ไม่ดูหนังแล้วได้อะไร?


 

ความรู้สึกผุดขึ้นเมื่อได้เห็นบันทึกที่เขียนไว้ว่า “ดูหนังแล้วได้อะไร?”

เป็นมุมมองที่เกิดขึ้นในอีกมุมหนึ่งที่อาจจะเรียกว่าน้อยคนในสังคมนี้จะได้สัมผัส
ในความน้อยนี้ขออนุญาตบอกกล่าว นำเสนอต่อสังคมในอีกมุมหนึ่งว่า ชีวิตกว่าหนึ่งปีนี้ที่ “ไม่ดูหนังแล้วได้อะไร?”

ไม่ดูหนังแล้วได้อะไร?
อื่ม... “ไม่ได้อะไรนะ”


ไม่ได้คิด ไม่ได้ปรุง ไม่ได้ยุ่งให้วุ่นวายในเรื่องและราวต่าง ๆ
ไม่ได้คิด ไม่ได้เพ้อ ไม่ได้ฝัน ไปตาม “กาม” และ “กิเลส” ที่ถูกสอดแทรกเอาไว้ทั้งในและนอกของหนัง
ไม่ต้องปวดหัวกับความคิด คิดละเมอ เพ้อพก วิตกดั่งเช่นพระเอกและนางเอกในนิยาย
ไม่ต้องเครียดจนนอนไม่หลับหรือเส้นเลือดสมองแทบแตก เมื่อเจอฉากฆ่ากันอย่างโหดร้ายแบบเลือดท่วมจอ เก็บไปคิด เก็บไปวิตก เก็บไปกลัว (อย่างเช่นที่เรากลัวผีกันอยู่ในปัจจุบัน สุนัข วัว ควาย เขาไม่เคยดูหนัง เขาเลยไม่กลัว เดินเพ่นพ่านในวัดและป่าช้าได้อย่างสบาย...)
ไม่ต้องสานต่อความรุนแรง ความอำมหิตในจิตและในใจ
ไม่ต้องเคลิบเคลิ้ม เพ้อฝัน อย่างนั้นอย่างนี้เมื่อเจอฉากที่แสนดี
ก็สบายดีอย่างไม่มีอะไร ไม่ต้องวุ่นวายใจเพราะไม่ได้ดู
ไม่ได้พูด ไม่ได้คุยเรื่องหนัง พูด คิด ทำ แต่เรื่อง “ธรรม”

ชีวิตนี้เวลามีค่านัก ใช้เวลาเฝ้าดูกายและดูใจของตนเอง ปรับปรุงจิตเมื่อลดข้อผิดของตนเอง นั่นคือ “หนัง” ที่น่าดูที่สุด
ละครของชีวิตที่เดินเองเป็นคนลิขิตให้เกิดมา
เฝ้าดู ตามดู “มีเวลาดู” เพื่อหาสาเหตุ แก้ไข ปรับปรุง พัฒนา นำพาชีวิตให้พันภัย

ความทุกข์จากการเกิด แก่ เจ็บ และตาย แค่นี้ก็ทุกข์กันจะแย่อยู่แล้ว
ดูหนังแล้ว “อยาก” ทำโน่น อยากเที่ยวนี่ อยากมีอย่างโน้น อยากเป็นอย่างนี้ เสริมทุกข์ให้ชีวี “มีทุกข์ภัย”
หนังดี ฉากดี ตัวแสดงดี เนื้อเรื่องดี สิ่งต่าง ๆ “ดี” ก็ยุ่ง
หนังไม่ดี ฉากไม่ดี ตัวแสดงไม่ดี เนื้อเรื่องไม่ดี สิ่งต่าง ๆ “ไม่ดี” ก็ยิ่งยุ่ง
ยุ่งเพราะเจ้าความคิด คิดมากยุ่งมาก ยุ่งมาก “ทุกข์” มาก
ทุกข์ตั้งแต่อยากไปดู ทุกข์ตั้งแต่ขวนขวายมาเพื่อให้ได้ดู เสียเงิน เสียทอง ทุกข์แม้กระทั่งเสียเวลาดู ทุกข์ที่ไม่นำเวลาที่มีน้อยนี้สร้างประโยชน์แก่ใคร ๆ

มีเวลาไปสร้างสรรค์ ไปทำอะไรดี ๆ มากขึ้นอีกหลายชั่วโมงในหนึ่งวัน

 

หรือถ้าเลี่ยง หลีก ไม่ได้ ต้องดู ดูเพราะห้าม ต่อสู้กับเจ้ากิเลสที่มารบเร้า ยั่วยุไม่ได้แล้วนั้น

ถ้าคนดูหนังแล้วมี วิจารณญาณ แยกแยะ ถูก ผิด ชอบ ชั่ว ดี ก็ดีไป
แต่ถ้าแยกแยะสิ่งต่าง ๆ เหล่านี้ไม่ได้....... ไม่ดูเสียเลยจะดีกว่า

ปัญหาของสังคมที่ “ทุกข์ ๆ” กันอยู่นี้ว่า ๆ ไป คลับคล้ายคลับคลาถอดแบบมาจากหนังเลยเน๊อะ...
หรือว่าหนังถอดแบบมาจากสังคม หรือว่าสังคมทำตามอย่างหนังน๊อ?

ถ้าหนังดีมีเยอะ สังคมคงดี แต่วันนี้ที่สังคมไม่ดี.....................?

เวลาที่ได้คืนมาจากการไม่ดูหนัง ไม่ดูทีวี “มีเยอะนะ” มากมายทีเดียวสำหรับการทำความดี
กวาดถนนได้เยอะ ถูศาลาได้แยะ เก็บไม้ใบ้ ปลูกต้นไม้ ทำวัตร สวดมนต์ ล้างห้องน้ำ เก็บความดีใส่กระเป๋าและใจ ได้ล้างห้องน้ำเพื่อล้างใจของตนเอง

ที่นี่ คนแถวนี้เลยไม่ค่อยมีทุกข์ เพราะไม่มีใครได้ดูหนัง
ไม่มีใครเอาหนัง ยึดถือหนังมาเป็นแบบอย่างของชีวิต ไม่ดำเนินชีวิตไปตามอย่างหนัง
เสื้อผ้าก็ไม่ต้องแฟชั่นจ๋า เสื้อขาว กางเกงผ้าฝ้ายสักตัวก็สบาย เย็นดีไม่ร้อน ไม่ต้องเปลืองค่าไฟอีกต่างหาก
นาฬิกา กระเป๋า รถ บ้าน โทรศัพท์มือถือ เครื่องสำอางแบรนด์เนมฟูฟ่า ไม่มีและไม่มีความคิดที่อยากมี
แถมยังดีที่ “ไม่หิวอีกต่างหาก” เพราะไม่มีสิ่งมาเร้ากิเลส ไม่กิน ไม่อ้วน ไม่ป่วย
ไม่ต้องดิ้นรน ไขว่คว้า รบกวนพ่อ โกหกแม่ เพื่อให้ได้มาซึ่งของใช้เพื่อสนองกิเลส รถ โทรศัพท์ ตามต้นฉบับ บุคคล (ดารา) ในดวงใจ ถึงแม้กระทั่งยอมแลกด้วยกายและใจเพื่อได้มา

นี่คงเป็นคำจำกัดความสำหรับคำว่า “ไม่ได้อะไร”
ไม่ได้อะไร เพราะว่า ไม่เกิดกิเลสเครื่องเร้าให้ได้สิ่งอะไรอันเป็นผลที่จะสร้าง “กรรม” ต่าง ๆ ให้ตามขึ้นมา

คนแถวนี้จึงมีเวลาทำดีมาก พื้นสะอาด ห้องน้ำเอี่ยม ต้นไม้โต เขียว สด และงดงามตามอย่าง “ธรรมชาติ”
ธรรมชาติคือชีวิต ชีวิตคือธรรมชาติ
ทำ อยู่ ใช้ชีวิต มีชีวิตอย่างธรรมชาติ จะสบายด้วยธรรมชาติแห่งความ “สงบ”...


คำสำคัญ (Tags): #ธรรมชาติ
หมายเลขบันทึก: 174611เขียนเมื่อ 1 เมษายน 2008 17:09 น. ()แก้ไขเมื่อ 4 เมษายน 2014 15:29 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

กราบนมัสการพระอาจารย์คะ

ดิฉันเคยดูหนังบางเรื่อง แล้วเกิดความรู้สึกเครียดไปตามเรื่องราวที่แสดง ตอนนั้นรับรู้เลยว่า ไม่ควรคิด หรือ หลงไปกับหนังด้วย ดูเพื่อความสนุก และเป็นการรับรู้ไว้เพียงพอ และเลือกจะเก็บ และจดจำ สิ่งที่ดีๆ ที่แฝงแง่คิดไว้จะดีกว่า

ได้อ่านบันทึกนี้ ดิฉันเลยได้เรียนรู้มากยิ่งขึ้นคะ

ขอบคุณคะ

ไม่ดูหนังแล้วได้อะไร?

อื่ม... “ไม่ได้อะไรนะ”

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท