ระหว่างทางทองผาภูมิไปสังขละบุรีเราแจ้งสมาชิกทริป ว่า จะแวะพักผ่อนอิริยาบถที่จุดชมวิวป้อมปี่ ที่จะมองเห็นวิวแม่น้ำจากที่สูง เผอิญสายฝนไม่เป็นใจ...โทษฝนก็คงไม่ได้...เราเลือกที่จะมาออกรอบหน้านี้เองนี่นะ
ก่อนเข้าตัวเมืองสังขละ คณะเราแวะไปด่านเจดีย์สามองค์ ห่างจากตัวเมืองไม่ถึง 20 กม. วันนี้ด่านปิดค่ะ จึงไม่ได้ข้ามไปเก็บบรรยากาศที่ประเทศเพื่อนบ้าน
กลับเข้ามาในตัวเมือง แวะกราบพระที่วัดสมเด็จ มาตามถนนสายหลักก่อนถึงตัวเมือง เห็นแน่นอน อลังการงานสร้างมากเป็นที่ตื่นตาตื่นใจกับศาสนวัตถุในศิลปะมอญ ....เล่าหรือยังคะว่าวันนี้เราจะนอนบนแพซองกาเรียน้อยกัน...ป้าตุ่นหวั่นใจและวิตกจริตเล็กน้อยกับการที่พาคณะทั้ง 10 คน อาศัยบนแพท่ามกลางสายฝน....มันทำให้ทุกอย่างแหยะๆ แฉะๆ ไปหมด...และแล้วน้องแจ๊ค ที่มีเพลง Way back in to Love เป็นเพลงรอสายก็จัดการทุกสิ่งทุกอย่างให้เรียบร้อย (ติดต่อแพโทร. 081-294-9308, 034-595-396)
จริงๆ แล้วที่นี่มีที่พักขึ้นชื่อ ตั้งอยู่ริมน้ำ แต่เราจองไม่ทันค่ะ ....เต็ม...การนอนแพในแม่น้ำซองกาเรีย ใต้สะพานมอญที่เราใฝ่ฝัน...จะเป็นโหมดการเรียนรู้ชีวิตที่แตกต่าง
หะแรกตั้งใจจะให้ลากแพออกไปกลางแม่น้ำ ท่าจะบรรยากาศดี มีความเป็นส่วนตัว และไม่กังวลว่าเสียงที่ดังของเราจะรบกวนใคร...แต่แผนนี้ก็ต้องยกเลิกไป เนื่องจาก ถ้าเป็นแพผูก จะมีน้ำประปาให้ใช้ตลอดเวลา-มีเฉพาะเป็นบางแพนะคะ (กังวลว่าไปกลางน้ำจะดูแลตัวเองอย่างไร...น้องแจ๊คบอก จะอาบน้ำก็โตนน้ำต๊ามเลย...อิอิ อ้าวถ้วยจานหล่ะ จะล้างทำงัย????) ยังงี้ต้องซื้อน้ำสะอาดไว้ใช้ ...ระหว่างที่ผลัดกันอาบน้ำและรออาหารเย็น หลายคนเลือกที่จะคุยกัน บางคนก็หาเครื่องดื่มจิบ บางคนไม่มีสิทธิเลือก ถูกเพื่อนกลั่นแกล้งทุกวินาที และมีบางคนชวนกันเล่นน้ำแม้แสงจะเริ่มหมดไปจากขอบฟ้าแล้ว
ใต้สะพานดูเหมือนน้ำไม่ไหล...แรกๆ ไม่กล้าลง...แต่น้ำสะอาด ไม่มีกลิ่นคาว และเช๊คแล้วว่าแพมีถังเก็บสิ่งปฏิกูล...แน่นอนถึงเราจะมีคนฝีมือทำครัวเป็นเลิศ วันนี้เราจะสั่งอาหารจากทางร้านซองกาเรียรีสอร์ทค่ะ การรับส่งอาหารก็ต้องส่งมาจากฝั่งด้วยระบบเรือหางยาว Delivery เหตุผลนี้จึงเป็นตัวแปรที่ทำให้เราไม่ได้ลากแพออกไปกลางน้ำ นอกจากอาหารเย็นแล้ว คณะเรายังมีข้าวต้มรอบ 5 ทุ่ม อีก...กุ้งแม่น้ำตัวโตเคี้ยวอร่อยปากม๊ากมาก...เสียดายที่หลายคนหลับไปก่อน...อดเลย
แพขนาด 1 ห้อง+ชานนั่งเล่น+1 ห้องน้ำ ไม่มีห้องครัว (+พัดลม+ทีวี+ยากันยุง+อาหารเช้าเป็นกาแฟและปาท๋องโก๋ ราคา1,200 บาท) ถ้าเอารถมาเอง จอดในโรงแรมซองกาเรีย รีสอร์ท รับรองความปลอดภัย แพถัดไปอีก 2-3 หลัง จะเป็นร้านขายของชำ ขาดเหลืออะไรก็หาซื้อได้ง่าย
คืนนั้นเราฝันดีเพราะอ้อมกอดของลูกลิง ที่ขอกอดหน่อย ขอเค๊ากอดหน่อย..เสียงสายฝนที่ตกกระทบผิวน้ำ และมิตรไมตรีอับอบอุ่นหลังจากการกล่าวสุนทรพจน์และการบอกรักกันของผองเพื่อน ทำให้ป้าหลับโดยไม่ต้องกังวลกับอะไรเลย...ทั้งที่ก่อนหน้านั้น อดไม่ได้ที่จะกังวลไปหมด
ข
ขออภัยคร้าบผม...อธิบายรูปเขียนชื่อวัดผิด...วัดวังก์วิเวการามค่ะ บางฤดูกาลน้ำจะท่วมโบสถ์ทั้งหลัง...คิดถึงปริมาณน้ำแล้วทำให้กลัวได้เลยหล่ะ...โชดดีที่เราได้เห็นโบสถ์ทั้งหลัง ระหว่างทางผ่านด้านล่างของวัดวังวิเวการามหลังใหม่ มองเห็นเจดีย์พุทคยาจำลอง...ได้บรรยากาศอีกแบบ
สายฝนที่ยังต่อเนื่องมาถึงเช้า ทำให้ทริปเราเสียเวลาไปถึง 2 ชม. ไม่รู้ว่าจะเอายังงัยกับชีวิตดี ...เอ้า นั่งเรือหางยาวตากฝนไปดูโบสถ์ใต้น้ำ ซึ่งเป็น Unseen Thailand แห่งหนึ่ง โบสถ์หลังนี้เป็นโบสถ์หลังเก่าของวัดหลวงพ่ออุตมะ หรือวัดวังก์วิเวการาม ราคาเรือต่อรองได้ เราได้ในราคา 400 บาท (เจ้าเดียวกับแพที่พัก) ระหว่างทางผ่านเจดีย์พุทคยาจำลอง ซึ่งตั้งอยู่ที่วัดวังก์วิเวการามหลังใหม่ และเรือก็พาเราล่องไปตามลำน้ำซองกาเรีย รันตี และบีคลี่ ที่เป็นที่มาของคำว่า สามประสบ
กลับมาเก็บข้าวของขึ้นฝั่ง ไปตลาดกันเถอะ...(สาย) อะไรๆ ก็วายไปหมด ยังดีที่ได้ลองชิมขนมจีนพื้นเมือง น้ำยาหยวกกล้วย กินกับฟักทอด...อร่อยดีเหมือนกัน แล้วเราจะไปสะพานมอญกัน ตั้งจะจะเดินข้ามไปหมู่บ้านมอญวังกะ และให้รถตู้ไปรอรับที่นั่น แต่เม็ดฝนหน่ะสิ...หลายคนไม่สู้กลัวเป็นไข้ หมู้บ้านมอญวังกะจึงเป็นแค่การนั่งรถผ่าน เพื่อไปกราบพระทีวัดวังก์วิเวการาม
โชดดีอีกที่วันที่เราไปนั้นเป็นวันเข้าพรรษา สาวมอญแต่งตัวสวยสะ หลากสีสันไปร่วมงานบุญ...แต่ให้เป็นสาวมอญตัวจริงเสียงจริง ต้องสีแดง...ระหว่างทางภาพสาวๆ เดินทูนถาดอาหารคาวหวานไว้บนหัวมีให้เห็นตลอดทาง แต่พอรถเราจอด ตั้งใจจะขอเก็บภาพเป็นที่ระลึกสักภาพ...ดั้น ไม่เจอนางแบบสักคน...จะเจอได้อย่างไรหล่ะ เราถึงวัดก็เกือบเที่ยงแล้ว...ถวายเพลกันแล้ว เค้าก็กลับบ้านเค้าหน่ะสิ
วัดที่เป็นศูนย์รวมศรัทธาของพุทธศาสนิกชนชาวไทย มอญ และพม่า
...ยังงี้ต้องไปอีก...คราวนี้ป้าแพลนจะไปหน้าหนาว ไปนอนแพ ที่ลากออกไปกลางแม่น้ำ จะ ไปให้ถึงแต่หัววัน เพื่อเตรียมอาหารการกินที่ทำง่ายๆ Coffee Mix ชากุหลาบ MP3 เพราะๆ หนังสือดีๆ ผลไม้ ขนมปัง เครื่องดื่ม และก็อยู่ยังงั้นสักวัน เบื่อก็กระโดดน้ำเล่น...อิอิ (มีค่าลากแพนะคะ ประมาณ 1000-1500 บาท ตามแต่ละระยะทางอยู่กลางแม่น้ำมีเตาแก๊ส มีตะเกียง ไม่มีไฟฟ้า) แผนมีแล้ว แต่ยังไม่มีใครไปด้วย...แบบว่าเข็ดตั้งแต่ทริปนี้แล้ว...หุหุ..ไม่ไปจริงเหรอ
ติดตามไปเที่ยวด้วย โปรแกรมนี้ยังไม่เคยไป น่าสนใจมาก คนอายุเหลือน้อยๆไปไหวหรือเปล่า.....อิอิ.อิ อยากพาหนุ่มน้อยข้างล่างไปด้วย คงทั้งสนุก มีความสุขนะครับ ขอบพระคุณ
น่าสนุกและมีความสุขมากๆๆค่ะ
คุณตาน้องม่อน คะ
กาญจนบุรี+สังขละ มีอะไรน่าเรียนรู้เยอะมาก
ท่าน ผอ. ดูจะเป็นคนช่างเรียนรู้...ยังงี้ต้องมีเรื่องเล่าให้น้องม่อนฟังเยอะแน่นอนคะ
ทั้งภูมิศาสตร์และประวัติศาสตร์
อยู่ใกล้สุพรรณบุรีนี๊ดเดียวเองค่ะ
มีความสนุกมีเผื่อเพื่อนๆ ชาว G2K ด้วยค่ะ
พี่ครูอ้อย สบายดีนะคะ
สวย บรรยากาศน่าเที่ยวมากค่ะ
ยอดเยี่ยมนะครับเที่ยวแบบนี้เป็นหมู่คณะ
ได้ประสบการณ์ชีวิตมากเลยครับ
ครูอรวรรณ คะ
สถานที่แปลกใหม่ ทำให้เราตื่นตาตื่นใจมากมาย
ที่สำคัญ เพื่อนๆ ที่เฮฮาปาร์ตี้ ถอดหัวโขนกัน กลายเป็นวัยรุ่นซำน้อย ทำใหห้ครึกครื้นและทุกอย่างดูสวยงามไปหมดเลยค่ะ
คุณภัทร คะ
ไปเป็นกลุ่มแล้ว....งานหน้าไม่ไปไม่ได้
แบบว่าเดี๋ยวเพื่อนๆ ถามถึง จะจามทั้งวัน
ไปกับเพื่อน ก็ได้บรรยากาศอีกแบบหนึ่งค่ะ
คุณวันเพ็ญคะ...กว่าจะรวมก๊วนกันได้ ก็ใช้เวลานานพอดู
ส่วนใหญ่คนที่ติดคือตุ่นแหละค่ะ ติดตาหวานกะหมูหยอง
ถ้าขาดใคร...ชวนตุ่นก็ได้นะคะ...
อะแฮ่ม...ลำปางเมืองที่คุณวันเพ็ญคุ้นเคยก็เป็นเมืองที่มีเสน่ห์ น่าหลงใหล นะคะ
ม๊ามี๊ก๊าบ
รูปหนูแต่ละรูปหลุดๆทั้งนั้นเลย
ยิ่งดูก็ยิ่งอยากกลับไปย้อนรอย
เน๊าะๆๆ
iAom
อ้าว..ตกบันทึกนี้ไปได้อย่างไร..นั่น..
..ภาพงามมากๆเจ้า..
คิดถึงวันนั้นจังเนอะ..
สดชื่น..และเบิกบานใจเป็นที่ซู้ดดดด..^^
หวัดดีเพื่อนพ้อง น้องพี่ และตุ๊กกะโต่น
มันเป็นช่วงเวลาที่ดี และรู้สึก happy สุดๆ เลย..ของทุกคนก็ว่าได้
อยากบอกว่า หาที่เที่ยวกันอีกเถอะ 555++++
ตอนนี้เค้าก็มัวแต่ยุ่งๆ เรื่อง "คุมบาร์" น่ะนะ เลยยังไม่ได้คิดโปรแกรม
ครายว่างก็หาไว้หน่อยเด้ค๊า...
จาก กุหลาบแดง บานแพ้แว้
กุหลาบแดงแวะมา Support ถึงความสนุกสนาน...
ว่าแต่ว่าคงไม่ขอเปลี่ยนชื่อเช่นเดียวกับชบาแดง ให้เหลือเพียง ชบา เฉยๆ หลอกนะ
เออ...ว่าจะชวนย้ายไปบริหารวิทยาลัยการท่องเที่ยวเป็นการถาวร...
ตอนนี้ยังขาดงบตั้งวิทยาลัยอย่างเป็นทางการ
เรียนรู้ผ่านไซเบอร์ กับศึกษาดูงานเท่านั้น
หลักสูตรน่าจะยังไม่พอ
ต้องเรียนรู้ ดูเล่น ตลอดภาคการศึกษาเน๊อะ...แค่คิดก็สนุกแล้ว
อยากให้มีทริปอีก จะเป็นทริปเล็กๆ ก็ได้นะคะ สนุก ชอบๆๆๆๆ มากมาย
มีทริปแล้วจะบอกจ้า นักศึกษาวิทยาลัยการท่องเที่ยวจะได้มาลงทะเบียน ว่าแต่ว่า...n'Yu ปีต่อไปจะเอาใครไปด้วยหรือเปล่า...
อิอิ..พี่ตุ่น
รูปที่ลงสวยๆ ทั้งน๊านเลย
เป็นเพราะช่างภาพ..หรือ..นางแบบ..555
กุ๋มกิ๋มเอ้ย