"เหม เวชกร" บุคคลที่ควรคู่แก่คำเรียกขานว่าศิลปิน


คำว่าศิลปินนี้ควรคู่แก่ผู้ที่ไม่เรียกกล่าวขานเรียกสรรพนามตนเองว่าเป็น แต่เกิดจากผู้อื่นเป็นผู้กล่าวยกย่อง

วิญญาณของจิตรกร กล่าวกันว่ามีสองดวง ดวงหนึ่งทำหน้าที่จินตนาการ แล้วอีกดวงหนึ่งก็บัญชาการให้ตามอักขระขีดเขียน หรือระบายความรู้สึกออกมาเป็นภาพอันเฉิดฉัน ซึ่งภาพนั้นจะเหมือนมีชีวิต อันชุบให้เกิดขึ้นโดยปลายดินสอด้ามเดียวเท่านั้น...

- เหม เวชกร -

ถ้อยคำนี้มาตัดตอนมาจากเสี้ยวหนึ่งของบทความ "ประกาศิตเบื้องบน" ของเหม เวชกร ในหนังสือ "๑๐๐ ปี เหม เวชกร" ที่ได้รับอภินันทนาการมาเป็นพิเศษเมื่อหลายปีที่แล้วจากสถานีที่เคยจอดำ คงจำกันได้ว่ามีช่วงหนึ่งที่สถานีได้นำผลงานของครูเหม เวชกรมาผลิตเป็นละครออกอากาศ เป็นเรื่องผีๆ ที่ใครหลายคนบอกว่าชวนขนหัวลุก ไม่เว้นแม้กระทั่งขนแขนก็แสตนอัพขึ้นพร้อมกันทุกครั้งที่ได้ดู



ผลงานของครูเหมเป็นผลงานอมตะที่เนื้อเรื่องชวนติดตาม ถึงแม้ว่าผู้เขียนจะเกิดไม่ทันยุครุ่งเรืองของท่าน แต่ก็ได้มีโอกาสชมภาพประกอบและงานเขียนที่ตีพิมพ์ออกมาเป็นหนังสือ เรียกว่าเป็นความโชคดีที่ห้องสมุดโรงเรียนสมัยประถมมีหนังสือของท่านมากมายเก็บซุกซ่อนไว้ในกล่องเก่าที่อยู่ตามซอกหลืบของตู้ เมื่อไปรื้อเจอเข้าก็ยึดครองทำเหมือนสมบัติส่วนตัวของเรา ไม่มีใครรู้แม้กระทั่งครูใหญ่ที่อนุญาตให้ผู้เขียนใช้ห้องสมุดได้ตามใจชอบ จนเมื่อภายหลังนำไปให้ครูดูก็คาดว่าเป็นหนังสือของคุณตา (คุณพ่อครูใหญ่ซึ่งเป็นทหารสมัยสงครามโลก) ตอนนั้นได้ฟิลด์มาก คือนั่งในมุมมืดท่ามกลางตู้สูงสองฝั่งที่อัดเต็มไปด้วยหนังสือเก่าๆ อ่านหนังสือนิยายผี ดูรูปประกอบที่สร้างจินตนาการให้บรรเจิด ยิ่งอ่านก็ยิ่งกลัว ยิ่งกลัวก็ยิ่งอ่าน ผลงานท่านหลอนเราได้อย่างคลาสสิคไม่เหมือนใคร ไม่ใช่แนวล้างแค้นแหวกไส้ควักพุง แต่มักจะเป็นรูปแบบความผูกพันของวิญญาณกับภพนี้จนกลายเป็นความสงสารซาบซึ้งมากกว่ากลัว และหนังสือผีของครูเหมยังมักบรรยายสภาพสังคม ณ เวลานั้นประกอบทำให้เราสามารถจินตนาการตามได้ นอกจากเรื่องผีๆ ในกล่องนั้นยังมีหนังสืออ่านเล่นที่ไม่น่ากลัวอีกจำนวนหนึ่ง รวมถึงหนังสือประกอบภาพเรื่องศรีธนนชัยซึ่งผู้เขียนชื่นชอบเป็นอย่างมากเนื่องจากสนุกแบบเด็กๆ บางเล่มครูให้มาด้วยเพราะเห็นว่าชอบ แต่หายไปตอนระหว่างย้ายบ้าน เป็นเรื่องที่น่าเสียดายสุดๆ



เมื่อได้หนังสือ "๑๐๐ ปี เหม เวชกร" เล่มนี้มาครอบครองจึงถือว่าเป็นโชคบวกความฝันที่หล่นลงมากลางหัวกลายเป็นความจริง ภาพผลงานที่ตีพิมพ์อยู่ในหนังสือเล่มนี้นับว่าสมบูรณ์เป็นอย่างยิ่ง (336 หน้า) จนอยากนำบางเสี้ยวส่วนมาแบ่งปันให้ทุกท่านได้มีโอกาสสัมผัสผลงานระดับครู ซึ่งนับได้ว่าไม่แพ้ศิลปินชาติใด มีเอกลักษณ์โดดเด่น เป็นตัวของตัวเอง ดูเมื่อไหร่ก็รู้ได้ว่าเป็นฝีมือใคร โดยส่วนตัวแล้วชอบผลงานลายเส้นขาวดำของท่านมากกว่างานลงสี เพราะทำให้นึกถึงผลงานของจิตรกรฝรั่งยุคโบราณ ภาพเขียนแบบนี้ต้องมีความสามารถล้ำลึกในการถ่ายทอด จะทำอย่างไรให้งานขาวดำสามารถสื่อให้คนดูนึกถึงสี แสงเงา และความรู้สึกได้ เป็นสิ่งที่ยากมากทีเดียว แม้แต่ดูแล้วให้ความรู้สึกกดดันอึดอัด รู้สึกเงียบวังเวง หรือทำให้คนดูหยุดหายใจเพื่อรอฟังการสนทนาแห่งตัวละครในภาพครูเหมก็ทำได้ และทำได้ดีสมบูรณ์จนใครก็ยากจะเลียนแบบอย่าง



"ศิลปิน" เป็นคำที่เหมาะสมอย่างยิ่งที่จะใช้เรียกครูเหม ไม่ใช่เพียงเพราะท่านเขียนภาพได้งดงามเท่านั้น แต่ท่านได้คำนึงถึงหลักองค์ประกอบและทฤษฎีในการวาดภาพสารพัดนอกเหนือจากแรงบันดาลใจ คำว่าศิลปินนี้ควรคู่แก่ผู้ที่ไม่เรียกกล่าวขานเรียกสรรพนามตนเองว่าเป็น แต่เกิดจากผู้อื่นเป็นผู้กล่าวยกย่อง

กระนั้นก็ตามครูเหมก็ได้เขียนบทความ "ภาพที่ดี" ไว้เตือนสติแก่ผู้ที่ชื่นชมผลงานของท่านดังบางส่วนที่ยกมาให้อ่านนี้
"...ทุกๆ ครั้งที่ได้รับคำชมเชยจากท่าน ข้าพเจ้าอดสะดุ้งใจไม่ได้ พยายามสำรวจตรวจค้นดูภาพที่ข้าพเจ้าเขียนเสมอ
ว่าถูกชมเชยได้เพราะความดีอย่างไร แม้ตรวจดูแล้ว ก็ยังมองไม่เห็นว่าภาพของข้าพเจ้าถูกชมว่าดีด้วยข้อใดบ้าง"

"...คำพูดเหล่านี้ช่างทำให้ข้าพเจ้าละอายใจเหลือ เพราะคนที่จะได้รับสมยาว่าเขียนเก่งนั้นหายากที่สุดในสยาม"



ในบทความนี้ยังได้แนะนำเกณฑ์การพิจารณาภาพแบบต่างๆ เช่น สัดส่วนของภาพ กายวิภาค เสื้อผ้า แสงเงา ความถูกต้องในเรื่องราว ฉากประกอบ กิริยาท่าทาง ฯลฯ เมื่อพิจารณาได้ดังนี้ครบถ้วนกระบวนความแล้วจึงค่อยชมก็จะเป็นการดี เพราะนอกจากการตัดสินภาพด้วยอารมณ์แล้ว หากมีหลักเกณฑ์การพิจารณา ก็จะชื่นชมภาพได้อย่างมีอรรถรสเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะงานลักษณะ realistic แบบผลงานของท่าน ...ผู้เขียนชื่นชมในความกล้าหาญบวกกับความใจกว้างที่ครูเหมบอกกล่าวแก่สาธารณชนที่ชื่นชมผลงานท่าน มันเป็นความจริงใจที่แสดงออกมาทางงานเขียน ซึ่งผลสะท้อนอาจเป็นไปในทางลบหรืออาจโดนข้อหาว่าหยิ่งจองหองก็ได้



ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันมีคนจำนวนไม่น้อยที่ชื่นชมงานศิลปะเพราะคนอื่นกล่าวว่าดีก็เลยว่าดีตาม ทั้งๆ ที่บางครั้งอาจจะไม่ประทับใจ ไม่เข้าใจ ดูไม่รู้เรื่อง หรือไม่มีแม้แต่อารมณ์ร่วมด้วยซ้ำ แต่ก็เอ่ยปากชมตามน้ำอันเนื่องมาจากชื่อเสียงของศิลปินและสังคมรอบข้างที่ดูมีการศึกษา เขาว่ากันว่าดีเราก็ว่าดีด้วย เพราะเกิดอาการกลัวว่าตาจะไม่ถึงหรือกลัวคนอื่นหาว่าไม่มีรสนิยมก็เลยว่าตามๆ เขาไป จากบทความนี้ทำให้พอจะเข้าใจว่าครูเหมท่านรู้สึกอิลักอิเหลื่ออย่างไรกับคำชมประเภทนี้



นอกจากผลงานภาพประกอบหนังสือแล้ว เหม เวชกร ยังเคยฝากฝีมือไว้บนจิตรกรรมฝาผนังส่วนหนึ่งของวัดพระแก้ว ถ้าท่านใดเคยชมแล้วสังเกตุก็จะพอจำได้ และความสามารถครูเหมยังไม่ถูกจำกัดไว้เพียงแค่ภาพวาดกับงานเขียนหนังสือเท่านั้น ผู้เขียนก็พึ่งทราบว่าท่านได้แต่งเพลงไว้หลายเพลง อาทิ "ซานซามิน" "จันทร์จาก" "ไร้คู่" และผลงานที่ได้รับการยกย่องเป็นเพลงเกียรติยศของคณะกรรมการสำนักงานคณะกรรมการวัฒธรรมแห่งชาติก็คือ "โอ้เจ้าสาวชาวไร่" ซึ่งใช้เป็นเพลงประกอบละครทางวิทยุสาวชาวไร่ที่กระจายเสียงผ่านทางกรมประชาสัมพันธ์เมื่อปีพศ.2481 และอีกหลายบทเพลงที่ได้แต่งไว้แต่ปัจจุบันคงไม่ค่อยมีใครรู้จักแล้ว แค่เพียงเท่านี้ก็เรียกว่าครบเครื่องทุกด้านทั้งสาขาจิตรกรรม วรรณกรรม และคีตศิลป์ คำเรียกขานว่าศิลปินนั้นคงดูไม่เกินไปสำหรับอัจฉริยะบุคคลท่านนี้ ดังที่จั่วหัวชื่อบันทึกเอาไว้


ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจากหนังสือ 100 ปี เหม เวชกร
และอดีตสถานีโทรทัศน์ iTV ที่สนับสนุนการผลิตหนังสือที่ดีเล่มนี้
รวมถึงที่เรียกผู้เขียนเป็นผู้มีอุปการคุณของสถานีที่ควรมอบให้เป็นพิเศษ ^ ^
(ในหนังสือเขียนไว้อย่างนี้จริงๆ นะ ไม่ได้เขียนขึ้นมาเองแต่อย่างใด)

หมายเลขบันทึก: 170449เขียนเมื่อ 12 มีนาคม 2008 01:42 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 18:50 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (49)

สวัสดีค่ะคุณน้อง Little Jazz ที่น่ารัก

เมื่อไร..น้องจะเขียนหนังสือขาย..ค่ะ..คุณพี่รอซื้ออยู่ค่ะ..อิๆๆ

ด้วยรักจากใจพี่หมูอ้วนเอง

ใจเย็นค่ะพี่ คงไม่เร็วแน่นอน ขอเก็บรวบรวมข้อมูลให้ดี มีเรื่องที่คิดว่าน่าสนใจเขียนเป็นพล็อตไว้แล้ว ต้องทำการบ้านเยอะๆ คิดว่าเขียนหนังสือสักเล่มมันต้องเปลืองทรัพยากรโลกจำนวนไม่น้อย ไม่อยากสร้างผลงานที่เป็นขยะเพิ่มขึ้นค่ะ อยากให้คนที่ได้อ่านหนังสือเรารู้สึกว่านี่ควรค่าต่อการเก็บ ไม่ใช่น้ำหนักเยอะเอาไปชั่งโลขายได้หลายตังค์ ^ ^

สวัสดีค่ะ

เห็นว่ามี ตราไปรษณียากรชุดจิตรกรรมเหม เวชกรด้วย น่ามีเก็บไว้สักชุดค่ะ ไม่ทราบตอนนี้จะมีไหม 

พี่สะสมแสตมป์ไว้บ้างเหมือนกัน แต่ลูกไม่ค่อยสนใจ เลยไม่ได้สะสมต่อเท่าไร แต่ก่อนสะสมกับน้องชายค่ะ

  • พี่ชอบผลงานครูเหมมากค่ะ
  • ฝีมือชั้นครูจริงๆนะคะ

ไม่ทราบเรื่องแสตมป์ชุดนั้นเหมือนกันค่ะ พอดีไม่ได้สะสมแสตมป์มานานแล้วค่ะ ขายกินหมด อุ๊บส์ เบื่อขี้เกียจตามต่างหาก ^ ^ ยิ่งหลังๆ ไม่ค่อยมีใครส่งจดหมายหา มีแต่อีเมลก็เลยไม่มีของใหม่เพิ่ม ยกให้น้องๆ ที่ชอบไป บางส่วนก็มีคนซื้อต่อ แต่ก่อนมีเยอะพอสมควรค่ะ สะสมมาตั้งแต่เด็ก

ขอบคุณมากครับที่นำเรื่องนี้มาลง

ไม่ทราบว่าเมืองไทยมีพิพิธภัณฑ์ของครูเหม เวชกรไหมครับ

เป็นศิลปินชั้นครูที่ผมชื่นชอบ

พี่นารีชอบศิลปินท่านเดียวกันเลย ใจตรงกัน ปิ๊งๆ ฝีมือระดับนี้หายากนะคะ

ท่านฑูต

ไม่เคยได้ยินค่ะว่ามี หรือมีแต่ไม่ทราบก็อาจเป็นไปได้ เดี๋ยวจะลองหาดู แต่มีการจัดแสดงนิทรรศการเมื่อ 21-27 กค. 43 ชื่องาน "เหม เวชกร รำลึก" ที่ศูนย์สังคีต ธ.กรุงเทพ สาขาผ่านฟ้า จัดโดยกลุ่มรักครูเหมเพื่อหาทุนช่วยเหลือภรรยาท่าน (ป้าแช่ม เวชกร) ที่เป็นอัมพาต แล้วก็ช่วยรักษาลิขสิทธิ์ภาพวาดให้ท่านเพราะมีคนนำไปทำการค้าโดยไม่ขออนุญาต ก่อนจะครบงาน 100 ปีที่ทำหนังสือนี้ภรรยาท่านก็เสียชีวิตไปก่อนหน้าปีครึ่งแล้วด้วยโรคชรา ตอนนั้นอายุรวมได้ 98 ปีค่ะ

สวัสดีค่ะ

ก่อนหน้านี้ เมื่อปี 47 มีการรวบรวมผลงานของท่านมาจัดแสดงที่หอศิลป์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ(ศูนย์สังคีตเดิม) ไม่ทราบว่าได้ไปชมไหมคะ

ผมเคยมีโอกาสได้ชมผลงานของครูเหมสมัยเป็นยังนักเรียนศิลปะ แสดงนิทรรศการอยู่ที่ ที่ศูนย์สังคีต ธ.กรุงเทพ สาขาผ่านฟ้า แต่นานมากแล้วจำไม่ได้ว่าปีอะไร นับเป็นบุญตาจริงๆ ครับ

มีใครที่มีหนังสือ "100 ปี เหม เวชกร" มากกว่า 1 เล่มและอยากจะเผื่อแผ่คนอยู่อินเดียบ้างไหมครับ

ถามตรงๆ

ตามสะดวกนะครับ

P  คุณ Jaewjingjing

เสียดายไม่ได้ไปดูค่ะ แต่มีหนังสือเล่มนี้ก็พอจะแทนได้อยู่ เพราะพิมพ์ดีมาก และรวมรูปไว้ล้วนๆ เยอะจนตาลาย พึ่งเห็นหนังสือที่รวมรูปไว้เยอะขนาดนี้ค่ะ เนื้อเรื่องก็มีบ้างแต่เป็นส่วนน้อยนับเป็นราว 10-15% ได้ นอกนั้นเป็นรูปหมดค่ะ มีโปสเตอร์ด้วย

P ด.ช.เสกสรรค์

โชคดีจริงๆ นะคะที่ได้ไปดูนิทรรศการ จริงๆ แล้วก็อยากชมเหมือนกัน

P  ท่านฑูต

เขาแจกมานานมากแล้วค่ะ เดี๋ยวจะลองถามต้นทางที่เป็นผู้สนับสนุนการผลิตดูว่าจะพอมีเหลือบ้างไหม แต่เห็นบอกว่าตอนนั้นผลิตจำกัด ต้นทุนคงแพงเพราะเล่มหนา หน้าสี่สีราว 35% นอกนั้นก็ลายเส้นขาวดำตามแบบงานเขียนต้นตำรับ มีนิทานศรีธนนชัยหลายตอนให้อ่าน พงศาวดารไทย และอื่นๆ ค่ะ เย็บกี่อย่างดีปกกระดาษพิมพ์สีน้ำเงินปั๊มเคทองหุ้มจั่วปั่ง และมีปกกระดาษอ่อนพิมพ์แบบเดียวกันหุ้มอีกที ใส่อยู่ในกล่องที่พิมพ์หน้าตาแบบเดียวกันค่ะ เรียกว่า luxury เลยแจกน้อย ถ้าหาได้จะลองหาให้ค่ะ ^ ^ เข้าใจหัวอกคนชอบศิลปินคนเดียวกัน

ยังไม่รู้ผลเลยค่ะ ไว้ถ้าได้แล้วค่อยขอบคุณก็ไม่สาย ตอนนี้รับไปล่วงหน้าจะละอายใจหากไม่สามารถหาให้ได้ - - "

:)ซูซาน

ครูเหมนี่ถ่อมตัวจังเลยนะ ชอบจัง ได้ยินชื่อเสียงโด่งดังมานานมาก เพิ่งเห็นหน้าวันนี้เอง ดูจากภาพที่มีคนแก่นั่งบนเก้าอี้ แล้วมีคนนั่งพื้นกราบ ดูไกลๆเหมือนภาพถ่ายเลย เจ๋งจริงๆ ..และชอบขุนศึก... ดูฟ้อนท์ตัวหนังสือ"ขุนศึก"แต่ละเล่ม ไม่ซ้ำกันเลย เห็นแล้วนึกถึงตอนเด็กๆเลยที่พยายามออกแบบฟอนท์ตัวหนังสือแนวนี้

ชอบครูเหมจัง...เก่งจริงๆ

 

P  พี่อุ๊

ใช่แล้ว รูปนั้นเหมือนภาพถ่ายมากเลย ของจริงขนาดใหญ่ยิ่งดูเหมือนเพราะรายละเอียดเนี๊ยบ ฟอนต์ขุนศึกสวยดีนะ โบราณดี ฟอนต์แบบนี้เขียนสร้างขึ้นมาเฉพาะคำ ไม่มีการทำฟอนต์แบบนี้ ไว้ว่างๆ จะลองทำแจกให้ชาวบ้านใช้ดู ยากนะ สมัยเรียนเราเคยออกแบบไว้สามสี่ฟอนต์แต่ไม่ได้เอาเข้าระบบคอม หายหมดแล้วล่ะ ชอบครูเหมเหมือนกัน ดีใจจังเย้

คุณ Little Jazz

ยังไม่รู้ผลเลยค่ะ ไว้ถ้าได้แล้วค่อยขอบคุณก็ไม่สาย ตอนนี้รับไปล่วงหน้าจะละอายใจหากไม่สามารถหาให้ได้ - - "

จะมาบอกว่า คำขอบคุณนี้สำหรับจิตที่ยินดีจะลองถามให้นะครับ

ผมไม่ถึงกับซีเรียสอะไรและไม่รบกวนนะครับ

ไมตรีจิตนี้ก็เพียงพอแล้วและมีค่าไม่แพ้กัน

ขอบคุณมาก

 

  • ตอนเด็กๆๆดูรูปวาด ผี
  • รูปในวรรณคดี
  • เห็นภาพวาดแล้วเกิดจินตนาการ
  • ดูชื่อคนวาด โห  เหม เวชกร
  • นี่เอง

สวัสดีค่ะ

ช่วงที่มีการจัดนิทรรศการรวบรวมผลงานที่หอศิลป์สมเด็จฯ มีหนังสือจำหน่ายด้วยค่ะ  แต่ตอนนี้ไม่ทราบว่าที่ร้านขายของที่ระลึกของหอศิลป์ยังมีหนังสือจำหน่ายอยู่หรือเปล่า  ถ้ามีโอกาสผ่านไปหอศิลป์สมเด็จฯ จะมาแจ้งข่าวอีกครั้งนะคะ

แต่ที่หอศิลป์ฯ มีโปสการ์ดจำหน่ายอยู่ค่ะ นำ link มาฝากนะคะเผื่อว่าท่านใดสนใจจะสะสมไว้เป็นที่ระลึก ลองคลิกเข้าไปดูค่ะ

http://www.queengallery.org/th/shop.php

P  ท่านฑูต

ขอบพระคุณมากค่ะ ปลื้มจัง ^_____^

P  พี่ขจิต

ร่วมสมัยนะนั่น ได้อ่านผลงานท่านด้วย แง...น้องเจ็บข้างในหลอดอาหารจัง เมื่อกลางวันกินเกี๊ยวซ่าแล้วสงสัยมีวัตถุแปลกปลอม น่าจะเป็นอะไรที่แบนบางแล้วแนบติดหลอดอาหารได้ สันนิษฐานว่าเป็นพลาสติก ตอนนี้กลืนน้ำลายบางมุมก็จิ้มเอา เล่นเอาสะดุ้ง เจ็บจังเลย กลืนข้าว กล้วย และสารพัดก็ไม่ลงไป ล้วงคอให้อ๊อกออกมาก็ยังคงอยู่ T_T เดี๋ยวพรุ่งนี้จะไปหาหมอให้ตรวจ ถ้าไม่หายและตายซะก่อนจะเป็นผีมาหลอกพี่เอง

P  คุณ Jaewjingjing

ขอบคุณสำหรับข้อมูลที่นำมาเอื้อเฟื้อท่านอื่นๆ ค่ะ

เพิ่งได้ไล่ตามมาอ่านเรื่อง อ.เหม เวชกร

พี่ว่าพี่เคยเห็นรูปเหล่านี้บ้างนะ แต่อนิจจา โลกทัศน์แคบจริงๆ .. ไม่รู้เรื่องศิลปะ ศิลปินกะเขาเลย มีสมองซีกเดียวแหงๆ เลยเรา อิอิ แต่โตขึ้นก็ชอบดูสิ่งเหล่านี้และสนใจมากขึ้นนะ

พี่ชอบรูปที่เหมือนรูปชนช้างยุทธหัตถี(หรือเปล่า) แล้วก็รูปขาวดำทั้งหลายนั่นนะ รายละเอียดดีมากๆ จริงๆ นะ ดูแล้วให้บรรยากาศดีมากๆ เลย

อ้อ..แล้วที่ติดคอน่ะ หายหรือยัง หวังว่าคงหายแล้วนะจ๊ะ อาจจะเป็นอะไรไปบาดไว้ก็ได้นะ หวังว่าคงไม่มีอะไรไปติดหรอกนะ เห็นใจจัง ตอนนี้พี่ก็ไอค๊อกๆ แค๊กๆ เป็นหวัดลงคอ น่ารำคาญดี ตื่นกลางคืนมาไออย่างเมามันแล้วก็นอนต่อ ^ ^

P  พี่ตุ๋ย

แหมก็อยู่คนละวงการนิ พี่ลองเอาตึกดังๆ มาให้น้องดูแล้วบอกชื่อก็คงบอกไม่ถูกเหมือนกันแหล่ะ รูปขาวดำมีเสน่ห์มากเลยเนอะ แสงเงาและลายเส้นสุดยอด มีการศึกษา figure เป็นอย่างดี ทำการบ้านเยอะ ดูที่เขารวมภาพเสก็ตช์ของครูเหมแล้วความรู้สึกเหมือนได้ดูสมุดสเก็ตช์ของ Davinci ทีเดียว เป็นพวกช่างศึกษาอย่างมาก

หายแล้วจ้า ไปให้หมอจัดการ ดูเหมือนง่ายนิดเดียว แต่โดนดึงลิ้นให้ความรู้สึกเหมือนภาพที่เคยเห็นเขาเขียนรูปยมบาลดึงลิ้นคนไง เอากล้องส่องเข้าไป พอเห็นก็เอาที่กดลิ้นกดแล้วเอาคีมยาวๆ คีบออกมา ดีนะที่ติดไม่ลึก แต่เอาออกเองไม่ได้ กลืนก็ไม่ลง เพราะมันปักคาทอนซินไว้เลยล่ะพี่ เป็นเสี้ยนไม้ยาวพอสมควรเกือบ 1 cm. มันถึงตำแล้วทำให้รู้สึกเจ็บ เอารูปมาให้ดูล่ะ เข็ดจนตายเลย

โห น่ากลัวจัง โล่งอก เอาออกมาได้แล้ว น่าเสียวนะคะ

แค่คิดก็...ทานอะไรคงต้องระวังขึ้นอีกค่ะ

จะบอกว่าตึกดังๆ ก็ไม่รู้จักเท่าไหร่หรอก 5555

ดีใจที่หายแล้วนะ ต้องบอกว่าดีว่าเสี้ยนมันอันใหญ่ เอาออกง่าย ติดไม่อยู่ลึก ... มองโลกในแง่ดีไว้ก่อน.. ^ ^

น่ากลัวดีเหมือนกัน จะกินอะไรทีก็ต้องคิดเยอะนะ สมัยก่อนเจอก้างปลาตำคอ ยังกินกล้วยหรือข้าวเหนียวเข้าไปช่วยได้ แต่เจอเสี้ยนไม้เนี่ย..หาหมออย่างเดียวเลย

P  พี่ศศินันท์

ก็หวาดเสียวเหมือนกันค่ะตอนเห็นว่าอะไรที่มันติดคอเรา ต่อไปถ้าทานอะไรที่ห่อมิดๆ คงไม่กล้ากัดแล้ว ต้องแบะออกมาดูก่อนแน่นอนค่ะ

P  พี่ตุ๋ย

อ้าวเหรอ 555 ขำง่ะ งั้นก็พอกันกับน้องล่ะ
พี่ไอ้เรื่องก้างปลาติดคอแล้วกินข้าวหรือกล้วยตามนี่หมอเขาว่าเป็นความเชื่อที่ผิดๆ นะ บอกว่าถ้ามันติดในมุมแทยงแล้วกินข้าวตามจะอันตรายมาก มันเหมือนคนเสี้ยนตำแล้วเอามือไปกดซ้ำ มันก็จะปักลึกเข้าไปอีก คล้ายๆ กับที่น้องเจอนี่ล่ะ เพียงแต่อันมันใหญ่กว่าก้างเท่านั้น ส่วนใหญ่ที่กลืนแล้วหายนี่คือโชคดีว่ามุมมันไม่แทยงแต่ลงตรงๆ หมอเขาว่ามาแบบนั้นนะ ไม่รู้เหมือนกัน ต่อไปนี้กินอะไรคงต้องระวังดีๆ เมื่อคืนแม่ซื้อปลาทูมา แหยงเลย แต่แม่แกะและดูให้เหมือนที่ทำให้หลานเลยกล้ากินง่ะ - - "

เห็นเศษไม้แล้วต้องบอกว่า...ดีที่น้องรีบไปหาหมอ  ไม่งั้นเป็นหนองขึ้นมาละยุ่งใหญ่จ้ะ...

P  พี่ติ๋ว

ก็กลัวเหมือนกัน แต่มันไม่เจ็บ และไม่รู้สึกบวมๆ เหมือนเมื่อคืนแล้วล่ะ หมอไม่ได้ให้ยาอะไร ดึงออกมาเสร็จก็กลับได้เลย นี่คืนนี้กินข้าวมีความสุขแล้วล่ะ

สวัสดีจ้ะน้องซูซาน

เคยได้ยินชื่อ และเคยดูภาพวาดประกอบจากหนังสือหลายๆ เล่มรวมถึงโปสเตอร์ด้วยมั่งจำไม่ได้แล้ว ประมาณว่าเคยเห็นเมื่อตอนเด็กๆค่ะ ... แต่ก็ไม่ได้อิน เพราะตอนนี้ยังไม่ค่อบซาบซึ้งกับศิลปะ...แต่ตอนนี้อินแล้วค่ะ แต่ยังน้อยกว่าน้องซูซานเยอะ แบบดูเห็นสวย ชื่นชมคนวาด ศิลปิน แต่ยังไม่ค่อยมีความรู้ค่ะ...ก็เลยมาหาจากน้องนี่แหละ...

โห...เข้าไปติดได้ยังไงเนี่ย ตกข่าวไป ขอโทษด้วยนะ... โชคดีนะที่คึงออกได้แล้ว พี่เคยโดยก้างยาวเกือนนิ้วติดคอ แบบทานปลาไม่ระวังยังก็ไม่รู้ ล้วงคอเองเลย จับออกมาได้ แบบน้ำตาเล็ดเลยแหละ หลังจากนั้น เลยไม่ค่อยกล้าทานปลาสักเท่าไหร่ กลัวมาก...

ต่อไปต้องระวังให้มากขึ้นเน๊าะ

ตามมาดูเศษไม้ที่ติดคอซูซาน ดีใจด้วยที่หายแล้ว โชคดีที่ไปหาหมออย่างเร็ว หายทรมานเร็วขึ้น คอคนเราเนี่ยเซนซิทีฟมาก รู้สึกได้ทันทีถ้ามีสิ่งแปลกปลอมเล็กนิดเดียว  ปลอดภัยละ สบายใจ...

P  พี่แป๋ว

งานศิลป์นี่จริงๆ นอกเหนือจากทฤษฎีทั้งหลายที่ควรศึกษาเพื่อให้ชมงานได้อรรถรสเพิ่มขึ้นแล้ว สิ่งที่สำคัญที่สุดหนูว่าคือความชอบหรืออารมณ์ร่วมนั่นเอง สำคัญที่สุดเลยล่ะ ถ้าไม่ชอบต่อให้ทฤษฎีเยอะแค่ไหน องค์ประกอบดี แสงเงา ฟิกเกอร์ ถูกต้องตามมาตรฐานหมดก็ยังไม่ชอบอยู่ดีแหล่ะค่ะ ทฤษฎี support ทั้งหลายน่าจะเป็น option สำหรับผู้ต้องการวิจารณ์เพื่อที่จะได้วิจารณ์อย่างมีหลักเกณฑ์ แต่ถ้าดูเอาความสุขนี่แค่ชอบก็พอแล้วล่ะค่ะ

พี่ตกข่าวเพราะมัวแต่ตกใจงูน้อยในห้องทำงานไง อิ อิ แต่หายดีแล้วล่ะ สบายมาก แต่งานนี้ใกล้หัวใจนะ เพราะอยู่ด้านในแล้วแถวๆ ทอนซิน ^ ^ ถ้าหนูติดแบบพี่แป๋วไม่รู้จะล้วงเป็นหรือเปล่าอ่ะ สยองนะนั่น

P  พี่อุ๊

สบายดีแล้ว ปลอดภัย พี่อ๋องเขาบอกว่าถ้าอยู่เมืองนอกนะรวยไปแล้ว ฟ้องร้องกันกระจาย ออยฝากให้หลอกพี่ว่าเป็นเส้นผม หรือใบมีดโกน พี่จะได้ตกใจนึกว่าเราถูกทำคุณไสย

ป่านนี้คงหายเจ็บคอแล้วนะคะ น่าหวาดเสียวจังเลย ทานอาหารแล้วมีเสี้ยนตำคออย่างนี้เป็นเมืองนอกละก็ร้านหรือผู้ผลิตอาหารนั้นคงโดนฟ้องไปแล้วนะคะ

พี่ได้อ่านฟอร์เวอร์ดเมล เรื่องที่คนดื่มชาจากถ้วยพลาสติคที่เจาะรูแล้วเอาหลอดแทงลงไป ปรากฏว่าพลาสติคส่วนที่ถูกเจาะเป็นแผ่นกลมเล็กๆตกลงไปในเครื่องดื่มแล้วคนคนนั้นก็ดูดเครื่องดื่มและเจ้าเศษพลาสติคบางๆแบนๆนี้เข้าไป มันไปติดอยู่ในคอ ไปหาหมอก็ส่องไม่เห็น เรื่องใหญ่ถึงกับผ่าตัด เจ็บตัวมากมายและหมดเงินไปไม่น้อย หากเป็นเรื่องจริงก็น่ากลัว และเราควรระวังนะคะ

สมัยเป็นเด็กพี่อยู่เมืองกาญจน์คุณตาพี่รับหนังสืออะไรไม่ทราบจำไม่ได้ รับประจำ ทุกฉบับที่ปกหลังจะเป็นภาพวาดของท่าน เหม เวชกร พี่ยังจำลายเซ็นต์ท่านได้เลยค่ะ

ศิลปินและปูชนียบุคลเช่นท่านควรมีการสร้างพิพิธภัณฑ์จริงๆค่ะ

หมู่นี้ไม่ค่อยได้สื่อสารกันเลย คิดถึงค่ะ

P  พี่นุช

ขอบคุณค่ะพี่ที่มาเยี่ยมคนเคยเจ็บที่หายแล้ว มีคนบอกเหมือนกันว่ารวยแน่ถ้าอยู่เมืองนอก ฟ้องกระจายค่ะรับรอง แต่อยู่เมืองไทยก็ต้องบอกว่าโชคดีแล้วที่ไม่เป็นอะไร อย่านึกว่าใครจะรับผิดชอบเลยค่ะ ที่ร้านเขาบอกว่าไม่รู้เรื่อง

เห็นด้วยค่ะพี่ว่าควรมีพิพิธภัณฑ์ แต่อาจจะไม่ใช่งานของครูเหมคนเดียว น่าจะรวบรวบผลงานศิลปินหลายๆ ท่านมาเก็บไว้ เมืองไทยกับหอศิลป์หรือพิพิธภัณฑ์นี่มีการลงทุนน้อยกว่าต่างประเทศเยอะ น่าเสียดายทั้งๆ ที่เราก็มีศิลปินไม่น้อยกว่าชาติใดทีเดียวค่ะ

  • ฟังแล้วน่าตกใจมาก
  • เรื่องอุบัติเหตุที่ไม่ควรเกิดแต่แล้วมันก็เกิดจนได้
  • เราต้องระวังมากขึ้นโดยเฉพาะคนสายตาไม่ปกติ
  • พูดถึงครูเหมเวชกร ท่านเป็นศิลปินชั้นครู

 

 

 

P  อ. Lin Hui

ขอบคุณค่ะที่มาเยี่ยม หายแล้วชัวร์ ไม่เป็นไรแล้ว คำจำกัดความของอุบัติเหตุคือสิ่งที่เกิดขึ้นกับเราโดยไม่คาดคิด แต่ก็อย่างว่าค่ะ ถ้าเราระวังสักหน่อย โอกาสเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุก็คงลดลงได้

ชอบครูเหมเหมือนกันหรือเปล่าคะ ท่านเก่งมากทีเดียว เป็นศิลปินที่น่ายกย่องในหลักการทำงานที่มีมาตรฐานสูง

  • ที่เรียกว่าศิลปินชั้นครู
  • นั่นย่อมแสดงให้เห็นว่ายิ่งกว่าชอบมากกว่ายกย่อง
  • แต่เป็นต้นแบบของความเป็นครู
  • เป็นผู้ที่รู้อย่างลึกซึ้งเป็ยระบบระเบียบอย่างมีแบบแผน
  • การถ่ายทอดอารมณ์ ในแต่ภาพสะท้อนความละเอียดอ่อน
  • ในแต่ละเรื่องได้อย่างยอดเยี่ยม
  • Lin Hui ชอบในแนวภาพวาดประกอบวรรณคดีช่างงดงาม
  • ทำให้มีจินตนาการถึงบรรยากาศในเรื่องนั้นๆ โดยเฉพาะเรื่อง กามนิต วาสิฏฐีค่ะ
  • ส่งรูปทับทิมระยะอายุที่ต่างกันมาให้ดู
  • จะได้มีกำลังใจปลูกค่ะ

Pomegranatenote1

P  อ. Lin Hui

ขอบคุณที่นำรูปมาฝากนะคะ เห็นหน้าตาผลทับทิมแล้วฮึกเหิม เดี๋ยวจะลองดูค่ะ ถ้าปลูกสำเร็จคงต้องแจ้งกินเนสบุ๊ค ^ ^

ขออนุญาตรื้อฟื้นบันทึกนี้ขึ้นมาถามคุณซูซานนะคะ

พอดีมีคนมาถามว่าครูเหมเคยเขียนภาพพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯบ้างไหม

แจ๋วเองก็ไม่แน่ใจเพราะที่เห็นคุ้นๆ จะเป็นงานภาพประกอบ

ก็เลยมาถามที่นี่ เผื่อคุณซูซานหรือท่านอื่นๆ จะทราบนะคะ

รบกวนด้วยค่ะ

คุณแจ๋ว: ลองไปเปิดดูในเล่ม ไม่เห็นมีเลยค่ะ ไม่แน่ใจว่าจะเคยวาดไว้หรือเปล่า แต่เล่มนี้รวมผลงานเด่นๆ ไว้ ถ้าเคยเขียนก็น่าจะมีลงนะคะ สรุปว่าอีนี้ก็ไม่ทราบเหมือนกันค่ะ

คุณซูซาน

ไม่เป็นไรค่ะ คือถูกถามมาสองรอบก็นึกไม่ออก ก็สงสัยเหมือนกันเพราะไม่ผ่านตาเลย

งานแสดงผลงานที่เคยไปดูก็เป็นคอลเล็คชั่นของจุฬา ส่วนใหญ่เป็นภาพประกอบ

ขอบคุณค่ะ

สวัสดีครับ ซูซาน

       ครูเหม เวชกร นี่น่าทึ่งมากๆ ครับ ที่บ้านพี่มีหนังสือการ์ตูนภาพเรื่อง กามนิต อ่านแล้วอ่านอีก ภาพสวยงามจริงๆ ครับ

       หนังสือ 100 ปี เหม เวชกร เล่มนี้หาได้ที่ไหนหนอ?

พี่ชิว: ถามคำถามปิดแบบนี้ตอบไม่ยากค่ะ 555 หาได้ที่บ้านซูซานค่ะ แต่ไม่เปลี่ยนที่ย้ายไปอยู่บ้านพี่ชิวแน่นอนเพราะหวงง่ะ อิ อิ ^ ^ วันก่อนก็มีคนมาถามเรื่องหนังสือนี้เหมือนกัน แต่จนปัญญาเพราะเขาทำแจก อาจจะมีตามร้านหนังสือจตุจักรก็เป็นได้ค่ะ แต่ถ้าพี่สนใจนะคะ สมบัติก็ผลัดกันชมได้เหมือนกัน

สวัสดีครับ ซูซาน

       พี่นำผลงานของครูเหม เวชกร เรื่อง กามนิต มาฝากไว้ที่นี่ เพื่อเชื่อมโยงกันครับ (คลิกภาพตามไปเลย!)

       

  • สวัสดีค่ะ  คุณซูซาน..

มาตามอาจารย์ชิวส่งลิงค์ให้  ก็เลยได้เจอเรื่องราวที่คุณซูซานนำมาเขียน   ทำให้รู้จักครูเหม  เวชกรมากขึ้น  

ขอบคุณค่ะ ^^

พี่บัญชา: ขอบคุณมาก ได้ตามไปดูที่บล็อกแล้วค่ะ แต่นี่ยังคุ้ยหาเรื่องสาวยาคูลท์ที่บอกไว้วันก่อนไม่เจอเลย

คุณต้อม: ครูเหมนี่เก่งมากเลยนะ ต้องเห็นลายเส้นชัดๆ จะรู้ว่าไม่ธรรมดา

คืออยากได้ภาพชุดเวตาลของครูเหม เวชกร นะคะ

ไม่ทราบว่าจะต้องติดต่อที่ไหนอย่างไรคะ

ช่วยหน่อยนะคะ

ชอบเรื่องขนหังลุกของครูเหมมากเลยค่ะ

ผมอ่านหนังสือท่านตั้งแต่6-7ขวบชอบมากอ่านแล้วคล้อยตามบรรยากาศ

สรนันทน์ ร.เอกวัฒน์

ผมต้องรบกวนท่านที่เกี่ยวข้องกับครูเหม ผมจะติดต่อขอซื้อเรื่องของท่าน เพื่อมาผลิตเป็นละครและภาพยนตร์ หากท่านได้เข้ามาอ่านในนี้ โปรดติดต่อกลับมาที่ผมด้วย ตามที่อยู่นี้นะครับ [email protected] หรือโทรมาหาผมด้วยครับที่ 081-558-7599 ตลอเวลา 24 ช.ม.ครับ ขอบคุณครับ ลงประกาศในเช้าวันที่ 29 มีนาคม 56 เวลา 07.46 น.

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท