และแล้วภารกิจที่สร้างสรรค์กันมาในนาม พี่น้องผองเพื่อนและชาว 6/12 SPK รุ่น 2529 กับการทำสิ่งดีๆ สู่สังคมกับค่ายเพื่อโรงเรียนและชุมก็สำเร็จลุล่วงไปด้วยดี
ไชโย้....งานค่ายที่เตรียมตัวมากันเกือบ 1 เดือนก็สำเร็จลงด้วยดีกับแรงใจที่มอบทุนทรัพย์และสิ่งของของเพื่อนพ้องน้องพี่ และชาว 6/12 SPK รุ่น 2529 ซึ่งทำให้เป้าหมายกิจกรรมเราบรรลุวัตถุประสงค์ทุกอย่าง
ทริปนี้มีเพื่อนพ้องน้องพี่และครอบครัวที่สามารถร่วมทางไปค่ายได้เกือบ 35 คน
6/12 SPK นำทีมโดยด๋อย และเอนก ติ๋ม+พี่ภัทร เจี๊ยบพนิดา+พี่กานต์+น้องจิว ยุทธ ปิ๊ก วินัย นิกร แอ๊วแพนดอร่า นาถ+น้องพุดตานและหลานๆ ตุ่น+น้องแอ้+หลานตุ่น และน้องนุ่นหลานเอนก
6/10 SPK หน่อยสุภาวดี+ลูกสาว มาพร้อมการทดสอบช่วงล่างของเฟียสต้าป้ายแดง และหมอคิง ที่ขึ้นตรงมาจากหาดใหญ่เพื่องานนี้โดยเฉพาะ
นอกจากนั้นยังมี น้องๆ ของพี่กรรณ 10 กว่าคนที่มาจากโคราชและระยอง ตั้งใจมาปรับปรุงโรงอาหาร โดบการปูอลูมิเนียมที่โต๊ะกินข้าว จำชื่อกันไม่ครบ อย่าว่ากันนะ ก้อมี อ้อเล็ก อ้อใหญ่ รอม น้องผู้หญิงอีกคนจำชื่อไม่ได้ ทิต จุ้ย วา และหนุ่มๆ แห่งรถเสบียงและเสียงเพลง
ก่อนจะถึงบทสรุป ก็คงทำ AAR (After Action Report) ไว้ก่อน ว่างานนี้เรามีจุดบกพร่องอะไร...เผื่องานหน้าจะทำให้ดีขึ้น...ชีวิตยังยาวไกล โปรเจกค์ใหม่ๆก้อคงมี
งานนี้เจอดอกใหญ่ๆ ไป 3 ดอก เล่นเอาระเหี่ยเลย
ดอกแรก เรื่องที่พัก จองไว้ 2 คืน ขอ Cancle ไป 1คืน ก็เกรงใจเจ้าของบ้านพักจะแย่ ดั้นคืนแรกเด็กเปิดห้องบอกว่าราคาที่พัก 3000 บาท เราตกลงไป 6000 นี่ต่อรองจาก 7500 แล้วนะ เพราะนี่คือไฮซีซั่น และจัดการโดยเจ้าของที่อยู่ กทม. เด็กที่อยู่อาจจะรับหน้างานโดยที่นายไม่รู้ก็ได้...เรื่องราคาบ้านพักไม่รู้ว่าเพื่อนจะเข้าใจหรือเปล่า เล่นเอาไม่สบายใจเลยหล่ะ รู้มั๊ยกว่าจะหาได้นะเพื่อน โทรกว่า 20 แห่ง ใช้เวลาเป็นวันเชียว
ดอกที่ 2 เรื่องเส้นทาง ที่หน่วย Survey กับเราผู้ทำการประชาสัมพันธ์ ไม่ได้ตกลงรายละเอียดเรื่องจุดที่จะเดินทางไป แบบว่าไม่ได้แจ้งพิกัด เผอิญเส้นทาง 40 กม. สุดท้าย มหาโหดดัง ดักกา แรลลี่ ทำเอาเพื่อนๆ บ่นพึม ขนาดกลับบ้านโดยสวัสดิภาพแล้วก็ยังโทรมาต่อว่า...เฮ้อ...ต่อไป ไอ้คนจะไปก็ถามรายละเอียดให้มาก ไอ้คนให้ข้อมูลก็กล้าๆ ที่จะให้...ไม่อยากถูกต่อว่าหลังงานเลิก...และเราแคร์เพื่อนทุกคน
ดอกที่ 3 ช่วงที่ไปเป็นช่วงเทศกาล คนเยอะมาก ที่พักก็หายาก ร้านอาหารก็คนแน่น ทำเอาป่วนไปหมด...งานนี้ความใจเย็น ยืดหยุ่น มองอะไรเป็นเชิงบวกซะ จะช่วยได้ เช่น ที่พักที่ไกลจากเมือง 11 กม. ก็น่าจะดีเพราะไม่เจอบรรยากาศแย่งกินแย่งอยู่ สงบดี 555+
เอ้าทำ AAR เสร็จแล้วมาดูบรรยากาศ แห่งสุดขอบฟ้าที่ท่าลี่บ้านน้ำมีดีกว่า
รวมทุนทรัพย์ที่ได้รับบริจาค 70,350 บาท จำแนกกิจกรรมที่ทำได้แก่
- มอบทุนการศึกษา ป.1-6, อนุบาล (7 ระดับ ระดับละ 3 ทุน ทุนละ 1000 บาท) เป็น 21,000 บาท
- มอบหนังสือและสื่อการเรียนรู้เข้าห้องสมุด งบบริจาค 10,440.75 บาท และมีหนังสือ วารสารใช้แล้วแต่สภาพดี ที่เพื่อนพ้องน้องพี่นำมาบริจาคด้วย
- มอบโปรเจกค์เตอร์ เพื่อใช้ในการเรียนการสอน มูลค่า 16,000 บาท
- ซ่อมแซมโต๊ะอาหารในโรงอาหารโรงเรียน จำนวน 8 โต๊ะ ไม่แจ้งมูลค่า
- มอบทุนสมทบโครงการอาหารกลางวัน 8,810 บาท
- มอบยาสามัญประจำบ้านให้กับโรงเรียน ไม่แจ้งมูลค่า
- ตรวจสุขภาพให้ชาวบ้านโดยหมอคิง อนุศิษย์ ห้อง 6/10
- มอบอุปกรณ์การเรียนแก่เด็กนักเรียนทุกคน นางศศิธร ฤทธิ์ศรีเป็นผู้สนับสนุนหลัก
- มอบเสื้อกันหนาวแก่เด็กนักเรียนทุกคน มูลค่า 5,500 บาท
- มอบข้าวสาร ขนมปี๊บ และเครื่องปรุงรสแก่โครงการอาหารกลางวัน
- มอบเสื้อผ้า เครื่องกันหนาวแบบรียูท (Re-used) แก่ชุมชน
- มอบอุปกรณ์กีฬาแก่โรงเรียน มูลค่า 8,600 บาท
กว่าจะถึงโรงเรียนน้ำมีก็เล่นเอาเหนื่อยไปตามๆ กัน งานนี้ขามากันทางด่านซ้าย-น้ำมี ที่มีด่านตำรวจทหารอยู่เป็นระยะ เลียบแม่น้ำเหือง...ที่ก้าวแค่สามก้าวก็เป็นประเทศลาวแล้ว แล้วเจ้าลูกจิ๊บ เชอโรกีที่ขนของมาเต็มสตรีมก็เดี้ยงอีกแล้ว สงสัยพ่อมันผิดผีที่น้ำมีแน่นอน งานนี้ก็ลากกันขึ้นจนถึงเป้าหมายในสภาพที่ฝุ่นแดงเกาะ จนคิดหนักว่าขากลับจะกลับยังงัย...แถมประมาณ 40 กม.ก็เป็นทางดินแดงขึ้นเขาซะงั้น จนทีมที่ไป เรียกว่า ดักการ์แรลลี่ แต่แล้วปาฏิหารย์แห่งการทำความดีก็ปรากฏ วันกลับลูกจิ๊บของพ่อด๋อยวิ่งฉิว...ไปถึงนู้น เชียงคาน...ก่อนจะแยกย้ายกันกลับด้วยความสสวัสดิภาพ
นัดโรงเรียนเอาไว้ประมาณ 11.00 น. เรา Late ไปเกือบ 2 ชม. พอไปถึงก็ขอโซ้ยมื้อเที่ยงก่อน ก็กินอาหารที่คณะเราตระเตรียมข้าวกล่องไปจากภูเรือ งานนี้เงินบริจาคคือเงินบริจาค ค่ากินค่าอยู่ ค่าเดินทาง ทางคณะรับผิดชอบกันเอง น้ำเนิ้มเตรียมไปหมดด้วยเกรงใจชุมชนในการต้อนรับ ซึ่งทางชุมชนเองก็ทำส้มตำและแกงหน่อไม้ไว้รอ ขอบคุณเด้อค่ะ
หลังจากนั้นก็มีพิธีการเล็กๆ ในการมอบสิ่งของให้กับทางโรงเรียนและชุมชน โดยมีผู้ใหญ่เทือง ที่ปรึกษาโรงเรียน และ อาจารย์ละเอียด รักษาผอ.เป็นโต้โผ และรับรองที่หลับที่นอน อาหารมื้อเย็นให้กับชาวคณะเราที่ค้างอยู่บนน้ำมีอีก 1 คืน รวมทั้ง อส. และกลุ่มแม่บ้าน ตลอดจนเด็กๆ ที่อยู่ร่วมสนุก กันจนถึงดึกดื่น ซึ่ง อาจารย์นิกร แอ๊ว ด๋อย น้องนุ่น เล่าให้ฟังว่า เป็นอะไรที่ประทับใจมาก แม้ว่าฝนจะตกและไฟฟ้าดับก็ตาม (ส่วนเอนกไม่เห็นเล่าอะไรให้ฟังเลย)
เสียดายที่ติ๋มติ๋มไม่ได้อยู่ รู้สึกว่าอารมณ์นี้เป็นอารมณ์ติ๋มๆ เลยหล่ะ
แถมเรื่องเล่าจากใครไม่รู้ จำไม่ได้ ว่า หมอคิงตรวจคนไข้รายสุดท้ายด้วยความใส่ใจ คนสุดท้ายก็เกือบมืดจนเกือบเวลาอาหาร โดยมี ผศ.นิกร เป็นผู้ช่วยแพทย์ โดยไม่เหน้ดเหนื่อย...เป็นอันรู้ว่าพรุ่งนี้ไม่ตื่นแน่นอน เพระขนาดวงสังสรรค์ก็แทบหลับคากองไฟไปแล้ว และก้อเป็นไปตามระเบียบว่า หมอคิงตกเครื่องที่ขอนแก่น จากกำหนดกลับบ่ายวันที่ 12 เลื่อนไปเป็นไฟล์ท บ่ายวันที่ 13 ที่กท.แทน ไม่รู้ว่าถึงหาดใหญ่กี่โมงยาม
ส่วนป้าตุ่นขอกลับก่อนเพื่อน ไม่ค้างที่น้ำมี เพระมีภารกิจที่ต้องไปดูแลญาติที่ป่วย...กว่าจะถึงขอนแก่นก็ 2 ทุ่ม...ก่อนมาก็ถามเพื่อนยุทธว่ากลับป่าว...ไม่กลับแฮะ ก็ลงมาคณะเดียว ทางบ้านวังขาม ที่ถูกเตือนเรื่องความชัน ชันสุดยอด เล่นเอาหน้าซีด ขาเกร็งไปหมด เสียวววว สวดยอด แตวิวดี งานนี้ขอปรบมือให้น้องแอ้ สารถี คนดีของพี่
ไม่นาน คณะยุทธก็โทรมาว่ากลับลงแล้ว ยุทธ นาถ เจี๊ยบ วินัย ติ๋มและพี่ภัทร แวะกินข้าวต้มที่ขอนแก่น ก่อนที่จะส่งติ๋มขึ้นรถต่อไป กท. ยุทธกับนาถ จรลีต่อไปที่สารคาม นับถือพลังของท่านแต่ละคนเสียจริง...ส่วนตุ่นหมดแรง แม้น้ำข้าวต้มยังซดไม่ได้ แต่อิ่มใจ...นี่ถ้าเพื่อนๆ พักกันที่ภูเรืออีกคืนก็คงไม่ต้องขับระห่ำขนาดนี้ และจะได้เที่ยวที่ห้วยกระทิงด้วย...
ส่วนเจี๊ยบ หน่อยที่เกาะติดคณะยุทธมา ก็ขอแวะนอนที่ชุมแพ...ไม่ไหว พรุ่งนี้ก็ไปต่อ
งานนี้ผิดพลาด ไม่ตรงใจ ไม่สะดวก ก็ต้องขออภัยไว้ในบางลีลา สถานการณ์ก็อย่างที่เห็นๆกันนะ...ตุ่นเองก็ซึ้งใจกับคำว่า "ค่าย" ณ วันนี้ "ประสบการณ์อย่างวันนี้ไม่มีขาย"
ความดี กำลังใจ แรงสนับสนุนของพี่น้องผองเพื่อนที่ส่งมา ในนาม 6/12 SPK รุ่น 2529 ก็ต้องขอขอบคุณและอนุโมทนาบุญกลับให้ท่าน เราจะบอกว่า สิ่งที่เรานำส่งไปถึงโรงเรียนแลชุมชนบ้านน้ำมีแล้ว จริงๆ ซึ่งคงจะสร้างประโยชน์ให้กับโรงเรียนและชุมชนอย่างมาก
จงภูมิใจในการเป็นส่วนหนึ่งของการสร้างสังคมที่ดี...
ในคราวต่อไป เพื่อน 6/12 และเพื่อนพ้องน้องพี่คนใด มีโปรเจกค์ดีๆ ก็ส่งข่าวฝากมา พลังของพวกเราเหลือเฟือ ขนาดหนทางลำบากและยาวไกล พวกเราก็พิสูจน์ได้ว่า พลัง คือ พลัง สำหรับตุ่นมี Blog นี้ไว้เพื่อประชาสัมพันธ์ด้วยจ้า
เพื่อนนิกร พอฟื้นคืนชีพก็รีบทำคลิปให้เพื่อนเป็นที่ระลึกและเป็นการขอบคุณผู้สนับสนุนค่ายทำท่าน ซึ่งตอนนี้คลิปนี้ระบาดใน Facebook เดี๋ยวขอ link มาแปะให้ดู
บอกตรงๆ ว่า ตุ่นยังอยากไปอีก ไปแบบสบายๆ ไม่เร่งรีบ ค้างสัก 2 คืน แบบว่าอยากไปเล่านิทานให้เด็กฟังอ่ะ...ใครจะไปกับตุ่นอีก