และแล้วบทเพลง
Messiah ก็กระหึ่มก้องโบสถ์วัฒนาในค่ำคืนนี้ สร้างความประทับใจและความอิ่มเอมเหมือนดังที่ตั้งหวังไว้ บทเพลงชุด
Messiah ประพันธ์ขึ้นโดย
Geroge Frideric Handel คีตกวีผู้ยิ่งใหญ่ชาวเยอรมัน แต่คีตกวีผู้นี้ใช้ชีวิตส่วนใหญ่อยู่ที่ประเทศอังกฤษ Handel ประพันธ์บทเพลง Messiah ขึ้นในปลายฤดูร้อนเมื่อปี ค.ศ. 1741 นับว่าเป็นบทเพลงศักดิ์สิทธิ์ที่มีชื่อเสียงดังก้องโลก บทเพลงชุดนี้ขับร้องและประสานเสียงอย่างไพเราะ ประกอบด้วยท่วงทำนองของดนตรียุคบาโร้ค มักจะถูกนำมาแสดงเป็นประจำทุกปีในเทศกาลคริสตมาส
เพลงหนึ่งในชุดนี้ที่คนทั่วไปน่าจะรู้จัก หรืออย่างน้อยก็เคยได้ยินจากการชมภาพยนตร์ต่างประเทศก็คือ
ฮาเลลูยา (คอรัส) เมื่อปีค.ศ. 1742 ครั้งที่พระเจ้าจอร์จที่ 2 แห่งสหราชอาณาจักรได้ทรงรับฟัง พระองค์ถึงกับลุกยืนขึ้น ทำให้ทุกคนยืนตาม และกลายมาเป็นธรรมเนียมปฎิบัติจนถึงทุกวันนี้ ซึ่งในค่ำคืนนี้ผู้เขียนเองก็อดยืนขึ้นไม่ได้เช่นกัน ไม่ใช่เพราะทำตามคนอื่น แต่รู้สึกได้ถึงความอลังการและอยากจะลุกยืนขึ้นเพื่อถวายพระเกียรติแด่พระเจ้า
บทเพลงใน Messiah มีทั้งสิ้นประมาณ 50 เพลง ขับร้องประสานสี่เสียง โดยเนื้อร้องนำมาจากข้อพระธรรมในไบเบิล
บทเพลงแบ่งออกเป็นสามส่วนใหญ่ๆ ส่วนแรกเกี่ยวกับการรอคอยองค์พระผู้ไถ่ด้วยความหวัง และเตรียมรับเสด็จพระองค์ จบลงด้วยการประสูติขององค์พระคริสต์เจ้า ส่วนที่สองเป็นการรำพึงเกี่ยวกับการทรมานและการสิ้นพระชนม์ และจบด้วยเพลง "ฮาเลลูยา" ที่ยิ่งใหญ่ ส่วนที่สามเกี่ยวกับผลของการไถ่บาป ความเชื่อในพระผู้ไถ่ที่ทรงฟื้นจากความตาย ขอบคุณพระเจ้าที่ให้เรามีโอกาสรับชีวิตนิรันดร์ จบสุดท้ายด้วยเพลง "อาเมน" ที่สง่างาม ผลงานการขับร้องประสานเสียงครั้งนี้เป็นของวง The Bangkok Combined Choir หรือ คณะนักร้องกรุงเทพผสม โดย อ.จารุณี หงส์จารุ เป็น Conductor & Music Director คุณ Tasana Nagavajara เป็น Concertmaster และคุณ Naoko Kato บรรเลงเปียโน ร่วมกับวงราชนาวี มีนักร้องนำ Soprano 2 ท่านคือ คุณ Almuth Marianne Kroll และคุณ Danielle Tylke เสียง Tenor คือคุณ Derek Kwan ส่วน Bass คือคุณ Narat Kitavadhana การแสดงครั้งนี้จัดขึ้นเพื่อถวายพระเกียรติแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเนื่องในวโรกาสที่เจริญพระชนม์มายุครบ 80 พระชันษา และเพื่อการเฉลิมฉลองเนื่องในโอกาสสถาปนาจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยครบ 90 ปี ทำให้มีการแสดงสามรอบ (ศุกร์ที่จุฬาฯ อาทิตย์ที่คริสตจักรวัฒนา และจันทร์ที่โบสถ์มหาไถ่) ซึ่งปกติทุกปีจะแสดงแค่สองรอบคือที่วัฒนาและโบสถ์มหาไถ่ ชวนเชิญให้ไปชมเพราะนอกจากจะไพเราะยิ่งใหญ่แล้ว จะเห็นได้ถึงความพยายามที่น่าอัศจรรย์ของคณะนักร้องที่ต้องเสียสละเวลามาฝึกซ้อมเป็นประจำตั้งแต่เดือนกันยายนจนถึงวันแสดง ซึ่งทำแบบนี้เป็นประจำทุกปี สำหรับคนกรุงเทพฯ แล้วจะรู้ว่าความตั้งใจและการมาฝึกซ้อมอย่างสม่ำเสมอนี้ไม่ง่ายเลย โดยเฉพาะไม่ใช่หน้าที่ เพราะฉะนั้นสุดท้ายนี้ผู้เขียนจึงขอกล่าวคำว่าสุดยอด และปรบมือเพื่อเป็นเกียรติแก่ผู้อำนวยการเพลง คณะนักร้อง นักดนตรี และทุกคนที่เกี่ยวข้องอีกครั้งหนึ่ง ข้อมูลอ้างอิงจากสูจิบัตร Handel's Messiah Christmas 2007 และบทความ Messiah "Music made in heaven" โดยอ.ชัยณรงค์ มนเทียรวิเชียรฉาย