เมื่อส่งพี่ก้องเพื่ออยู่วัดก่อนบวชแล้ว
ต้องรีบเดินทางกลับบ้านเพื่อให้ทันไปรับน้องแก้ม
และน้องเกมส์ที่โรงเรียน กลับถึงสระบุรี
ยังมีเวลาเหลือจึงแวะไปรับเอกสารการจบ ป.๖ ของพี่ก้อง
และไปหาอาจารย์เกื้อ ที่โรงเรียนสระบุรีวิทยาคม
ที่พี่ก้องจะไปเรียนต่อ ม.๑
จะสอบถามว่าต้องทำอะไรบ้างเรื่องการมอบตัวของพี่ก้อง ซึ่ง
อ.เกื้อบอกเดี๋ยวเป็นธุระให้หลานเอง ไม่ต้องห่วง
เพื่อความรอบคอบขอเข้าไปคุยกับอาจารย์ก่อน
วันนั้นเป็นวันจับฉลากสำหรับเด็กในเขตที่สอบไม่ได้พอดี
ที่โรงเรียนจึงดูคึกคัก ทั้งผู้ปกครองและนักเรียน
เอกสารที่เตรียมไว้พร้อมแล้วคงขาดเพียงรูปถ่ายอย่างเดียว
จึงใช้รูปถ่ายใน ปพ.๑ ไปทำสำเนาอย่างง่ายดายในสมัยนี้
รูปที่ออกมาก็เหมือนรูปถ่ายทุกประการ
โดยไม่ต้องถ่ายจากตัวจริง
เมื่อคุยกับ
อาจารย์เกื้อ เรียบร้อยแล้ว
อาจารย์ได้บอกว่าเดี๋ยวอาจารย์จะออกไปทำธุระก่อน
เมื่อเอกสารครบให้ฝากเจ้าหน้าที่ ที่โต๊ะข้างๆ
ที่ทำหน้าที่รับมอบตัวนักเรียนได้เลย...เมื่อทักทายและกล่าวลา
นำเอกสารไปให้เจ้าหน้าที่ ที่ อาจารย์เกื้อฝากไว้ให้ดูให้
ทั้งต้นฉบับจริง และสำเนา เฮ้อ!
มารยังไม่หมดอีกจนได้ เมื่อยื่นเอกสารให้ จนท.หญิงสาวดู
“ เอาตัวจริงมาทำไม
แล้วถ่ายเอกสารหรือยัง” เสียงเครียดและดุดัน
ฉันรู้สึกขำกลิ้งๆจริงๆค่ะ ขำที่ว่ามารมาอีกแล้ว
“ผมเอามาให้ตรวจครับ
ก็ในเอกสารบอกว่าให้นำเอกสารตัวจริงมาให้ตรวจสอบด้วย...แล้วคุณก็ตรวจดูก่อนสิครับ
ก่อนที่จะถามผม”
คุณพ่อคงเหนื่อยมาทั้งวัน จึงพูดเหมือนคล้ายโมโห
ฉันเพียงสะกิดแขนเบาๆ เป็นการเตือนว่าอย่าวู่วาม
หรืออารมณ์เสีย
“ รูปนี้ใช้ไม่ได้ค่ะ
ต้องใส่ชุดนักเรียน...“ คราวนี้
จนท.สาวหันมาบอกแบบว่า ยังไงก็ไม่ได้
“ตอนนี้เด็กไม่อยู่ครับเค้าอยู่ที่วัดจะบวชเณร
คงมาถ่ายรูปให้ไม่ได้ ใช้รูปนี้ก่อนได้มั้ย
ไว้ตอนเปิดเทอมจะนำรูปมาให้“
เสียงคุณพ่อตอบอย่างใจเย็นและสะกดอารมณ์
“ไม่ได้ค่ะ
ต้องเป็นรูปนักเรียนใส่ชุดของเรียนเท่านั้น“
จนท.สาวยังยืนยันแบบไม่ผ่อนปรนเหมือนจะเอาชนะคะคานกันให้ได้
“แต่เด็กยังไม่มีเลขประจำตัวเลยนะครับ
มันเสียเวลาปักหลายรอบหรือเปล่า“
คุณพ่อยังแสดงความคิดเห็น แบบจะให้เห็นใจ
“ไม่ได้ค่ะ
ยังไงก็ต้องรูปนักเรียนใส่ชุดของโรงเรียน“ จนท.สาว
ยังคงยืนกรานอย่างเดิมเท่านั้น
และดูท่าทางวันนี้คงไม่จบกันแน่
ฉันจึงสะกิดและดึงสามีออกมานอกห้อง
ทั้งที่ไม่อยากทำแบบนี้ ให้สามีโทรฯหา อาจารย์เกื้อ
อีกครั้ง แต่โทรไม่ติด
ไม่เป็นไรยังมีอีกหลายท่านที่รู้จักกันดีแต่ไม่อยากรบกวนท่านเท่านั้นเอง
จึงโทรฯหา อาจารย์ต๊ะ เป็นคำพูดที่ไม่อยากนำมากล่าวในที่นี้
ที่อาจารย์ต๊ะ บ่นให้ จนท.สาว ว่าอย่างไร อาจารย์ต๊ะ
บอกให้เอาเอกสารวางไว้ที่โต๊ะ อาจารย์เกื้อ
เดี๋ยวจะจัดการให้หลานเอง...เป็นอันว่าเรื่องการมอบตัวของพี่ก้องก่อนกำหนดเสร็จเรียบร้อยด้วยดีแม้จะมีอุปสรรคบ้าง
แต่ฉันก็เข้าใจทุกอย่าง
สี่โมงเย็นพอดี
ไปรับ น้องแก้มและน้องเกมส์ที่โรงเรียน
แล้วแอบเดินเลยไปยังเวทีที่จัดงาน “ส่งพี่สู่ฟ้าใหม่"
เวทีที่จัดอย่างสวยงาม และฉันก็มองภาพออกว่า
เวลาคุณครูประกาศรายชื่อเรียกนักเรียนขึ้นไปรับใบประกาศ
หรือตอนที่เพื่อนๆ ถ่ายรูปร่วมกัน และเป็นประเพณี
ของเด็กโรงเรียนนี้
ที่วันนี้พวกเขาจะเขียนเสื้อบอกความรัก
ความในใจของเขาและเพื่อนๆ (แม้ฉันจะไม่เห็นด้วย)
ฉันได้แต่ยืนดูเวที ที่เขาจัดงานไปเรียบร้อยแล้ว
เรียกว่ายืนน้ำตาซึม
ต้องขอบใจลูกมากๆที่ลูกไปบวชตามที่แม่บอก
ปกติ...ภาพต้องเป็นอย่างนี้
ถ้าพี่ก้องได้ไปร่วมงาน
แต่วันนั้น...หลังจากส่งพี่ก้องที่วัดแล้วฉันอดมาดูเวทีหลังเลิกงานแล้ว...เป็นแบบนี้
๓ เมษายน ๒๕๕๓
เป็นวันขลิบและโกนผมนาค อาบน้ำนาค เทศน์สอนนาค
และพิธีมอบผ้าไตร
ฉันต้องยอมรับว่าฉันได้เห็นพิธีเต็มๆก็วันนี้ ทั้งๆที่
พิธีกรรมเหล่านี้ฉันเคยพบเห็นมามากเมื่อก่อนที่มีการบวชนาค
เดี๋ยวนี้ฉันแทบจะไม่ค่อยได้เห็นเลย
จะไปร่วมงานบวชก็ตอนเย็นที่เขากินเลี้ยงกัน
หรือไม่ก็ตอนเช้าที่บวชนาคเข้าโบสถ์
เกิดมาฉันไม่เคยขลิบผมนาค อาบน้ำนาค
ด้วยเป็นพิธีกรรมที่ผู้อาวุโสเท่านั้นที่จะทำได้
แต่วันนี้ฉันได้ทำพิธีกรรมเหล่านี้ทั้งหมดต้องบอกว่าเป็นครั้งแรกของชีวิต
ฉันปลื้มปิติยิ่งนัก
เมื่อผู้ที่จะบวชในวันนี้
249 คน พร้อมแล้ว ที่จะบวชเพื่อถวายเป็นพระราชกุศล
แด่องค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
มาพร้อมกันที่หน้าหอกรรมฐานและลานศรีมหาโพธิ์
และหลวงปู่เดินทางมาถึง เพื่อทำพิธีขลิบผมให้เป็นคนแรก
หลวงปู่ได้ถามว่า
“ มาถึงวันนี้แล้ว
มีใครไม่อยากบวชบ้างมั้ย หรือว่าจะหนีบ้าง
เพราะมีคนเคยหนีออกนอกรั้วไปแล้วชาวบ้านพบจึงพามาส่งให้ที่วัด
ไหนมีมั้ยคนที่จะพาหนี เพราะมันมีกันทุกรุ่น”
หลวงปู่ถามย้ำ มีคนยกมือด้วย
เมื่อหลวงปู่ถามซ้ำอีกว่าถ้าใครไม่อยากบวชก็ให้ไปคุยกับพ่อแม่อีกครั้ง
เกือบสิบคนที่ลุกออกมา บางคนร้องไห้สะอึกสะอื้น
บางคนก็ถูกพ่อแม่ด่าซ้ำที่ไม่อดทนที่จะบวช
เมื่อคุยกันสักพักหลวงปู่ได้ให้ทุกคนได้กราบลาบิดา-มารดาและญาติพี่น้องที่จะบวชในครั้งนี้
สุดท้ายแล้วทุกคนก็กลับเข้าไปรวมหมู่กับเพื่อนๆทุกคน
และได้บวชทุกคน หลวงปู่เป็นคนแรกที่ขลิบผมให้แล้วตามด้วยพ่อ แม่
และญาติพี่น้องที่มาร่วมงานในครั้งนี้อย่างเป็นระเบียบแถว
หลังจากนั้นพระพี่เลี้ยงและญาติโยมผู้ชายที่โกนผมเก่งก็จะช่วยกันโกนผมให้กับผู้จะบวชทุกคน
๑๕.๐๐ น. เป็นพิธีอาบน้ำนาค
ซึ่งญาติธรรมที่เป็นลูกศิษย์ลูกหาของวัดรวมถึงพระเณรที่วัดช่วยกันจัดสถานที่
ไว้เรียบร้อยแล้ว โอ่งน้ำตั้งเรียงรายอย่างเป็นระเบียบ
หน้าโบสถ์ พร้อมเก้าอี้สำหรับทุกคน
ก่อนถึงพิธีอาบน้ำนาคญาติทุกคนได้นำน้ำอบน้ำหอมและดอกไม้มาโปรยปรายที่โอ่งน้ำทุกใบ
ดูสวยงาม หลังจากนั้น หลวงปู่ได้ทำพิธีพิจารณาน้ำ
(บริกรรมคาถาอะไรหรือเปล่าฉันไม่อาจทราบได้
สังเกตเห็นหลวงปู่ใช้ขันตึกน้ำและยืนสงบนิ่งเล็กน้อยที่โอ่งน้ำทุกโอ่ง)
ผู้ที่จะบวชทุกคนเริ่มเดินทยอยกันมานั่งเก้าอี้ที่เตรียมไว้เรียงลำดับจากความสูงเป็นเด็กๆที่อายุตั้งแต่
๘ ขวบขึ้นไป ดูสวยงามยิ่งนัก
พิธีอาบน้ำนาค
หลวงปู่เป็นคนทำพิธีคนแรก ตามด้วยพระสงฆ์ในวัดทั้งหมด
อาบน้ำให้นาค
หลังจากนั้นหลวงปู่จะใช้แป้งทาที่ศีรษะโล้นๆทุกคน
น่าจะผสมสมุนไพรอะไรลงไปด้วย เมื่อครบทุกคนแล้ว พ่อ
แม่ และญาติๆทุกคนก็เริ่มทยอยอาบน้ำให้นาคทุกคน
(คิดว่าคงหนาวน่าดูกว่าญาติทุกคนจะอาบน้ำให้ครบทุกคน)
๑๘.๐๐ น. พิธีเทศน์สอนนาค
โดย หลวงปู่พุทธอิสระ ทุกคนจะสวมชุดนาค (สบง
สายรัดเอว และสไบเฉียงสีขาว) ตอนนี้เป็นภาพที่งดงาม
สะอาดตายิ่งนัก ทุกคนนั่งพร้อมกันที่ศาลาแสดงธรรม
ญาติๆนั่งกันรอบๆในพื้นที่ที่เหลือ...การบวชในครั้งนี้ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ
หลวงปู่ได้เล่าให้ฟังระหว่างเทศน์สอนนาคถึงเรื่องเกี่ยวกับหาจีวรสำหรับการบวช
ว่าไม่จำเป็นต้องหาซื้อใหม่จะใช้จีวรเก่าที่พระใช้แล้วและลาสิกขาไป
ซึ่งถ้าไม่ขาดหลายรูจนถึงขนาดต้องปะชุน ก็จะนำมาใช้
หลวงปู่ได้เล่าว่า
ย้อนไปในสมัยพุทธกาลที่ผู้ประสงค์บวชต้องสะสมเศษผ้าจากเศษผ้าต่าง ๆ
กระทั้งผ้าห่อศพนำมาตัดเย็บเป็นจีวร
แต่นี่เป็นเพียงจีวรเก่าประสาอะไรจึงจะใช้การไม่ได้
และมีอีกจำนวนหนึ่งที่มีผู้ประสงค์จะหามาถวายเมื่อมีการบอกบุญไป
และชุดนาคที่ใส่กันวันนี้ถ้าใครไม่เอาก็จะนำมาย้อมสีกรัก
ทำเป็นสบงต่อไป สำหรับบาตรก็เป็นบาตรเหล็กที่ญาติธรรมนำมาทำบุญ
การเตรียมอัฐบริขารก่อนบวช ในบันทึกของหนานเกียรติได้กล่าวไว้อย่างละเอียด
๑๙.๐๐ น. พิธีมอบผ้าไตร โดย
ประธานฝ่ายฆราวาส
๔ เมษายน ๒๕๕๓ เวลา ๐๖.๓๐ น.
เป็นพิธีถวายผ้าไตรและบาตร และ พิธีบรรพชาและอุปสมบทหมู่ โดยพ่อ
แม่ หรือญาติ
ซึ่งมีเจ้าคณะจังหวัดนครปฐมเป็นพระอุปัชฌาย์
หลังเลี้ยงเพลฉลองพระใหม่
มีพิธีตักบาตอาหารแห้งสำหรับพระและเณรใหม่ทุกรูป
เมื่อเสร็จกิจศาสนพิธีได้พูดคุยกับเณรใหม่เล็กน้อย
ฉันจึงเดินทางกลับบ้านด้วยความอิ่มบุญ
และมีความสุขอย่างบอกไม่ถูก หลังบวช ๑๐
วันไปแล้วทางวัดจึงจะอนุญาตให้ผู้ปกครองหรือญาติเยี่ยมพระเณรได้
ถึงตอนนั้นฉันไม่มีกังวลใดๆแล้ว
คิดว่าเณรต้องปรับตัวได้แน่ๆ
พิธีบรรพชาและอุปสมบทหมู่
ตักบาตอาหารแห้ง
สามเณรก้อง
ขอขอบคุณพี่น้องชาว
Gotoknow ทุกท่านที่ร่วมอนุโมทนาในครั้งนี้ค่ะ