั่งเพิ่มได้อีกกับ(และคิดราคาเพิ่ม):ไข่ต้ม ลูกชิ้นปูทอด ไก่ทอด ให้สั่งมากินแนม...อิ่มแปล้จนถึงขอนแก่นเลย หาง่ายค่ะ มาจากเขาค้อ บนถนนสายพิษณุโลก-ขอนแก่น ถึงสี่แยกพ่อขุนผาเมือง ให้เลี้ยวซ้าย ขับเข้าไปในตัวเมือง เจอสามแยกกลางเมือง ให้เลี้ยวซ้ายอีก จะเห็นบ้านพักตำรวจอยู่ด้านซ้าย ขับต่อไปอีกนิดจะเห็นศาลจังหวัดอยู่ด้านขวา ให้ชะลอรถ เพราะกำลังจะถึง4 แยกไฟแดงเล็กๆ ให้เลี้ยวขวา สังเกตจะพบร้านขายโลงศพอยู่หัวมุมด้านซ้ายมือ ชัวร์ป๊าบเลยมาถูกแน่นอน...ขับต่ออีก 200 ม. จะเห็น 4 แยก ขับตรงลงไป...ประมาณ 150 ม. จะเห็นร้านขนมจีนเจ้สั้นอยู่ขวามือ มีที่จอดรถด้านใน ถัดกันไปก็มีอีก 1 ร้าน ชื่ออะไรจำไม่ได้...แต่อร่อยเหมือนกันค่ะ
อิ่มหนำกันดี...ก่อนรถออก เราถามว่าหลานๆ ว่า ถ้าความสุขเต็ม 10 หนูจะให้ความสุขที่เราได้ทำกิจกรรมร่วมกันใน 2 วันนี้เท่าไหร่ หลานๆ แย่งกันตอบ
ฟ้า: หนูให้มากกว่า 10 ค่ะ
โฟล์ค: โฟล์คให้จักรวาลล้านโลกเล้ยยยย
ฟ้า: งั้นหนู หนูก็ให้จักรวาลล้านโลกเหมือนกัน
สรุปที่จักรวาลล้านโลกค่ะ 5555 การท่องเที่ยวครั้งนี้0จึงประสบความสำเร็จตามเป้าหมายของทริปเลย
· ความรักและกิจกรรมในครอบครัวสร้างภูมิคุ้มกันให้ชีวิตได้
· แหล่งท่องเที่ยวเป็นห้องเรียนที่น่าตื่นเต้น...และเสริมสร้าง EQ ร่วมกับ IQ
· ช่วงวัยที่แตกต่าง ทำให้มีการปรับตัวและยืดหยุ่น เข้าใจกันมากขึ้น นอกจากรักและทำให้เอาใจใส่ต่อกันมากยิ่งขึ้น
ความสุขจักรวาลล้านโลกจึงมีที่มาดังนี้แล
เว็บแนะนำ ที่ท่องเที่ยวเขาค้อ
http://www.thai-tour.com/thai- our/North/petchbun/data/place/kaoko.htm
บันทึกความทรงจำ "และวันนี้เราก็ถึงทับเบิกจนได้" (ก.พ. 2551 เป็นฤดูเก็บเกี่ยวจ้า แต่ได้บรรยากาศอีกแบบ)http://gotoknow.org/blog/life-is-beutiful/163325
สวัสดีเจ้าค่ะ
งั้นน้องจิขอเป็นรุ่นจูเนียร์แล้วกันนะเจ้าค่ะ อิอิ คิดถึงค่ะ รักษาสุขภาพด้วยนะเจ้าค่ะ เป็นกำลังใจให้เจ้าค่ะ...หนูจิ
ว้าว..มาพร้อมๆกันเลยพี่เรา...เย้ๆๆๆ
สวัสดีค่ะ
ขอบคุณค่ะที่เล่าให้อ่านทวนความหลัง
เย้ย...รูปครายเนี่ย..คุ้นๆนะ...
ทริปนี้..หรรษามากเลยจ้า..(สนุกสุดในจักรวาลล้านโลกของโฟล์คเฟค จริงๆอิอิ)
รูปงามจังใครตากล้องน๊า...
คิดถึงพี่ตุ่น พี่แอ้ นายหมูหยองจังจ้า..^^
ว๊าว...อยากไปด้วยแล้วดิ...เสียดายจัง
หนมจีนน่าอร่อยมั๊ก...อยากตำแก้ว..อิอิ
สวัสดีค่ะ ท่าน ผอ.ประจักษ์ และน้องโก๊ะจิ
สวัสดี คุณครูแอ๊ว
สวัสดีค่ะ ครูอ้อย
ดีจ้า กุ๋มกิ๋ม
สวัสดีค่ะ คุณ Pompier
สวัสดีค่ะ น้อง suksom
ป้าจ๋า
หลานๆชอบแบบนี้ คราวหน้าเราจัดทริปกันอีกเหอะ ว่าแต่ว่าต้องให้ฟ้ากล่อมปู่ให้ได้ก่อนเน๊าะ เราจะไปไหนดีคราวหน้า..
หวัดดีจ้า n'stargate
หวัดดีจ๊ะ อิจฉาจังเลย บรรยายกาศดี อบอุ่น เห็นแล้วอยากไปด้วยจังเลย ทำอย่างไรดี อ๋อ ..รู้เลยอ่านกลับไปกลับมาหลายๆเที่ยวก็คงซึมซับได้แน่
ความสุขเล็กเกิดขึ้นได้เสมอค่ะ...พี่ปู
กว่าครอบครัวจะก้าวเดินพร้อมกันหน่ะยากมั่กมาก...เพราะกิจธุระไม่ตรงกันเลย
เรื่องของครอบครัวคงต้องยกความดีความชอบให้ผู้เป็นโปรโมเตอร์
และการสละเวลาของทุกคน...