ผู้หญิงแกร่งอีกคน สุทธาสินี น้อยอินทร์


อยากเป็นกำลังใจให้คนสู้ชีวิต ที่สู้เพื่อสังคมและตนเอง

เมื่อวันที่ 30 เมษายน 2550 รายการ VIP ทางช่อง 9 ได้นำเรื่องราวของผู้หญิงแกร่งคนหนึ่งมาถ่ายทอดให้สังคมได้รับรู้ เธอคือ คุณสุทธาสินี น้อยอินทร์ หรือ ครูติ๋ว แห่งมูลนิธิสุทธาสินี น้อยอินทร์ เพื่อเด็กและเยาวชน ที่รับอุปการะเด็กที่ประสบวิกฤติในชีวิต เช่น เด็กที่ติดเชื้อเอดส์ เด็กกำพร้า เด็กที่ถูกละเมิดทางเพศ โดยใช้หลักการความรัก ความเข้าใจ การให้อภัยและให้โอกาส  ในรูปแบบของการอยู่ร่วมกันแบบครอบครัวใหญ่ ช่วยกันดูแลซึ่งกันและกัน ขณะนี้มีเด็กในความดูแลอยู่ประมาณ 100 กว่าคน

มูลนิธินี้ หรือบ้านโฮมฮัก ตั้งอยู่ที่จังหวัดยโสธรขณะนี้เธอป่วยด้วยโรคร้ายที่บั่นทอนกำลังใจเธอ ร่างกายก็อ่อนแอลงทุกวัน และปัญหาทางเศรษฐกิจก็เป็นปัจจัยหนึ่งที่บั่นทอนกำลังใจ จากการสัมภาษณ์วันนั้น เธอบอกว่า เธอไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้วเพราะเธอรู้สึกโดดเดี่ยว  อะไรทำให้เธอผู้ที่สู้เพื่อคนอื่นๆ มาตลอดคิดอย่างนั้น สรุปแล้วนอกจากความอ่อนล้าทางร่างกายและจิตใจ ก็คือ เธอไม่รู้จะทำอย่างไรที่บริหารจัดการให้เด็กกำพร้าในความดูแลสามารถดำเนินชีวิตอยู่ได้อย่างปลอดภัย มีที่อยู่ มีอาหาร มียา และได้ไปโรงเรียนอย่างที่เด็กๆ คนอื่นๆ ได้รับแต่ ณ วันนี้คุณสุทธาสินี น้อยอินทร์ ไม่โดดเดี่ยวอีกแล้ว เพราะจากรายการ VIP ซึ่งออกอากาศในวันที่ 28 พฤษภาคม 2550 นั้นพบว่ามีคนใจบุญได้บริจาคเงินและสิ่งของให้กับมูลนิธิจำนวนมากพอประมาณ แม้ฉันจะไม่ได้ร่วมบริจาคในครั้งนี้ แต่ฉันขอเป็นกำลังใจให้กับคุณสุทธาสินี ฉันคิดว่าไม่ใช่แต่ฉันเท่านั้นที่ขอเป็นกำลังใจ ผู้ที่ได้รับทราบข้อมูลของมูลนิธิทุกคนคงอยากเป็นกำลังใจให้กับครูติ๋วด้วย ไม่มีอะไรเท่ากับการสนับสนุนการทำดีแล้ว

แม้ว่าไม่เกี่ยวข้องกับผู้ให้และผู้รับเงินบริจาคสักเสี้ยว ก็ต้องขอขอบคุณเงินที่แต่ละท่านบริจาคมา เพราะมีส่วนในการสร้างเยาวชนที่จะเติบโตเป็นทรัพยากรที่มีคุณค่าของประเทศต่อไป แต่การบริจาคเงินเป็นการร่วมแก้ไขปัญหา นับเป็นปลายเหตุเท่านั้น ในฐานะที่เป็นคนไนสังคมนั้นเราสามารถร่วมกันลดปัญหานี้ได้ในบางส่วน ฉันคิดว่าเราควรเป็นผู้ใหญ่ที่ดี ที่รับผิดชอบครอบครัวอย่างเต็มที่ สร้างครอบครัวที่ดีมีความอบอุ่น เข้าใจวัยรุ่น เรียนรู้โลกของวัยรุ่น ลดความสุขของตนเองเพื่อเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งในโลกของวัยรุ่นที่ต้องดูแลใกล้ชิด ทำตัวเป็นตัวอย่างที่ดีในการดำเนินชีวิต เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันจากรุ่นสู่รุ่น ทั้งนี้เพื่อป้องกันการแสวงหาความรักที่เกิดจากความหลง การเสพติดเซ็กส์ การหันไปใช้ยาเสพติด ตลอดจนการให้ความรู้ในด้านเพศศึกษาที่ถูกต้อง ลดกระแสการใช้ชีวิตเชิงตะวันตกที่ไม่ถือสาเรื่องการมีเพศสัมพันธ์ก่อนวัยอันควร ซึ่งอาจก่อให้เกิดปัญหาตั้งครรภ์โดยไม่ตั้งใจและลดการติดเชื้อเอดส์ สุดท้ายคือมีเด็กที่คลอดออกมาโดยไม่พึงประสงค์ จนเป็นภาระต่อสังคม ซึ่งไม่ว่ามูลนิธิไหนๆ ก็แบกรับภาระมากมาย

สำหรับคนในสังคม...แม้ไม่ใช่คนสร้างปัญหา ขอให้เป็นกำลังใจต่อผู้ทำความดีดัวยนะคะ

ท้ายสุดขอให้สุขภาพร่างกายของครูติ๋วแข็งแรงมากขึ้น ให้ครูติ๋วมีกำลังใจ เพื่อชีวิตของตนเอง และเผื่อแผ่ให้กับลูกๆ ในมูลนิธิ หากเหนื่อยก็พักบ้าง วันนี้ ครูติ๋ว มีโอกาสได้ทำความดีมากกว่าหลายๆ คนแล้ว 

มูลนิธิสุทธาสินี น้อยอินทร์ เลขที่ 3 หมู่ที่ 12 บ้านประชาสวรรค์

ต,ตาดทอง อ,เมือง จ,ยโสธร

บริจาคเงินช่วยเหลือ คลิกดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่

http://www.esanvoice.net/esanvoice/know/data/50915091.pdf

 

หมายเลขบันทึก: 99365เขียนเมื่อ 29 พฤษภาคม 2007 11:55 น. ()แก้ไขเมื่อ 22 มิถุนายน 2012 05:34 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (7)

รบกวนสอบถามเกี่ยวกับสิ่งที่ต้องการให้ช่วยเหลือนอกจากการบริจาคเงิน พอดีวันนั้นดูรายการคนละไม้ละมือแล้วมีข้อความขึ้นที่หน้าจอแต่พอดีจดรายละเอียดไม่ทัน จำได้แต่ชื่อมูลนิธิค่ะ รบกวนตอบกลับที่เมล์ค่ะ ขอบคุณมากน่ะค่ะ

เผอิญติดต่อทาง e-mail ไม่ได้

สอบถามเพิ่มเติมที่

 3 หมู่ 12 ต.ตาดทอง อ.เมือง จ.ยโสธร

 โทรศัพท์: (045) 715397

มูลนิธิสุธาสินีน้อยอินทร์ (จ.ยโสธร) องค์กรเอกชน วัตถุประสงค์ - เปิดบ้านพักให้ความช่วยเหลือที่ประสบกับปัญหาด้านชีวิต ร่างกายจิตใจจากปัญหายาเสพติด เอดส์ และปัญหาทางครอบครัว (กำพร้า) และให้การช่วยเหลือแนะนำและส่งเสริมสวัสดิการด้านร่างกาย จิตใจ กิจกรรม/โครงการ - กิจกรรมการเรียนรู้ที่นำไปใช้กับเยาวชน กลุ่มเป้าหมาย 1. ผู้ติดเชื้อโรคอันตรายและผู้ติดยาเสพติด 2. เด็ก 3. บุคคลเร่ร่อน/ไร้ที่พึ่ง ประเด็นหลักในการช่วยเหลือ 1. ที่อยู่อาศัย 2. สุขภาพอนามัย ชีวิตและจิตใจ 3. ส่งเสริมอาชีพ การทำงาน ประเภทของความช่วยเหลือ 1. รับอาสาให้ช่วยงาน - ด้านกระบวนการของกิจกรรมการเรียนรู้ที่จะนำไปใช้กับเยาวชนให้นำไปสู่การช่วยเหลือ คุณสมบัติเฉพาะของอาสาสมัคร - สามารถเข้าใจเด็ก (มีความเข้าใจเกี่ยวกับจิตวิทยาเด็ก) และสามารถเป็นผู้นำกิจกรรมในการเข้าถึงเยาวชนได้ 2.รับบริจาคสิ่งของ - เสื้อผ้าที่ใช้แล้ว

ข้อความจาก Foreward mail เมื่อวันที่ 14 กพ. 2552 ดังนี้

(แม่ต้อย กำลังจะตาย) ช่วยส่งต่อด้วยน่ะค่ะ ใครมีเพื่อนเยอะ ดูโฆษณาก็ว่าซึ้งแล้ว เจอภาพพร้อมบรรยาย น้ำตาหยดเลย

"บ้านโฮมฮัก" เป็นบ้านแห่งความรักของเด็ก ๆ นับร้อยชีวิตที่มาอาศัยพักพิงในยามที่ไม่เหลือใคร เด็กๆ ที่นี่มีทั้งเด็กกำพร้าที่ติดเชื้อเอดส์จากพ่อแม่ เด็กกำพร้าไม่ติดเชื้อแต่ถูกชุมชนผลักไสด้วยความรังเกียจ เด็กที่พ่อแม่มีปัญหาไม่สามารถเลี้ยงดูได้ เด็กที่มีปัญหายาเสพติด เด็กบางคนมาด้วยหัวใจที่แตกสลายพร้อมกับร่างกายที่บอบช้ำจากการกระทำ ทารุณกรรมของผู้ใหญ่ เรื่องราวของเด็กบางคนดั่งนิยายที่กรีดกระชากใจผู้ที่ได้รับรู้

สำหรับพวกเราชาวสนุก! ดอทคอม เรารู้จักบ้านโฮมฮักเป็นอย่างดี เพราะเมื่อปีก่อนทีมพนักงานได้เดินทางไปบริจาคของใช้จำเป็นและเงินช่วยเหลือ นำทีมโดยพี่อ้อ HR

วันก่อนพี่อ้อก็ฟอร์เวิร์ดบทความมาให้อ่าน แล้วบอกว่าให้พี่ฝนช่วยทำอะไรสักอย่างได้ไหม อยากให้คนอ่านได้รู้จักเป็นวงกว้าง เพื่อที่ความช่วยเหลือจะได้ไปเร็วขึ้น.......

"บ้านโฮมฮัก"อบอุ่นด้วยรักแต่แร้นแค้น

"บ้านโฮมฮัก" เป็นบ้านแห่งความรักของเด็ก ๆ นับร้อยชีวิตที่มาอาศัยพักพิงในยามที่ไม่เหลือใคร เด็กๆ ที่นี่มีทั้งเด็กกำพร้าที่ติดเชื้อเอดส์จากพ่อแม่ เด็กกำพร้าไม่ติดเชื้อแต่ถูกชุมชนผลักไสด้วยความรังเกียจ เด็กที่พ่อแม่มีปัญหาไม่สามารถเลี้ยงดูได้ เด็กที่มีปัญหายาเสพติด เด็กบางคนมาด้วยหัวใจที่แตกสลายพร้อมกับร่างกายที่บอบช้ำจากการกระทำ ทารุณกรรมของผู้ใหญ่ เรื่องราวของเด็กบางคนดั่งนิยายที่กรีดกระชากใจผู้ที่ได้รับรู้

เด็กที่นี่มีทั้งหมด 104 ชีวิต ตั้งแต่อายุ 4 วันไปจนถึง 20 ปี บางรายถูกพ่อแม่เร่ขายให้ไปเป็นขอทาน บางรายกำลังถูกขายไปเป็นหญิง*** และอีกหลายกรณีที่สะเทือนใจ อาทิ

กรณีของน้องส้ม (นามสมมติ) เด็กหญิงวัย 3 ขวบ แววตาสดใสน่ารัก แต่โดนผู้ใหญ่ใจโหดร้ายป้ายบาดแผลทั้งร่ายกายและจิตใจให้เธอด้วยการข่มขืน เธอมาในสภาพอวัยวะเพศฉีกขาด จิตใจบอบช้ำ ซ้ำร้ายเธอติดเชื้อเอดส์

หรือกรณีของน้องโฟร์ (นามสมมุติ) พ่อแม่เสียชีวิตเพราะเอดส์ เธอเองก็ได้รับเชื้อเช่นกัน บ้านเธอยากจน ยามหิวโหยก็เคี้ยวข้าวสารประทังชีวิต เพราะไม่มีใครดูแล มีวัดใกล้บ้านเธอจึงไปขอเศษข้าวเศษแกงประทังชีวิต แต่ซ้ำร้ายโดนพระใจโฉดข่มขืน ทุกวันนี้ร่างกายเธอแคระแกรนเพราะขาดสารอาหาร และเอดส์ทำให้เธอมีอาการชักหลายครั้ง จนมีผลทางสมองทำให้เธอพัฒนาการช้ากว่าเพื่อน ๆ ในวัยเดียวกัน

"แม่ต้อย" ของเด็ก ๆ หรือ สุธาสินี น้อยอินทร์ หญิงเหล็กหัวใจแกร่งที่มีความตั้งใจงานเพื่อสังคมมาโดยตลอดนับตั้งแต่เรียน จบ จากจุดเริ่มต้นที่ได้ทำงานเกี่ยวกับการดูแลเด็ก โดยไม่รับเงินเดือน

จนกระทั่งมาตั้ง "มูลนิธิ สุธาสินี น้อยอินทร์ เพื่อเด็กและเยาวชน" อยู่ที่เลขที่ 3 หมู่ 12 บ้านประชาสรรค์ ต.ตาดทอง อ.เมือง ยโสธร โทร 0-4572-2241

แม่ต้อยก่อตั้งบ้านโฮมฮักมา 20 กว่าปีแล้ว แต่จดทะเบียนเป็นมูลนิธิเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา เป็นพินัยกรรมเพื่อความอยู่รอดของเด็กๆเมื่อเธอต้องจากไป ทรัพย์สินทั้งหมด บ้าน รถ ที่ดิน มรดก ของพ่อแม่ก็ขายหมดมาเป็นค่ายา ค่าอาหาร ค่าเทอม ค่าน้ำ ค่าไฟ ของเด็ก ๆ ที่สูงถึงเดือนละ 4-5 แสนบาท สุดท้ายแม้กระทั่งสร้อยที่ใส่ติดคอยังต้องขาย เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายให้เด็กๆ ซึ่งเปรียบเสมือนลูกๆ ของเธอก่อนเมื่อเปิดเทอม

แม่ต้อย เล่าว่า บ้านโฮมฮักเป็นบ้านหลังที่อบอุ่นเพื่อเด็ก ๆ ที่ยากไร้ ขาดที่พึ่งพิง เราอยู่กันด้วยความรัก แต่แร้นแค้น ปัจจุบันขายสมบัติจนหมดเกลี้ยงตัว แม้จะมีเงินบริจาคเข้ามาแ?่ก็ไม่พอ เด็ก ๆ ที่บ้านโฮมฮักต้องช่วยเหลือกัน แบบพี่ดูแลน้อง ปลูกผัก หาแมลงกินประทังชีวิต แต่ด้วยความแห้งแล้งก็ยากลำบากเหลือเกิน แค่น้ำใช้อาบทั้งบ้านก็ไม่พอ จะเอาน้ำที่ไหนไปรดผัก แมลงที่หาได้ต้องเอาไปคั่วแล้วป่น โรยข้าวเพื่อให้พอกินกันทั้งบ้าน เด็กก็มีแต่ตัวเล็ก ๆ บางส่วนก็ป่วย บางส่วนไปโรงเรียน ที่โตขึ้นมาหน่อยก็ต้องดูแลน้องตัวเล็ก ๆ ที่ยังช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ และบางคนก็ต้องพยาบาลน้องๆ ที่เจ็บป่วย

"ที่น่าเศร้าใจคือสังคมยังมีการเลือกปฏิบัติและอคติต่อผู้ติดเชื้อเอดส์ เมื่อส่งเด็กไปโรงเรียนต้องหาโรงเรียนที่ไกลออกไป บางครั้งเมื่อรู้ว่าเด็กมาจากที่นี่ พ่อแม่ ผู้ปกครองก็ประท้วงให้ไล่เด็กออก เพราะสังคมยังขาดความเข้าใจว่าไม่สามารถติดเชื้อจากการอยู่ร่วมกัน แต่ติดทางเลือดและการมีเพศสัมพันธ์เท่านั้น ทำให้ไม่เข้าใจเด็กเหล่านี้ว่าป่วยแค่ร่างกายแต่ยังมีชีวิตจิตใจ มีความรู้สึกนึกคิด ร้องไห้ได้เหมือนกับเรา เด็กเหล่านี้โดนมองเหมือนเป็นตัวประหลาดที่ไม่มีใครอยากเฉียดกรายเข้าใกล้ ขนาดเหลือแต่ร่างไร้ลมหายใจจะเผาในวัดยังไม่ได้ ชาวบ้านกลัวขี้เถ้าฟุ้งไปในอากาศตกหลังคาบ้านแล้วจะติดเอดส์กันทั้งหมู่บ้าน " แม่ต้อย เล่าทั้งน้ำตา

มีเด็กระยะสุดท้ายที่แพทย์พิพากษาว่า อยู่ได้อีกไม่ถึงเดือน หรือ 2 เดือน กับเด็กที่แพทย์หยุดยา เพราะดื้อยาแล้ว ส่งมาอยู่รอความตายที่นี่ แต่ด้วยความรัก ความอบอุ่น และบรรยากาศที่ดูแลกันเหมือนพี่น้อง เด็ก ๆ หลายคนกลับมีชีวิตอยู่ได้เกินกำหนดที่แพทย์บอก เช่น น้องก้อง (นามสมมุติ) มาตอนอายุ 8 เดือน ซึ่งหมอไม่รักษาแล้ว เพราะเชื่อว่าอยู่ได้อีก 2 เดือน แต่ตอนนี้น้องก้องสุขภาพแข็งแรงดี อายุ 12 ขวบแล้ว ช่วยพี่ๆ รดน้ำผักทุกวัน

แต่ตอนนี้ผักปลูกได้น้อย แมลงหาจนไม่มีให้หาแล้ว ข้าวกินได้ครึ่งท้องเพื่อแบ่งอีกครึ่งให้น้อง ๆ ซ้ำร้ายแม่ต้อยของเด็กกำลังป่วยด้วย "มะเร็งลำไส้ระยะสุดท้าย"

ซึ่งหมอบอกว่าเธอจะอยู่ได้อีกไม่เกิน 6 เดือน แต่หัวใจแม่เกินร้อยที่เธอมอบให้เด็กๆ ทำให้เธอสู้ บางคืนเธอถูกรุมเร้าด้วยอาการปวดที่ไม่ได้พักผ่อนจากการทำงานหนัก

พอช่วงกลางคืนถึงกับนอนไม่ได้ ต้องลุกออกมาเดิน หาก ใครไปบ้านโฮมฮักไม่รู้คนไหนแม่ต้อยละก็ ให้สังเกตที่ข้อเท้าจะมีกระดิ่งเป็นลูกกระพรวนห้อยไว้ เพราะยามเธอออกมาเดิน เด็ก ๆ ได้ยินเสียงกระดิ่งจะได้ไม่กลัวคิดว่าเป็นผี ...

แต่ จะมีวันไหนที่แม่ต้อยไม่ลุกออกมาเดินอีกแล้วก็ไม่รู้ !?! แล้วเด็ก ๆ จะอยู่กันได้อย่างไร ต้องกำพร้าครั้งที่สองในชีวิตกันอีกแล้วหรือ ?

ปัจจุบันบ้านโฮมฮักกำลังประสบภาวะขาดแคลนทุนทรัพย์ อย่างหนัก และยังขาดครูพี่เลี้ยง ขาดเจ้าหน้าที่อาสาสมัครที่ทยอยถอนตัวออกไป เราลองมาช่วยกันสร้างปาฏิหาริย์ให้บ้านโฮมฮักเพื่อช่วยเหลือเด็ก ๆ ที่ถูกทอดทิ้ง ใครที่เคยคิดว่าพวกเขาเหล่านั้นเป็นส่วนเกิน เป็นส่วนที่ต้องกันไว้ให้อยู่อีกโลก เป็นอีกชนชั้นของสังคม ก็น่าจะมองกันใหม่ เพราะพวกเขาเป็นเพียงเด็ก เป็นชีวิตที่ไร้เดียงสา แววตาบริสุทธิ์ไม่ได้รับรู้ถึงเรื่องราวที่ผู้ใหญ่ยัดเยียดให้ เด็กน้อยเหล่านี้เกิดมาจากปัญหาที่พวกผู้ใหญ่สร้างขึ้นทั้งนั้น

ถ้าหากใครได้ไปสัมผัสเยี่ยมเยือน เด็กๆ ที่บ้านโฮมฮัก จะเห็นแววตาที่สดใส ร่าเริง ทุกคนจะดีใจที่มีพี่ๆ ไปเยี่ยม ยิ่งถ้าไปเล่นไปสัมผัสเด็ก ๆ เหล่านั้นด้วยจิตกุศล ด้วยความรักก็เหมือนได้ต่อเติมชีวิตอันสดใส จากเด็กที่ไม่ลุกเดิน ซึมเศร้าเหม่อลอย ไม่มีแม้แต่รอยยิ้ม เมื่อเห็นผู้มาเยี่ยมเยือนจะดีใจ ลุกขึ้นมาต้อนรับ มีรอยยิ้ม เพราะนานมากแล้วที่ถูกทอดทิ้ง ไม่ค่อยมีใครไปเยี่ยมเยือน

"พี่ ๆ จะกลับมาหาพวกหนูกันอีกมั๊ยคะ"

"พี่หนูอยากได้เสื้อสีแดงไว้ใส่ หนูจะได้ใส่ก่อนตายมั๊ยคะ"

และอีกมากมายคำพูดอันเสียดแทงหัวใจพี่ๆ ทุกคน อยากให้สังคมได้รับรู้ ก่อนจากกันโบกมือลาด้วยน้ำตา และแววตาของเด็ก ๆ ที่มองรถจนลับตาพร้อมกับความหวังว่า จะมีใครมาเยี่ยมเยือนและนึกถึงพวกเขาเหล่านั้นกันอีกบ้าง…

สำหรับผู้มีจิตศรัทธาบริจาคช่วยเหลือเด็ก ๆ โอนเงินไปได้ที่ ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขายโสธร ชื่อบัญชี มูลนิธิสุธาสินี น้อยอินทร์ เพื่อเด็กและเยาวชน เลขที่ 561-2-21187-7

โทร. 0-4572-2241

หรือจะบริจาคเสื้อผ้า หนังสือการ์ตูน หนังสือเรียน ของเล่น และสิ่งจำเป็นได้ตามจิตศรัทธาเป็นของใหม่หรือของใช้แล้วก็ได้ เพราะของที่ท่านไม่ใช้แล้วยังมีค่ากับเด็ก ๆ เหล่านี้อย่างมาก

ช่วยกันหน่อยนะคะ...จะเป็นพระคุณอย่างสูง

(ช่วยส่งต่อกันไปเยอะๆนะ เพราะเยาวชนของชาติอยู่ในมือพวกคุณ)

สวัสดีค่ะ

  • ขอชื่นชมกับความมีจิตสาธารณะเป็นอย่างยิ่งค่ะ
  • จะบอกต่อและขอมีส่วนร่วมตามกำลังศรัทธาค่ะ
  • ขอให้มีความรัก ความสดใส ความอบอุ่น
  • เต็มหัวใจที่แบ่งปันให้กับคนทั้งโลก ตลอดไปนะคะ
  • ด้วยรักค่ะ

มีบทความของขวัญเรือน ฉบับใหม่หมสดๆ ประจำฉบับที่ 984 ปักษ์หลัง กพ. 2552

รับรู้เรื่องราวของครูติ๋ว และให้กำลังใจเธอได้ที่

http://www.kwanruen.com/interview.php?isold=&mid=3&PHPSESSID=2bf12ea6f5507a0f33f3a3e16b073908

พี่ตุ่นจ๋า..วันนี้เป็นไงมั่งจ๊ะ..

มีความสุขมากๆๆๆๆๆๆนะจ๊ะ..

คิดถึงมากๆเลยจ้า..

^^

(ตะกี๊ดูข่าวคนใจบุญไถ่ชีวิต..โคกระบือสองร้อยตัว..ตื้นตันใจจริงๆ..เห็นวัวมันร้องไห้ด้วยล่ะ..เฮ่อ..)

แอบอวยพรคนใจบุญให้ได้รับความสุขใจมากมาย..มหาศาลเลย..

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท